ตอนไปทำบัตรประชาชน ทำเสร็จ เขาบอกว่า 45บาท ในกระเป๋ามีตังค์อยู่35บาท เลยถามว่า ขอใบเสร็จได้มั๊ย เขาเริ่มทำหน้าเครียด เหมือนจะทำอะไรไม่ถูก
ในใบเสร็จเขียนว่าค่าธรรมเนียมบัตรหาย20บาท เขาบอกว่าในนี้เขียน20บาทแต่ที่จริง45บาท ค่าแต่งรูป20 ค่าซอง5บาท
ค่าซองกับค่าแต่งรูปมันเกี่ยวด้วยหรือ ซองน่ะไม่เอาก็ได้นะ ไปเอาฟรีที่ธนาคารก็ได้
เดือดร้อน ต้องเดินกลับไปเอาตังค์ที่บ้าน10บาท
เรื่องเล็กๆที่เป็นปัญหาระดับชาติ...
เพราะมันคือ จุดเริ่มต้น...
จริงๆแล้วค่าแต่งรูปไม่จำเป็นต้องมี เพราะว่าแต่งด้วยโปรแกรมของสำนักงาน
โปรแกรมแต่งรูปนั้นเอาเงินรัฐซึ่งมาจากภาษีประชาชนไปซื้อมา...
เผลอๆอาจใช้โปรแกรมเถื่อนราคาไม่กี่บาทด้วยซ้ำไป...คอมพิวเตอร์ก็ของสำนักงาน
คนแต่งรูปก็ทำงานโดยได้รับเงินเดือนจากรัฐซึ่งมาจากภาษีประชาชนอยู่แล้ว...
ทำไมต้องเก็บค่าแต่งรูปอีก...ในเมื่อมันเป็นหน้าที่การงานที่ต้องรับผิดชอบอยู่แล้ว...
ส่วนค่าซอง...ก็น่าจะทำเรื่องเบิกกับทางรัฐได้...ทำไมต้องมาเก็บกับประชาชนผู้เสียภาษีให้อีก...
เพราะถ้าจะบอกว่ารัฐไม่มีเงินค่าซอง มันคงไม่ใช่...ซอง 5 บาท ถ้าบริการทำให้ 1ล้านคน
ก็เท่ากับเก็บค่าซองจากประชาชนได้อีก 5 ล้านบาท ถ้าคนไทยที่สามารถทำบัตรได้แล้วมีจำนวน
40 ล้านคน...คำนวณได้เลยว่า ซองละ 5 บาทนั้น ตีมูลค่าได้เท่าไหร่...ซึ่งมันไม่น้อยเลย....
นี่คือจุดเล็กๆที่คนทั่วไปมักมองข้าม แต่เมื่อเรามองในภาพรวมเมื่อไหร่
มันก็จะไม่ใช่อะไรเล็กๆอีกต่อไป....
ส่วนค่าทำเนียมบัตรหาย 20 บาทนั้น ควรจะเก็บ เพราะเป็นการเตือนว่า
อย่าได้ทำหายบ่อยนัก...ถ้าหายก็ต้องเสียค่าทำหายกันบ้าง....เพราะต้องทำบัตรใหม่อีกรอบ...
ปัญหาคือ เมื่อเขาบอกว่า ค่าแต่งรูป 20 บาท ค่าซอง 5 บาท
แล้วเราบอกเขาว่า...รูปเราไม่ต้องแต่งก็ได้...เอาแบบนั้นแหล่ะ...สวยแล้ว
และซองก็ไม่ต้องเอาก็ได้...ถ้าเราแจ้งความประสงค์เช่นนั้นไป...
เขาจะให้เราเสียค่าทำเนียมแค่ 20 บาทหรือไม่...
แล้วเขาจะมองว่าเราเป็นคนขี้งกหรือเปล่า เมื่อเราไม่ยอมเสียค่าอะไรก็ไม่รู้ที่เราไม่แน่ใจว่า
มันจำเป็นด้วยหรือ...
ซึ่งจริงๆแล้ว...เราไม่ควรสนับสนุนอะไรแบบนี้เลย...
แม้จะเป็นเพียงสิ่งที่ใครๆมองว่ามันเล็กนิดเดียว...
น่าจะปล่อยผ่าน...
เพราะเราเลือกจะปล่อยให้ปัญหาที่เรามองว่าเล็กๆผ่านไปได้ในครั้งแรก
ปัญหาเล็กๆอีกหลายๆปัญหาที่ตามมาก็จะคอยตามติด จนสุดท้าย
มันจะเกาะแนบติดอยู่ในความคิด เกาะอยู่กับความสำนึกของคนไปด้วย...
จนเรื่องไม่ปกติ กลายเป็นปกติไปโดยละม่อม...
หลายๆเรื่องที่ดูไม่เข้าท่า จึงกลายเป็นปกติสามัญในความคิดของคนไป...
และไม่มีใครคิดจะต่อต้านมัน เพราะเราได้มองมันเป็นเรื่องปกติไปแล้วนั่นเอง...
และเราชินอะไรแบบนี้ไปแล้วด้วย...
เพราะอะไรทำไมในใบเสร็จเขียนไว้ 20 บาท แต่เราต้องจ่ายจริงถึง 45 บาท
มันเกินครึ่งหนึ่งของใบเสร็จ แล้วรายละเอียดในใบเสร็จก็ไม่ตรงกับความจริงที่เป็นซะด้วย...
ความจริงเป็นสิ่งที่ขม แต่คนที่กล้าต่อสู้เพื่อความจริงย่อมน่าชื่นชม