เสวนาเชิงวิชาการ > สนทนาศาสนธรรม
ครูอิสลามเปลียนมาถือพุทธ
คนเดินดิน:
:salam:
ถ้าเธอแตกฉานในศาสนาอิสลามจริง
เธอน่าจะได้ใคร่ครวญจากซูเราะห์อัร-เราะห์มาน
ขนาดญินได้ยินยังกลับใจขอเข้ารับอิสลาม
วัลลอฮูอะลัม
nada-yoru:
กระทู้นี้...ความรู้ทั้งนั้นเลยค่ะ...ซ้ำเป็นความรู้ใหม่(เพราะยังไม่เคยรู้มาก่อน)^^
ชอบกระทู้ที่คุณจัสมินเขียนค่ะ...อ่านแล้วเข้าใจถึงความรู้สึกของมุอัลลัฟเลยค่ะ...
เพราะว่าแม้ตัวข้าน้อยจะเป็นมุสลิมมาแต่เดิม เพราะพ่อแม่เป็น ปู่ย่าตายาย
บรรพบุรุษก็เป็นมุสลิม คนรอบๆตัวก็เป็นมุสลิม เติบโตมาในครอบครัวมุสลิม
ทำตามบรรพบุรุษเขาทำมาตลอดอย่างไม่เคยคิดจะสงสัยในสิ่งใด
อะไรที่เขาสอนมาก็ทำตามบ้างไม่ทำตามบ้าง สุดแต่อารมณ์และสติปัญญา
จะนำพาไป...และแน่นอนว่าเมื่อโตขึ้น...สติปัญญาย่อมต้องการเหตุผลมารองรับ
จึงทำให้มันเกิดความสงสัย เกิดคำถามมากมายที่ต้องการอยากจะทราบคำตอบ
และเพราะถูกปลูกฝังมาให้รู้จักกับอัลลอฮฺ รู้จักกับท่านนบีมุฮัมหมัด ซอลลัลลอฮุอะลัย
ฮิวะซัลลัม และบรรดารอซู้ลท่านอื่นๆ จึงทำให้เวลาเกิดข้อสงสัยใดๆที่ยากแก่การ
จะหาคำตอบได้ จึงนึกถึงคำสอนของโต๊ะครู ว่า ให้เรากลับไปหาอัลลอฮฺ
และรอซุ้ลุลลอฮฺของพระองค์...และการกลับไปหาอัลลอฮฺและรอซุลุ้ลลอฮฺของข้าน้อย
ก็คือการกลับไปศึกษาอัลกุรอ่านและกิจวัตรต่างๆของท่านรอซุลุ้ลลอฮฺ...
จึงทำให้ได้คำตอบในหลายๆอย่างที่ไม่เข้าใจ...ยิ่งศึกษาก็ยิ่งรู้ว่า
เหนือความรู้ทั้งหมดนั้น ก็คือ การศรัทธาต่ออัลลอฮฺและรอซู้ลของพระองค์
และการหาความรู้ที่แท้จริงนั้น ก็เพื่อแสวงหาความพึงพอพระทัยจากอัลลอฮฺ...
หาใช่อื่นใดเลย...
ดังนั้น...สิ่งที่ได้เรียนมา ประกอบกับการต้องไปใช้ชีวิตปะปนกับต่างศาสนิกนั้น
ทำให้เราได้รับรู้ได้เรียนรู้ถึงความหลากหลายทางความคิด การปฏิบัติ
และสิ่งที่ทำให้รู้จากประสบการณ์การได้อยู่กับต่างศาสนิกก็คือ...
หากมนุษย์ทุกคนยึดมั่นต่อหลักการของศาสนาที่ตนศรัทธาอยู่อย่างเคร่งครัด
ย่อมหาผู้กระทำความชั่วต่อมนุษย์ด้วยกันไม่ได้...
ซึ่งอิสลามสอนหลักคำสอนที่ยิ่งกว่าการทำความดีต่อมนุษย์ด้วยกันไว้
และเป็นสิ่งอันล้ำค่า นั่นก็คือ การปฏิบัติตามคำสั่งใช้ของอัลลอฮฺ
และละเว้นสิ่งที่พระองค์ทรงห้าม นั่นก็เพื่อยืนยันว่า เรานั้นเชื่อฟังพระองค์
และพร้อมน้อมรับบัญชาจากพระองค์ แน่นอนว่าสิ่งที่พระองค์บัญชามานั้น
ย่อมเป็นสิ่งที่เป็นสิ่งสำคัญที่เรามนุษย์จะละเลยไม่ได้เลย...
และหากเราอ่อนแอ ถูกล่อลวงไปยังทางที่หลงผิด พระองค์ก็ส่งหนทางมาให้
ซึ่งเป็นประตูที่กว้างขวางเหลือเกิน นั่นก็คือ ประตูเตาบะฮฺ(ประตูแห่งการกลับเนื้อ
กลับตัว)...
เนื่องจากเรามนุษย์ย่อมต้องกระทำผิดด้วยกันทั้งนั้น...
และพระองค์คือผู้ทรงอภัยยิ่ง ทรงเมตตายิ่ง...
และที่อยากให้ต่างศาสนิกหรือมุอัลลัฟเข้าใจมุสลิมมาแต่เดิมก็คือ...
มุสลิมนั้นคือผู้นับถือศาสนาอิสลาม...
และแน่นอนว่า เราจะมองมุสลิมแล้วตัดสินตัวหลักการศาสนาอิสลามเลยทีเดียวนั้น
ย่อมไม่ยุติธรรม เพราะมนุษย์ย่อมต้องบกพร่อง แต่สำหรับข้าน้อยแล้ว
หลักการของศาสนาอิสลามไม่ได้บกพร่องแต่อย่างใด...
และหากเราสงสัยสิ่งใดในเรื่องศาสนาก็จงศึกษาศาสนาจากบรรดาผู้รู้
มิใช่ศึกษาจากการกระทำของบรรดามุสลิมที่เราพบเจอเพียงแค่นั้น...
เพราะมีเพ่ือนต่างศาสนิกสนใจอิสลามอยากให้ข้าน้อยสอนให้
ข้าน้อยก็บอกเขาไปตรงๆว่า อันตัวข้าน้อยนั้นยังไม่แตกฉานเรื่องศาสนา
ไม่กล้าสอนเขา แม้กระท่ังเรื่องละหมาดก็ไม่กล้าสอน...
จนเขาก็สงสัยว่า แล้วเธอทำละหมาดอย่างไร...
ข้าน้อยก็บอกว่า ทำอย่างที่ครูของฉันสอนมานั่นแหล่ะ...
และฉันอาจจะบกพร่องกว่าครูของฉัน หากเธออยากได้วิชาความรู้
จงไปรับมันจากบรรดาผู้รู้ยิ่งกว่าฉันจะดีกว่า...
ตอนนั้นก็แนะนำโรงเรียนสอนศาสนาไปให้ค่ะ...
เพราะครูผู้สอนย่อมชำนาญในด้านการสอนมากกว่าเราทีี่ไม่ได้ถูกฝึกฝนมา
เพื่อจะสอนคน...ที่สำคัญความรู้ของเราก็มิได้ครอบคลุมพอจะสอนเขาได้...
แต่อะไรที่เป็นเกล็ดความรู้ก็มักจะบอกกล่าวกับเพื่อนเสมอๆ...
ปล.ไม่อยากให้พี่น้องมุสลิมเราดูถูกต่างศาสนิกและฮุก่มคนๆนึงไปเลย
ว่าเป็นชาวนรก...เพราะเราย่อมไม่รู้แจ้งเกี่ยวกับบันทึกของอัลลอฮฺ
ว่าใครจะเป็นผู้ที่พระองค์ทรงเลือก...สิ่งสำคัญก็คือ ดุอาฮฺ
เราจะพยายามขอดุอาฮฺให้กับตัวเองและคนรอบตัวเราไม่ว่าเขาจะเป็นผู้นับถือศาสนาใด
ขอให้อัลลอฮฺเปิดทางนำให้กับพวกเขา...และขอให้เราและเขาเป็นผู้ที่พระองค์
ทรงเลือกให้เป็นผู้มีชัยในโลกหน้า...
เพราะต่างศาสนิกบางคน เขาไม่ได้ปฏิเสธอัลลอฮฺหลังจากที่เขาได้ทำการศึกษาอิสลามแล้ว
เพียงแต่เขาไม่เคยรู้จักอิสลาม ไม่เคยได้เรียนรู้ถึงกิจวัตรหรือประวัติของท่านรอซุลุ้ลลอฮฺ
ไม่รู้ว่าอิสลามที่แท้จริงเป็นอย่างไร เขาเรียนรู้หรือรู้จักอิสลามผ่านผู้นับถืออิสลาม(มุสลิม)
เขารุ้จักมุสลิม แต่ยังไม่รู้จักอิสลามที่แท้จริง...
เขาเองก็เกิดมาแล้วก็ทำตามบรรพบุรุษของเขาเหมือนตอนที่เราเกิดมาเราก็ทำตาม
บรรพบุรุษของเรา...แต่เมื่อเราและเขาโตขึ้น ทุกคนต่างมีสติปัญญาและย่อมต้องการ
เหตุผลมารองรับ...เมื่อถึงตอนนั้นแหล่ะค่ะ ที่เราและเขาต้องมาเรียนรู้โลกนี้ไปด้วยกัน
ดังนั้น...จงประกาศออกไปถึงสัจธรรม...ผ่านกาย วาจา และใจของเรา...
อย่างเต็มกำลังความสามารถของเรา...
และ
...ใครเลือกอย่างไหนก็จะได้อย่างนั้น...
อินชาอัลลอฮฺ...
นำร่อง
[0] ดัชนีข้อความ
[*] หน้าที่แล้ว
Go to full version