ผู้เขียน หัวข้อ: สั_ญ_ญ_า_ณ_วั_น_กิ_ย_า_มั_ติ  (อ่าน 1814 ครั้ง)

0 สมาชิก และ 1 บุคคลทั่วไป กำลังดูหัวข้อนี้

ออฟไลน์ มุสลิมเย็น

  • เพื่อนใหม่ (O_0)
  • *
  • กระทู้: 41
  • Respect: 0
    • ดูรายละเอียด
    • เว็บวาไรตี้สุดเจ๋ง สำหรับมุสลิมสุด Cool!
สั_ญ_ญ_า_ณ_วั_น_กิ_ย_า_มั_ติ
« เมื่อ: ก.พ. 13, 2009, 09:25 PM »
0

อัสลามมูอาลัยกุมครับ
ผมเชื่อว่าหลายๆท่านอาจจะได้ทราบถึงสัญญาณวันสิ้นโลกที่มีมากมาย แต่พอดีมีเพื่อต่างศาสนาของผมเขาถามว่ามีอะไรบ้างผมเลยตอบเท่าที่ผมจำได้และหนึ่งในนั้นคือ "การที่ดวงอาทิตย์จะขึ้นทางทิศตะวันตก" หมายความว่าโลกจะต้องหมุนกลับด้านนั้นเอง ทำเอาเพื่อนของผมงงเลยครับและทำท่าทางไม่เชื่อประมาณว่าสิ่งที่ผมพูดมันเป็นไปไม่ได้หรอก และตอนนั้นผมเองก็ไม่มีหลักฐานอะไรไปยืนยันด้วยเพราะถ้าคิดดูแล้วมันก็ไม่น่าจะเกิดขึ้นได้จริงๆ หลังจากนั้นมันก็ค้างคาใจผมเลยกลับมาหาข็อมูลเพื่อยืนยันว่าสิ่งที่อิสลามเราเชื่อมันเป็นความจริง ผมก็ได้ไปเจอข้อมูลนี้เข้าครับเลยอยากเอามาฝากพี่น้องทุกคนครับ 

ปล. ผมไม่ทราบน่ะครับว่ามีใครโพสไปแล้วหรือป่าวถ้าซ้ำก็ขออภัยด้วยครับ

Magnetic Pole Reversal ขั้วแม่เหล็กโลกพลิกด้าน ค.ศ.2012 


เมื่อเร็วๆ มานี้ องค์การ NASA
ได้เคยทำให้สาธารณะชนเกิดความหวาดหวั่นด้วยการออกมาเปิดเผยว่าการพลิกกลับของขั้วแม่เหล็กโลกจะทำให้ความเข้มข้นของสนามแม่เหล็กโลกอ่อนลง และไร้ความมั่นคงแต่ไม่ถึงกับลดลงถึงระดับศูนย์
แต่จากการศึกษาร่วมกันของนักวิทยาศาสตร์ด้านคอมพิวเตอร์จำนวนหนึ่งกับกลุ่มนักธรณีฟิสิกส์และนักดาราศาสตร์ฟิสิกส์พบว่า ทั้งโลกและดวงอาทิตย์จะสิ้นสุดระยะเวลาที่ใช้ในกระบวนการพลิกกลับของขั้วแม่เหล็ก (Magnetic Pole Reversal) ในปี ค.ศ. 2012 โดยครั้งล่าสุดกระบวนการนี้ได้เกิดขึ้นเมื่อหลายล้านปีที่ผ่านมาจนทำให้สัตว์จำพวกไดโนเสาร์สูญพันธุ์จนหมดสิ้น  จากการค้นคว้าวิจัยและการวิเคราะห์ร่วมกันใน Hyderabad ได้คาดการณ์ว่าการเปลี่ยนแปลงอย่างรุนแรงครั้งใหม่นี้จะเกิดขึ้นในปี ค.ศ. 2012

คำถาม......? โลกจะเป็นอย่างไรเมื่อขั้วแม่เหล็กโลกกำลังพลิกด้าน

การพลิกกลับของขั้วแม่เหล็กโลก คือ กระบวนการที่ขั้วแม่เหล็กเหนือและขั้วแม่เหล็กใต้สลับตำแหน่งกัน เมื่อการพลิกกลับของขั้วแม่เหล็กนี้เกิดขึ้น ณ ขณะเวลาใดเวลาหนึ่ง (ซึ่งไม่สามารถทำนายได้ว่าจะกินเวลานานเท่าใด อาจกินเวลาแค่ 1 ช.ม. หรืออาจเป็นเดือนก็ได้) มันหมายถึงว่าค่าการเหนี่ยวนำของสนามแม่เหล็กโลกจะลดลงจนมีค่าเป็นศูนย์หน่วยกาซ   และโลก ณ ขณะเวลานั้นจะสูญเสียอำนาจแห่งสนามแม่เหล็กโลกอย่างหลีกเลี่ยงไม่ได้

คำถาม.......? จะเกิดอะไรขึ้นเมื่อไม่มีสนามแม่เหล็กโลก

โดยปกติสนามแม่เหล็กโลก จะเป็นเสมือนโล่กำบังที่ช่วยปกป้องโลกไว้อีกชั้นหนึ่งโดยเฉพาะ การช่วยกำบังโลกจากพายุสุริยะที่เกิดจากดวงอาทิตย์ แต่เมื่อไม่มีสนามแม่เหล็กโลกในเวลาที่ว่านั้น สิ่งมีชีวิตบนโลกจะต้องเจอกับหายนะ นั่นก็คือ พายุสุริยะ(บางคนเรียกลมสุริยะ มันเหมือนกันนะเดี๋ยวจะสับสน) พายุสุริยะ คือ พลังงานที่เกิดจากปฏิกิริยานิวเคลียร์ที่เกิดจากธาตุไฮโดรเจนบนพื้นผิวดวงอาทิตย์ ซึ่งจะถูกปล่อยออกมาสู่อวกาศด้วยแรงระเบิดมหาศาล ซึ่งพายุสุริยะนั้นประกอบด้วย รังสีคอสมิก(และอีกมากมาย) และคลื่นแม่เหล็กไฟฟ้าอันมหาศาล

คำถาม........? เราจะเป็นอย่างไรเมื่อต้องเผชินกับพายุสุริยะ

"ฮารัลด์ เลสช์" (Harald Lesch) ศาสตราจารย์จากมหาวิทยาลัย "มิวนิค" ได้สร้างแบบจำลองสนามแม่เหล็กโลกขึ้นมาศึกษาในเรื่องนี้เป็นการเฉพาะ เพื่อหาคำตอบว่าโลกเราจะเป็นอย่างไรหากไม่มีสนามแม่เหล็ก แบบจำลองที่ "ฮารัลด์ เลสช์" สร้างขึ้นพบว่า ถ้าโลกเราถูกพายุสุริยะกระหน่ำ ผลที่ได้สร้างความประหลาดใจอย่างยิ่ง จากภาพจำลองที่คอมพิวเตอร์สร้างขึ้นแสดงให้เห็นว่า เมื่อ มวลอนุภาคคลื่นแม่เหล็กไฟฟ้าจากพายุสุริยะมาถึงโลก จะทำปฏิกิริยากับชั้นบรรยากาศ เกิดเป็นสนามแม่เหล็กชุดใหม่มาแทนที่และทรงพลัง พอที่จะทานแรงปะทะของรังสีคอสมิก ทำให้รังสีคอสมิกที่เป็นอันตรายจากดวงอาทิตย์เบนออกสู่อวกาศ >>>แต่ทะว่าโลกเรานั้นสามารถรอดพ้นจากอันตรายจากรังสีคอสมิกไปได้ แต่สิ่งที่จะเกิดขึ้นจากกระบวนการนี้ไม่ได้เป็นผลดีต่อสิ่งมีชีวิตบนโลกเลย  ตามหลักแล้วกระแสไฟฟ้าจะไหลไปสู่ที่ๆมีความต่างศักย์ที่น้อยกว่า  และสนามแม่เหล็กชุดใหม่ที่จะเกิดขึ้นจากคลื่นแม่เหล็กไฟฟ้านั้นไม่ได้เสถียรเหมือนแม่เหล็กโลกเดิม ฉะนั้นคลื่นแม่เหล็กไฟฟ้าที่ทำปฏิกิริยากับบรรยากาศโลกย่อมไม่ได้หยุดอยู่เพียงแค่นั้น สิ่งที่คลื่นแม่เหล็กไฟฟ้าจะกระทำต่อไปนั้นก็คือ การปลดปล่อยพลังงานไฟฟ้าอันมหาศาลสู่ที่ๆมีความต่างศักย์ที่น้อยกว่า  นั่นก็คือพื้นผิวโลก  เหตุการณ์ที่ว่านี้คือ พายุฟ้าผ่านั้นเอง พายุฟ้าผ่านี้ อาจกินเนื้อที่ทั้งทวีปหรือทั่วโลก สายฟ้าที่กระหน่ำลงมาจากก้อนเมฆอิเล็กตรอนนั้น จะกระหน่ำผ่าลงมาทุกๆที่โดยไม่หยุดจนกว่าพลังงานคลื่นแม่เหล็กไฟฟ้าจากพายุสุริยะจะหมดลง และจะเกิดขึ้นอีกถ้าพายุสุริยะลูกต่อไปมาถึง หรือจนกว่าการกลับขั้วของแม่เหล็กโลกจะเสร็จสมบูรณ์จนทำให้กระบวนการสร้างสนามแม่เหล็กโลกจะทำงานได้อีก สิ่งมีชีวิตบนโลกมากมายจะต้องตาย และเทคโนโลยีต่างๆที่มนุษย์สร้างขึ้นจะถูกทำลายลงในครั้งนี้ แต่ถ้ารังสีคอสมิกสามารถหลุดรอดมากจากสนามแม่เหล็กไฟฟ้าได้ สิ่งมีชีวิตที่รอดจากการถูกฟ้าผ่า ก็อาจจะต้องตายจากโรคมะเล็งและความร้อน

คำถาม........? เมื่อสนามแม่เหล็กโลกเกิดการพลิกตัวอย่างสมบูรณ์จะเกิดอะไรขึ้นกับโลก

สิ่งที่จะกล่าวต่อไปนี้อาจะเหลือเชื่อแต่ตามหลักการแล้วย่อมเป็นไปได้ การพลิกด้านของขั้วแม่เหล็กโลกนี้ไม่ได้ทำให้เกิดความหายนะจากพายุสุริยะแค่เพียงอย่างเดียว แต่อาจเกิดหายนะจากการหมุนกลับทางของโลกที่จะเกิดตามมาอีก ยกตัวอย่าง เช่น การหมุนของมอเตอร์  มอเตอร์แบบธรรมดามี 2 ขั้ว โดยให้สัญลักษณ์  A  และ  B  ก่อนที่ขั้วแม่เหล็กโลกจะพลิกตัว  ให้เปรียบโดยการใช้  ไฟฟ้าขั้ว + ต่อเข้ากับ A และไฟฟ้าขั้ว - ต่อเข้ากับ B   มอเตอร์จะหมุนไปทางใดทางหนึ่ง แต่เมื่อเราต่อขั้วไฟฟ้ากลับด้านกัน ย่อมทำให้มอเตอร์เกิดการหมุนทิศทางตรงกันข้ามกับครั้งแรก และนี่ก็เปรียบกับการพลิกด้านของขั้วแม่เหล็กโลกนั่นเอง

คำถาม........? แล้วสิ่งมีชีวิตจะเป็นอย่างไรต่อไป
เมื่อโลกหมุนกลับทาง สิ่งมีชีวิตที่เหลืออาจจะต้องเจอกับภัยธรรมชาติมากมาย  โลกหมุนกลับทางย่อมทำให้ทุกสิ่งเปลี่ยน ทั้งกระแสน้ำทะเล  กระแสลม รวมถึงแผ่นดิน  จากนี้จะเกิดอะไรขึ้นย่อมไม่มีใครรู้ได้  มนุษย์และสิ่งมีชีวิตที่มีชีวิตรอด จะปรับตัวอย่างไรเมื่อดวงอาทิตย์ขึ้นทางทิศตะวันตก มนุษย์ที่เหลือจะทำอย่างไรเมื่อวันนั้นมาถึง...........................


หายนะที่ได้กล่าวมานี้ อาจจะไม่ร้ายแรงถึงขนาดที่กล่าวมา (หรืออาจร้ายแรงกว่า)  ขึ้นอยู่กับว่า การที่ขั้วแม่เหล็กโลกพลิกตัวนั้นจะใช้เวลานานขนาดใหน  ขอให้ทุกคนโชคดีครับ 

อ้างอิงครับ..

NASA Claims Polar Shift Due In 2012

Solar System - Did you notice? In February 2001, the Sun did a magnetic polar shift. The next one is due again in 2012. NASA scientists who monitor the Sun say that our stars awesome magnetic field flipped 22 months ago, signaling the arrival of a solar maximum. But it wasnt so obvious to the average human.

The Suns magnetic north pole, which was in the northern hemisphere just a few months ago, now points south. Its a topsy-turvy situation, but not an unexpected one. "This always happens around the time of solar maximum," says David Hathaway, a solar physicist at the Marshall Space Flight Center. "The magnetic poles exchange places at the peak of the sunspot cycle. In fact, its a good indication that Solar Max is really here."

The Suns magnetic poles will remain as they are now, with the north magnetic pole pointing through the Suns southern hemisphere, until the year 2012 when they will reverse again. This transition happens, as far as we know, at the peak of every 11-year sunspot cycle -- like clockwork.

Earth’s magnetic field also flips, but with less regularity. Consecutive reversals are spaced 5 thousand years to 50 million years apart. The last reversal happened 740,000 years ago. Some researchers think our planet is overdue for another one, but nobody knows exactly when the next reversal might occur.

Although solar and terrestrial magnetic fields behave differently, they do have something in common: their shape. During solar minimum the Suns field, like Earths, resembles that of an iron bar magnet, with great closed loops near the equator and open field lines near the poles. Scientists call such a field a "dipole." The Suns dipolar field is about as strong as a refrigerator magnet, or 50 gauss (a unit of magnetic intensity). Earths magnetic field is 100 times weaker.

When solar maximum arrives and sunspots pepper the face of the Sun, our stars magnetic field begins to change. Sunspots are places where intense magnetic loops -- hundreds of times stronger than the ambient dipole field -- poke through the photosphere.

"Meridional flows on the Suns surface carry magnetic fields from mid-latitude sunspots to the Suns poles," explains Hathaway. "The poles end up flipping because these flows transport south-pointing magnetic flux to the north magnetic pole, and north-pointing flux to the south magnetic pole." The dipole field steadily weakens as oppositely-directed flux accumulates at the Suns poles until, at the height of solar maximum, the magnetic poles change polarity and begin to grow in a new direction.

Hathaway noticed the latest polar reversal in a "magnetic butterfly diagram." Using data collected by astronomers at the U.S. National Solar Observatory on Kitt Peak, he plotted the Suns average magnetic field, day by day, as a function of solar latitude and time from 1975 through the present. The result is a sort of strip chart recording that reveals evolving magnetic patterns on the Suns surface. "We call it a butterfly diagram," he says, "because sunspots make a pattern in this plot that looks like the wings of a butterfly." In the butterfly diagram, pictured below, the Suns polar fields appear as strips of uniform color near 90 degrees latitude. When the colors change (in this case from blue to yellow or vice versa) it means the polar fields have switched signs.

The ongoing changes are not confined to the space immediately around our star, Hathaway added. The Suns magnetic field envelops the entire solar system in a bubble that scientists call the "heliosphere." The heliosphere extends 50 to 100 astronomical units (AU) beyond the orbit of Pluto. Inside it is the solar system -- outside is interstellar space.

"Changes in the Suns magnetic field are carried outward through the heliosphere by the solar wind," explains Steve Suess, another solar physicist at the Marshall Space Flight Center. "It takes about a year for disturbances to propagate all the way from the Sun to the outer bounds of the heliosphere." Because the Sun rotates (once every 27 days) solar magnetic fields corkscrew outwards in the shape of an Archimedian spiral. Far above the poles the magnetic fields twist around like a childs Slinky toy.

Because of all the twists and turns, "the impact of the field reversal on the heliosphere is complicated," says Hathaway. Sunspots are sources of intense magnetic knots that spiral outwards even as the dipole field vanishes. The heliosphere doesnt simply wink out of existence when the poles flip -- there are plenty of complex magnetic structures to fill the void.

Or so the theory goes.... Researchers have never seen the magnetic flip happen from the best possible point of view -- that is, from the top down. But now, the unique Ulysses spacecraft may give scientists a reality check. Ulysses, an international joint venture of the European Space Agency and NASA, was launched in 1990 to observe the solar system from very high solar latitudes. Every six years the spacecraft flies 2.2 AU over the Suns poles. No other probe travels so far above the orbital plane of the planets. "Ulysses just passed under the Suns south pole," says Suess, a mission co-Investigator. "Now it will loop back and fly over the north pole in the fall."

"This is the most important part of our mission," he says. Ulysses last flew over the Suns poles in 1994 and 1996, during solar minimum, and the craft made several important discoveries about cosmic rays, the solar wind, and more. "Now we get to see the Suns poles during the other extreme: Solar Max. Our data will cover a complete solar cycle."

To learn more about the Suns changing magnetic field and how it is generated, please visit "The Solar Dynamo," a web page prepared by the NASA/Marshall solar research group. Updates from the Ulysses spacecraft may be found on the Internet from JPL at http://ulysses.jpl.nasa.gov.

(Source: http://science.nasa.gov/headlines/y2001/ast15feb_1.htm)

ไร้สาระลบได้เลยน่ะครับ วัสลาม.. hehe

www.muslimcool.com เว็บวาไรตี้สุดเจ๋ง สำหรับมุสลิมสุด Cool!

ออฟไลน์ Al Fatoni

  • ซังกุงคนสนิท ( +_-)
  • เพื่อนรัก (6_6)
  • *****
  • กระทู้: 4905
  • เพศ: ชาย
  • จงอยู่กับความจริงแล้วจะไม่หลง
  • Respect: +76
    • ดูรายละเอียด
Re: สั_ญ_ญ_า_ณ_วั_น_กิ_ย_า_มั_ติ
« ตอบกลับ #1 เมื่อ: ก.พ. 13, 2009, 09:26 PM »
0
เรื่องนี้รู้สึกว่าขึ้นกระทู้นำเสนอแล้วนะ มีการถกด้วยว่าจริงหรือไม่จริงยังงัย - วัสสลาม
ท่านขนขวายอะไร ท่านก็จะได้สิ่งนั้น - วัลลอฮุอะอฺลัม

ออฟไลน์ มุสลิมเย็น

  • เพื่อนใหม่ (O_0)
  • *
  • กระทู้: 41
  • Respect: 0
    • ดูรายละเอียด
    • เว็บวาไรตี้สุดเจ๋ง สำหรับมุสลิมสุด Cool!
Re: สั_ญ_ญ_า_ณ_วั_น_กิ_ย_า_มั_ติ
« ตอบกลับ #2 เมื่อ: ก.พ. 13, 2009, 09:32 PM »
0
อ้อครับ ผมไม่หทราบจริงๆครับ พอดีมาใหม่ขอบคุณมากครับ วัสลาม  hehe

www.muslimcool.com เว็บวาไรตี้สุดเจ๋ง สำหรับมุสลิมสุด Cool!

ออฟไลน์ คนเดินดิน

  • เพื่อนรัก (6_6)
  • *****
  • กระทู้: 1620
  • ขอให้ได้รับความโปรดปรานจากพระผู้ทรงเมตตาด้วยเถิด
  • Respect: +17
    • ดูรายละเอียด
Re: สั_ญ_ญ_า_ณ_วั_น_กิ_ย_า_มั_ติ
« ตอบกลับ #3 เมื่อ: ส.ค. 09, 2009, 03:28 PM »
0
 salam

     นอสตราดามุส  - - เคยทำนายไว้ว่าโลกจะแตกในปีสองพัน  ที่มาพร้อมกับปัญหา Y2K

(แต่ปัจจุบันนี้ปี 2009  แล้วเน๊อะ?)

เมื่อหลายวันก่อนได้ดูรายการรายการหนึ่งที่บอกเล่าเรื่องราวว่า

มีการจัดทำนาฬิกาวันสิ้นโลก(อะไรซักอย่างถ้าจำไม่ผิด)

และก็มีการวิเคราะห์ไปอีกว่าโลกจะแตกในปี 2012

     ส่งผลให้ลูกหลานอดัมหลายต่อหลายคนตื่นตัวและตื่นเต้น

ในขณะที่ท่านนบีมูฮำหมัด ซ็อลลัลลอฮูอะลัยฮิวะซัลลัม

ให้คำตอบเกี่ยวกับวันสิ้นโลกไว้เพียงว่าท่านไม่รู้ว่าจะเกิดวันไหน

เพียงแต่จะมีสัญญาณเตือนแห่งการหลงลืมพระผู้อภิบาลแห่งสากลโลก

ปรากฏขึ้นทีละอย่าง  ทีละอย่าง

เมื่อวันนั้น(ใกล้)มาถึง  3  คำถามนี้จะเกิดขึ้นในหัวใจของพี่น้องได้แล้วหรือยัง?

เรามาจากไหน?

     เราอยู่เพื่ออะไร?

          และเรากำลังจะไปที่ไหน?

 ::) ::) ::)
เพราะรู้ดีว่าเป็นเพียงหนึ่งคนที่อ่อนแอ  จึงทำให้คำนึงถึงคุณค่าของหนึ่งชีวิต  โปรดชี้แนะแนวทางที่เที่ยงตรงด้วยเถิด  ยาร็อบบี  سَلَّمْنَا مُسْلِمِيْنَ وَمُسْلِمَاتٍ فِي الدُّنْيَا وَ الأخِرَةِ

ออฟไลน์ abiatiya

  • เพื่อนสนิท (._.")
  • ***
  • กระทู้: 316
  • Respect: +17
    • ดูรายละเอียด
    • Nurul Islam Patong
Re: สั_ญ_ญ_า_ณ_วั_น_กิ_ย_า_มั_ติ
« ตอบกลับ #4 เมื่อ: ส.ค. 09, 2009, 04:20 PM »
0
Magnetic Pole Reversal ดวงอาทิตย์ขึ้นทางทิศตะวันตก..... แป๊ะๆ เลย.... แต่.... ไม่ใช่ 2012 เราไม่รู้ด้วยซ้ำว่า เมื่อไร อิอิ
(\__/)
(='.'=) ไม่มีอะไรสายเกินกว่า 8 โมงเช้า...
(")_(")

ออฟไลน์ ILHAM

  • เพื่อนตาย T_T
  • *****
  • กระทู้: 11348
  • เพศ: ชาย
  • Sherlock Holmes
  • Respect: +273
    • ดูรายละเอียด
    • ILHAM
Re: สั_ญ_ญ_า_ณ_วั_น_กิ_ย_า_มั_ติ
« ตอบกลับ #5 เมื่อ: ส.ค. 09, 2009, 08:21 PM »
0
อุสตาสบอกว่า ชีวิตพวกมึงคงอยู่ไม่ถึงวันนั้นหรอก
إن شاءالله ติด ENT'?everybody

Sherlock Holmes said "How often have I said to you that when you have eliminated the impossible, whatever remains, however improbable, must be the truth?"
-------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------

ออฟไลน์ คนเดินดิน

  • เพื่อนรัก (6_6)
  • *****
  • กระทู้: 1620
  • ขอให้ได้รับความโปรดปรานจากพระผู้ทรงเมตตาด้วยเถิด
  • Respect: +17
    • ดูรายละเอียด
Re: สั_ญ_ญ_า_ณ_วั_น_กิ_ย_า_มั_ติ
« ตอบกลับ #6 เมื่อ: ส.ค. 11, 2009, 11:33 AM »
0
 salam

          หนึ่งในอีกหลาย ๆ สัญญานวันสิ้นโลกที่ฉันเห็นก็คือ

หญิงกลายเป็นชาย  แล้วชายกลายเป็นหญิง

          หรือว่าคุณยังไม่เห็นสิ่งเหล่านั้น?

 :-[ :-[ :-[
เพราะรู้ดีว่าเป็นเพียงหนึ่งคนที่อ่อนแอ  จึงทำให้คำนึงถึงคุณค่าของหนึ่งชีวิต  โปรดชี้แนะแนวทางที่เที่ยงตรงด้วยเถิด  ยาร็อบบี  سَلَّمْنَا مُسْلِمِيْنَ وَمُسْلِمَاتٍ فِي الدُّنْيَا وَ الأخِرَةِ

ออฟไลน์ เหรียญ 2 ด้าน

  • เพื่อนแท้ (-.^)
  • ****
  • กระทู้: 753
  • เพศ: ชาย
  • เรียบง่าย แต่ไร้เทียมทาน (จิงๆๆ)
  • Respect: +8
    • ดูรายละเอียด
    • กัมปงดูกู
Re: สั_ญ_ญ_า_ณ_วั_น_กิ_ย_า_มั_ติ
« ตอบกลับ #7 เมื่อ: ส.ค. 19, 2009, 09:45 PM »
0
salam

          หนึ่งในอีกหลาย ๆ สัญญานวันสิ้นโลกที่ฉันเห็นก็คือ

หญิงกลายเป็นชาย  แล้วชายกลายเป็นหญิง

          หรือว่าคุณยังไม่เห็นสิ่งเหล่านั้น?

 :-[ :-[ :-[

 salam

ผมก้อเห็นด้วยกับคุณอย่างยิ่ง
ชื่อที่เคยใช้ในบอร์ดคือ ahmdduku, الدوكوي, เหรียญ 2 ด้าน