بِسْمِ اللهِ الرَّحْمَنِ الرَّحِيْم
اَلْحَمْدُ للهِ رَبِّ الْعَالَمِيْنَ وَ الصَّلاَةُ وَالسَّلاَمُ عَلىَ سَيِّدِنَا مُحَمَّدٍ وَعَليَ آلِهِ وَصَحْبِهِ أَجْمَعِيْنَ ،،، وَبعْدُ ؛
เรื่องการทำเมาลิด เป็นประเด็นขัดแย้งในปัจจุบัน ซึ่งมีทั้งฝ่ายละเลยจัดงานเมาลิดโดยไม่คำนึงว่ามีสิ่งใดที่ฮะรอมเข้ามาปะปน อีกฝ่ายก็ปฏิเสธเมาลิดแบบเหมารวมและเลยเถิด ไม่แยกแยะว่าสิ่งใดที่ขัดกับศาสนาและสิ่งใดไม่ขัดกับศาสนา แต่กระผมขอเลือกแนวทางที่ไม่กระทำเบาความและไม่เลยเถิด รูปแบบเมาลิดใดที่อยู่บนพื้นฐานศาสนาหรือไม่ขัดกับหลักศาสนาและยังคุณประโยชน์แก่พี่น้องมุสลิม (มะศอลิห์มุรซะละฮ์) ก็ไม่ใช่สิ่งที่ฮะรอมแต่ประการใด แต่ถ้าหากทำเมาลิดในรูปแบบมีสิ่งฮะรอมปะปนอยู่ด้วย การไม่ทำเมาลิดย่อมดีกว่ายิ่งกว่านั้นไม่ควรกระทำอย่างยิ่งยวด
อนึ่ง เรื่องการทำเมาลิดที่เราได้เห็นมันมีหลายรูปแบบ รูปแบบจัดงานและรูปแบบการซิกรุลลอฮ์ , ศ่อลาวาตนบี , อ่านประวัติของท่านร่อซูลุลอฮ์ ศ็อลลัลลอฮุอะลัยฮิวะซัลลัม , และเลี้ยงอาหารแก่พี่น้องมุสลิม , เป็นต้น ดังนั้นเมาลิดในรูปแบบจัดงานที่เราได้เห็นในปัจจุบัน มีสิ่งฮะรอมมาปะปนมากมาย เช่น ปะปนหญิงชาย จนกระทั่งไม่สามารถควบคุมและจัดการได้ ยิ่งกว่านั้นเป้าหมายในจัดงานเมาลิดก็ไม่ได้ผลเท่าที่ควรแก่ผู้มาร่วมงาน หากสมมติว่าท่านร่อซูลุลลอฮ์ ศ็อลลัลลอฮุอะลัยฮิวะซัลลัม เข้ามาปรากฏตัวและร่วมในงานเมาลิดด้วย ผมเชื่อว่าท่านร่อซูลุลลอฮ์ ศ็อลลัลลอฮุอะลัยฮิวะซัลลัม ให้การตำหนิรูปแบบดังกล่าว แต่ถ้าหากเป็นเมาลิดในรูปแบบการซิกรุลอฮ์ , ศ่อลาวาตท่านนบี , ปราศัยประวัตินบีศ็อลลัลลอฮุอะลัยฮิวะซัลลัมและปลุกจิตใจให้มีความรักต่อท่านร่อซูลุลลอฮ์ เป็นต้นนั้น , ย่อมเป็นสิ่งที่ดีงามและควรส่งเสริมให้กระทำ เพราะฉะนั้นเมาลิดที่กระผมจะสนับสนุนและเรียกร้องให้กระทำคือ การทำเมาลิดในรูปแบบที่สอง
ท่านอิมามอัสสะยูฏีย์ ร่อฮิมะฮุลลอฮ์ ได้กล่าวว่า รากฐานเดิมจากการทำเมาลิดนั้น หมายถึง การที่บรรดาผู้คนรวมตัวกัน และก็มีการอ่านอายะฮ์ที่ง่ายๆ จากอัลกุรอาน มีการเล่าบรรดาหะดิษที่รายงานเกี่ยวกับการริเริ่มภาระกิจของท่านนบี(ซ.ล.) และเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นเกี่ยวกับการเกิดของท่านนบีศ็อลลัลลอฮุอะลัยฮิวะซัลลัม จากบรรดาสัญลักษณ์ต่างๆ และมีการหยิบยื่นอาหารเพื่อพวกเขาจะได้รับประทานกัน แล้วพวกเขาก็แยกย้ายกันไปโดยไม่ได้เพิ่มมากไปกว่าสิ่งดังกล่าว มันเป็นการกระทำถูกริเริ่มขึ้นมาที่ดี ซึ่งผู้ที่กระทำจะได้รับผลบุญ เพราะมันเป็นการให้เกียตริท่านนบี ศ็อลลัลลอฮุอะลัยฮิวะซัลลัม และเป็นการแสดงออกซึ่งความปีติยินดีในการประสูติอันมีเกียรติของท่านนบี ศ็อลลัลลอฮุอะลัยฮิวะซัลลัม ดู หนังสือ อัลหาวีย์ ลิลฟะตาวา เล่ม 1 หน้า 221 - 222 ดารุลฟิกรฺ
ท่านร่อซูลุลเลาะฮ์ ศ็อลลัลลอฮุอะลัยฮิวะซัลลัม กล่าวว่า
من مَنْ سَنَّ فِي الْإِسْلَامِ سُنَّةً حَسَنَةً فَعُمِلَ بِهَا بَعْدَهُ كُتِبَ لَهُ مِثْلُ أَجْرِ مَنْ عَمِلَ بِهَا وَلَا يَنْقُصُ مِنْ أُجُورِهِمْ شَيْءٌ وَمَنْ سَنَّ فِي الْإِسْلَامِ سُنَّةً سَيِّئَةً فَعُمِلَ بِهَا بَعْدَهُ كُتِبَ عَلَيْهِ مِثْلُ وِزْرِ مَنْ عَمِلَ بِهَا وَلَا يَنْقُصُ مِنْ أَوْزَارِهِمْ شَيْءٌ
ผู้ใดที่ได้ริเริ่มทำขึ้นมาในอิสลามกับหนทางที่ดี แน่นอน เขาจะได้รับผลบุญและได้รับผลบุญของผู้ที่ได้ปฏิบัติตามหลังจากเขาได้(เสียชีวิตไปแล้ว) โดยไม่มีสิ่งใดบกพร่องลงเลยจากผลบุญของพวกเขา และผู้ใดทีได้ริเริ่มทำขึ้นมาในอิสลาม กับหนทางที่เลว แน่นอนบาปของมันก็ตกบนเขา และบาปของผู้ที่ปฏิบัติมัน หลังจากเขา (เสียชีวิตไปแล้วก็ตกบนเขา) โดยไม่มีสิ่งใดบกพร่องลงไปเลยจากบรรดาบาปของพวกเขา รายงานโดยมุสลิม (หะดีษลำดับที่ 1017)
ท่านชัยคุลอิสลาม อิบนุ ฮะญัร อัลฮัยตะมีย์ (ร่อฮิมะฮุลลอฮุตะอาลา) ได้ถูกถามว่า : ฮุกุ่มเมาลิดและการซิกรุลลอฮ์ที่ผู้คนมากมายได้กระทำใสมัยนี้ เป็นซุนนะฮ์ หรือมีคุณความดี หรือเป็นบิดอะฮ์? ถ้าหากพวกท่านกล่าวว่า มันเป็นคุณความดี ซึ่งมีคำกล่าวของสะลัฟหรือตัวบทจากฮะดีษหรือไม่? และการรวมตัวสำหรับสิ่งที่เป็นบิดอะฮ์มุบาห์(บิดอะฮ์ที่ไม่มีตัวบทมาห้ามและใช้)เป็นสิ่งที่อนุญาตหรือไม่?
ท่านชัยคุลอิสลาม อิบนุ ฮะญัร อัลฮัยตะมีย์ ได้ตอบว่า : การทำเมาลิดและการซิกรุลลอฮ์ที่ได้กระทำขึ้นตามทัศนะของเรานั้น ส่วนมากได้ครอบคลุมถึงความดีงาม เช่น การศ่อดะเกาะฮ์ , การซิกรุลลอฮ์ , การศ่อละวาต สะลาม และการสรรเสริญท่านร่อซูลุลอฮ์ ศ็อลลัลลอฮุอะลัยฮิวะซัลลัม และการทำเมาลิดย่อมอยู่บนความชั่ว ยิ่งกว่านั้น ยังรวมไว้ซึ่งสิ่งฮะรอมทั้งหลาย ทั้งนี้หากมีการมองกันระหว่างสตีกับผู้ชายอื่น และบางเมาลิดไม่มีการกระทำสิ่งฮะรอมเกิดขึ้น แต่หากมีก็เป็นไปได้น้อยมาก จึงมิต้องสงสัยเลยว่า ประเภทแรกนั้น เป็นสิ่งที่ต้องห้าม เพราะมีหลักนิติศาสตร์ได้ยืนยันว่า
أَنَّ دَرْءَ الْمَفَاسِدِ مُقَدَّمٌ عَلَي جَلْبِ الْمَصَالِحِ
การป้องกันผลเสียที่จะเกิดขึ้น ย่อมอยู่ก่อนการได้มาซึ่งผลประโยชน์
ดังนั้นผู้ใดที่ทราบว่ามีความชั่วเกิดขึ้นในสิ่งที่เขาได้กระทำ เขาย่อมเป็นผู้ฝ่าฝืนและกระทำบาป และสมมติฐานว่า เขาได้กระทำความดีงามในเมาลิดดังกล่าว แต่บางครั้งความดีงามไม่สามารถเทียบเท่ากับความชั่วได้ ท่านไม่เห็นดอกหรือว่า ท่านร่อซูลุลลอฮ์ ศ็อลลัลลอฮุอะลัยฮิวะซัลลัม ถือว่าเพียงพอสำหรับการทำความดีงามด้วยสิ่งที่สะดวกเท่าที่สามารถแต่ท่านร่อซูลุลลอฮ์ ศ็อลลัลลอฮุอะลัยฮิวะซัลลัม ได้ตัดต้นลมจากสิ่งฮะรอมทั้งหมดทุกประเภท โดยท่านร่อซูลุลลอฮ์ ศ็อลลัลลอฮุอะลัยฮิวะซัลลัม ได้กล่าวว่า
إِذَا أَمَرْتُكُمْ بِأَمْرٍ فَأْتُوْا مِنْهُ مَا اسْتَطَعْتُمْ ، وَإِذَا نَهَيْتُكُمْ عَنْ شَيْءٍ فَاجْتَنِبُوْهُ
เมื่อฉันได้ใช้พวกท่าน ด้วยคำสั่งใช้หนึ่ง พวกท่านก็จะนำมันมาปฏิบัติเท่าที่มีความสามารถ และเมื่อฉันได้ห้ามท่านจากสิ่งหนึ่ง พวกท่านก็จงห่างไกลมันเถิด รายงานโดยบุคอรี (ฮะดีษลำดับที่ 7288)
ดังนั้นท่านจงใคร่ครวญ แล้วจะทราบว่า แท้จริงสิ่งฮะรอมนั้น หากแม้จะน้อยก็ตาม ก็จะไม่ได้รับการผ่อนปรนใด ๆ เลย และความดีนั้น เพียงพอด้วยการกระทำสิ่งง่ายๆ และสะดวกเท่าที่สามารถ
สำหรับเมาลิดประเภทที่สองนั้น เป็นซุนนะฮ์ เพราะมีบรรดาฮะดีษที่ได้รายงานเกี่ยวกับการซิกรุลลอฮ์ตามนัยยะเฉพาะ(มัคศูเศาะฮ์)และนัยยะโดยรวม(อามมะฮ์)
เช่นคำกล่าวขอท่านร่อซูลุลอฮ์ ศ็อลลัลลอฮุอะลัยฮิวะซัลลัม ที่ว่า
لاَ يَقْعُدُ قَوْمٌ يَذْكُرُوْنَ اللهَ عَزَّ وَجَلَّ إِلَّا حَفَّتْهُمُ المَلاَئِكَةُ، وَغَشِيَتْهُمُ الرَّحْمَةُ، وَنَزَلَتْ عَلَيْهِمُ السَّكِيْنَةُ، وَذَكَرَهُمُ اللهُ فِيْمَنْ عِنْدَهُ
ไม่มีชนกลุ่มหนึ่งกลุ่มใดทำการนั่งซิกรุลลอฮ์ อัซซะวะญัลล่า นอกจากว่า บรรดามะลาอิกะฮ์จะห้อมล้อมพวกเขา ความเมตตาก็แผ่คลุมพวกเขา ความสงบสุขก็ได้ลงมาบนพวกเขา และอัลเลาะฮ์ก็ทรงเอ่ยถึงพวกเขาแก่ผู้ที่อยู่ ณ พระองค์ รายงานโดยมุสลิม (ฮะดีษลำดับที่ 2700)
ได้มีรายงานจากท่านร่อซูลุลลอฮ์ ศ็อลลัลลอฮุอะลัยฮิวะซัลลัม ได้เคยออกไปยัง วงหนึ่งจากบรรดาซอฮาบะฮ์ของท่าน แล้วท่านร่อซูลุลเลาะฮ์กล่าวว่า อะไรที่ทำให้พวกท่านนั่งอยู่กระนั้นหรือ? บรรดาซอฮาบะฮ์กล่าวว่า เราได้นั่งเพื่อกล่าวซิกรุลเลาะฮ์ และทำการสรรเสริญอัลเลาะฮ์ เพราะสิ่งที่พระองค์ทรงชี้นำให้เราสู่อิสลามและทรงประทานความโปรดปรานแก่เรา ท่านร่อซูลุลลอฮ์ ศ็อลลัลลอฮุอะลัยฮิวะซัลลัม ได้กล่าวแก่เหล่าซอฮาบะฮ์ว่า
أَتَانِي جِبْرِيلُ فَأَخْبَرَنِي أَنَّ اللَّهَ عَزَّ وَجَلَّ يُبَاهِي بِكُمْ الْمَلَائِكَةَ
ท่านญิบรีลได้มาหาฉัน แล้วบอกกับฉันว่า แท้จริงอัลเลาะฮ์ทรงอวดยกย่องพวกท่านต่อมะลาอิกะฮ์ รายงานโดยมุสลิม (ฮะดีษลำดับที่ 3389)
ในสองฮะดีษนี้ เป็นหลักฐานที่บ่งชี้จัดเจนถึงความประเสริฐการรวมตัวและนั่ง(ล้อมวง)กระทำความดีงาม และบรรดาผู้นั่งทั้งหลายก็อยู่บนความดีงามเช่นกัน และอัลเลาะฮ์ทรงอวดยกย่องต่อพวกเขาแก่บรรดามะลาอิกะฮ์ ความสงบสุขก็จะลงมาบนพวกเขา , ความเมตตาของอัลเลาะฮ์ก็จะห้อมล้อมพวกเขาไว้ , และอัลเลาะฮ์ตะอาลา ก็เอ่ยยกย่องพวกเขาต่อบรรดามะลาอิกะฮ์ ดังนั้นไม่มีความประเสริฐใดที่จะมีเกียรติยิ่งกว่านี้อีกแล้ว?! (ดู หนังสืออัลฟะตาวา อัลหะดีษะฮ์ หน้า 270-271 ของชัยคุลอิสลาม อิบนุ ฮะญัร อัลฮัยตะมีย์ , ตีพิมพ์ดารุตตักวา , ตีพิมพ์ครั้งแรก , ปี ฮ.ศ. 1428.)
وَاللهُ سُبْحَانَهُ وَتَعَاليَ أعْلىَ وَأَعْلَمُ