ผู้เขียน หัวข้อ: บทเรียนจากการเผยแผ่ศาสนาของท่านนบีนูฮฺ  (อ่าน 1984 ครั้ง)

0 สมาชิก และ 1 บุคคลทั่วไป กำลังดูหัวข้อนี้

ออฟไลน์ nada-yoru

  • เพื่อนรัก (6_6)
  • *****
  • กระทู้: 4010
  • เพศ: หญิง
  • แสงและเงา
  • Respect: +134
    • ดูรายละเอียด

 ไม่มีใครปฏิเสธว่าการทำหน้าที่เผยแผ่ศาสนานั้น
เป็นหน้าที่มีเกียติรที่สุด และเป็นงานที่บรรดานบี
และรอซูลของอัลลอฮฺได้ทำหน้าที่นี้
และมีผู้ที่รับมรดกเหล่านี้มากมาย

ด้วยกับความเมตตาของอัลลอฮฺที่มีต่อปวงบ่าว
พระองค์ไม่ได้สร้างมนุษย์มาแล้วปล่อยให้มนุษย์
ได้ใช้ชีวิตโดยไร้สาระ พระองค์ทรงสร้างสรรพสิ่งๆ ต่างๆ
ในโลกใบนี้มาสนองตอบความต้องการของมนุษย์
แต่เป้าหมายที่อัลลอฮฺได้สร้างมนุษย์ให้มาอยู่ในโลกนี้
ก็เพื่อทำการเคารพภักดีต่อพระองค์เพียงพระองค์เดียว



         โดยที่พระองค์ได้ส่งบรรดารอซูล
มาทำหน้าที่เรียกร้องผู้คนให้ยอมรับอัลลอฮเป็นพระเจ้า
ยอมรับว่าทุกสิ่งทุกอย่างในโลกใบนี้ อัลลอฮฺ คือผู้ทรงสร้าทั้งหมด ยอมรับว่าระบบต่างๆ ที่เกิดขึ้นในโลกใบนี้มีกลไกเป็นไป
อย่างมีระเบียบนั้น อัลลอฮฺคือผู้สร้าง
และเชื่อว่าการมีชีวิตของมนุษย์ในโลกใบนี้เป้าหมาย
คือ เพื่อทำการเคารพภักดีต่อพระองค์
และนำบทบัญญัติทุกสิ่งทุกอย่างของพระองค์
มาใช้ในการดำเนินชีวิต

 



         หากเราค้นหาคำตอบจากผู้คนต่างๆในโลกใบนี้
หรือจากหลักความเชื่อต่างๆ ที่มีอยู่ในโลกใบนี้
เราก็จะพบคำตอบที่มากมาย ในการบังเกิดของมนุษย์
เราจะพบคำตอบบางคำตอบ ในเรื่องมนุษย์จากคนบางกลุ่ม
ที่มีความเชื่อว่ามนุษย์เกิดขึ้นมาเองตามธรรมชาติ
ไม่มีผู้สร้างแต่ประการใด
และคิดว่ามนุษย์มีชีวิตอยู่ในโลกใบนี้แค่ชั่วขณะ
และต้องจบชีวิตจากโลกนี้ไป ก็ถือว่าเป็นอันจบสิ้น



         ดังนั้นอัลลอฮ์ จึงได้ส่งบรรดารอซูลมา
เพื่อทำหน้าที่ในการเผยแผ่คำสอน
และมาเรียกร้องบรรดามนุษย์ที่หันเห
ออกไปจากหนทางของพระองค์

เพราะมนุษย์ที่อัลลอฮฺได้ส่งมาในยุคของท่านนบี อาดัม
จนถึงยุคของท่านนบีนัวะ  ได้เกิดการตั้งภาคีต่ออัลลอฮขึ้น
อัลลอฮฺจึงแต่งตั้งท่านนบีนัวะมาทำหน้าที่เรียกร้องผู้คน
ที่ได้หันเหออกจากแนวทางของการให้เอกภาพต่ออัลลอฮฺ
ที่บริสุทธิ์ และการทำหน้าที่ของท่านนบีนัวะนั้น
เป็นบทเรียนที่ดีงามแก่บรรดาผู้ที่ทำหน้าที่เผยแผ่ศาสนา
ของพระองค์



         ท่านนบีนูฮฺ ได้ใช้เวลาเรียกร้องประชาติของท่าน
เป็นเวลา 950 ปี ท่านทำหน้าที่ทั้งวันทั้งคืน
เรียกร้องคนทุกระดับไม่ว่า คนระดับรากหญ้า
ไปจนถึงระดับผู้นำ

แต่ส่วนมากบุคคลที่ศรัทธาต่อท่านนั้นเป็นบุคคลที่ยากจน
บุคคลที่อ่อนแอ และไม่มีตำแหน่งทางสังคม
และหลักฐานเรื่องนี้อัลลอฮผู้ทรงสูงส่งได้ตรัสไว้ว่า

 "และโดยแน่นอนเราได้ส่งนูห์ไปยังหมู่ชนของเขา
และเขาได้อยู่ร่วมกับพวกเขาหนึ่งพันปีเว้นห้าสิบปี (950 ปี)
 ดังนั้นอุทกภัยได้คร่าพวกเขาขณะที่พวกเขาเป็นผู้อธรรม"




         นี่คือระยะเวลาที่ท่านนบีนูฮฺ ได้ใช้เวลาในการเรียกร้อผู้คนให้กลับมาสู่การศรัทธาต่ออัลลอฮฺที่ถูกต้อง
โดยท่านทำหน้าที่อย่างอดทน จากการดูถูกเหยียดหยาม
การถูกกล่าวหาต่างๆ นานา แต่ท่านไม่เคยหมดหวังท้อแท้
จากการทำหน้าที่ของท่าน

ท่านทำหน้าเรียกร้องผู้คนมาสู่ศาสนาของอัลลอฮฺ
ด้วยความอ่อนโยน และไม่เคยถือโกรธแก่บรรดา
ผู้ที่ทำการเย้ยหยันต่อท่าน
ทำหน้าที่ของตัวเองอย่างสมบูรณ์แบบ
ทำทุกอย่างที่อัลลอฮมีพระบัญชามา



         ดังนั้นเมื่อเรากลับไปดูความทุ่มเทของบรรดานบี
และบรรดารอซูลในการทำหน้าที่เรียกร้องผู้คน
ให้มาสู่ความเข้าใจแนวทางของอัลลอฮฺ
ที่ได้ผ่านบรรดารอซูลเหล่านั้น
คงไม่มีใครที่ถูกทดสอบมากไปกว่าบรรดานบี
และรอซูลของพระองค์




         ฉะนั้นอิสลามที่ได้ดำรงไว้จนถึงทุกวันนี้
เพราะมีคนที่ทำหน้าด้วยความศรัทธาและอดทน
มีพลังศรัทธาต่อพระเจ้าที่ขับเคลื่อนไปข้างหน้า
บรรดารอซูลและผู้ที่ยึดมั่นในแนวทางของพวกเขานั้น
ไม่เคยท้อแท้ในการที่จะเป็นบ่าวของอัลลอฮฺ
ที่ทำหน้าที่อันทรงเกียติรนี้

ดังนั้นบุคคลที่อัลลอฮฺได้ประทานความรู้ความเข้าใจ
ในศาสนาของพระองค์นั้นจะต้องไม่ลืมหน้าที่ของตัวเอง
และจะต้องทุ่มเทชีวิตทั้งชีวิตทั้งหมด
ไปด้วยกับการรับใช้ศาสนาของอัลลอฮฺผู้ทรงสร้างเรามา
เพื่อทำการเคารพภักดีต่อพระองค์

นี่คือเป้าหมายของการมีชีวิตอยู่ในโลกใบนี้
เราอย่าลืมเป้าหมายการมีชีวิตของเราในโลกใบนี้




         ดังนั้นคนที่เป็นดาอีย์นั้นจะต้องมีลักษณะ
ที่เป็นคุณลักษณะที่บรรดารอซูลได้มี
เช่นความอดทนในการทดสอบ ความมั่นใจในการช่วยเหลือ
ของอัลลอฮฺ การมอบหมายต่ออัลลอฮฺ
และอีกมากมายที่มีแบบอย่างจากบรรดารอซูลของพระองค์

เช่น การทำงานของท่านนบีนูฮฺ นั้น เป็นแบบอย่างความอดทน
และการรับผิดชอบในหน้าที่ของตัวเอง
ถึงแม้กาลเวลาจะผ่านไปเนิ่นนานสักเพียงใด
ก็ไม่ได้ทำให้อุดมการณ์ของท่านนบีนูฮฺต้องลดลง



        ท่านยังคงทำหน้าที่ของท่านไปจนกว่าอัลลอฮฺ
มีบัญชาให้สร้างเรือเพื่อที่พระองค์จะได้ทำลายกลุ่มชน
ที่ปฏิเสธต่ออัลลอฮฺ และให้บรรดาผู้ศรัทธาได้ขึ้นไปบนเรือ
ที่ท่านนบีนัวะได้สร้างไว้ และท่านยังคงทำหน้าที่ของท่าน
จนกระทั่งวินาทีสุดท้าย โดยที่ยังคงเรียกร้องเชิญชวน
ผู้ที่ไม่เชื่อในสิ่งที่นำมาบอก ท่านได้เรียกร้องผู้ที่ยังไม่ศรัทธาให้ขึ้นเรือเพราะวันนี้อัลลอฮฺจะให้น้ำท่วมโลก
และไม่มีใครหนีพ้นการลงโทษอันนี้ นอกจากผู้ที่ขึ้นบนเรือเท่านั้น



         นบีนูฮฺได้เรียกร้องเชิญชวนภรรยาของท่าน
ให้ขึ้นมาบนเรือ แต่นางก็ไม่ยอมเชื่อท่าน
นางปฏิเสธที่จะขึ้นไปบนเรือ

ท่านได้ชวนลูกของท่าน แต่ลูกของท่านก็ปฏิเสธที่จะขึ้นไปบนเรือเช่นเดียวกัน


จากเหตุการณ์ตรงนี้เราจะพบว่า
สำหรับแนวทางของอัลลอฮฺที่ถูกต้องจะได้รับแก่ผู้ที่แสวงหาเท่านั้น
มันไม่สามารถสืบทอดกันทางสายเลือดได้
ถึงแม้จะเกิดมาเป็นลูกคนดีๆ ก็ตามแต่




         การทำหน้าที่เรียกร้องผู้คนมาสู่ศาสนาของอัลลอฮฺนั้น
กว่าที่เราจะประสบความสำเร็จต้องใช้เวลา

ความสำเร็จไม่สามารถที่จะเกิดขึ้นในระยะเวลาสั้นๆได้

ที่สำคัญไม่ว่าเวลาจะผ่านไปนานสักเพียงใด
ความตั้งใจของเราในการทำหน้าที่อันนี้ต้องคงอยู่
และต้องไม่หมดไปกับกาลเวลา

และการทำหน้าที่เรียกร้องเชิญชวนผู้คนมาสู่ศาสนาของอัลลอฮฺ จะต้องพบอุปสรรคมากมาย
ไม่ว่า การต่อต้าน การเย้ยหยัน
การทำร้ายและความทุกข์ยากต่างๆ ที่จะต้องมาประสบ
ในการเดินอยู่ในเส้นทางนี้



         แต่ถึงอย่างไรก็ตาม เรามีแบบอย่างที่ดีงาม
จากบรรดารอซูลของอัลลอฮฺ เช่นแบบอย่างของท่านนบีนูฮฺ 
และท่านนบีมูฮัมหมัด
และอีกมากมายที่บรรดานบีและรอซูลของอัลลอฮฺ
ได้แสดงแบบอย่างเอาไว้


ดังนั้นการกลับไปศึกษาแนวทางการทำงาน
ของบรรดารอซูลของอัลลอฮฺนั้นถือว่าเป็นสิ่งที่จำเป็น
แก่บรรดาผู้ที่ทำหน้าเรียกผู้คนมาสู่ศาสนาของอัลลอฮฺ
เพื่อที่จะได้เอาบทเรียนจากพวกเขาในการทำหน้าที่นั้น

 



         และหนึ่งในนั้นก็คือแบบอย่างของท่านนบีนูฮฺ
ที่เป็นแบบอย่างแห่งการยืนหยัด อดทน
มีความหวังไม่ท้อแท้ในการปฏิบัติภาระกิจของท่าน
ถึงแม้คนที่เชื่อต่อสิ่งที่ท่านนำมาบอกจะมีจำนวนน้อย
ก็ไม่ได้เป็นสิ่งที่จะมาบั่นทอนกำลังใจของท่าน
ให้หยุดทำหน้าที่อันสูงส่งอันนี้

นักเผยแพร่จะต้องทำงานของตัวเองจนกระทั่งวินาทีสุดท้าย
และปฏิบัติหน้าที่ของตัวเองให้สมบูรณ์แบบที่สุด

 

บทความจาก : http://www.islammore.com/main/content.php?page=sub&category=62&id=3093


"และข้ามิได้สร้างญิน และมนุษย์เพื่ออื่นใด เว้นแต่เพื่อเคารพภักดีต่อข้า"

(ซูเราะฮฺ อัซซาริยาต อายะอฺที่ 56)

ออฟไลน์ nada-yoru

  • เพื่อนรัก (6_6)
  • *****
  • กระทู้: 4010
  • เพศ: หญิง
  • แสงและเงา
  • Respect: +134
    • ดูรายละเอียด
0
บทเรียนจากการเผยแผ่ศาสนาของท่านนบีนุฮฺนั้น...
เป็นดั่งแนวทางให้เราในยุคนี้สามารถยึดเอามาปฏิบัติตาม

จึงเห็นว่าบทความดังกล่าวเป็นบทความที่เป็นการตักเตือน
และให้กำลังใจ เลยนำมาให้พี่น้องในเว็บแห่งนี้ได้อ่านกันค่ะ...

950 ปี ในการยืนหยัดเพื่อเผยแผ่ศาสนาของท่านนบีนุฮฺนั้น
ดูยาวนานเหลือเกิน...

พ่อเคยบอกข้าน้อยว่า...สมัยท่านนบีนุฮฺนั้น ผู้คนอายุยืนยาว
จนเขาได้ลืมความตายไป...ชีวิตพวกเขาจึงตกอยู่ในการหลงลืม...
และรักดุนยา ทำทุกอย่างเพื่อดุนยา เพราะพวกเขาหลงลืมความตาย...
ไม่ได้สำเหนียกถึงรสชาติของมัน...และนั่นคือประชาชาติของท่านนบีนุฮฺ
ที่หลงลืมความตาย ซึ่งก็ให้น่าคิดว่า...ที่เขาหลงลืมความตาย
เพราะเขาอายุยืนยาว และอาจมิได้พบเจอคนตายบ่อยๆ...

แต่เราในยุคนี้ ที่แต่ละวันได้พบเจอกับความตาย มีคนตายให้เห็นอยู่บ่อยครั้ง
เราก็ยังมิได้สำเหนียกถึงความตาย เรายังคงสนุกสนานเฮฮา
ราวกับไม่รู้สึกรู้สากับความตายที่อาจจะมาเยือนเราได้ทุกเมื่อ
แม้มีคนตายให้เห็นต่อหน้าต่อตา เราก็ยังไม่รู้สึกอะไร...
มนุษย์ยุคนี้นั้น...ลืมความตายแม้กระทั่งมีคนตายให้เห็นต่อหน้า
แม้กระทั่งชีวิตของเราในยุคนี้หาได้ยืนยาว แต่เราก็ยังคงเดินหน้า
สร้างทุกอย่างเพื่อดุนยา ในขณะที่เรามีเวลาได้มาอยู่ที่นี่สั้นกว่าประชาชาติ
ในยุคนบีนุฮฺเสียอีก...

ลองเปรียบเทียบดูนะคะว่า อายุขัย 950 ปี กับอายุขัย 60กว่าปีนั้น...
มันช่างแตกต่างกันเหลือเกิน...

แล้วเราจะคิดได้อย่างไรว่า...เราได้โอกาสมาอยู่ในดุนยายาวนาน...
จนเกิดความคิดที่อยากจะสร้างนั่นสร้างนี่ในดุนยาเพื่อหวังจะได้ใช้ชีวิต
อย่างสุขสบาย ณ ที่นี่ไปอีกนานแสนนาน...
เพราะเมื่อเทียบกับประชาชาติยุคก่อนๆแล้วนั้น...มันช่างห่างไกลกันเหลือเกิน...

ซึ่งสำหรับข้าน้อย อัลฮัมดุลิลลาฮฺ เพราะนี่คือความเมตตาของอัลลอฮฺ
ที่มีต่อประชาชาติในยุคนี้ ที่ให้เราได้มาอยู่ที่นี่แค่เพียงระยะสั้นๆ...
การทดสอบจากพระองค์จึงย่อมไม่ได้มีมากมายเมื่อเทียบกับบรรดาประชาชาติในยุค
ของนบีนุฮฺ...


วัสลามค่ะ

"และข้ามิได้สร้างญิน และมนุษย์เพื่ออื่นใด เว้นแต่เพื่อเคารพภักดีต่อข้า"

(ซูเราะฮฺ อัซซาริยาต อายะอฺที่ 56)

 

GoogleTagged