คำกล่าวของอาจารย์คึกฤกธิ์ ปราโมช
"สำหรับศาสนาอิสลาม หรือคนที่นับถือศาสนาอิสลามนั้น
น่าจะอยู่ในดินแดนที่เรียกว่าประเทศไทยนี้ ตั่งแต่เริ่มประวัติศาสตร์
ของประเทศไทย เพราะศาสนาอิสลามได้เผยแพร่เข้ามาถึง
ประเทศอินโดนิเซีย และแหลมมลายูนั้น ก่อนที่คนอีกเผ่าหนึ่งจะเคลื่อนมาจากยูนานใต้..."
ดังนั้นใครจะมาพูดว่ามุสลิมเป็นผู้มาอาศัยอยู่ย่อมเป็นคำพูดที่ไม่ตรงกับความเป็นจริง
ถูกต้องที่สุดค่ะท่าน...
และหากใครเคยได้ดูหนังอิงประวัติศาสตร์ของไทย
เรื่อง "คนไททิ้งแผ่นดิน" ก็น่าจะพอปะติดปะต่อเรื่องราวต่างๆ
ในดินแดนสยาม หรือแผ่นดินที่เราเรียกกันว่่า แผ่นดินไทย
ในปัจจุบันได้บ้างค่ะ...
และถ้าใครขยันอ่าน ขยันศึกษาเรื่องประวัติศาสตร์ของแผ่นดินนี้
เรื่องพระนเรศวร เรื่องเจ้าเมืองตามหัวเมืองต่างๆ
ก็จะยิ่งทำให้เราปะติดปะต่อเรื่องราวในอดีตได้ไม่มากก็น้อย
ยิ่งได้ศึกษาเรื่องช่วงหัวเลี้ยวหัวต่อระหว่างสี่แผ่นดิน
คือ สุโขทัย อยุธยา ธนบุรี และรัตนโกสินทร์
เราจะยิ่งเห็นอะไรบางอย่างที่ทั้งน่ากลัว(เพราะบางครั้งจิตใจของคน
ที่ขึ้นเถลิงอำนาจนั้นช่างน่ากลัวมากค่ะ)และทั้งน่าประทับใจก็มี...
ที่สำคัญ ผลงานของสุนทรภู่นั้นก็มีลายแทงชวนให้ขบคิดหลายอย่าง
อยู่เหมือนกันค่ะ...แม้อ่านเผินๆจะเป็นเพียงแค่กวีเท่านั้น
แต่เมื่ออ่านดูดีๆ เหมือนการตีวนกลับ เราก็อาจจะพบอะไรบางอย่าง
ที่สุนทรภู่แทรกเอาไว้ในบทกวี ซึ่งอาจเป็นไปได้ว่า ท่านอาจไม่ต้องการ
สื่อออกมาตรงๆเพราะเกรงกลัวผู้มีอำนาจ เลยออกมาในรูปแบบกวี
ที่ซ่อนลายแทงแห่งประวัติศาสตร์เอาไว้อย่างแยบยล...
ก็น่าติดตามอ่านเหมือนกันนะคะหากว่าเราสนใจประวัติศาสตร์...
แล้วสอนว่าอย่าไว้ใจมนุษย์ มันแสนสุดลึกล้ำเหลือกำหนด
ถึงเถาวัลย์พันเกี่ยวที่เลี้ยวลด ก็ไม่คดเหมือนหนึ่งในน้ำใจคน
มนุษย์นี้ที่รักอยู่สองสถาน บิดามารดารักมักเป็นผล
ที่พึ่งหนึ่งพึ่งได้แต่กายตน เกิดเป็นคนคิดเห็นจึ่งเจรจา
แม้นใครรักรักมั่งชังชังตอบ ให้รอบคอบคิดอ่านนะหลานหนา
รู้สิ่งใดไม่สู้รู้วิชา รู้รักษาตัวรอดเป็นยอดดี
....
พระสมุทรสุดลึกล้น..........คณนา
สายดิ่งทิ้งทอดมา.............หยั่งได้
เขาสูงอาจวัดวา...............กำหนด
จิตมนุษย์นี้ไซร้.................ยากแท้หยั่งถึง
ปล.ขนาดว่าเป็นกวีธรรมดาที่ไม่ธรรมดาข้างบนนั้น
ก็ยังมีนัยยะแฝงอยู่มากมายทางประวัติศาสตร์ให้ขบคิด
เพราะชีวิตคนแต่งมันขึ้นมานั้นก็อิงประวัติศาสตร์...
ประวัติศาสตร์กับอักษรศาสตร์มันไม่ได้ห่างไกลกันเลย
ซ้ำยังเกื้อหนุนกันพอดิบพอดี...
ปล.อีกที...เหมือนว่าเจ้าของกระทู้จะลืมไปแล้วว่า
เรื่องราวดังกล่าวมันยังมีต่อ...
แม้จะหลายปีผ่านไป หากยังว่างมาต่อ
ได้โปรดมาต่อให้พี่น้องในนี้ได้อ่านกันอีกนะคะ...
แล้วจะรอติดตามค่ะ
วัสลามค่ะ