salam
เคยทำงานชมรมเหมือนกัน
แต่ประทับใจคำพูดอาจารย์ท่านหนึ่งมาก
ต่อให้ม่านกั้นระหว่างหญิงชาย ชายหญิงที่เป็นผ้ามีความกหนามากเพียงใด
ก็สู้ม่านกั้นของหัวใจที่เต็มไปด้วยศรัธทาไม่ได้
ชอบมั่กมากเลย
ต่อให้รอบกายพี่น้องมีเพศตรงข้ามรายล้อมอยู่เป็นหมื่นเป็นพันคน
ถ้าพี่น้องมีม่านกั้นหัวใจของพี่น้องที่แข็งแรงพอก็คงดี
*** หมายเหตุ ฟิตนะห์เนี่ยเกิดขึ้นได้ทุกที่จริง ๆ เลยนะคะ
ถึงเราไม่คิดอะไร ไม่อยากให้ใครมาคิดอะไร ก็ยังหนีไม่พ้นการโดนฟิตนะห์เลยพี่น้อง
นี่แหละ ดุนยาของแท้
หัวใจที่สงบจะสยบทุกความเคลื่อนไหว...
ม่านกั้นใจนั้น คือ ฮิญาบที่ซ่อนตัวอยู่ข้างในอย่างเงียบๆค่ะ
ไม่มีใครได้เห็นมัน แต่มันจะแสดงให้เห็นด้วยกับคุณค่าของมันเอง...
บทความที่น้องFitrima นำเสนอดังกล่าว
อ่านแล้วทำให้ต้องหันย้อนกลับมามองตัวเองอีกรอบ
หลังจากที่เคยอ่านเมื่อนานมาแล้ว...
ว่าวันนี้...ฮิญาบที่คลุมใจเรานั้นหนาพอที่จะไม่สะทกสะท้านหวั่นไหว
ไปกับกระแสต่างๆหรือยัง...
คำตอบมันจะอยู่ที่หัวใจเรา...หัวใจเราย่อมรู้ดีว่าฮิญาบที่คลุมมันอยู่
หนาเพียงไร...
ถ้าให้หนีฟิตนะฮฺเลย คงหนียากแล้ว...เพราะแค่นั่งพิมพ์ข้อความนี้อยู่
ก็อาจเป็นสื่อนำไปสู่ฟิตนะฮฺอีกก็ได้...
แต่ทุกอย่างขึ้นอยู่กับเหนียตของเราผู้กระทำค่ะ...
ตั้งใจดี พยายามกระทำให้ออกมาดี
ไม่ว่าผลจะออกมายังไงก็ขอมอบหมายกับอัลลอฮฺ
คือ พยายามเป็นคนดีทั้งนอกทั้งในให้ได้นั้น ใช่ว่าจะทำกันได้ง่ายๆ...
เปลือกนั้นสร้างได้ไม่ยาก จะให้สวยงามเช่นไรย่อมทำได้
แต่สุดท้ายแล้ว ของทุกอย่าง ไม่ว่าจะเป็นผลไม้หรือของกินต่างๆ
ที่มีเปลือกหุ้ม เราก็ต้องเอาเปลือกออกหรืออาจจะปอกทิ้ง
แล้วเลือกกินแต่ข้างใน...
ดังนั้น...การสร้างเปลือกให้สวยงามนั้นมันสำคัญเพียงแค่
เรียกสายตาผู้คน...ดึงดูดความสนใจของผู้คน...
แต่สุดท้ายแล้ว...สิ่งที่อยู่ข้างในเปลือกต่างหากที่เราต้องการจริงๆ
หาใช่เปลือกไม่...
การจะตัดสินใครสักคน เราจึงไม่ควรมองกันแค่เปลือก
แต่ต้องใช้เวลาบวกกับความใส่ใจในรายละเอียด
ถึงจะมองทะลุเปลือกเข้าไปได้...
เช่น...ข้าวเปลือก...เราเห็นกันก็แค่เปลือกที่หุ้มใจงดงามเอาไว้ข้างใน
ซึ่งสุดท้ายเราต้องสีเอาเปลือกออก จึงจะเจอข้าวสารสีขาวๆ
ข้าวสารที่เราจะนำมาหุงแล้วกินเพื่อประทังชีวิตของเรา...
ประโยชน์ของข้าวสำหรับเราจึงไม่ได้อยู่ที่เปลือก
แต่อยู่ที่ตัวข้าวที่อยู่ข้างใน เพียงแต่ถ้าไม่มีเปลือก
ตัวข้าวทีี่อยู่ข้างในจะเป็นอย่างไร จะเหลือให้เราได้กินหรือไม่...
แล้วจะบริสุทธิ์หรือเปล่า...
นี่คือคุณค่าของเปลือกที่แท้จริง...และเปลือกที่ว่าก็คือ ฮิญาบนั่นเอง...
หากเราจะมองหาคุณค่าของฮิญาบ เราจำต้องมองข้ามความงามของมัน
และหันมามองคุณค่าที่เป็นมัน...
เมื่อเราเห็นคุณค่าของเปลือก เราก็จะไม่ดูถูกเปลือก
แต่จะไม่ให้คุณค่ากับเปลือกนอกจนลืมสิ่งที่อยู่ข้างใน
เพราะคุณค่าของเปลือกก็คือ ปกป้องสิ่งที่มันห่อหุ้มอยู่...
และข้าน้อยเพิ่งทดสอบบทสอบนึงมาหมาดๆ
นั่นก็คือบททดสอบของการสร้างเปลือกหุ้มใจ...
ทำให้รู้ว่า...หากเราต้องการให้เปลือกของเราหนาขึ้นเรื่อยๆ
วิธีที่ข้าน้อยทำแล้วได้ผล ทำให้อารมณ์นิ่งและไม่หวั่นไหว
อย่่างที่ควรจะเป็น
นั่นคือ...การวางเฉยต่อสิ่งยั่วยุอารมณ์...
และขณะที่วางเฉยเราก็หาที่พึ่งทางใจทีี่ดีที่สุด
นั่นคือ อัลลอฮ...ซิกรุลลอฮฺพร้อมทั้งขอดุอาฮฺ
ให้เรารอดพ้นจากความว้าวุ่นใจอันเกิดจากอารมณ์ใฝ่ต่ำ
ทีี่กำลังพาใจเราเตลิด...ขอต่อพระองค์ให้ทรงคุ้มครอง
กายและใจของเราให้สงบร่มเย็น รอดพ้นจากสิ่งเลวร้าย
ทั้งหมดทั้งมวล...
เปลือกหุ้มหัวใจที่หนาขึ้นมาด้วยศรัทธา จะไม่แข็งกระด้าง
ทว่าจะนิ่งสงบ และจะสยบทุกการเคลื่อนไหว...
หัวใจที่สั่นสะท้านและผันผวนอยู่เสมอของเรา
ต้องการเปลือกที่คอยหุ้มและปกป้อง...
และผู้สร้างเปลือกให้เราได้ดีที่สุดก็คือ...
อัลลอฮฺ ซุบฮานาฮุวะตาอาลา...
พระองค์ทรงมอบฮิญาบในส่วนที่ใช้คลุมกาย
และในส่วนที่ใช้คลุมใจมาให้บรรดาสตรีเรียบร้อยแล้ว...
ปล.บางคนเวลาคุยเอ็มหรืออยู่ในโลกอินเตอร์เนต
หรือโลกไซเบอร์กับโลกแห่งความเป็นจริงนั้น
อาจจะเป็นคนละแบบคนละคาแรกเตอร์ได้ค่ะ...
แต่เท่าที่รู้...โลกไซเบอร์ทำให้คนลดความยับยั้งชั่งใจลง
จนเห็นได้ชัด...
สื่อที่ไม่ว่าจะมาในรูปแบบไหนจึงเป็นเหมือนดาบสองคม...
เราต้องรู้จักมัน เราถึงจะเข้าใจมันและเข้าถึงแก่นมันได้
อะไรที่เรายังไม่รู้จักมันดีพอ...ก็อย่าเพิ่งถลำตัวลงไป...
เพราะแทนที่เราจะได้ใช้มันทำประโยชน์
เราอาจจะโดนมันหลอกใช้เราเอาได้น่ะค่ะ...
และภัยอาจจะมาถึงตัวเราโดยที่เราไม่อาจตั้งตัวเลยก็ได้
ดังนั้น สิ่งหนึ่งที่อยากจะเตือนพี่น้องมุสลิมะฮฺจากใจจริงเลย
ก็คือ...การโพสต์รูปถ่ายของตัวเองและของผู้หญิงคนอื่นๆ
ในโลกไซเบอร์...
แม้เราจะไม่ได้มีเจตนาจะอวดโฉม แต่เชื่อเถอะค่ะว่า
การโพสต์รูปมันส่งผลร้ายมากกว่าผลดี...
อย่างมิต้องสงสัยเลย...
วัสลามค่ะ