salam
หลังๆมามีแต่คนถามว่า...เรียนจบจะทำอะไรหรือ...
พอเราตอบว่า...แต่งงานมั้ง...
มีเสียงอุทานว่า....หา!!!
ก็ไม่รู้ว่าเพื่อนมันจะตกใจอะไรเหมือนกันค่ะ...
แต่จะโดนถามคำถามเดียวกันว่า...ไม่เสียดายไอ้วิชาความรู้ที่เรียนไปรึไง
เรียนสูงแต่จบไปแต่งงาน ความรู้ที่ได้มาไม่ลงไปอยู่ในหม้อแกงหมดหรือ...
ต้องคอยปรนนิบัติสามี ดูแลลูก เดินท้องโย้...ไปไหนก็ไม่ได้...
สุดท้าย วิชาความรู้ที่หามาได้ ก็จบลงที่ครัวและอะไรอีกมากมายที่เพื่อน
เทศนาให้ฟังค่ะ...นั่นแค่เราพูดว่า...แต่งงานมั้ง
ยังไม่ได้หมายความว่าจะแต่งเสียเด๋ียวนั้นเลย
แต่เพื่อนก็เทศซะหูไหม้ค่ะ...ก็ฟังค่ะ ไม่ใช่จะไม่ฟัง
เพราะรู้ว่าแต่ละคนก็คิดไม่เหมือนกัน มุมมองต่างกันไป...
ส่วนข้าน้อยก็ถามเพื่อนกลับไปแค่ว่า...
หากหมายถึงใบปริญญาอาจไม่ได้เอาออกมาใช้ก็ได้...
แต่หากเป็นความรู้ที่เรียนมานั้น อาจไม่พอใช้ด้วยซ้ำไป...
หรือบางทีต้องเรียนรู้เพิ่มเติมอีกเยอะแยะมากมาย...
เพราะการสร้างครอบครัวนั้นไม่ใช่เรื่องง่าย ที่เราจะเล่นๆได้...
อย่างน้อยๆความรู้ของเรา เราสามารถเอาไปสอนลูกสอนหลานของเราได้...
ลูกเราได้เรียนกับเราโดยตรง ลูกเรามีเราเป็นครู ได้เรียนรู้จากเราในบ้าน
ข้าน้อยว่าคนที่สอนลูกเราได้ดีที่สุดและน่าไว้วางใจที่สุดก็ตัวเรานี่แหล่ะค่ะ
ดังนั้น การแสวงหาความรู้ จึงเป็นสิ่งจำเป็นสำหรับข้าน้อย...
และหากสิ่งใดที่เราไม่รู้หรือไม่มีความสามารถที่จะสอนลูกของเราได้
เราก็ส่งให้ลูกได้ไปเรียนรู้กับผู้รู้ท่านอื่นๆต่อไป...ลูกไม่เข้าใจอะไรมา
เราจะได้เสริมหรือเพิ่มความรู้ตรงนั้นให้เขาได้บ้าง...
ซึ่งว่าไปแล้ว...ใบปริญญามิได้สำคัญกว่าสิ่งที่ได้มาในระหว่างศึกษาเล่าเรียน
ข้าน้อยคิดของข้าน้อยอย่างนี้มานานแล้วล่ะค่ะ...
เพราะพ่อมักพูดเสมอว่า...ไม่ว่าจะเกิดมาเป็นหญิงหรือชาย
วันนึงก็ต้องมีครอบครัวเป็นของตัวเอง...
ก่อนจะถึงวันนั้นเราต้องเตรียมพร้อมสำหรับหลายๆเรื่อง...
หากไม่พร้อมมันจะลำบาก จะเลี้ยงดูลูกให้ดี เราต้องมีความรู้ในหลายๆด้าน...
และมีความพร้อมในหลายๆเรื่อง...
โดยเฉพาะคนเป็นแม่ เพราะต้องอยู่ใกล้ชิดกับลูกมากกว่าคนเป็นพ่อ
หากแม่มีความรู้ ลูกก็จะได้ความรู้จากแม่ หากว่าแม่เป็นคนดีมีมารยาท
ลูกก็จะได้รับสิ่งดีๆจากผู้เป็นแม่ไปด้วย...เพราะตัวอย่างที่ดีของลูกก็คือพ่อกับแม่
ของเขาเอง...กว่าเขาจะโตกว่าเขาจะมีความสามารถที่จะเรียนรู้โลกเอง
ตัดสินใจอะไรเองได้ พ่อแม่ก็ต้องคอยประคับประคองคอยปลูกฝัง...
ดังนั้น...เราจึงจำต้องฝึกฝนเอาไว้ให้เต็มความสามารถของเรา...
หากเรายังไม่ดีพอ เราก็ต้องยอมรับว่า การจะได้คนดีๆมาร่วมชีวิตด้วย
ก็ยากไปด้วยน่ะค่ะ...พ่อจึงบอกว่า ทุกอย่างต้องเริ่มจากตัวเราก่อน
แล้วค่อยไปหวังเอาจากผู้อื่น...อยากได้อะไรก็ขอเอากับอัลลอฮฺ...
และจงให้มากกว่ารับ...แต่เท่าที่ผ่านมารู้สึกว่ารับมาตลอดค่ะ...
ให้คนอื่นได้น้อยจริงๆ...ซึ่งอาจเป็นเพราะเรายังมีน้อย ไม่พอที่จะให้ใครได้...
เราจึงต้องแสวงหาเพื่อที่จะให้...แม่เองก็มักสอนเกี่ยวกับเรื่องผู้หญิงๆ
เพราะกลัวว่าลูกสาวจะเลยเถิดตามพวกพี่ชายไป...
ยอมรับว่าสังคมและสิ่งแวดล้อมก็มีผลกับตัวเรา แต่มันมิใช่ตัวกำหนด
ความเป็นไปของเราทั้งหมด...
ด้วยความคิดเห็นส่วนตัวคิดว่า...สตรีควรมีความรู้เยอะๆ
มิใช่เอาไว้เป็นเครื่องประดับหรือแค่สร้างสรรค์สังคม...
แต่เอาไว้ใช้ในการสร้างครอบครัวของตัวเองในอนาคตด้วยค่ะ...
สังคมจะดีได้ เริ่มจากสถาบันเล็กๆ อย่างสถาบันครอบครัว...
สองมือบางๆที่สามารถค้ำจุนโลกนี้ได้...
ส่วนเรื่องที่ว่าเตรียมไว้ไม่รู้จะได้ใช้หรือไม่อย่างไรนั้น อินชาอัลลอฮฺ...
เมื่อไหร่ก็เมื่อนั้นล่ะค่ะ...

วัสลามุอะลัยกุมค่ะ
^___________^