(4) ความหมายที่สี่ : (فِيْ) “ฟี” (ใน) 6 เช่นคำดำรัสของอัลลอฮ์ที่ว่า (إِذَا نُودِيَ لِلصَّلَاةِ مِنْ يَوْمِ الْجُمُعَةِ) “เมื่อมีการประกาศให้ละหมาดในวันศุกร์”(อัล-ญุมุอะฮฺ :9) หมายความว่า فِيْ يَوْمِ الْجُمُعَةِ
(5) ความหมายที่ห้า : (زَائِدَةٌ) “ซาอิดะฮฺ” (เป็นบุพบทเพิ่ม ไม่มีความหมาย)7 เช่น
(مَا جَاءَنِيْ مِنْ أَحَدٍ) ความหมาย คือ(مَا جَاءَنِيْ أَحَدٌ) “ไม่ได้มีใครมาหาฉันหรอก”
ซึ่งข้อสังเกตที่สามารถทราบได้ คือ หากคำว่า “มิน” มันหลุดออกไปจากประโยค ก็ไม่ได้ทำให้ความหมายของประโยคบกพร่องแต่อย่างใด.
_________________________________________________________________
6 หรือเรียกอีกอย่างว่า “อัซ-ซอรฟียะฮฺ” ซึ่งมีอยู่สองประเภท
1 ซอรฟฺ อัล-มะกาน (นามบอก สถานที่) เช่น (أَرُونِي مَاذَا خَلَقُوا مِنَ الْأَرْضِ) “พวกท่านจงทำให้ฉันเห็นประจักษ์ สิว่าสิ่งใดบ้างจาก(ใน)แผ่นดินที่พวกนั้นสร้างขึ้น”(ฟาฏิร :40)
2 ซอรฟฺ อัซ-มาน (นามบอกเวลา) เช่น อายะฮฺ (إِذَا نُودِيَ لِلصَّلَاةِ مِنْ يَوْمِ الْجُمُعَةِ) “เมื่อมีการประกาศให้ละหมาดในวันศุกร์”(อัล-ญุมุอะฮฺ :9) ข้างต้น.
ทัศนะที่เห็นต่าง
ทัศนะที่หนึ่ง เป็นทัศนะของ “อัล-กูฟียีน” พวกเขาเห็นว่า “มิน” ในสองอายะฮฺข้างต้น ให้ความหมาย “ซอรฟฺ อัล-มะกาน” และ “ซอรฟฺ อัซ-ซะมาน”ตามลำดับ.
ทัศนะที่สอง เป็นทัศนะของ “อัล-บัศรียีน” พวกเขาเห็นว่า “มิน”ข้างต้นให้ความหมาย “บายาน อัล-ญินส์” ดังเช่นที่ได้ผ่านมาใน อายะฮฺ (مَا نَنْسَخْ مِنْ آيَةٍ) (อัล-บะกอเราะฮ์ :106)ข้างต้น หาใช่จะให้ความหมาย “ซอรฟฺ” ดังทัศนะที่หนึ่งอ้าง.
7 ซึ่งรายละเอียดต่างของ “มิน ซาอิดะฮฺ” (ที่เป็นบุพบทเพิ่ม) นั้น โปรดติตามใน โอกาสหน้าครับ อิงชาอัลลอฮ์