The Forbidden (Islamic) Historyแปลโดย อบู สะกัน
จากหนังสือของแพทย์นักเขียนชาวอเมริกาชื่อ DR. K. Ajram
เรื่อง 'The Miracle of Islamic Science', p.200. 1992
คัดลอกอีกทีจาก
"ตื่น" - วารสารดาวเดือนโดม, ปีที่ 7 เล่มที่1 ปีการศึกษา 2549 ชมรมนักศึกษามุสลิม มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์
วิทยาศาสตร์เป็นผลิตผลอันทรงคุณค่าของชาวตะวันตก ซึ่งยังคงเป็นมโนทัศน์ที่ปราศจากข้อสงสัยจากคนโดยทั่วไป รายงานต่างๆ จากตำราและสารานุกรม ล้วนสนับสนุน และเป็นมโนทัศน์ที่อ้างหลักฐานที่ว่าผู้ค้นคว้าเหล่านั้น คือ ชาวยุโรปและชาวอเริกัน ผู้คนจะนึกถึงชื่อของกาลิเลโอ, โคเปอร์ริคัส, เคปเลอร์, เบคอน, นิวตัน, ดาวินซี, เบนจามิน แฟรงคลิน ได้ไม่ยาก
ข้อสรุปที่หนีไม่พ้น คือชาวตะวันตกเหล่านี้ คือผู้ที่พัฒนาวิทยาศาสตร์สมัยใหม่ ชนชาติอื่นมีส่วนร่วมเพียงเล็กน้อย ส่วนใหญ่ตำราที่จะกล่าวถึงผู้คิดค้นบุกเบิกวิทยาการ เช่น ชาวอินเดีย ชาวจีน และมุสลิม จะมีเพียงเล็กน้อย หรืออาจไม่กล่าวถึงเลย
อารยธรรมตะวันตกไม่ให้คุณค่ากับผู้บุกเบิกวิทยาศาสตร์ ซึ่งเป็นผลิตผลโดยส่วนใหญ่ของอารยธรรมอื่น ซึ่งพวกเขาสมควรให้เกียรติที่จะกล่าวถึงผู้ค้นคว้าพัฒนามันในหลายศตวรรษก่อน ซึ่งโดยส่วนใหญ่เป็นนักวิชาการที่ไม่ใช่ชาวยุโรป เพราะแท้จริงต้นกำเนิดดั้งเดิมของวิทยาศาสตร์ การใช้สติปัญญา และเหตุผล ล้วนมาจากนักวิชาการมุสลิม
จากข้อมูลนักวิชาการมุสลิมที่จะกล่าวถึงต่อไปนี้นำมาจาก 'Incredible Islamic Science: Incredible Facts About Incredoble Men - 500 Multiple Choice, Short Answer and True-False Question', 1992, p.136.
____________________________________________
อินชาอัลลอฮฺ จะทะยอยมานำเสนอครับ เมื่อว่าง
