
อัลมุซซัมมิล;001 โอ้ผู้คลุมกายเอ๋ย
002;จงยืนขึ้น(ละหมาด)เวลากลางคืน เว้นแต่เพียงเล็กน้อย(ไม่ใช่ตลอดคืน)
003;ครึ่งหนึ่งเวลากลางคืน หรือน้อยกว่านั้นเพียงเล็กน้อย
004;หรือมากกว่านั้น และจงอ่านอัลกุรอ่านช้าๆ เป็นจังหวะ(ชัดถ้อยชัดคำ)
005; แท้จริงเราจะประทานวจนะ(วะฮีย)อันหนักอึ้งกับเจ้า
006;แท้จริงการตื่นในเวลากลางคืนนั้นเป็นเวลาที่ประทับใจยิ่ง และเป็นการอ่านที่ชัดเจนยิ่ง
จากซูเราะนี้อัลลอฮ(ซ.บ) ทรงเรียกนบีของพระองค์(มูฮัมมัด ซ.ล)ซึ่งเป็นการเตือนท่านให้รำลึกถึงชั่วโมงแห่งความสุข ซึ่งท่านได้พบกับวะฮีย์เป็นครั้งแรก แล้วท่านได้กลับบ้านด้วยความกลัวจนตัวสั่น และให้นางคอดีเยาะห่มผ้าโดยกล่าวว่า โปรดคลุมกายให้ฉันด้วย พระองค์ทรงกล่าวแก่ท่านว่า โอผู้คลุมกายเอ๋ย จงลุกขึ้นเพื่อทำละหมาดเวลากลางคืนเป็นเวลาครึ่งคืน หรือน้อยกว่านั้น คือหนึ่งในสามหรือมากกว่านั้น คือสองในสามของกลางคืน และในขณะการยืนละหมาดของเจ้าจงอ่านอัลกุรอานช้าๆ เป็นจังหวะชัดถ้อยชัดคำ เพื่อที่จะช่วยให้เจ้ามีความเข้าใจและใคร่ครวญอัลกุรอาน
การละหมาดตะฮัดยุดของบุคคลธรรมดาอาจจะไม่ประเสริฐเท่าบรรดานบี แต่ความตั้งใจในการเข้าใกล้ต่ออัลลอฮ(ซ.บ)มิใด้หมายความว่าคนธรรมดาอย่างเราจะทำไม่ได้ จุดมุ่งหมายของซูเราะนี้คือ การลุกขึ้นมาละหมาดในเวลากลางคืนซึ่งเวลานั้นเป็นเวลาที่เหมาะกับการใกล้ชิดพระองค์ เป็นเวลาที่สิ่งมีชีวิตส่วนมากพักผ่อน เป็นเวลาที่เงียบสงัดไร้ซึ่งสิ่งรบกวน ถ้าแม้นว่าเรามิใด้จำซูเราะเพื่อที่จะอ่านในเวลาละหมาดมากมาย แต่หลังเวลาละหมาดเสร็จควรที่จะอ่านอัลกุรอ่านให้นานมากที่สุดเท่าที่จะมากได้ ถ้าจะให้ประเสริฐมากขึ้นอีก ควรอ่านพร้อมทั้งพยายามเข้าใจในความหมาย อินชาอัลลอฮ เผื่ออัลลอฮจะประทานความเมตตาและเราะห์มัต แก่ผู้ปฏิบัติ