จากประสบการณ์ และจากที่ได้ฟังๆมาจากบรรดาท่านผู้รู้ นะฮู หรือ หลักไวยากรณ์ นั้น เป็นวิชาที่สำคัญมากๆเลยทีเดียว ถ้าไม่แม่นจริง ก็คงจะศึกษาศาสตร์อื่นๆต่อไปลำบาก เพราะภาษาอาหรับนั้น ถ้าไม่เข้าใจนะฮู ไม่รู้ว่าตัวไหนเอี้ยะรอบอย่างไร ก็อาจจะไม่เข้าใจประโยค หรืออาจจะเข้าใจคลาดเคลื่อนได้..
หลายต่อหลายครั้ง ที่อ่านตำราตุรอษ (ตำรายุคก่อน) แล้วเข้าใจได้เพราะมีวิชานะฮูติดตัวอยู่บ้าง มิเช่นนั้นก็คงจะงงอยู่ตรงนั้น เพราะบางทีเจอมุบตะดาแล้ว ก็ควานหาเคาะบัร กว่าจะเจอโน่นอีกหน้านึง ซึ่งเช่นนี้ในตำราเก่าๆจะมีให้เห็นอยู่บ่อยๆ..
สิ่งสำคัญที่สุดในวิชานะฮู (ในความคิดของผม) ก็คือการได้ฝึกเอี้ยะรอบ ฝึกบ่อยๆ ก็คล้ายๆกับวิชาเลข ที่ต้องขยันทำแบบฝึกหัดอยู่บ่อยๆ จะได้คล่อง.. นะฮูก็เช่นกัน เรียนภาคทฤษฎีแล้ว ก็ต้องทำแบบฝึกหัดมากๆ วิธีการนึงที่จะช่วยเสริมได้ก็คือ หาบทความภาษาอาหรับมาซักย่อหน้านึง อาจจะ 7-10 บรรทัด แล้วลองตรวจสอบดูว่าในย่อหน้านี้มีอะไรบ้าง? ตรงไหนเป็นอะไร เอี้ยะรอบอย่างไร? โดยอาศัยพื้นฐานความรู้ที่ได้ร่ำเรียนมา.. ทำเช่นนี้บ่อยๆ อินชาอัลลอฮฺ เราจะคล่องวิชามาก ซึ่งจะต่างจากการท่องเพียงอย่างเดียว เพราะเราท่องไป เราอาจจะจำหลัก จำกฎ มันได้ แต่ถ้าขาดการฝึกฝนที่ดีแล้ว เอาเข้าจริงๆ เราก็จะมึน แม้ว่าจะท่องมามากแค่ไหน ..
แต่ทั้งนี้ ก็ไม่ได้หมายความว่าการท่องไม่สำคัญ การท่องจำมะตัน ไม่ว่าจะเป็นอาญัรรูมิยะฮฺ หรืออัลฟิยะฮฺ อิบนิ มาลิก หรือบทอื่นๆ (แต่ถ้าได้ 2 ตัวนี้ ก็ถือว่าน่าพอใจแล้วในระดับนึง) ก็เป็นสิ่งสำัคัญยิ่ง เ้พราะมันจะช่วยให้เรานึกถึงเนื้อหา กฏเกณฑ์ต่างๆได้ง่ายขึ้น เพราะจากเนื้อหาเป็นหน้าๆ เราก็สามารถสรุปให้จำง่ายๆในบรรทัดเดียว หรือ 1 เบตกลอน.. แต่ที่จะย้ำก็คือ จำเป็นอย่างยิ่งที่จะต้องทำความเข้าใจเนื้อหาที่เราท่องไปอย่างลึกซึ้ง และหมั่นฝึกฝน การเอี้ยะรอบ และสังเกตประโยคต่างๆในหนังสือ ตำรับตำราที่เราอ่าน..
ซึ่งการศึกษาที่ดีและถูกต้องตามขั้นตอนนั้น ก็คือต้องศึกษาโดยตรงจากผู้รู้ ที่มีความแม่นยำในศาสตร์นะฮู ตั้งแต่ต้นจนจบ ให้ได้มีพื้นฐานหลักๆ มีความแม่นยำในส่วนที่อาจจะเรียกว่าเป็นอุศูล หรือพื้นฐานหลักของประเด็นปัญหา หรือรายละเอียดในวิชานะฮู.. เมื่อแม่นยำในระดับนึงแล้ว จึงค่อยขยับสู่ำตำราหรือเนื้อหาที่สูงและลึกขึ้น .. การศึกษาแบบก้าวกระโดด เพิ่งเรียนอาญุรรูมิยะฮฺได้ไม่เท่าไหร่ ก็จะข้ามไปอ่านอัลฟิยะฮฺ หรือ มุฆนิลละบีบ หรือตำราเล่มใหญ่ เล่มอื่นๆนั้น ไม่ใช่วิธีการที่ถูกต้อง มันจะทำให้ผู้เรียนสับสน สุดท้ายก็จะไม่เข้าใจอะไรเลย..
ความคิดเห็นเล็กๆน้อยๆ จากประสบการณ์เล็กๆ ผิดถูกประการใด ท่านผู้รู้ช่วยชี้แนะด้วยครับ