ผู้เขียน หัวข้อ: นิทานนานาชาติน่ารักๆ(เบาสมอง)  (อ่าน 48324 ครั้ง)

0 สมาชิก และ 1 บุคคลทั่วไป กำลังดูหัวข้อนี้

ออฟไลน์ ILHAM

  • เพื่อนตาย T_T
  • *****
  • กระทู้: 11348
  • เพศ: ชาย
  • Sherlock Holmes
  • Respect: +273
    • ดูรายละเอียด
    • ILHAM
Re: นิทานนานาชาติน่ารักๆ(เบาสมอง)
« ตอบกลับ #135 เมื่อ: ม.ค. 19, 2010, 05:29 PM »
0
เหม่อมองฟ้าาาาาาา
إن شاءالله ติด ENT'?everybody

Sherlock Holmes said "How often have I said to you that when you have eliminated the impossible, whatever remains, however improbable, must be the truth?"
-------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------

ออฟไลน์ ...

  • เพื่อนแท้ (-.^)
  • ****
  • กระทู้: 929
  • เพศ: หญิง
  • Respect: +2
    • ดูรายละเอียด
Re: นิทานนานาชาติน่ารักๆ(เบาสมอง)
« ตอบกลับ #136 เมื่อ: ม.ค. 19, 2010, 07:03 PM »
0
ห้าอ่าฮ่าอา

ออฟไลน์ ILHAM

  • เพื่อนตาย T_T
  • *****
  • กระทู้: 11348
  • เพศ: ชาย
  • Sherlock Holmes
  • Respect: +273
    • ดูรายละเอียด
    • ILHAM
Re: นิทานนานาชาติน่ารักๆ(เบาสมอง)
« ตอบกลับ #137 เมื่อ: ม.ค. 19, 2010, 07:11 PM »
0
แม้มันเป็นคืนที่หงาาาาววววว
إن شاءالله ติด ENT'?everybody

Sherlock Holmes said "How often have I said to you that when you have eliminated the impossible, whatever remains, however improbable, must be the truth?"
-------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------

ออฟไลน์ ...

  • เพื่อนแท้ (-.^)
  • ****
  • กระทู้: 929
  • เพศ: หญิง
  • Respect: +2
    • ดูรายละเอียด
Re: นิทานนานาชาติน่ารักๆ(เบาสมอง)
« ตอบกลับ #138 เมื่อ: ม.ค. 19, 2010, 09:35 PM »
0
ฝืนจายม่ายยอมไห้หาววววววววววววว
ช้านรอจาคุยกับเทออออออออออออ

อีกแย้วอ่ะ Sherlock Holmes
พาออกทะเลอีกแระ
เด๋วก้อได้ปลามาเยอะแยะหรอก

ออฟไลน์ nada-yoru

  • เพื่อนรัก (6_6)
  • *****
  • กระทู้: 4010
  • เพศ: หญิง
  • แสงและเงา
  • Respect: +134
    • ดูรายละเอียด
Re: นิทานนานาชาติน่ารักๆ(เบาสมอง)
« ตอบกลับ #139 เมื่อ: ม.ค. 19, 2010, 09:54 PM »
0
เหม่อมองฟ้าาาาาาา

แล้วเห็นอะไรมั่งนั้น
ขอบอกว่าบนฟ้าที่มองๆอยู่มีแสงระยิบระยับ
อย่าคิดว่าเป็นดาวทั้งฟ้านะอิลฮาม
อาจเครื่องบินปนอยู่ด้วยก็ได้
มองไปก็เท่านั้น(ทั้งเครื่องบินทั้งดาว) มันก็ไม่ตกหรอก เชื่อพี่... 5555
(นานๆทีจะมีให้เห็นน่อ บ่ได้มีบ่อยครั้ง) เหอๆ
แต่นั่งมองดาวมันก็ดีกว่านั่งมองสาวนะเออ
เพราะว่าเธออาจมีเจ้าของแล้ว...แป่วๆ

ปล.ห้ามต่อว่า นั่งมองดูดาว คอยเฝ้าให้ดาวร่วงหล่น...เด็ดขาด
ไม่งั้นพี่จับหักคอไอ้เท่งแน่ๆ  hihi: hihi:
แค่"ยาม"ก็ทำเอาน้องบัลกิสฝืนใจไม่ยอมให้หาวววววววแล้ว ;D

ป.ลิงอีกที...เดี๋ยวมีนิทานมาฝากด้วยจ่ะ... ;D


« แก้ไขครั้งสุดท้าย: ม.ค. 19, 2010, 09:57 PM โดย dho_dho »
"และข้ามิได้สร้างญิน และมนุษย์เพื่ออื่นใด เว้นแต่เพื่อเคารพภักดีต่อข้า"

(ซูเราะฮฺ อัซซาริยาต อายะอฺที่ 56)

ออฟไลน์ ...

  • เพื่อนแท้ (-.^)
  • ****
  • กระทู้: 929
  • เพศ: หญิง
  • Respect: +2
    • ดูรายละเอียด
Re: นิทานนานาชาติน่ารักๆ(เบาสมอง)
« ตอบกลับ #140 เมื่อ: ม.ค. 19, 2010, 10:19 PM »
0
เอ้าเร่เข้ามาเรวพวกเรา
ปูเสื่อปูสาด
มาฟังพี่dho_dho เล่านิทาน
ดีกว่าไปนั่งเหม่อมองท้องฟ้า
รอไห้ดาวมันร่วงหล่น
เหมือนคัยบางคน
เพราะเด๋วถ้าหล่นลงมาจิงๆ
เราจาไม่เหลือกันสักคน
คริๆๆ

ออฟไลน์ nada-yoru

  • เพื่อนรัก (6_6)
  • *****
  • กระทู้: 4010
  • เพศ: หญิง
  • แสงและเงา
  • Respect: +134
    • ดูรายละเอียด
Re: นิทานนานาชาติน่ารักๆ(เบาสมอง)
« ตอบกลับ #141 เมื่อ: ม.ค. 19, 2010, 11:29 PM »
0

 salam

มาแล้วจ้าาาาาา... ;D

คนเรามีสองด้าน เพียงแต่ปรับใช้ด้านเสียให้ดีอย่างไร
บางครั้งการที่คิดว่า ไม่ดี ก็เท่ากับเราฝังใจว่าไม่ดี ไม่เปิดใจดูว่า
แท้จริงแล้วในความ ไม่ดี มันก็มีมุมดี เหมือนในคนๆหนึ่งมีทั้งมุมมืดกับสว่าง
มีดีมีชั่ว ไม่มีใครเลวได้ร้อยและชั่วได้ร้อย



เรื่องมันมีชื่อว่า


"ถังน้ำสองใบ"


ชายจีนคนหนึ่งแบกถังน้ำสองใบไว้บนบ่าเพื่อไปตักน้ำที่ริมลำธาร

ถังน้ำใบหนึ่งมีรอยแตก

ในขณะที่อีกใบหนึ่งไร้รอยตำหนิ
และสามารถบรรจุน้ำกลับมาได้เต็มถัง

แต่ด้วยระยะทางอันยาวไกล

จากลำธารกลับสู่บ้าน

จึงทำให้น้ำที่อยู่ในถังใบที่มีรอยแตกเหลืออยู่เพียงครึ่งเดียว

เหตุการณ์ทั้งหมดนี้ดำเนินมาเป็นเวลา 2 ปีเต็มที่คนตักน้ำ
สามารถตักน้ำกลับมาบ้านได้หนึ่งถังครึ่ง

ซึ่งแน่นอนว่าถังน้ำใบที่ไม่มีตำหนิจะรู้สึกภาคภูมิใจในผลงานเป็นอย่างยิ่ง

ขณะเดียวกันถังน้ำที่มีรอยแตกก็รู้สึกอับอายต่อความบกพร่องของตัวเอง
มันรู้สึกโศกเศร้ากับการที่มันสามารถทำหน้าที่ได้เพียงครึ่งเดียว
ของจุดประสงค์ที่มันถูกสร้างขึ้นมา

หลังจากเวลา 2 ปีที่ถังน้ำที่มีรอยแตกมองว่าเป็นความล้มเหลวอันขมขื่น
วันหนึ่งที่ข้างลำธาร มันได้พูดกับคนตักน้ำว่า

"ข้ารู้สึกอับอายตัวเองเป็นเพราะรอยแตกที่ด้านข้างของตัวข้า
ทำให้น้ำที่อยู่ข้างในไหลออกมาตลอดเส้นทางที่กลับไปยังบ้านของท่าน"

คนตักน้ำตอบว่า

"เจ้าเคยสังเกตหรือไม่ว่ามีดอกไม้เบ่งบานอยู่ตลอดเส้นทางในด้านของเจ้า
แต่กลับไม่มีดอกไม้อยู่เลยในอีกด้านหนึ่ง

เพราะข้ารู้ว่าเจ้ามีรอยแตกอยู่
ข้าจึงได้หว่านเมล็ดพันธุ์ดอกไม้ลงข้างทางเดินด้านของเจ้า


และทุกวันที่เราเดินกลับ...
เจ้าก็เป็นผู้รดน้ำให้กับเมล็ดพันธุ์เหล่านั้น

เป็นเวลา 2 ปี ที่ข้าสามารถที่จะเก็บดอกไม้สวย ๆเหล่านั้น
กลับมาแต่งโต๊ะกินข้าว

ถ้าหากปราศจากเจ้าที่เป็นเจ้าแบบนี้แล้ว...
เราก็คงไม่อาจได้รับความสวยงามแบบนี้ได้"


คนเราแต่ละคนย่อมมีข้อบกพร่องที่เป็นเอกลักษณ์ของตัวเอง
แต่รอยตำหนิและข้อบกพร่องที่เราแต่ละคนมีนั้น
อาจช่วยทำให้การอยู่ร่วมกันของเราน่าสนใจ
และกลายเป็นบำเหน็จรางวัลของชีวิตได้
สิ่งที่ต้องทำก็เพียงแค่ยอมรับคนแต่ละคนในแบบที่เขาเป็น
และมองหาสิ่งที่ดีที่สุดในตัวของพวกเขาเหล่านั้นเท่านั้นเอง

มองโลกหลาย ๆ ด้าน เพราะคนเราไม่ได้มีแต่ข้อเสียเท่านั้น!!!


....จบแล้วค่ะ....

ที่มา: oknation


นอกจากเรื่องราวของชายจีนคนนี้แล้ว
ยังมีเรื่องของลูกสะใภ้จีนด้วยค่ะ hehe

อินชาอัลลอฮฺ ไว้ค่อยมาต่อค่ะ...ขอบินไปงีบสักแว้บ
ยังไม่อยากเป็นเหมือนแพนด้า หมีน้อยบนดอยน่อออออออ 5555


วัสลามค่ะ



"และข้ามิได้สร้างญิน และมนุษย์เพื่ออื่นใด เว้นแต่เพื่อเคารพภักดีต่อข้า"

(ซูเราะฮฺ อัซซาริยาต อายะอฺที่ 56)

ออฟไลน์ ILHAM

  • เพื่อนตาย T_T
  • *****
  • กระทู้: 11348
  • เพศ: ชาย
  • Sherlock Holmes
  • Respect: +273
    • ดูรายละเอียด
    • ILHAM
Re: นิทานนานาชาติน่ารักๆ(เบาสมอง)
« ตอบกลับ #142 เมื่อ: ม.ค. 19, 2010, 11:59 PM »
0
มองดูดวงดาว ก็คงเป็นดาวดวงเดียวกัน
إن شاءالله ติด ENT'?everybody

Sherlock Holmes said "How often have I said to you that when you have eliminated the impossible, whatever remains, however improbable, must be the truth?"
-------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------

ออฟไลน์ nada-yoru

  • เพื่อนรัก (6_6)
  • *****
  • กระทู้: 4010
  • เพศ: หญิง
  • แสงและเงา
  • Respect: +134
    • ดูรายละเอียด
Re: นิทานนานาชาติน่ารักๆ(เบาสมอง)
« ตอบกลับ #143 เมื่อ: ม.ค. 20, 2010, 12:00 AM »
0
^
^

ขอบใจจ้าโคลงเคลง...  :-*  :-*

คอมฯพี่มันจะอ่านภาษาอาหรับที่พิมพ์จากเครื่องคนอื่นได้
แต่มันอ่านไม่ได้ถ้ามันพิมพ์จากเครื่องของมันเอง
หรือพี่อ้างอิงข้อความที่เป็นภาษาอาหรับจากข้อความคนอื่น
แต่มันก็ต้องผ่านเครื่องพี่อยู่ดีอ่ะ...สรุปมันหาเรื่องจะให้พี่ล้างเครื่อง
อัพเวอร์ชั่นใหม่ให้แล...อิอิ...
(แปลกเนาะ...แต่มันเป็นไปแล้วงิ ไม่รู้ว่าเป็นที่บราวเซอร์รึเปล่า)

แต่ปัญหามันอยู่ท่ีว่า พี่อ่านไม่ออกเองมากกว่า
มันไม่มีสระงิ...แหะๆ... แต่กำลังฝึกอยู่จ่ะ...  boulay:

แปะไว้อย่างนี้ก็ดีเนาะ อ่านแบบไม่มีสระได้วันใดจะได้หลอบมาอ่าน...
อินชาอัลลอฮฺ


วัสลามค่ะ


"และข้ามิได้สร้างญิน และมนุษย์เพื่ออื่นใด เว้นแต่เพื่อเคารพภักดีต่อข้า"

(ซูเราะฮฺ อัซซาริยาต อายะอฺที่ 56)

ออฟไลน์ ...

  • เพื่อนแท้ (-.^)
  • ****
  • กระทู้: 929
  • เพศ: หญิง
  • Respect: +2
    • ดูรายละเอียด
Re: นิทานนานาชาติน่ารักๆ(เบาสมอง)
« ตอบกลับ #144 เมื่อ: ม.ค. 20, 2010, 12:56 AM »
0
มองดูดวงดาว ก็คงเป็นดาวดวงเดียวกัน
มองดูดวงดาว ก็คงเป็นดาวดวงเดียวกัน


มองดูดวงจันทร์ ก้อเหมือนกับจันทร์ที่บ้านเรา

ออฟไลน์ ILHAM

  • เพื่อนตาย T_T
  • *****
  • กระทู้: 11348
  • เพศ: ชาย
  • Sherlock Holmes
  • Respect: +273
    • ดูรายละเอียด
    • ILHAM
Re: นิทานนานาชาติน่ารักๆ(เบาสมอง)
« ตอบกลับ #145 เมื่อ: ม.ค. 20, 2010, 10:59 AM »
0
ยามนี้ฉันหงาาาาววว คิดถึงบ้าาาาานนนน


ผู้หญิงอะไรวะชอบเพื่อชีวิต
إن شاءالله ติด ENT'?everybody

Sherlock Holmes said "How often have I said to you that when you have eliminated the impossible, whatever remains, however improbable, must be the truth?"
-------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------

ออฟไลน์ nada-yoru

  • เพื่อนรัก (6_6)
  • *****
  • กระทู้: 4010
  • เพศ: หญิง
  • แสงและเงา
  • Respect: +134
    • ดูรายละเอียด
Re: นิทานนานาชาติน่ารักๆ(เบาสมอง)
« ตอบกลับ #146 เมื่อ: ม.ค. 20, 2010, 11:20 AM »
0
^
^
^

หนำหลังน้อย ปลายนาหลังคามุงจาก
ฝาสองฟาก กั้นด้วยไม้ไผ่สาน...
ราวบันได และหัวนอกชาน
เลื้อยเอาต้นตาล ทำเป็นดานปูพื้น...

(เด็กถาปัตเขาคงร้องกันอย่างนี้เนาะ ไม่เหมือนวิดวะ ได้แต่มองดาว 5555)


เดี๋ยวมีนิทานเรื่องสะใภ้กับแม่สามีชาวจีนมาเล่าก่อนออกไปข้างนอกจ้าาาาาาา


"และข้ามิได้สร้างญิน และมนุษย์เพื่ออื่นใด เว้นแต่เพื่อเคารพภักดีต่อข้า"

(ซูเราะฮฺ อัซซาริยาต อายะอฺที่ 56)

ออฟไลน์ nada-yoru

  • เพื่อนรัก (6_6)
  • *****
  • กระทู้: 4010
  • เพศ: หญิง
  • แสงและเงา
  • Respect: +134
    • ดูรายละเอียด
Re: นิทานนานาชาติน่ารักๆ(เบาสมอง)
« ตอบกลับ #147 เมื่อ: ม.ค. 20, 2010, 11:42 AM »
0
 salam

หลังจากที่ฟังเสียงครวญของเด็กวิดวะที่นอนมองดาวคิดถึงบ้าน
กับสาวบนดอยและหนำหลังน้อยหลังคามุงจากมาแล้ว

มีฟังนิทานกันต่อนะคะ ;D


ต้องขอโทษนะคะ หากต้องใช้ศัพท์ทั่วไปไปบ้างในชื่อเรื่อง
เพราะว่ามันเป็นของมันอย่างนั้นมาแต่ต้นน่ะค่ะ
เลยไม่ขอเปลี่ยนแปลงที่เขาแปลมาแล้วนะคะ...



"แม่ผัวลูกสะใภ้"

A long time ago in China , a girl named Li-Li got married
& went to live with her husband and mo the r-in-law.
In a very short time, Li-Li  found that she couldnt get along
with her mo the r-in-law at all.
Their personalities were very different, and Li-Li was angered
by many of her mo the r-in-laws habits.
In addition, she criticized Li-Li constantly.

กาลครั้งหนึ่งในประเทศจีน หญิงสาวคนหนึ่งชื่อว่า ลี่ลี่
ได้แต่งงานและย้ายไปอยู่บ้านสามี
เวลาผ่านไปไม่นาน ลี่ลี่พบว่าเธอไม่สามารถเข้ากับแม่สามีได้เลย
นิสัยทั้งคู่ต่างกันมาก เธอไม่ชอบนิสัยแม่สามีและชิงชังแม่สามี
อีกทั้งแม่สามีก็ดุด่าเธอตลอด



Days passed, and weeks passed. Li-Li and her mo the r-in-law
never stopped arguing and fighting.
But what made the situation even worse was that,
according to ancient Chinese tradition, Li-Li had to bow to
her mo the r-in-law and obey her every wish.
All the anger and unhappiness in the house
was causing Li-Lis poor husband great distress.

วันเวลาผ่านไปเรื่อยๆ แต่ลี่ลี่กับแม่สามีก็ไม่เคยหยุดทะเลาะกัน
แต่อะไรละทำให้สถานการณ์เลวร้ายเช่นนั้น

ตามประเพณีของจีน ลี่ลี่ต้องเคารพเชื่อฟังแม่สามี ทำตามที่ท่านต้องการ
เรื่องราวที่เกิดขึ้นในบ้านทำให้สามีลี่ลี่ไม่สบายใจ




Finally, Li-Li could not stand her mo the r-in-laws bad temper
and dictatorship any longer, and she decided to do
something about it! Li- Li went to see her fathers good friend,
Mr. Huang, who sold herbs.
She told him the situation and asked if he would give her
some poison so that she could solve the problem once and for all.

ที่สุด ลี่ลี่ก็ทนอารมณ์อันร้ายกาจของแม่สามีไม่ไหว
เธอตัดสินใจทำบางอย่าง เธอไปขอความช่วยเหลือจากเพื่อนบิดา
คุณฮวง พ่อค้าสมุนไพร บอกเล่าเรื่องราวที่เกิดขึ้นให้ฟัง
และขอให้ช่วยมอบยาพิษให้เพื่อกำจัดแม่สามีเพื่อที่จะได้แก้ปัญหาให้จบ



Mr. Huang thought for awhile, and finally said,
Li-Li, I will help you solve your problem,
but you must listen to me and obey what I tell you.

คุณฮวงนิ่งคิดสักพัก แล้วบอกว่า ลี่ลี่
ฉันจะช่วยหนูแก้ปัญหาแต่หนูต้องทำตามที่ฉันบอก



Li-Li said, Yes, Mr. Huang, I will do whatever you tell me
to do Mr. Huang went into the back room,
and returned in a few minutes with a package of herbs.
He told Li-Li, You cant use a quick-acting poison
to get rid of your mother-in-law, because that would cause
people to become suspicious Therefore,
I have given you a number of herbs that will slowly build up poison
in her body.

ลี่ลี่ตอบตกลง คุณฮวงเดินเข้าไปในห้องและกลับออกมาพร้อมห่อยา
และบอกเธอไม่ให้ใช้ยาพิษที่มีผลรุนแรงกับแม่สามีเธอ
เพราะจะทำให้คนอื่นสงสัย ดังนั้นเขาจึงให้ยาพิษที่ออกฤทธิ์ช้า



Every other day prepare some delicious meal
and put a little of the se herbs in her serving.
Now, in order to make sure that nobody suspects you,
when she dies, you must be very careful
to act very friendly towards her.
Dont argue with her, obey her every wish,
and treat her like a queen.. Li-Li was so happy.
She thanked Mr. Huang and hurried home to start her plot
of murdering her mo the r-in-law. Weeks went by,
and months went by, and every o the r day,
Li-Li served the specially treated food to her mother-in-law.
She remembered what Mr.Huang had said about avoiding suspicion,
so she controlled her temper! ,
obeyed her mo the r-in-law, and treated her like her own mother.

ทุกวันให้ทำอาหารที่อร่อยที่สุดและใส่ยาลงไปในอาหารเล็กน้อย
ให้แม่สามีเธอทาน และเพื่อไม่ให้ใครสงสัยว่าเธอฆ่าแม่สามี
ให้เธอปฏิบัติตัวใหม่กับแม่สามี เชื่อฟังแม่สามี ไม่เถียง
ทำตามที่ท่านบอก ปรนนิบัติแม่สามีดุจดังท่านเป็นราชินี
ลี่ลี่ได้ฟังแล้วมีความสุขมาก เธอขอบคุณคุณฮวง
และรีบกลับบ้านทำตามแผนที่คุณฮวง
บอกและพยายามควบคุมอารม์โกรธแค้นของตัวเอง
เชื่อฟังแม่สามีและปฏิบัติเหมือนท่านเป็นแม่แท้ๆ



After six months had passed, the whole household
had changed. Li-Li had practiced controlling her temper
so much that she found that she almost never got mad or upset.
She hadnt had an argument with her mother-in-law
in six months because she now seemed much kinder
and easier to get along with.

หกเดือนผ่านไป สถานการณ์ในบ้านเปลี่ยนไป
ลี่ลี่สามารถควบคุมอารมณ์ตัวเองได้และพบว่าเธอไม่ทุกข์อีกต่อไป
ไม่ได้โต้เถียงแม่สามี เพราะท่านดูเหมือนใจดีขึ้นและสามารถเข้ากับเธอได้




The mo the r-in-laws attitude toward Li-Li changed,
and she began to love Li-Li like her own daughter.
She kept telling friends and relatives
that Li-Li was the best daughter-in-law one could ever find.
Li-Li and her mother-in-law were now treating each other like
a real mo the r and daughter.
Li-Lis husband was very happy to see what was happening.

One day, Li-Li came to see Mr. Huang and asked for
his help again She said, Dear Mr. Huang,
please help me to keep the poison from killing my mothe r-in-law.
Shes changed into such a nice woman,
and I love her like my own mo the r.
I do not want her to die because of the poison I gave her.

ปฏิกิริยาของแม่สามีที่มีต่อลี่ลี่ก็เปลี่ยนไปเช่นกัน
ท่านชมลูกสะใภ้ให้ญาติและเพื่อนๆฟังว่าลี่ลี่เป็นลูกสะใภ้ที่ดีที่สุดเท่าที่เคยพบมา
ลี่ลี่กับแม่สามีปฏิบัติต่อกันเหมือนแม่กับลูกแท้ๆ

วันหนึ่งลี่ลี่กลับไปหาคุณฮวงอีกครั้งเพื่อขอความช่วยเหลืออีกครั้ง
ขอให้เขาช่วยถอนพิษในตัวแม่สามีให้ที
เพราะท่านได้กลายมาเป็นผู้หญิงที่เธอรักเหมือนแม่แท้ๆ
และไม่ต้องการให้ท่านตาย



Mr. Huang smiled and nodded his head.
Li-Li, the res nothing to worry about.
I never gave you any poison. The herbs I gave you were vitamins
to improve her health. The only poison was in your mind
and your attitude toward her, but that has been all washed away
by the love which you gave to her.

HAVE YOU REALIZED that how you treat others is exactly
how the y will treat you? There is a wise Chinese saying:
The person who loves others will also be loved in return.
God might be trying to work in another persons life through you..

Send this to your friends and spread the love..

คุณฮวงยิ้มและพยักหน้าบอกลี่ลี่ว่า ไม่ต้องกังวล เขาไม่เคยให้ยาพิษเธอ
แต่เป็นยาบำรุงร่างกาย

พิษที่แท้จริง คือทัศนคติในใจเธอที่มีต่อแม่สามี
และก็ได้ถูกถอนไปจากใจเธอแล้วด้วยความรักที่เธอมีต่อแม่สามี

จงระลึกไว้เสมอ....เราปฏิบัติกับใครอย่างไรก็จะได้ผลตอบรับเป็นอย่างนั้น

มีสุภาษิตจีน ว่า คุณให้ความรักใคร คุณจะได้รับรักตอบ

บางทีพระเจ้าอาจกำลังทดสอบคุณโดยผ่านการกระทำของคนอื่น


A candle loses nothing if it is used to light another one



ที่มา: FWMail


วัสลามค่ะ



« แก้ไขครั้งสุดท้าย: ม.ค. 20, 2010, 11:45 AM โดย dho_dho »
"และข้ามิได้สร้างญิน และมนุษย์เพื่ออื่นใด เว้นแต่เพื่อเคารพภักดีต่อข้า"

(ซูเราะฮฺ อัซซาริยาต อายะอฺที่ 56)

ออฟไลน์ ...

  • เพื่อนแท้ (-.^)
  • ****
  • กระทู้: 929
  • เพศ: หญิง
  • Respect: +2
    • ดูรายละเอียด
Re: นิทานนานาชาติน่ารักๆ(เบาสมอง)
« ตอบกลับ #148 เมื่อ: ม.ค. 23, 2010, 02:25 AM »
0
ความรัก กับ ต้นหญ้า...


กาลครั้งหนึ่งนานมาแล้ว
...มีครูกับลูกศิษย์นั่งอยู่ใต้ต้นไม้ใหญ่ซึ่งใกล้กั บสนามหญ้าอันกว้างใหญ่
ทันใดนั้น ลูกศิษย์คนหนึ่งก้อถามขึ้นมาว่า

ลูกศิษย์ : อาจารย์คับ ผมสงสัยจังเลยว่า เราจะหาคู่แท้เราเจอได้ไงคับ
อาจารย์บอกผมหน่อยได้ไหม คับ?

อาจารย์ : (เงียบไปพักหนึ่ง ก่อนที่จะตอบ) อืม มันเป็นคำถามที่ยากนะ
ในขณะเดียวกันมันก็เป็นคำถาม ที่ง่ายเหมือนกันนะ

ลูกศิษย์ : (นั่งคิดอย่างหนัก) อืม?....งงอะไม่เข้าใจ

อาจารย์ : โอเค งั้น เธอลองมองไปทางนั้นนะ ตรงนั้นน่ะ มีหญ้าเยอะแยะ เลยใช่ไหม
เธอลองเดิน ไปหาหญ้าต้นที่สวยที่สุด แล้วเด็ดมาให้ครูสิ ต้นเดียวเท่านั้นนะ
แต่ว่า เวลาเธอเดินเนี่ย เธอต้องเดินไป ข้างหน้าอย่างเดียวนะ ห้ามเดินถอยหลัง
เข้าใจไหม

ลูกศิษย์ : ได้เลยครับ จาน รอสักครูน่ะครับ (ว่าแล้ว ก้อวิ่งตรงไปยังสนามหญ้า)
หลังจากนั้นไม่นาน....

ลูกศิษย์ : ผมกลับมาแล้วครับจาน

อาจารย์ : อืม...แต่ทำไมครูไม่เห็นต้นหญ้าสวย ๆ ในมือเธอเลยหละ

ลูกศิษย์ : อ๋อ คืองี้ครับจาน ตอนที่ผมเดินไปแล้วผมเจอต้นหญ้าสวย ๆ เนี่ย
ผมก้อก้อคิดว่า เออ เดี๋ยว ก้อคงเจอต้นที่สวยกว่านี้ ดังนั้นผมก็เลยไม่เด็ดมัน
แล้วผมก็เดินไปเรื่อย รู้ตัวอีกที มันก็สุดสนามหญ้าแล้ว ครับ
จะเดินกลับก้อไม่ได้ เพราะจานสั่งห้ามไว้

อาจารย์ : นั่นแหละ คือสิ่งที่จะเกิดขึ้นในชีวิตจริงหละ ...

เรื่องนี้ต้องการที่จะสื่ออะไรกับเรา ต้นหญ้า ก็คือ คนที่อยู่รอบ ๆ ตัวคุณ
ต้นหญ้าที่สวยงาม ก็คือ คนที่คุณชอบ หรือคนที่ดึงดูดคุณนั่นแหละ ส่วนทุ่งหญ้า ก็คือ เวลา ...
เวลาที่คุณจะหาคู่แท้ของคุณ อย่ามัวแต่เปรียบเทียบ แล้ว คิดว่า
คงจะมีที่ดีกว่านี้ เพราะถ้าคุณ มัวแต่ เปรียบเทียบ
คุณจะเสียเวลาไปโดยเปล่าประโยชน์ อย่าลืมว่า..."เวลาไม่เคยย้อนกลับ"
ไม่ใช่แค่ความรักเท่านั้น เรื่องนี้ ยังสามารถใช้ได้กับ
การหาคนที่จะมาทำงานร่วมกับคุในชีวิต หรือ แม้กระทั่งงานที่เหมาะสมกับคุณ
ดังนั้น มันจึงเป็นสัจธรรม ที่ว่า ..."จงรัก และ ไขว่คว้า
โอกาสที่คุณมีในขณะนี้ อย่ามัวแต่เสียเวลา บางครั้งคนเราก็มีโอกาสเลือกแค่
เพียงครั้งเดียวเท่านั้น..."
 

ออฟไลน์ nada-yoru

  • เพื่อนรัก (6_6)
  • *****
  • กระทู้: 4010
  • เพศ: หญิง
  • แสงและเงา
  • Respect: +134
    • ดูรายละเอียด
Re: นิทานนานาชาติน่ารักๆ(เบาสมอง)
« ตอบกลับ #149 เมื่อ: ม.ค. 23, 2010, 04:19 PM »
0
^
^

แล้วบัลกิสเจอหญ้าที่สวยที่สุดรึยังนั้น  cool2:

พี่เคยฟังเรื่องนี้มาเหมือนกัน...พี่ชายพี่เล่าให้ฟัง...

มีนิทานเรื่องนึงมาฝากด้วยจ่ะ...


มีคำถามปริศนาอยู่ 2 ข้อที่เจ้าหญิงคนนึงได้ถามฉัน(สาวน้อยคนนึง)
ที่กำลังปีนขึ้นไปบนนั้น ที่ตรงหอคอยของปราสาททองคำแห่งนั้น
คำถามปริศนาที่ว่านั้นคือ...

ข้อที่ 1 ประเทศเฮติ มีเมืองหลวงชื่อว่าอะไร

ก. กรุงเทพมหานคร

ข. โตเกียว

ค. เวียงจันทร์

ง. บูดาเปส

ตอนที่ได้ยินคำถามนั้น อย่าว่าให้ตอบเลย
เพราะแค่ชื่อประเทศเรายังไม่เคยได้ยิน
ไม่รู้ด้วยซ้ำว่ามันอยู่ส่วนไหนของโลก
หรือเราไม่รู้ว่าจริงๆแล้วมันมีรึเปล่า คนถามอาจจะอำเราก็เป็นได้...
แต่เราก็รู้สึกว่่า มันต้องใช่ประเทศใดประเทศหนึ่งในโลกกลมๆใบนี้แหล่ะ
แค่เรายังไม่รู้ เพราะยังไม่เคยได้ยิน ยังไม่รู้จัก ยังไม่เคยได้ศึกษา
ยังไม่เคยรับรู้อะไรๆเกี่ยวกับมันเลย..
แต่พอมีตัวเลือกขึ้นมาเท่านั้น ก็ทำให้เราเหมือนมีความหวัง
ว่ายังไงๆมันก็ต้องถูกสักข้อนึงแหล่ะ...
แต่ที่เราเรียนรู้มาแล้วก็คือ

ก.ไม่ใช่แน่ๆ เพราะว่าเป็นเมืองหลวงของประเทศที่ตนอาศัยอยู่
ข.ก็ไม่ใช่อีก เพราะเคยไปเยี่ยมเยือน ไปเจอะเจอมาแล้ว
   มันเป็นเมืองหลวงของญี่ปุ่น ไม่ใช่ของเฮติแน่นอน
ค.เวียงจันทร์ นี่ก็อีก รู้เลยว่าไม่ใช่ ประเทศบ้านใกล้เรือนเคียง
   บ้านพี่เมืองน้องของประเทศที่เราอยู่ เป็นเมืองหลวงของลาว
   ถึงต่อให้ไม่เคยไปลาวแต่เราก็รู้มาจากปากคนที่ไปมาแล้วว่า
   เมืองหลวงของลาวชื่อว่าเวียงจันทร์ จะเป็นของเฮติได้ยังไง

ง.ตัวเลือกนี้ทำเราคิดหนักเลย เพราะว่ามันเป็นตัวเลือกสุดท้าย
   ที่มีมาให้เลือก ตัวเลือกที่เราไม่แน่ใจว่า
   ชื่อนี้เป็นเมืองหลวงของประเทศใดกันแน่
   มันไม่ชัวร์ จนทำเอาเรายิ้มออกว่า อาจจะใช่แล้ว มันต้องใช่แน่ๆ
   ก็ตัวเลือกก่อนหน้านี้นี่มันออกจะแน่นอนว่าไม่ใช่อยู่แล้ว...
   แสดงว่าตัวเลือกที่เหลือสิคือคำตอบสุดท้ายที่ใช่เลย...
   
   แล้วเราก็เลือกตอบตัวเลือกนั้นเลยหรือ เราจะตอบทั้งๆที่เรายังไม่แน่ใจ
   ทั้งๆที่เรายังไม่รู้จักมันเลยสักนิด ยังไม่ได้ศึกษาเกี่ยวกับมัน
   เราเลือกคำตอบนี้แบบว่าไม่รู้จะเลือกอะไรแล้วอย่างนั้นหรือ...
   เราเลือกคำตอบนี้ โดยที่เราไม่ใคร่ครวญอีกสักนิดหรือว่่า
   คำถามนี้อาจจะไม่มีคำตอบที่ใช่เลยก็ได้...

   บางทีแค่เรารออีกสักนิด คำตอบที่ถูกต้องของเราอาจไม่ได้อยู่ในตัวเลือกเลย
   แค่เราบอกว่าไม่รู้ เราอาจจะได้คำตอบจากคนถามเราก็ได้...
   หรือขอเวลาศึกษาอีกสักหน่อย เราอาจจะได้คำตอบที่ไม่ได้อยู่ในตัวเลือก
   ที่ว่ามาเลยก็เป็นได้...คำตอบที่มาจากปากเรา คำตอบแบบอัตนัย
   และหากอยู่ในสถานการณ์ที่ต้องตอบตอนนั้นเลย
   หรือถูกบังคับให้ตอบ เราจะตอบยังไง
   เพราะบางทีไม่ใช่ไม่มีตัวเลือกหรือเราไม่อยากจะเลือก
   แต่เราไม่มีปัญญาหรือมีความสามารถพอที่จะได้เลือกเลย...   
   หรือบางทีเราอาจจะนึกในใจ "ไม่เลือกได้ไหม"
 
เลยต้องรอคำถามข้อต่อไป...  ;D

คำถามนี้คล้ายๆกับคำถามแรก เพราะต่างกันแค่ตัวเลือก
กลายเป็นว่าเรามาเจอกับคำถามเดิมๆ แต่ต่างกันตรงตัวเลือก
และไม่ว่าเวลาผ่านไปนานแค่ไหน เราก็ยังไม่ได้ค้นคว้าศึกษาว่า
ประเทศเฮติ มีเมืองหลวงชื่ออะไร เคยลองค้นดูแบบผิวเผินแล้ว
ก็ไม่เจอ ไม่ได้กล่าวเอาไว้ รายละเอียดก็น้อย
เวลาก็ไม่มี ยุ่งเรื่องโน่นเรื่องนี้จนลืม ไม่มีเงินพอที่จะไปเยือน...
แต่คนถามมีตัวเลือกให้ ว่า

ก.ริยาด
ข.มักกะฮฺ
ค.ไคโร
ง.โจฮันเนสเบิร์ก

เรากุมขมับเลยทีนี้ ไม่รู้จักสักเมืองที่กล่าวมา
รู้แต่ว่า มันอยู่แถบประเทศมุสลิมเท่านั้น แล้วเมืองที่กล่าวมานั้น
มันเป็นของประเทศไหนบ้าง เราก็ลืมๆไปแล้ว จำได้เลือนลาง
บวกกับชื่อประเทศเฮติที่เราก็ไม่แน่ใจว่ามันตั้งอยู่แถบๆอาหรับหรือเปล่า
เพราะเหมือนๆว่าชื่อมันพ้องๆคล้องจองกันลงตัว...
ทำเอาเราสับสนเลยทีนี้ ตัวเลือกที่เรียงหน้ามา
เราไม่รู้จักสักตัวเลือก ถ้ามันจะใช่มันก็ใช่ทั้งหมด
แต่เราเลือกได้ตัวเลือกนึงเท่านั้น เพราะมันควรจะมีแค่หนึ่งตัวเลือกที่ถูกต้องสิ...
แล้วอะไรล่ะ จะตอบว่าอะไรล่ะ ;D

เราอาจจะอยู่ในอารมณ์ที่อยากจะบอกคนถามว่า "ไม่ตอบได้ไหม"
"ไม่เลือกได้ไหม" "ฉันยอมสอบตก" "ฉันไม่สามารถ"
"ฉันไม่รู้ว่าใช่เพราะฉันไม่รู้"
"ฉันไม่รู้จักตัวเลือกเลยสักตัวเลือกเดียว"
"ฉันมีตัวเลือกแต่ฉันไม่มีทางเลือกเลย"
"มันเหมือนจะใช่ แต่มันก็เหมือนไม่ใช่"

แสดงว่าตอนนี้เรากำลังสับสนใช่มั้ย...
และบางคนอาจจบด้วยคำพูดแทนคำตอบว่า

"ขอเวลาให้ฉันได้ศึกษาหน่อยเถอะ...อย่าให้ฉันต้องมั่วเลย...
เพราะถ้าจะให้ฉันมั่ว ฉันยอมสอบตก..."

สุดท้ายเมื่อเวลาผ่านไป...
เมื่อได้ลองศึกษาและย้อนกลับไปมองตัวเลือกต่างๆที่เคยผ่านเข้ามา
อย่างจริงๆจังๆ และทุ่มเทเวลาให้ คำตอบที่ได้กลับไม่ใช่เลยสักตัวเลือกเดียว
เรายิ้มใช่มั้ย ยิ้มที่เราไม่ได้ถลำลงไปกับบททดสอบเหล่านั้น...
และจริงๆแล้วอะไรที่ทำให้เรารู้ว่าที่ผ่านมามันไม่ใช่เมืองหลวงของเฮติ
ไม่ใช่สมองหรือสติปัญญาอย่างเดียวหรอกที่บอกเรา
แต่มันคือประสบการณ์และหัวใจ และที่สำคัญ เราได้เจอกับประเทศเฮติแล้ว
เรารู้จักประเทศเฮติแล้วต่างหาก...รู้เอาก็ตอนที่มันเกิดแผ่นดินไหว
คนตายนับแสนคน เป็นข่าวดังขนาดนั้น เราจะไม่รู้ได้ยังไง
ในเมื่อเขาประกาศข่าวโครมๆ ว่าเมืองหลวงของเฮติ ชื่อ "ปอร์โตแปรงซ์"
แถมเรายังรู้รายละเอียดอื่นๆเพิ่มอีกมากมาย
ทำให้ประเทศเล็กๆที่เราไม่เคยรู้จักไม่เคยสนใจ น่าสนใจมากขึ้น...

สรุป เราก็ไม่ได้เลือกอยู่ดี 555555
แต่ก็ยังดีที่ได้รู้คำตอบที่ค้างคาใจ



เจ้าหญิงที่ตั้งคำถามฉันได้หายตัวไปแล้ว เธอหายไปจากหอคอย
หอคอยทองคำที่ฉันกำลังยืนอยู่ หอคอยที่ฉันพิชิตยอดของมันมาได้สำเร็จเมื่อครู่...

นิทานเรื่องเจ้าหญิงคนต่อไป จบลงอย่างสับสนปนสุขอยู่บนคาน เย้ย หอคอย
ณ พระราชวังทองคำ 55555


"และข้ามิได้สร้างญิน และมนุษย์เพื่ออื่นใด เว้นแต่เพื่อเคารพภักดีต่อข้า"

(ซูเราะฮฺ อัซซาริยาต อายะอฺที่ 56)

 

GoogleTagged