ผู้เขียน หัวข้อ: นิยาม "สายกลาง" อิสลาม หลักการ และความเป็นจริง  (อ่าน 2438 ครั้ง)

0 สมาชิก และ 1 บุคคลทั่วไป กำลังดูหัวข้อนี้

ออฟไลน์ قطوف من أزاهير النور

  • ดุนยา..มาเพื่อไป
  • ทีมงานหลังบอร์ด (-_-''')
  • เพื่อนรัก (6_6)
  • *****
  • กระทู้: 1582
  • อยากเป็นเด็กดีของอัลลอฮฺ
  • Respect: +9
    • ดูรายละเอียด
    • แวะไปเม้นหน่อยน่า ^^

นิยามคำว่า "สายกลาง"








คำว่า  สายกลาง  มาจากคำภาษาอาหรับว่า  اَلْوَسَطُ  (อัลวะซัฏ)  ซึ่งหมายถึง "ดีเลิศที่สุดหรือคุณภาพดีที่สุด"  หรือหมายถึง  สิ่งที่อยู่ระหว่างสองประการที่ถูกตำหนิ  เช่น  ความเอื้อเฟื้อเผื่อแผ่อยู่ระหว่างความตระหนี่กับความสุรุ่ยสุร่าย   ความกล้าหาญอยู่ระหว่างความขลาดกลัวกับความผลุนผลันมุทะลุ

สายกลางคือเอกลักษณ์พิเศษของประชาชาติอิสลาม   ดังที่อัลเลาะฮ์ตะอาลา  ทรงตรัสความว่า

وَكَذَلِكَ جَعَلْنَاكُمْ أُمَّةً وَسَطاً لِّتَكُونُواْ شُهَدَاء عَلَى النَّاسِ وَيَكُونَ الرَّسُولُ عَلَيْكُمْ شَهِيداً

"และในทำนองเดียวกันนั้น  เราได้ดลบันดาลพวกเจ้าทั้งหลายเป็นประชาชาติสายกลางเพื่อว่าเจ้าทั้งหลายจะได้เป็นสักขีพยานแก่มนุษย์ชาติและศาสนทูต(มุฮัมมัด)  ก็เป็นสักขีพยานสำหรับพวกเขาทั้งมวล" อัลบะกอเราะฮ์ : 143

ความเป็นประชาชาติสายกลางของประชาชาติอิสลามนั้น  ได้รับสืบทอดเจตนารมณ์มาจากแนวทางที่เป็นกลาง มีความสมดุล ปราศจากความสุดโต่งและหย่อนยาน  ดังนั้นเมื่อมีความสมดุลย์เกิดขึ้น  เสถียรภาพย่อมบังเกิด  จากนั้นหนทางที่เที่ยงตรงก็จะตามมาโดยอัตโนมัติ  ดังนั้น ด้วยความเป็นธรรมชาติสายกลางของอิสลามนี้แหละครับ  ที่อัลเลาะฮ์ตะอาลา  ทรงสอนให้เราทำการเฝ้าวอนขอต่อพระองค์ซึ่งหนทางที่เที่ยงตรงในละหมาดไม่น้อยกว่า 17 ครั้งต่อวัน  ที่ว่า

اهدِنَــــا الصِّرَاطَ المُستَقِيمَ صِرَاطَ الَّذِينَ أَنعَمتَ عَلَيهِمْ غَيرِ المَغضُوبِ عَلَيهِمْ وَلاَ الضَّالِّينَ

"พระองค์โปรดชี้นำเราสู่แนวทางที่เที่ยงตรงด้วยเถิด  ซึ่งเป็นแนวทางของบรรดาผู้ที่พระองค์ได้ทรงโปรดปราณแก่พวกเขา  มิใช่แนวทางของพวกที่ถูกกริ้ว  และมิใช่(แนวทางของ)พวกที่หลงผิด" อัลฟาติหะฮฺ : 6 - 7


ในซูเราะฮ์อัลฟาติหะฮฺที่เราอ่านในทุกรอกะอัตของละหมาดนั้น  อัลเลาะฮ์ทรงบัญชาใช้ให้เราอยู่ในสายกลาง  "บรรดาผู้ถูกกริ้ว" นั้น  ก็คือพวกยาฮูดี  และ "พวกที่หลงผิด"  คือ  พวกนะซอรอ  ดังนั้น  พวกยาฮูดีกับพวกนะซอรอนั้น  เป็นอุทาหรณ์แห่งความเกินเลยและหย่อนยาน  เช่น  พวกยิวเลยเถิดฆ่าบรรดานบี  ส่วนพวกนะซอรอเลยเถิดนำเอาท่านนบีอีซาเป็นพระเจ้า  และพวกยาฮูดีหย่อนยานมักง่ายในสิ่งที่ต้องห้าม  ส่วนพวกนะซอรอมักง่ายในเรื่องที่ฮะล้าล   ดังนั้น  หนทางสายกลางก็คือ  การเดินอยู่บนแนวทางที่เที่ยงตรงซึ่งเป็นแนวทางของกลุ่มชนที่อัลเลาะฮ์ (ซบ.) ทรงประทานความโปรดปราณจากบรรดานบี  บรรดาผู้สัจจริง  บรรดาผู้มรณะสักขี  และบรรดาผู้มีคุณธรรมทั้งหลาย


พี่น้องผู้อ่านครับ  ทุกแนวทางก็เชื่อกันว่าตนเองก็อยู่ในหนทางของบรรดานบีและเหล่าผู้มีคุณธรรม  หากท่านผู้อ่านตั้งคำถามขึ้นแก่ผมว่า  "เมื่อทุกแนวทางต่างเชื่อกันว่าแนวทางของตนก็คือแนวทางของบรรดานบีและเหล่าผู้มีคุณธรรมนั้น  พวกเขาทั้งคือสายกลางน่ะซิ?"  ผมขอตอบว่า  "แนวทางของบรรดานบีและเหล่าผู้มีคุณธรรมนั้น   ต้องอยู่บนความเป็นสายกลางในเชิงหลักการและฉายออกมาให้เห็นทางพฤติกรรมด้วยเช่นกัน" 
ท่านอิบนุอับบาสได้รายงานจากท่านนบี  ซ๊อลลัลลอฮุอะลัยฮิวะซัลลัม  ซึ่งท่านได้กล่าวว่า 

إِيَّاكُمْ وََالْغُلُوَّ فِي الدِّيْنِ فَإِنَّمَا أَهْلَكَ مَنْ كَانَ قَبْلَكُمْ الْغُلُوَّ فِي الدَّيْنِ

"พวกท่านจงระวังการเลยเถิดในเรื่องศาสนา  เพราะแท้จริงบุคคลที่อยู่ก่อนหน้าพวกท่านนั้นได้ประสบความวิบัติเกี่ยวกับความเลยเถิดในเรื่องศาสนา" อันนะซาอีย์ (3057)

รายงานจากท่านอิบนุมัสอูด  ร่อฏิยัลลอฮุอันฮุ  ว่า  ท่านนบี  ซ๊อลลัลลอฮุอะลัยฮิวะซัลลัม  ได้กล่าวซ้ำกันถึงสามครั้งว่า

هَلَكَ الْمُتَنَطِّعُوْنَ

"บรรดาผู้มุตะนัตติอูน(ผู้ที่คิดลึกเกินเลยขอบเขต)ได้มีความวิบัติแล้ว" รายงานโดยมุสลิม

ท่านอิมามอันนะวาวีย์กล่าวว่า "พวกมุตะนัตติอูน  คือ  พวกคิดลึกเลยเถิดเกินขอบเขตทั้งในบรรดาคำพูดและการกระทำของพวกเขา" ชัรห์ ซอฮฺห์มุสลิม 16/220

จากฮะดิษข้างต้นนี้  ชี้ถึงการเลยเถิดสุดโต่ง  ได้ออกจากแนวทางที่เป็นสายกลาง  เกินเลยขอบเขต  ดังนั้นบ่อเกิดของความเลยเถิด  ก็มาจากผลของการอธิบายตัวบทต่าง ๆ ของศาสนาแบบแข็งกร้าวรุนแรงค้านกับเป้าหมายและเจตนารมณ์ของชะรีอะฮ์อิสลาม  และพยายามให้ตนเองและบุคคลอื่น ยึดทัศนะของตนพร้อมกับทำการฮุกุ่มทัศนะที่ต่างจากตน  ทำการตำหนิว่ากล่าวอย่างเสียหายต่อผู้รู้ที่มีทัศนะต่างจากตนอย่างไร้อัคลาคของอัลอิสลาม  เช่น  ฮุกุ่มทัศนะอื่น เป็นคนชั่ว  โง่เขลา  บิดอะอ์  ตกนรก  ดังนั้น  ความเลยเถิดเข้มงวดจึงมิใช่เป็นการแสวงหาความสมบูรณ์ในเรื่องการทำอิบาดะฮ์หรือเป็นการแสดงถึงความรอบคอบในเรื่องของศาสนา 

ท่านชัยค์ ด๊อกเตอร์ อัลก๊อรฏอวีย์  กล่าวว่า  "ถือว่าเป็นความไม่เป็นธรรมในการที่เราจะทำการกล่าวหาบุคคลหนึ่งว่า  เขาฝักใฝ่(ฝ่ายทัศนะของตน)ในเรื่องของศาสนาเพียงเพราะได้เลือกทัศนะความเห็นต่าง ๆ ของฟิกห์ที่เข้มงวดอันเนื่องจากเขาเชื่อว่ามันถูกต้องและมีน้ำหนักที่สุด...ซึ่งหากแม้นว่าคนอื่นจะเห็นว่าทัศนะความเห็นของเขามีน้ำหนักน้อยกว่าหรือเป็นทัศนะที่อ่อนก็ตาม" อัศเศาะห์วะตุลลอฮ์อิสลามียะฮ์ : 36

ผมเห็นด้วยกับคำกล่าวของท่าน ชัยค์ ด๊อกเตอร์ ยูซุฟ อัลก๊อรฏอวีย์  เนื่องจากเป็นการไม่บังควรที่คนกลุ่มหนึ่งพยายามสร้างแนวทางหรือทัศนะของตนขึ้นมาแล้วทำการตำหนิผู้ที่ขัดแย้งกับตน  ทำการกล่าวหาอย่างน่ารังเกียจ  สร้างภาพระบายสีต่อผู้อื่นในแง่ลบ  โดยกักตุนหรือแช่แข็งความถูกต้องไว้สำหรับพวกเขาแต่เพียงผู้เดียว  ดังนั้น  ความเลยเถิด  การฝักใฝ่ในทัศนะฝ่ายตน  และมีความแข็งกร้าวนั้น  เป็นการออกจากเจตนารมณ์ของอิสลามและความเป็นสายกลางของศาสนา


อ่านรายละเอียดต่อใน อิสลาม คือ สายกลาง หลักการ และความเป็นจริง

« แก้ไขครั้งสุดท้าย: มี.ค. 07, 2008, 02:11 PM โดย قطوف من أزاهير النور »
يَا بُنَيَّ إِنْ قَدَرْتَ أَنْ تُصْبِحَ وَتُمْسِيَ لَيْسَ فِي قَلْبِكَ غِشٌّ لِأَحَدٍ فَافْعَلْ
 ثُمَّ قَالَ لِي يَا بُنَيَّ وَذَلِكَ مِنْ سُنَّتِي وَمَنْ أَحْيَا سُنَّتِي فَقَدْ أَحَبَّنِي وَمَنْ أَحَبَّنِي كَانَ مَعِي فِي الْجَنَّةِ

"โอ้ลูกรัก ถ้าหากเจ้าสามารถที่จะตื่นขึ้นมาในเวลาเช้าจนถึงเวลาเย็น โดยที่เจ้าไม่คิดร้ายต่อผู้ใด เจ้าจงกระทำเถิด
หลังจากนั้นท่านได้กล่าวแก่ฉันอีกว่า โอ้ลูกรัก และนั่นแหละเป็นแนวทางของฉัน
ผู้ใดฟื้นฟูแนวทางของฉันแสดงว่าเขารักฉัน และผู้ใดรักฉัน เขาได้อยู่กับฉันในสวรรค์"
(บันทึกโดย อัตติรมีซี)

ออฟไลน์ คะลัคคะลุย

  • เพื่อนแท้ (-.^)
  • ****
  • กระทู้: 670
  • เรื่อยไป
  • Respect: +3
    • ดูรายละเอียด

อ่านรายละเอียดต่อใน อิสลาม คือ สายกลาง หลักการ และความเป็นจริง


3. มีการตำหนิอุลามาอ์ที่มีทัศนะไม่ตรงกับตน:

การจำกัดสัจธรรมอยู่ในคน ๆ เดียว  หรือในแนวทางเดียว  หรือการเชื่อว่าสัจธรรมได้อยู่เพียงแนวทางที่พวกเขายึดนั้น  ผลลัพธ์ตามมาก็คือ  จะนำไปสู่การตำหนิต่อผู้ที่มีทัศนะแตกต่างจากตน  เมื่อเห็นว่าอุลามาอ์ท่านหนึ่งมีผู้คนให้ความประทับใจและชอบในอุดมการณ์ของเขา  ก็พยายามสรรหาข้อผิดพลาดต่าง ๆ แล้วนำมาวิจารณ์ตำหนิในส่วนที่ไม่ตรงกับทัศนะของตน  ซึ่งสิ่งดังกล่าวนี้  มิใช่อะไรเลยนอกจากเพียงเพื่อสนับสนุนแนวคิดและอารมณ์ของตนเอง  ทำประเด็นที่ไม่เด็ดขาด(ซ๊อนนีย์)ให้เป็นประเด็นที่เด็ดขาด(ก๊อดอีย์)หรือทำประเด็นที่คิลาฟียะฮ์ให้เป็นประเด็นที่อิจญ์มาอฺ  แล้วฮุกุ่มว่าบิดอะฮ์ฮะรอม  หากขัดแย้งกับตนถือว่าผิดและทำการตำหนิ  อีกทั้งยังเรียกร้องให้ผู้เจริญรอยตามตนเชื่อและร่วมกันต่อต้าน  บรรดาผู้ที่ฝักใฝ่ในทัศนะของตนนั้นเราจะพบว่าจะมีอุลามาอ์แห่งประชาชาติอิสลามท่านใดรอดพ้นจากการวิจารณ์ของพวกเขานอกจากอุลามาอ์ที่มีทัศนะเห็นพร้องกับฝ่ายตนไม่กี่ท่านเท่านั้น   

หากเราจะพิจารณาถึงความเป็นจริง  ก็จะพบว่าอุลามาอ์ทุกท่านเป็นมนุษย์ที่อยู่ในวิสัยไม่พ้นจากความผิดพลาด  หากจะสรรหาข้อผิดพลาดต่าง ๆ ของอุลามาอฺ  ก็สามารถสรรหารวบรวมแล้วนำมาเขียนเป็นตำราให้อ่านกันได้ไม่ยาก  หากจะทำการวิจารณ์ทัศนะของอุลามาอ์  ก็ให้อยู่บนพื้นฐานของหลักวิชาการ  อยู่ในกรอบของกฏเกณฑ์และเงื่อนไขที่ปราชญ์อิสลามได้วางไว้เพื่อนำมาเข้าใจตัวบทของศาสนาที่ถูกต้อง  พร้อมทั้งมีทัศนะคติในแง่ดีต่ออุลามาอ์ท่านนั้น ๆ  หากวิจารณ์ก็ควรวิจารณ์แค่หลักการหรือทัศนะ  มิใช่วิจารณ์หรือฮุกุ่มในตัวตนของอุลามาอ์  จนทำให้ไปสู่การตัดสินว่าอุลามาอ์ท่านนั้นบิดอะฮ์อยู่ในแนวทางที่ไม่ถูกต้อง  แล้วดังกล่าวก็นำไปสู่การตำหนิ  ทำให้ผู้ติดตามตนมีความอคติในอุลามาอ์ท่านนั้น ๆ ทั้งที่เราสมควรมีทัศนะคติในแง่ดีที่ว่า  บรรดาอุลามาอ์เขามีหลักการที่ถูกต้องมากมายนับไม่ถ้วน  หากสมมุติว่าความผิดพลาดส่วนน้อยเป็นบาป  เขาย่อมถูกลบล้างด้วยความดีงามอันมากมายดังมหาสมุทรที่หาฝั่งไม่ได้  นี่คือแนวทางสายกลางสำหรับผู้ที่ต้องการนำเสนอวิเคราะห์แนวทางหรือทัศนะต่าง ๆ ของอิสลาม
اللهم صل علي سيدنا محمد وعلي آل محمد وصحبه وسلم

ออฟไลน์ Al Fatoni

  • ซังกุงคนสนิท ( +_-)
  • เพื่อนรัก (6_6)
  • *****
  • กระทู้: 4905
  • เพศ: ชาย
  • จงอยู่กับความจริงแล้วจะไม่หลง
  • Respect: +76
    • ดูรายละเอียด
อัสสลามุ อลัยกุม

             หะดีษนี้ ...

إِيَّاكُمْ وََالْغُلُوَّ فِي الدِّيْنِ فَإِنَّمَا أَهْلَكَ مَنْ كَانَ قَبْلَكُمْ الْغُلُوَّ فِي الدَّيْنِ
"พวกท่านจงระวังการเลยเถิดในเรื่องศาสนา  เพราะแท้จริงบุคคลที่อยู่ก่อนหน้าพวกท่านนั้นได้ประสบความวิบัติเกี่ยวกับความเลยเถิดในเรื่องศาสนา" อันนะซาอีย์ (3057)
[/size][/color]

              หะดีษข้างบนนี้ ผมอ่านเจออยู่เนืองๆ ในบทความ หรือสื่อสิ่งพิมพ์ต่างๆ ของคนบางกลุ่มที่ชอบหยิบยกมาเป็นหลักฐานโจมตีพวกที่ชอบทำบิดอะฮฺ ว่าเป็นความเลยเถิดบางประการในเรื่องศาสนา พวกทำอะไรในสิ่งที่ศาสนาไม่ได้กำหนด นี่คือ พยายามในการสื่อของพวกเขาต่อพี่น้องมุสลิมเกือบทั้งโลก วัลอิยาซูบิลลาฮฺ, วัลลอฮุ อะอฺลัม

วัสสลามุ อลัยกุม
ท่านขนขวายอะไร ท่านก็จะได้สิ่งนั้น - วัลลอฮุอะอฺลัม

ออฟไลน์ มะฮฺ-คับ

  • เพื่อนใหม่ (O_0)
  • *
  • กระทู้: 10
  • แบบ ฮงๆ
  • Respect: 0
    • ดูรายละเอียด
 salam


ผมว่า ที่เลยเถิดก็คงมีแหละครับก็ต้องเฝ้าระวัง เพราะเราอยู่ในสังคมที่มีเรื่องของประเพณี วัฒนธรรมไทย  บางอัน ที่ทำๆ กันผสมๆ กันจน งง ๆ เหมือนกัน
 แต่อันที่เป็นปัญหาคีลาฟ ก็ไม่น่าสุดโต่ง ตัดสินกันเอามันส์
ยิ่งปัจจุบันนี้ เด็ก ๆ ที่ปากยังไม่สิ้นกลิ่นน้ำนม พอได้วิชามาหน่อย ก็รับหน้าที่นี้มาแล้ว
เที่ยวไปแบ่งพรรค แบ่งพวก กัน เที่ยวไปตัดสินพี่น้องด้วยกัน
เซ็งครับ  แต่ก็ยังรักเหมือนพี่น้องอยู่ดี  hehe

ออฟไลน์ Al Fatoni

  • ซังกุงคนสนิท ( +_-)
  • เพื่อนรัก (6_6)
  • *****
  • กระทู้: 4905
  • เพศ: ชาย
  • จงอยู่กับความจริงแล้วจะไม่หลง
  • Respect: +76
    • ดูรายละเอียด
บทความนี้ใครเขียนหรือครับ อยากทราบจัง  fouet:
ท่านขนขวายอะไร ท่านก็จะได้สิ่งนั้น - วัลลอฮุอะอฺลัม

nujjaba

  • บุคคลทั่วไป
บทความนี้ใครเขียนหรือครับ อยากทราบจัง  fouet:

อาจารย์อัล-อัซฮารีย์

ออฟไลน์ al-jaohary

  • เพื่อนซี้ (o_O')
  • **
  • กระทู้: 78
  • Respect: 0
    • ดูรายละเอียด
เขียนได้เยี่ยมดีนิ...ขอชม...
@ al-jaohary  หมายถึง อัญมณีอันมีค่า ..... และ....อัญมณีที่มีค่าที่สุดในใจของข้าพเจ้า  คือ  อัล-อิสลาม @

ออฟไลน์ คะลัคคะลุย

  • เพื่อนแท้ (-.^)
  • ****
  • กระทู้: 670
  • เรื่อยไป
  • Respect: +3
    • ดูรายละเอียด
 salam

รู้สึกว่าบทความนี้จะเขียนขึ้นมาตามความเป็นจริงที่เกิดขึ้นและจับต้องได้   คนที่ใจไม่เป็นธรรมและไม่อยู่สายกลางจะเดือนร้อน  boulay:
اللهم صل علي سيدنا محمد وعلي آل محمد وصحبه وسلم

ออฟไลน์ นูรุ้ลอิสลาม

  • เพื่อนรัก (6_6)
  • *****
  • กระทู้: 1356
  • Respect: +1
    • ดูรายละเอียด
ความเป็นประชาชาติสายกลางของประชาชาติอิสลามนั้น  ได้รับสืบทอดเจตนารมณ์มาจากแนวทางที่เป็นกลาง มีความสมดุล ปราศจากความสุดโต่งและหย่อนยาน  ดังนั้นเมื่อมีความสมดุลย์เกิดขึ้น  เสถียรภาพย่อมบังเกิด  จากนั้นหนทางที่เที่ยงตรงก็จะตามมาโดยอัตโนมัติ  ดังนั้น ด้วยความเป็นธรรมชาติสายกลางของอิสลามนี้แหละครับ  ที่อัลเลาะฮ์ตะอาลา  ทรงสอนให้เราทำการเฝ้าวอนขอต่อพระองค์ซึ่งหนทางที่เที่ยงตรงในละหมาดไม่น้อยกว่า 17 ครั้งต่อวัน  ที่ว่า

اهدِنَــــا الصِّرَاطَ المُستَقِيمَ صِرَاطَ الَّذِينَ أَنعَمتَ عَلَيهِمْ غَيرِ المَغضُوبِ عَلَيهِمْ وَلاَ الضَّالِّينَ

"พระองค์โปรดชี้นำเราสู่แนวทางที่เที่ยงตรงด้วยเถิด  ซึ่งเป็นแนวทางของบรรดาผู้ที่พระองค์ได้ทรงโปรดปราณแก่พวกเขา  มิใช่แนวทางของพวกที่ถูกกริ้ว  และมิใช่(แนวทางของ)พวกที่หลงผิด" อัลฟาติหะฮฺ : 6 - 7


ในซูเราะฮ์อัลฟาติหะฮฺที่เราอ่านในทุกรอกะอัตของละหมาดนั้น  อัลเลาะฮ์ทรงบัญชาใช้ให้เราอยู่ในสายกลาง  "บรรดาผู้ถูกกริ้ว" นั้น  ก็คือพวกยาฮูดี  และ "พวกที่หลงผิด"  คือ  พวกนะซอรอ  ดังนั้น  พวกยาฮูดีกับพวกนะซอรอนั้น  เป็นอุทาหรณ์แห่งความเกินเลยและหย่อนยาน  เช่น  พวกยิวเลยเถิดฆ่าบรรดานบี  ส่วนพวกนะซอรอเลยเถิดนำเอาท่านนบีอีซาเป็นพระเจ้า  และพวกยาฮูดีหย่อนยานมักง่ายในสิ่งที่ต้องห้าม  ส่วนพวกนะซอรอมักง่ายในเรื่องที่ฮะล้าล   ดังนั้น  หนทางสายกลางก็คือ  การเดินอยู่บนแนวทางที่เที่ยงตรงซึ่งเป็นแนวทางของกลุ่มชนที่อัลเลาะฮ์ (ซบ.) ทรงประทานความโปรดปราณจากบรรดานบี  บรรดาผู้สัจจริง  บรรดาผู้มรณะสักขี  และบรรดาผู้มีคุณธรรมทั้งหลาย

หากพิจารณาถึงอายะฮ์ที่ 243 กับซูเราะฮ์อัลฟาติหะฮ์อายะฮ์ที่ 6 และ 7  เราจะพบว่าอิสลามคือสายตรงที่อยู่ตรงกลาง  ไม่สุดขั่วและไม่หย่อนยาน

พี่น้องผู้อ่านครับ  ทุกแนวทางก็เชื่อกันว่าตนเองก็อยู่ในหนทางของบรรดานบีและเหล่าผู้มีคุณธรรม  หากท่านผู้อ่านตั้งคำถามขึ้นแก่ผมว่า  "เมื่อทุกแนวทางต่างเชื่อกันว่าแนวทางของตนก็คือแนวทางของบรรดานบีและเหล่าผู้มีคุณธรรมนั้น  พวกเขาทั้งคือสายกลางน่ะซิ?"  ผมขอตอบว่า  "แนวทางของบรรดานบีและเหล่าผู้มีคุณธรรมนั้น   ต้องอยู่บนความเป็นสายกลางในเชิงหลักการและฉายออกมาให้เห็นทางพฤติกรรมด้วยเช่นกัน" 
ท่านอิบนุอับบาสได้รายงานจากท่านนบี  ซ๊อลลัลลอฮุอะลัยฮิวะซัลลัม  ซึ่งท่านได้กล่าวว่า 

إِيَّاكُمْ وََالْغُلُوَّ فِي الدِّيْنِ فَإِنَّمَا أَهْلَكَ مَنْ كَانَ قَبْلَكُمْ الْغُلُوَّ فِي الدَّيْنِ

"พวกท่านจงระวังการเลยเถิดในเรื่องศาสนา  เพราะแท้จริงบุคคลที่อยู่ก่อนหน้าพวกท่านนั้นได้ประสบความวิบัติเกี่ยวกับความเลยเถิดในเรื่องศาสนา" อันนะซาอีย์ (3057)

รายงานจากท่านอิบนุมัสอูด  ร่อฏิยัลลอฮุอันฮุ  ว่า  ท่านนบี  ซ๊อลลัลลอฮุอะลัยฮิวะซัลลัม  ได้กล่าวซ้ำกันถึงสามครั้งว่า

هَلَكَ الْمُتَنَطِّعُوْنَ

"บรรดาผู้มุตะนัตติอูน(ผู้ที่คิดลึกเกินเลยขอบเขต)ได้มีความวิบัติแล้ว" รายงานโดยมุสลิม

ท่านอิมามอันนะวาวีย์กล่าวว่า "พวกมุตะนัตติอูน  คือ  พวกคิดลึกเลยเถิดเกินขอบเขตทั้งในบรรดาคำพูดและการกระทำของพวกเขา" ชัรห์ ซอฮฺห์มุสลิม 16/220

จากฮะดิษข้างต้นนี้  ชี้ถึงการเลยเถิดสุดโต่ง  ได้ออกจากแนวทางที่เป็นสายกลาง  เกินเลยขอบเขต  ดังนั้นบ่อเกิดของความเลยเถิด  ก็มาจากผลของการอธิบายตัวบทต่าง ๆ ของศาสนาแบบแข็งกร้าวรุนแรงค้านกับเป้าหมายและเจตนารมณ์ของชะรีอะฮ์อิสลาม  และพยายามให้ตนเองและบุคคลอื่น ยึดทัศนะของตนพร้อมกับทำการฮุกุ่มทัศนะที่ต่างจากตน  ทำการตำหนิว่ากล่าวอย่างเสียหายต่อผู้รู้ที่มีทัศนะต่างจากตนอย่างไร้อัคลาคของอัลอิสลาม  เช่น  ฮุกุ่มทัศนะอื่น เป็นคนชั่ว  โง่เขลา  บิดอะอ์  ตกนรก  ดังนั้น  ความเลยเถิดเข้มงวดจึงมิใช่เป็นการแสวงหาความสมบูรณ์ในเรื่องการทำอิบาดะฮ์หรือเป็นการแสดงถึงความรอบคอบในเรื่องของศาสนา 

     บางท่านไม่ทราบว่าอะไรคือพวกเลยเถิด  พวกเลยเถิดก็คือพวกที่มุตะนัฏฏิอูนนั่นเอง  หมายถึงพวกที่คิดลึกเกินเลยขอบเขตในทั้งคำพูดในการกระทำ  หากเราจะสังเกตก็หาได้ไม่อยากขอรับ  เช่นบางกลุ่มคิดลึกเกินเลยขอบเขตอธิบายซีฟัตของอัลเลาะฮ์จนพระองค์เป็นตัวตนและรูปร่าง  อธิบายและเชื่อจนอัลเลาะฮ์มีคุณลักษณะที่มัคโลคมีอยู่ด้วย
 
     พอเรื่องเมาลิดพวกเขาคิดลึกเกินเลยขอบเขตกล่าวหาว่ายกย่องนบีมุฮัมมัดเหมือนยกย่องนบีอีซา(ที่พวกนะซอรอยกย่องถึงขั้นเป็นภาพหนึ่งของพระเจ้า)  พี่น้องไปเยี่ยมกุโบรแล้วทำการอ่านบางอายะฮ์อ่านซิกิรแล้วขอดุอาต่ออัลเลาะฮ์ให้พระองค์ทรงมอบให้ผลบุญให้ถึงแก่พี่น้องผู้ตาย พวกเขาคิดลึกเลยเถิดเกินขอบเขตกล่าวหาว่ากำลังทำการกราบไหว้กุโบร  จนเลยเถิดเกินขอบเขตซ้ำสองพวกเขาจึงฮุกุ่มพี่น้องมุสลิมเป็นพวกมุชริกีน   พวกเขายังคิดลึกเลยเถิดยัดเยียดความเชื่อให้กับซูฟีแบบยกเหมาจนบางคนฮุกุ่มซูฟีเป็นกาเฟร

     บางคนคิดลึกแบบผิดๆ เลยเถิดเกินจริงฮุกุ่มพี่น้องมุสลิมส่วนมากเป็นชาวนรก  บางกลุ่มคิดลึกเลยเถิดตัดสินว่าตนเองที่เป็นกลุ่มชนส่วนน้อยมีอะกีดะฮ์อะฮ์ลิสซุนนะฮ์ส่วนคนส่วนมากเกือบค่อยโลกเเป็นพวกบิดอะฮ์

ด้วยเหตุนี้แหละที่ท่านนบี  ซ๊อลลัลลอฮุอะลัยฮิวะซัลลัม  ได้กล่าวซ้ำกันถึงสามครั้งว่า

هَلَكَ الْمُتَنَطِّعُوْنَ

"บรรดาผู้มุตะนัตติอูน(ผู้ที่คิดลึกเกินเลยขอบเขต)ได้มีความวิบัติแล้ว" รายงานโดยมุสลิม

ท่านอิมามอันนะวาวีย์กล่าวว่า "พวกมุตะนัตติอูน  คือ  พวกคิดลึกเลยเถิดเกินขอบเขตทั้งในบรรดาคำพูดและการกระทำของพวกเขา" ชัรห์ ซอฮฺห์มุสลิม 16/220
لا إله إلا الله محمد رسول الله

ออฟไลน์ นูรุ้ลอิสลาม

  • เพื่อนรัก (6_6)
  • *****
  • กระทู้: 1356
  • Respect: +1
    • ดูรายละเอียด
salam
ยิ่งปัจจุบันนี้ เด็ก ๆ ที่ปากยังไม่สิ้นกลิ่นน้ำนม พอได้วิชามาหน่อย ก็รับหน้าที่นี้มาแล้ว
เที่ยวไปแบ่งพรรค แบ่งพวก กัน เที่ยวไปตัดสินพี่น้องด้วยกัน
เซ็งครับ  แต่ก็ยังรักเหมือนพี่น้องอยู่ดี  hehe

     ใช่แล้วขอรับ  หากวัดกันเชิงวิชาการถือว่ายังเด็กไม่สิ้นกลิ่นน้ำนม  ระดับชัยค์กอรฏอวียังถูกเด็กวิจารณ์ตำหนิ  ปิดท้ายด้วยการแบ่งพรรค  ตั้งชื่อกลุ่มให้ผู้ที่ยอมรับในชัยค์กอรฏอวีว่า  พวกกอรฏอวียูน 
لا إله إلا الله محمد رسول الله

ออฟไลน์ almadany

  • เพื่อนสนิท (._.")
  • ***
  • กระทู้: 346
  • Respect: 0
    • ดูรายละเอียด
อัสลามุอะไลกุ้ม

ผมเห็นมีเว็บหนึ่งที่บอกว่าตนเองสายกลาง...นิยมสายกลาง...ไม่ทราบว่าอยู่ในสายกลางในรูปแบบใหน...สายกลางแบบทฤษฏี...หรือว่าสายกลางเชิงปฏิบัติ...วัสลาม

ออฟไลน์ ILHAM

  • เพื่อนตาย T_T
  • *****
  • กระทู้: 11348
  • เพศ: ชาย
  • Sherlock Holmes
  • Respect: +273
    • ดูรายละเอียด
    • ILHAM
นิยามสายกลางก็ต้องถามคนยะลาครับ เพราะสายกลางคือ บริเวณย่านการค้าหรือดาวน์ทาวน์อะไรประมาณนั้นไงครับ55555 ไม่เชื่อมาดูได้ที่ยะลา
ขอโทษครับ เห็นเครียดกัน เลยมาเล่นๆครับพี่ๆ
إن شاءالله ติด ENT'?everybody

Sherlock Holmes said "How often have I said to you that when you have eliminated the impossible, whatever remains, however improbable, must be the truth?"
-------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------

ออฟไลน์ บาชีร

  • ปีสามสักที
  • ซังกุงคนสนิท ( +_-)
  • เพื่อนรัก (6_6)
  • *****
  • กระทู้: 2164
  • เพศ: ชาย
  • Respect: +59
    • ดูรายละเอียด
นิยามสายกลางก็ต้องถามคนยะลาครับ เพราะสายกลางคือ บริเวณย่านการค้าหรือดาวน์ทาวน์อะไรประมาณนั้นไงครับ55555 ไม่เชื่อมาดูได้ที่ยะลา
ขอโทษครับ เห็นเครียดกัน เลยมาเล่นๆครับพี่ๆ

บ้่านผมก็อยู่แถวสายกลาง


บังเอิญว่าวันนี้มีคนถามผม ว่าอะไรคืออิสลามสายกลาง เห็นมีคนชอบอ้างกัน

ผมเลยบอกว่า ใครอยู่สายไหน ก็ว่าตัวเองนั้นเหละสายกลางนะครับพี่น้อง
นักเรียนปีสาม กฎหมายอิสลาม อัซฮัร ไคโร

ออฟไลน์ ILHAM

  • เพื่อนตาย T_T
  • *****
  • กระทู้: 11348
  • เพศ: ชาย
  • Sherlock Holmes
  • Respect: +273
    • ดูรายละเอียด
    • ILHAM
^
ถูกต้องทีเดียว นิยามของความเป็นกลาง คือการเข้าข้างพวกเดียวกัน
إن شاءالله ติด ENT'?everybody

Sherlock Holmes said "How often have I said to you that when you have eliminated the impossible, whatever remains, however improbable, must be the truth?"
-------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------

ออฟไลน์ nada-yoru

  • เพื่อนรัก (6_6)
  • *****
  • กระทู้: 4010
  • เพศ: หญิง
  • แสงและเงา
  • Respect: +134
    • ดูรายละเอียด
 salam

อ้างถึง
หากวิจารณ์ก็ควรวิจารณ์แค่หลักการหรือทัศนะ 
มิใช่วิจารณ์หรือฮุกุ่มในตัวตนของอุลามาอ์

 loveit:

ญะซากัลลอฮุคอยรอน

อ่านแล้วรู้สึกชอบบทความในหัวข้อนี้มากๆค่ะ...

วัสลามุอะลัยกุม


"และข้ามิได้สร้างญิน และมนุษย์เพื่ออื่นใด เว้นแต่เพื่อเคารพภักดีต่อข้า"

(ซูเราะฮฺ อัซซาริยาต อายะอฺที่ 56)