ผู้เขียน หัวข้อ: นิทานนานาชาติน่ารักๆ(เบาสมอง)  (อ่าน 48449 ครั้ง)

0 สมาชิก และ 1 บุคคลทั่วไป กำลังดูหัวข้อนี้

ออฟไลน์ ILHAM

  • เพื่อนตาย T_T
  • *****
  • กระทู้: 11348
  • เพศ: ชาย
  • Sherlock Holmes
  • Respect: +273
    • ดูรายละเอียด
    • ILHAM
Re: นิทานนานาชาติน่ารักๆ(เบาสมอง)
« ตอบกลับ #15 เมื่อ: ก.ย. 17, 2009, 02:51 PM »
0
การ์ตูนสมัยผมยังไม่เกิด
إن شاءالله ติด ENT'?everybody

Sherlock Holmes said "How often have I said to you that when you have eliminated the impossible, whatever remains, however improbable, must be the truth?"
-------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------

ออฟไลน์ เหรียญ 2 ด้าน

  • เพื่อนแท้ (-.^)
  • ****
  • กระทู้: 753
  • เพศ: ชาย
  • เรียบง่าย แต่ไร้เทียมทาน (จิงๆๆ)
  • Respect: +8
    • ดูรายละเอียด
    • กัมปงดูกู
Re: นิทานนานาชาติน่ารักๆ(เบาสมอง)
« ตอบกลับ #16 เมื่อ: ก.ย. 17, 2009, 03:11 PM »
0
การ์ตูนโบกัสล่ะเคยดูไหม
ชื่อที่เคยใช้ในบอร์ดคือ ahmdduku, الدوكوي, เหรียญ 2 ด้าน

ออฟไลน์ nada-yoru

  • เพื่อนรัก (6_6)
  • *****
  • กระทู้: 4010
  • เพศ: หญิง
  • แสงและเงา
  • Respect: +134
    • ดูรายละเอียด
Re: นิทานนานาชาติน่ารักๆ(เบาสมอง)
« ตอบกลับ #17 เมื่อ: ก.ย. 17, 2009, 07:43 PM »
0
การ์ตูนโบกัสล่ะเคยดูไหม

 salam

โด่โด่คนนึงที่ไม่รู้จักเลยค่ะ
สงสัยเกิดไม่ทัน รึไม่ก็อายุเลยการ์ตูนเรื่องนี้ไปแล้วอ่ะค่ะ hehe

แต่ที่จำได้คือยะดาม่อนกับป๊อบอาย(พลังผักขมน่ะค่ะ)
ซึ่งเป็นการ์ตูนที่ดูทันเรื่องแรกๆค่ะ...

ส่วนนิทานเอาไว้เล่าให้หลานๆฟังเวลาหมดมุกค่ะ
แต่เด็กเดี๋ยวนี้ความจำดี เล่าซ้ำไม่ได้ค่ะ(มีประท้วง+ก่อม็อบ) ;D

วัสลามุอะลัยกุม

^________^
"และข้ามิได้สร้างญิน และมนุษย์เพื่ออื่นใด เว้นแต่เพื่อเคารพภักดีต่อข้า"

(ซูเราะฮฺ อัซซาริยาต อายะอฺที่ 56)

ออฟไลน์ nada-yoru

  • เพื่อนรัก (6_6)
  • *****
  • กระทู้: 4010
  • เพศ: หญิง
  • แสงและเงา
  • Respect: +134
    • ดูรายละเอียด
Re: นิทานนานาชาติน่ารักๆ(เบาสมอง)
« ตอบกลับ #18 เมื่อ: ก.ย. 17, 2009, 07:48 PM »
0
การ์ตูนสมัยผมยังไม่เกิด

 salam

อิลฮามก็พูดเกินไป... fouet:
ยังไงเราก็เรียนหนังสือตา มา รถ ไฟ มาเหมือนๆกัน
ถึงพี่จะเป็นรุ่นบุกเบิกก็เถอะ natural:

วัสลามุอะลัยกุม

^__________^
"และข้ามิได้สร้างญิน และมนุษย์เพื่ออื่นใด เว้นแต่เพื่อเคารพภักดีต่อข้า"

(ซูเราะฮฺ อัซซาริยาต อายะอฺที่ 56)

ออฟไลน์ nada-yoru

  • เพื่อนรัก (6_6)
  • *****
  • กระทู้: 4010
  • เพศ: หญิง
  • แสงและเงา
  • Respect: +134
    • ดูรายละเอียด
Re: นิทานนานาชาติน่ารักๆ(เบาสมอง)
« ตอบกลับ #19 เมื่อ: ก.ย. 19, 2009, 01:59 AM »
0
 salam

ใกล้รุ่งอรุณของวันใหม่ เลยตั้งใจจะนำเสนอนิทานอีกเรื่อง
เป็นนิทานเกี่ยวกับ"พ่อผู้สูงวัย"ซึ่งเป็นนิทานพื้นบ้านของประเทศญี่ปุ่นค่ะ

เรื่อง

"Oyasuteyama"
(เอาพ่อไปทิ้งเขา)

       กาลครั้งหนึ่งนานมาแล้วในเมือง ๆหนึ่ง โตโน่ซามะ (เจ้าเมือง) ของเมืองนั้น
ได้ติดโอฮุเร (ป้ายประกาศประจำแผ่นดิน) ประกาศแก่ประชากรว่า

"จะเป็นใครก็ตาม ถึงแม้จะเป็นพ่อแม่ของเจ้าเองก็เถอะ แก่แล้วให้เอาไปโยนทิ้ง
บนภูเขาให้หมด!!! " เมื่อทำงานและออกแรงไม่ได้แล้ว อยู่ไปก็ไร้ประโยชน์
ทำประโยชน์สถานใดมิได้ รังแต่จะเปลืองข้าวเปลืองน้ำมากกว่า
ตายไปให้หมดน่ะดีแล้ว "

...ทำไมถึงได้เป็นโตโน่ที่ใจร้ายใจมารอย่างนี้ก็ไม่รู้....
แต่ประชากรทุกคนก็ไม่รู้ว่าจะทำฉันใดได้
ใครอายุครบ 60 ปี ก็จำต้องเอาไปทิ้งที่บนภูเขา ให้อดข้าวอดน้ำและตายไปในที่สุด

     ชายหนุ่มผู้กตัญญูและรักพ่อของตนมากนายหนึ่ง..นั่งถอนอกถอนใจ
เป็นทุกข์หนัก เพราะพ่อสุดที่รักของชายหนุ่มใกล้วันที่จะอายุครบ 60 ปี
อยู่ไม่นานนี้แล้ว..เขาจะขัดคำสั่งของโตโน่หรือ? พ่อของเขาก็คงจะไม่ยอม
ให้ทำอย่างนั้นเป็นแน่แท้...

ชายหนุ่มจึงนั่งทุกข์ใจกระสับกระส่ายไม่เป็นอันหลับอันนอน...
พ่อนั่งมองเห็นลูกทุกข์ใจก็สงสาร แล้วอยู่ๆพ่อของชายหนุ่มก็พูดขึ้นว่า

" ส่า..ส่า..ได้เวลาแล้ว วันนี้เอาข้าขึ้นไปทิ้งบนภูเขาเถอะ "
ชายหนุ่มตกใจที่พ่อพูดขึ้นเช่นนั้น เพราะยังเหลืออีกตั้งหลายวันที่พ่อ
จะอายุครบ 60ปี จึงรีบตอบพ่อไปว่า

" โธ่พ่อ ยังเหลืออีกตั้งหลายวัน..แล้วข้าก็ทำอย่างนั้นไม่ได้..ฮื่อ ฮื่อ..
ข้าทำไม่ได้หรอก..ฮื่อ ๆๆ " พ่อเห็นลูกเข้ามากอดขา ร้องให้ปานใจจะขาด จึงพูดว่า

"อะไร..ทำไมเจ้าจะทำไม่ได้ อันนี้เป็นกฏและอาญาแผ่นดิน เจ้าดูยายข้างบ้านสิ...
แล้วตาบ้านฝั่งโน้นก็เหมือนกัน ทุกคนโดนแบกไปทิ้งบนภูเขาหมดแล้ว..
ไม่ต้องเป็นห่วงข้า เอาข้าไปทิ้งเสียเดี๋ยวนี้เถอะ "

    แล้วชายหนุ่มก็ต้องจำยอม เขาเอาพ่อขึ้นแบกไว้บนหลัง..
เดินคอตกมาตามทางที่จะไปสู่ภูเขา..เมื่อขึ้นมาถึงบนภูเขาแล้ว
ชายหนุ่มก็เดินเลือกที่ที่เหมาะสมว่าจะเอาพ่อวางไว้ตรงไหน

"ตรงนี้ก็เปียกชื้น มีราขึ้นไปหมด ไม่เอานะพ่อ"
"ตรงนี้ก็ลมไม่ผ่านสะดวก ตรงนี้ก็อย่าเอาเลยนะพ่อ"

ชายหนุ่มเลือกแล้วเลือกอีก ไม่มีทีท่าว่าจะวางพ่อของตนลงเลย
ชายหนุ่มเลือกสถานที่ไปเรื่อย ๆจนเดินลึกเข้าไปในป่า ลึกเข้าไปทุกที ๆ
พ่อเห็นลูกเดินลึกเข้าไปมากเข้า ก็เกิดความเป็นห่วงว่าขากลับลูกจะหลงป่าเอา
ทั้งๆที่อยู่บนหลังของลูก ก็เอื้อมมือไปเด็ดยอดไม้..ปักกิ..ปักกิ ปักกิ..
แล้วโยนทิ้งไปบนพื้น เพื่อหวังให้เป็นสัญญาลักษณ์ขากลับให้กับลูกของตน

    ชายหนุ่มได้พบที่ที่ตนเห็นว่าเหมาะสมสามารถหลบลม หลบฝนได้แล้ว
ก็เดินเลือกเก็บใบไม้แห้งเอามาวางทำเป็นที่นั่งแล้วก็ค่อย ๆ วางพ่อของตน
ลงตรงที่นั้น..ชายหนุ่มเมื่อวางพ่อลงแล้วก็ก้มหน้าแล้วหมอบลงกับพื้นโอดครวญขึ้นว่า

"พ่อจ๋า..กลางป่าลึกวังเวงอย่างนี้ข้าจะต้องเอาพ่อทิ้งไว้คนเดียว...
ข้าสุดที่จะวิเวกวังเวงใจเหลือเกิน..พ่อจ๋าข้าขอโทษ..ที่ปกป้องพ่อไม่ได้...ฮื่อ ฮื่อ..."
พ่อมองลูกด้วยความเอ็นดู และกล่าวว่า

"ไม่ต้องเสียใจหรอกลูก แก่แล้ว ก็ต้องตายกันทุกคน จะเร็วจะช้าเท่านั้น..
แล้วที่ลูกทำไปนี่ก็เป็นกฏของแผ่นดิน..เจ้าไม่ผิดหรอกลูก..ว่าแต่เจ้าเถอะ
เจ้าแบกพ่อเข้ามาลึกขนาดนี้เกรงว่าเจ้าจะหลงป่าหาทางกลับไม่ได้
เดินตามยอดไม้ที่พ่อหักโยนเป็นทางไว้ให้นะลูก..ไป..ไป..กลับไปใด้แล้ว.."
พ่อพูดสั่งเสียแล้วก็ก้มหน้าน้ำตาคลอเพราะยังอาลัยลูกชายสุดที่รักของตนอยู่..

ชายหนุ่มเมื่อได้ยินพ่อบอกว่าได้หักกิ่งไม้ทำทางขากลับไว้ให้กับตนเท่านั้น!!
ก้อนสะอื้นก็วิ่งจุกขึ้นมาที่อก....
...โถ..โถ..พ่อจ๋า..จะต้องตายแล้วก็ยังเป็นห่วงข้าอยู่อีก..

ชายหนุ่มในทันทีทันใดนั้น..ก็ลุกขึ้นอุ้มพ่อของตนขึ้นแบกไว้บนหลังอีกครั้ง..
จะเป็นกฏหรืออาญาอะไรก็เถอะ บนเขาเงียบวังเวงแบบนี้เขาไม่สามารถ
จะทิ้งพ่อไว้อย่างนี้ได้...ชายหนุ่มคิดแล้วก็รีบวิ่งแบกพ่อของตนลงเขากลับมาบ้าน
วิ่งอย่างไม่คิดถึงชีวิตของตนเลยล่ะ..
...แล้วก็ให้มันรู้ไปว่าข้างหน้าจะเป็นยังไงก็ชั่งมันเถอะ.......


    เมื่อสองพ่อลูกกลับมาถึงบ้านแล้ว ชายหนุ่มก็ตระหนักถึงเหตุการณ์ครั้งนี้ว่า
ถ้าเรื่องราวต่าง ๆนี้ไปเข้าถึงหูของโตโน่เข้า เขาและพ่อจะเป็นอันใด
ชายหนุ่มจึงขุดอุโมงขึ้นที่ใต้ถุนบ้าน แล้วเอาพ่อของตนหลบซ่อนไว้ในหลุมนั้น
ทุก ๆวันชายหนุ่มจะจัดหาข้าวปลาอาหารวันละสามมื้อลงไปให้พ่อที่อยู่ในหลุมที่ขุดไว้ชายหนุ่มปรนนิบัติพัดวี พ่อของตนอย่างไม่ยอมให้ขาดตรงบกพร่องอะไรเลย..
ใครให้อาหารแปลกๆมาก็จะรีบนำไปให้พ่อกินก่อนเสมอ

"พ่อจ๋า..ป้าข้างบ้านเอาข้าวเหนียวปั้นมาให้...กินซะ..พ่อจะได้แข็งแรง..
และอยู่กับข้าไปอีกนาน ๆนะพ่อนะ.."

วันหนึ่งชายหนุ่มวิ่งหน้าตาตื่นเข้าไปหาพ่อ

"พ่อ ๆโตโน่ซาม่ะ สร้างเรื่องแปลก ๆและออกคำสั่งพิสดารไม่เหมือนใคร
ขึ้นมาอีกแล้วล่ะพ่อ.."

"โฮ..โฮ..แล้วมันแปลกและพิสดารยังไงหรือลูก "

"คำสั่งให้ใครก็ได้สร้างเชือกที่ทำขึ้นจากขี้เถ้าให้ได้ ชาวบ้านชาวเมือง
นำขี้เถ้ามานั่งปั้นเพื่อจะทำให้เป็นเชือกตามคำสั่งของโตโน่กันให้จ้าระหวั่นไปหมด..
ขี้เถ้างี้....ฟุ้งตลบลานกลางเมืองไปหมดเลยล่ะพ่อ..ทำไมคิดพิศดารอย่างนี้ก็ไม่รู้นะพ่อ ชาวเมืองทุกคนเดือดร้อนใจกันให้เป็นโกลาหนไปหมดเลยล่ะพ่อ"

    พ่อเมื่อใด้ฟังลูกเล่าเรื่องราวต่าง ๆจบลงแล้วก็พูดขึ้นว่า
"ง่ายนิดเดียว..ไม่เห็นจะยากเลยลูกรัก..ทำเชือกจากขี้เถ้าแค่นี้เอง"

"มา มา..ลูกรักพ่อจะสอนให้เจ้าทำเดี๋ยวนี้เลย.."

ว่าแล้วพ่อก็ให้ลูกชายนำเชือกมาพันกันให้เป็นวงกลม แล้วนำลงไปแช่ในน้ำเกลือ..
เมื่อแช่น้ำเกลือเสร็จแล้วก็สั่งให้ลูกชายนำไปเผาลงในไฟ...
แล้วอะไรจะประหลาดปานนั้น..เพราะห่วงเชือกเมื่อโดนย่างจนเป็นขี้เถ้าแล้ว..
แม้จะเป็นแต่ขี้เถ้าก็ยังปรากฏมีรูปร่างเป็นรูปห่วงเชือกอยู่อย่างเดิม..
แปลกประหลาด มหัศจรรย์จริง ๆ...

"และข้ามิได้สร้างญิน และมนุษย์เพื่ออื่นใด เว้นแต่เพื่อเคารพภักดีต่อข้า"

(ซูเราะฮฺ อัซซาริยาต อายะอฺที่ 56)

ออฟไลน์ nada-yoru

  • เพื่อนรัก (6_6)
  • *****
  • กระทู้: 4010
  • เพศ: หญิง
  • แสงและเงา
  • Respect: +134
    • ดูรายละเอียด
Re: นิทานนานาชาติน่ารักๆ(เบาสมอง)
« ตอบกลับ #20 เมื่อ: ก.ย. 19, 2009, 02:22 AM »
0

     ชายหนุ่มเมื่อสร้างเชือกที่ทำจากขี้เถ้าตามที่พ่อสอนเสร็จแล้ว..
ก็รีบนำไปให้โตโน่ที่ปราสาท...โตโน่เมื่อได้เห็นสิ่งที่ชายหนุ่มนำออกมาให้ดู
แล้วก็พูดว่า

"โฮ่...โฮ่...นี่น่ะหรือ..คือเชือกที่ทำมาจากขี้เถ้า...ฮ่า ฮ่า ฮ่า..
เจ้าเก่งมากเจ้าหนุ่มน้อยเอ๋ย..." โตโน่ถูกอกถูกใจหัวเราะร่วนอย่างสำราญใจ
เป็นที่สุด..แต่หยุดตรงนี้ก่อนนะ..พ่อหนุ่มน้อย..โตโน่น่ะมีความคิดที่พิศดาร
ไม่เหมือนใครหรอกนะ เพราะโตโน่ยิ้มอย่างมีเลสนัยและกล่าวขึ้นมาอีกว่า

"เจ้าหนุ่มน้อย..เจ้ารู้จริง เก่งมากถูกใจข้า....ฮ่าฮ่า"

แล้วตรงนั้นโตโน่ก็ดึงกิ่งไม้ออกมากิ่งหนึ่ง

"กิ่งไม้อันนี้ ฝั่งไหนเป็นยอด ฝั่งไหนเป็นราก...เจ้ารู้ไหม?
ไปจัดการหาคำตอบมาให้ข้าแต่โดยด่วน " แล้วชายหนุ่มก็โดนคำสั่งพิสดาร
ของโตโน่เข้าให้เต็มเปาเลยล่ะคราวนี้...แล้วจะทำยังไงกันดีล่ะ??นี่..

ชายหนุ่มนำกิ่งไม้กิ่งนั้นกลับมาให้พ่อของเขาดู

"พ่อจ๋า..โตโน่ออกคำสั่งอันใหม่..ให้ข้าหาคำตอบว่ากิ่งไม้อันนี้ด้านไหนเป็นยอด
ด้านไหนเป็นราก..ดูสิพ่อ.." ชายหนุ่มยื่นกิ่งไม้อันนั้นไปให้พ่อ แต่พ่อกลับพูดว่า

"ไปเอาถังไม้แล้วใส่น้ำให้เต็มถัง แล้วนำมาให้ข้าที่นี่"

เมื่อชายหนุ่มนำถังไม้ที่ใส่น้ำไว้จนเต็มถังเอามาวางไว้ตรงหน้าพ่อของตนแล้ว.....
พ่อก็บอกให้ลูกชายนำกิ่งไม้กิ่งนั้นลงไปลอยในถังน้ำนั้น

"ตั้งใจมองนะลูก ด้านฝั่งนี้มันจมลงไปในน้ำเห็นไหม?
แล้วด้านฝั่งโน้นมันโผล่ขึ้นมาเหนือน้ำ เจ้าเห็นไหม?
ด้านฝั่งที่พ้นน้ำขึ้นมาน่ะ...มันคือยอด...แล้วด้านที่จมน้ำลงไปน่ะ..มันคือราก..
เจ้าเข้าใจและเห็นหรือยัง ลูกรัก "เมื่อชายหนุ่มนำคำตอบไปทูลกับโตโน่ที่ปราสาท

"..โฮ่...โฮ่...เจ้าขบปัญญาหาได้แตกแล้ว..เจ้าหนุ่มน้อย..โฮ่ โฮ่....เจ้าเก่งมาก
แต่ข้ายังไม่ยอมแพ้นะ..ฮื่อ..แล้วปัญหาอันนี้เล่า..ยากหน่อยนะเจ้าหนุ่มน้อย..
ฮ่า ฮ่า ฮ่า..ไปสร้างกลองที่ไม่ต้องตีแต่มีเสียงดังเองได้มาให้ข้าเดี๋ยวนี้..โฮ่ โฮ่ โฮ่.."

ไฉนเลยจึงเป็นโตโน่ที่ชอบสร้างปัญหาที่มันเป็นไปไม่ได้ออกมาอย่างนี้.!!

ชายหนุ่มเดินหน้าเขียวเพราะคำสั่งอันใหม่นี้ของโตโน่กลับมาบ้าน

"กลุ้มใจ..กลุ้มใจ..จะทำอย่างไรดีล่ะทีนี้..แม้พ่อจะเก่งขนาดไหน
ปัญหาอันนี้ของโตโน่ พ่อก็คงจะตอบไม่ได้หรอก..ฮื่อ ๆๆ "

"อะไร..ทำไมลูกรัก..ทำไมจะทำไม่ได้เล่า..กะแค่กลองที่ไม่ต้องตี
แล้วมีเสียงได้แค่นี้น่ะหรือ.ฮ่า ฮ่า ฮ่า." ชายหนุ่มเห็นพ่อ หัวเราะก็ทำหน้าสงสัย
ฉงนใจว่าพ่อจะทำยังไง?พอพ่อหยุดหัวเราะแล้วก็ชี้มือไปที่บนภูเขา..

"ไป ไป ไปบนเขานั่นแล้วไปเอารังผึ้งมาให้พ่อนะลูก "

"อะไรพ่อ..พ่อจะเอารังผึ้งมาทำอะไร"

"ไม่ต้องสงสัยอะไรเลยลูกรักเดี๋ยวเจ้าก็จะได็รู้แจ้งเห็นจริง
รีบไปเอารังผึ้งมาเดี๋ยวนี้ก็แล้วกัน "

แล้วชายหนุ่มก็จัดการไปเอารังผึ้งบนภูเขามาให้พ่อตามคำสั่งทันที..
เมื่อลูกชายนำรังผึ้งมาได้แล้ว..พ่อก็ค่อย ๆถลกหนังของกลองด้านบนออกมา
แล้วนำเอารังผึ้งใส่ลงไปข้างในกลองลูกนั้น เสร็จแล้วพ่อก็นำหนังของกลอง
ที่ถลกออกมาตอนแรก ค่อย ๆแปะและเย็บเข้าไปใหม่ให้เหมือนเดิมอีกครั้ง.."

"เป็นยังไงเล่าลูก เห็นไหมเสร็จแล้วกลองที่ไม่ต้องตีแล้วมีเสียงได้..ฮ่า ฮ่า.. ส่า..
เอาเลยลูก เจ้าลอง ยกกลองดูสิ แล้วเจ้าก็จะรู้แจ้งเห็นจริงล่ะทีนี้ ฮ่า ฮ่า ฮ่า "

ลูกชายจึงค่อย ๆเอื้อมมือไปหวังจะลองหยิบกลองใบนั้นดูอย่างที่พ่อบอก..
แต่พอแค่ชายหนุ่มยื่นมือไปสัมผัสเข้าเท่านั้น..ผึ้งที่อยู่ในกลองก็แตกรัง
บินพล่านและ บังเกิดให้เป็นเสียงดัง
"บอง....บอง..บอง "ก้องเป็นจังหวะเหมือนเสียงกลองจริง ๆอย่างที่พ่อพูดเลย..

แล้วชายหนุ่มก็รีบนำกลองที่ไม่ต้องตีแล้วดังได้ของพ่อไปที่ปราสาทของโตโน่
ทันทีทันใดนั้นเลย

"โฮ่...โฮ่...ทำกลองที่ข้าสั่งให้ทำได้แล้วหรือเจ้าหนุ่มน้อย มา..มา..ส่า
รีบเอามาให้ข้าดูใกล้ ๆ เร็ว ๆ..โฮ่ โฮ่.. "ชายหนุ่มก็คลานเข้าไปหาโตโน่แล้วค่อย ๆ
ยื่นกลองส่งให้โตโน่ทันที เมื่อโตโน่ยื่นมือรับกลองไปถือ
แล้วกลองเมื่อได้รับความกระเทือนขึ้นมาอีกก็ทำให้ผึ้งตกใจ..
แตกรังบินพล่านขึ้นมาอีกครั้ง แล้วกลองก็ดัง
"บอง..บอง.. บอง.."สนั่นลั่นขึ้นมา กลายเป็นกลองที่ไม่ต้องตี
อย่างที่โตโน่ต้องการแน่แล้วใช่ไหม??ท่านโตโน่ซามะ

"โฮ..โฮ่..เจ้าหนุ่มน้อยผู้ฉลาดปราดเปรื่อง เจ้าสามารถขบปัญหาทั้งสามข้อ
ของข้าได้แตกทั้งหมด..เจ้าเก่งกาจมาก ทุกอย่างมันเป็นความคิดจากสมอง
ของเจ้าเองทั้งหมดหรือปล่าว?ไหนลองบอกวิธีคิดที่เฉียบขาดของเจ้าให้ข้าฟังหน่อยสิ "

ชายหนุ่มก้มหน้าลงแล้วตอบโตโน่ว่า

"เฮ่...ท่านโตโน่ แต่คนที่ขบปัญหาของท่านแตกน่ะไม่ใช่ข้าหรอก
แต่เป็นพ่อผู้สูงอายุของข้าเอง..ผู้สูงอายุจะเป็นผู้รู้และฉลาดปราญเปลื่องเสมอ"

โตโน่เมื่อได้ยินคำว่า ผู้สูงอายุก็ตกใจตะโกนออกมาด้วยเสียงอันดังว่า

"อะไร เจ้าว่าคนสูงอายุหรือ..หือ!! "

"ฮ่ะ..ความจริง มีอยู่ว่าข้าได้นำพ่อของข้าไปทิ้งที่เขาตามบัญชาของท่านโตโน่แล้ว
แต่ข้าไม่สามารถที่จะทิ้งพ่อปล่อยให้ตายได้ตามคำสั่งของท่าน
ข้าได้นำพ่อของข้ากลับมาบ้านและขุดหลุมขึ้นที่ไต้ถุนบ้านและซ่อนพ่อของข้าเอาไว้ "

ชายหนุ่มสารภาพความผิดของตนออกไปจนหมดเปลือก...

"ผู้สูงอายุ ก็สูงด้วยความรู้ เพราะมีชีวิตยาวนาน..จึงทรงด้วยความรู้
เปรียบเสมือนเป็นถุงแห่งความรู้ เลยทีเดียวขอรับ ท่านโตโน่.."

"ฮื่อ" โตโน่หยุดคิดและนั่งนิ่งอึ้งกับคำพูดของชายหนุ่มทั้งหมด

โตโน่หยุดคิดอยู่พักหนึ่ง แล้วกล่าวกับชายหนุ่มว่า

"ฮื่อ..ผู้สูงอายุคือผู้ที่สำคัญอย่างเจ้าว่า..ข้าเห็นด้วยกับเจ้า
ต่อจากนี้ข้าขอถอนคำสั่งที่ว่าให้เอาผู้สูงอายุไปทิ้งบนภูเขานั่น
ให้เป็นโกะโฮบี (ของขวัญ ) แก่เจ้านับแต่บัดนี้เป็นต้นไป..นะเจ้าหนุ่มน้อยผู้กตัญญู "

แล้วตั้งแต่บัดนั้นมา เมือง ๆนั้นก็เปลี่ยนกลายเป็นเมืองที่ให้ความสำคัญ
และเคารพกับผู้สูงอายุตั้งแต่บัดนั้นเป็นต้นมา....

แล้ว โมโนกาตาริ (เรื่องราว/เรื่องเล่า) ก็จบลงอย่างมีความสุข
ทุก ๆอย่างต้องขอขอบคุณชายหนุ่มยอดกตัญญูตัวเอกของเรื่องนะคะ...


.............END..................

แปลโดย:สุขุมาลย์

หมายเหตุ:

คำว่า

...Oya(โอยะ)=พ่อแม่(Parents)

...sute(สุเต๊ะ)=ทิ้ง,ละทิ้ง

...yama(ยามะ)=ภูเขา

...Rojin(โรจิง)=ผู้สูงอายุ/คนชรา

...musuko(มุสุโกะ)=ลูกชาย

อันนี้แถมค่ะ

...musume(มุสุเมะ)=ลูกสาว

แล้วจะนำของประเทศอื่นๆมาฝากกันอีกนะคะ

วัสลามุอะลัยกุมวะเราะมาตุลลอฮฺวาบาเราะกาตุ

^_____________________________________^





"และข้ามิได้สร้างญิน และมนุษย์เพื่ออื่นใด เว้นแต่เพื่อเคารพภักดีต่อข้า"

(ซูเราะฮฺ อัซซาริยาต อายะอฺที่ 56)

ออฟไลน์ nada-yoru

  • เพื่อนรัก (6_6)
  • *****
  • กระทู้: 4010
  • เพศ: หญิง
  • แสงและเงา
  • Respect: +134
    • ดูรายละเอียด
Re: นิทานนานาชาติน่ารักๆ(เบาสมอง)
« ตอบกลับ #21 เมื่อ: ก.ย. 23, 2009, 12:24 AM »
0
 salam

คราวนี้ขอนำเสนอนิทานพื้นบ้านของไทยนะคะ
เพราะของบ้านเราจะเน้นขำๆ

"เที่ยง...ยังไม่บ่าย"

    มีชายคนหนึ่งพร้อมกับเพื่อน ไปนั่งรอรถไฟที่สถานี
รถจะมาถึงเวลาบ่ายโมง ชายคนนั้นก็บอกให้เพื่อนไปดูนาฬิกา
ที่ตั้งอยู่ในบริเวณสถานีว่า บ่ายโมงแล้วหรือยัง

เพื่อนก็วิ่งไปดู แล้วก็กลับมาบอกว่า

"เที่ยง...ยังไม่บ่าย" ทั้งสองก็นั่งรอรถกันต่อไป

นั่งรอกันอยู่พักใหญ่ ก็บอกให้เพื่อนวิ่งไปดูนาฬิกาอีกที ว่าบ่ายโมงหรือยัง

เพื่อนก็วิ่งไปดูอีก แล้วก็กลับมาบอกว่า

"เที่ยง...ยังไม่บ่าย"

ก็นั่งรอรถกันอีก จนกระทั่งตะวันคล้อยไปแล้ว ก็บอกให้เพื่อนวิ่งไปดูนาฬิกาอีกสักที

เพื่อนก็วิ่งไปดู แล้วก็กลับมาบอกว่า

"เที่ยง...ยังไม่บ่าย" เหมือนเดิม

ชายคนนั้นก็เกิดความสงสัย จึงพูดกับเพื่อนว่า

"ไหน นาฬิกาที่เอ็งวิ่งไปดูมันอยู่ตรงไหน"

เพื่อนก็พาไปดูพร้อมกับชี้บอกว่า

"นี่ไงล่ะ"

ชายคนนั้นหัวเราะไม่ออกจึงพูดออกมาว่า

"โธ่เอ๊ย! นั่นมันเครื่องชั่งน้ำหนักต่างหาก ไม่ใช่นาฬิกา เอ็งเข้าใจผิดไปแล้ว"



จาก:บ้านนิทานพื้นบ้าน

___________________________________________________

วัสลามุอะลัยกุมค่ะ

^____________^



« แก้ไขครั้งสุดท้าย: ต.ค. 11, 2009, 12:26 AM โดย nada-yoru »
"และข้ามิได้สร้างญิน และมนุษย์เพื่ออื่นใด เว้นแต่เพื่อเคารพภักดีต่อข้า"

(ซูเราะฮฺ อัซซาริยาต อายะอฺที่ 56)

ออฟไลน์ ILHAM

  • เพื่อนตาย T_T
  • *****
  • กระทู้: 11348
  • เพศ: ชาย
  • Sherlock Holmes
  • Respect: +273
    • ดูรายละเอียด
    • ILHAM
Re: นิทานนานาชาติน่ารักๆ(เบาสมอง)
« ตอบกลับ #22 เมื่อ: ก.ย. 23, 2009, 12:39 AM »
0
ถ้าพี่โด่โด่ขึ้นไปบนนั้นคงจะเปลี่ยนจากเที่ยงตรงเป็น4ทุ่มแน่ๆ 555
إن شاءالله ติด ENT'?everybody

Sherlock Holmes said "How often have I said to you that when you have eliminated the impossible, whatever remains, however improbable, must be the truth?"
-------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------

ออฟไลน์ nada-yoru

  • เพื่อนรัก (6_6)
  • *****
  • กระทู้: 4010
  • เพศ: หญิง
  • แสงและเงา
  • Respect: +134
    • ดูรายละเอียด
Re: นิทานนานาชาติน่ารักๆ(เบาสมอง)
« ตอบกลับ #23 เมื่อ: ก.ย. 23, 2009, 12:38 PM »
0
แค่สิบกิโลใช่มั้ยอิลฮาม... hehe
ว่าแต่มันหมุนกี่รอบถึงได้ไปหยุดที่เลข4ทุ่มละเนี่ย... cool2:
"และข้ามิได้สร้างญิน และมนุษย์เพื่ออื่นใด เว้นแต่เพื่อเคารพภักดีต่อข้า"

(ซูเราะฮฺ อัซซาริยาต อายะอฺที่ 56)

ออฟไลน์ mustura^@^

  • เพื่อนสนิท (._.")
  • ***
  • กระทู้: 336
  • เพศ: หญิง
  • ALLAH is the only ONE !!!
  • Respect: +3
    • ดูรายละเอียด
Re: นิทานนานาชาติน่ารักๆ(เบาสมอง)
« ตอบกลับ #24 เมื่อ: ก.ย. 23, 2009, 12:55 PM »
0
ที่ก๊ะโด่โด่นำเสนอมาหลายกระทู้ เห็นมีแต่บทความมากมายจนอ่านกันแทบไม่ทัน ไม่ทราบว่าก๊ะโด่โด่ทำงานด้านไหนรึ หรือว่าเป็นนักเขียน หรือว่าเป็น executive หรือ producer    hehe
« แก้ไขครั้งสุดท้าย: ก.ย. 23, 2009, 12:59 PM โดย ^@^Mustura^@^ »

ออฟไลน์ ILHAM

  • เพื่อนตาย T_T
  • *****
  • กระทู้: 11348
  • เพศ: ชาย
  • Sherlock Holmes
  • Respect: +273
    • ดูรายละเอียด
    • ILHAM
Re: นิทานนานาชาติน่ารักๆ(เบาสมอง)
« ตอบกลับ #25 เมื่อ: ก.ย. 23, 2009, 01:49 PM »
0
สิบกิโลตรงไหน เคยเห็นตราซึ่งสถานีรถไฟหรือเปล่านิ
إن شاءالله ติด ENT'?everybody

Sherlock Holmes said "How often have I said to you that when you have eliminated the impossible, whatever remains, however improbable, must be the truth?"
-------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------

ออฟไลน์ nada-yoru

  • เพื่อนรัก (6_6)
  • *****
  • กระทู้: 4010
  • เพศ: หญิง
  • แสงและเงา
  • Respect: +134
    • ดูรายละเอียด
Re: นิทานนานาชาติน่ารักๆ(เบาสมอง)
« ตอบกลับ #26 เมื่อ: ก.ย. 23, 2009, 04:21 PM »
0
ที่ก๊ะโด่โด่นำเสนอมาหลายกระทู้ เห็นมีแต่บทความมากมายจนอ่านกันแทบไม่ทัน ไม่ทราบว่าก๊ะโด่โด่ทำงานด้านไหนรึ หรือว่าเป็นนักเขียน หรือว่าเป็น executive หรือ producer    hehe

 salam

ยินดีที่ได้รู้จักค่ะน้องMustura...พี่เป็นแค่นักศึกษาตัวน้อยในโลกกว้างค่ะ
และไม่ว่าจะเรียนจนตาย ก็คงไม่สามารถเรียนรู้ถึงการสร้างของอัลลอฮฺได้หมดแน่ๆ
และต่อให้พยายามดิ้นรนไขว่คว้ามากมายเท่าไหร่ หากอัลลอฮฺไม่ประสงค์แล้วล่ะก็
พี่ก็คงไม่ได้รับความรู้จากพระองค์อย่างแน่นอน...

พี่ยึดแค่ว่า...หากจะเรียนอะไรต้องเรียนให้จริง แต่การจะรู้จริงนั้น คงเป็นไปไม่ได้
เพราะผู้ที่รู้จริงมีเพียงอัลลอฮฺตาอาลาเท่านั้น...

พี่ไม่ได้เป็นนักเขียน แต่ชอบเขียนน่ะค่ะ
แล้วบทความส่วนใหญ่ที่นำมาโพสนั้น เกิดจากความสงสัย
แล้วอยากรู้ พออยากรู้ก็อยากค้นหา พอเจอก็ได้อ่านน่ะค่ะ
ซึ่งมันเป็นเพียงแค่สิ่งที่พี่หาเจอเท่านั้นเอง ยังมีความรู้อีกมากมายที่พี่ยังไม่เจอค่ะ
ซึ่งก็มีบ้างบางบทความที่เขียนขึ้นเองค่ะ(แต่ก็น้อยนิดกว่าที่อ่านของคนอื่น)...อิอิ...

ช่วงนี้ยังพอว่างอยู่ เลยอยากทยอยนำเสนอข้อมูลในคลังที่เก็บสะสมเอาไว้
ออกมานำเสนอน่ะค่ะ...ช่วงที่ยุ่งก็คงไม่ได้เข้ามาแน่ๆ...เลยฉวยโอกาสทำ
ตอนที่มีโอกาสน่ะค่ะ...

ยังมีบทความอีกมากมายในภาษาอื่น
ซึ่งเป็นบทความเกี่ยวกับวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี เพราะพี่รู้น้อยเรื่องศาสนา
เลยเข้ามาอ่านและศึกษาเรื่องศาสนาในเวบนี้
และอยากนำเสนอเรื่องวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี เพื่อให้พี่น้องของเราได้เรียนรู้
และเท่าทันมันน่ะค่ะ...
แต่ยังไม่มีเวลาแปล เลยเอาบทความที่เป็นภาษาไทยที่เคยอ่านมาโพสไปก่อนน่ะค่ะ
อินชาอัลลอฮฺ หากมีเวลาและโอกาสอำนวย ก็อยากนำเสนอบทความที่คิดว่า
น่าจะมีประโยชน์ต่อพี่น้องมุสลิมในมุมของเทคโนโลยีบ้างไม่มากก็น้อยน่ะค่ะ

ปล.พี่เองก็ยังอ่านทุกกระทู้ในเวบนี้ไม่หมดเลยค่ะ อ่านมาเป็นปีแล้วก็ไม่หมดสักที
เพราะเรื่องบางเรื่องต้องอ่านนานๆพร้อมกับทำความเข้าใจไปด้วยน่ะค่ะ
ตอนนี้เลยพยายามดูดความรู้จากเวบนี้ หวังว่าจะอ่านทันสักทีอ่ะค่ะ...hehe
อีกอย่างความรู้เรื่องศาสนา อ่านกี่ครั้งก็ไม่จำสักทีค่ะ แล้วที่สำคัญ
เป็นสัจธรรมที่ใครก็เปลี่ยนไม่ได้เสียด้วย
ต่างกับวิทยาศาสตร์และเทคโนฯ ที่ต้องอัพเดตข่าวคราวอยู่ตลอดเวลา
เพราะว่ามันเปลี่ยนแปลงบ่อยเหลือเกินน่ะค่ะ...

วัสลามุอะลัยกุมค่ะ

^___________^

 
"และข้ามิได้สร้างญิน และมนุษย์เพื่ออื่นใด เว้นแต่เพื่อเคารพภักดีต่อข้า"

(ซูเราะฮฺ อัซซาริยาต อายะอฺที่ 56)

ออฟไลน์ nada-yoru

  • เพื่อนรัก (6_6)
  • *****
  • กระทู้: 4010
  • เพศ: หญิง
  • แสงและเงา
  • Respect: +134
    • ดูรายละเอียด
Re: นิทานนานาชาติน่ารักๆ(เบาสมอง)
« ตอบกลับ #27 เมื่อ: ก.ย. 23, 2009, 04:27 PM »
0
สิบกิโลตรงไหน เคยเห็นตราซึ่งสถานีรถไฟหรือเปล่านิ

จริงด้วย...ไอ้เราก็นึกไปถึงตาชั่งของแม่ค้าในสถานีโน่นแน่ะ...
แต่ก็ดีนะอิลฮาม น้ำหนักเบาลงตั้งเยอะ...สิบกิโลก็พอแล้วอิลฮาม...
พี่ยังไม่อยากเป็นราชินีช้างงงงงงงงงง... natural: natural:

วัสลามุอะลัยกุมค่ะ

^____________^
"และข้ามิได้สร้างญิน และมนุษย์เพื่ออื่นใด เว้นแต่เพื่อเคารพภักดีต่อข้า"

(ซูเราะฮฺ อัซซาริยาต อายะอฺที่ 56)

ออฟไลน์ nada-yoru

  • เพื่อนรัก (6_6)
  • *****
  • กระทู้: 4010
  • เพศ: หญิง
  • แสงและเงา
  • Respect: +134
    • ดูรายละเอียด
Re: นิทานนานาชาติน่ารักๆ(เบาสมอง)
« ตอบกลับ #28 เมื่อ: ก.ย. 24, 2009, 08:09 PM »
0
 salam

"เศรษฐีสีเขียว"

           มีเศรษฐีคนหนึ่ง  ป่วยเป็นโรคเครียด  เห็นอะไรก็เครียดไปหมด
  ก็เลยประกาศหาคนที่สามารถทำให้เศรษฐีหายเครียดได้
  มีคนอาสามารักษามากมาย  แต่ก็ไม่ทำให้เศรษฐีหายเครียดได้สักคน
 
   ......ต่อมาวันหนึ่ง....มีฤาษีตนหนึ่งรับอาสามารักษาโดยวิธีการรักษาคือ
  ให้เศรษฐีเปลี่ยนทุกอย่างเป็นสีเขียวหมด แล้วก็จะหายเครียดเอง
 
  เศรษฐีได้ยินดังนั้นจึงสั่งให้ทุกคนทาตัวสีเขียว/ใส่เสื้อสีเขียว
  บ้านเรือนอาคารและต้นไม้ก็ทาสีเขียวหมด
  และแล้วเศรษฐีก็ได้หายจากความเครียดนั้นในอีกไม่นาน

  หลังจากนั้น 1 เดือน
  ฤาษีได้มาเยี่ยมเศรษฐีแต่ถูกคนรับใช้สั่งให้ฤาษีทาตัวให้เป็นสีเขียวก่อนเข้าพบ
  ฤาษีไม่ยอม  จนในที่สุดคนรับใช้ห้ามไม่ได้ เลยปล่อยให้เข้าไป
  ทั้ง ๆที่ยังไม่ได้ทาตัวสีเขียว
 
  เมื่อฤาษีได้พบกับเศรษฐีก็ต่อว่า...ว่าทำไมต้องทำทุกอย่างให้เป็นสีเขียวด้วย
  เศรษฐีก็บอกว่าทำตามที่ฤาษีบอก  และก็ได้ผลหายจากโรคเครียดได้
  ฤาษีจึงบอกกับเศรษฐีว่า...

  "ท่านไม่จำเป็นต้องเสียเงินเสียทองทาทุกอย่างให้เป็นสีเขียว
  แค่ท่านใส่แว่นตาสีเขียวเท่านั้น  ท่านก็จะเห็นทุกอย่างเป็นสีเขียวทั้งหมดเอง"


...นิทานเรื่องนี้สอนให้รู้ว่า... 

" หากต้องการเปลี่ยนสิ่งแวดล้อมรอบตัว
      เราไม่จำเป็นต้องเปลี่ยนทุกคนหรือทุกอย่าง
            เราเพียงแค่เปลี่ยนตัวเราเองก่อน
                    แล้วเราจะพบว่าทุกสิ่งรอบตัวเราก็จะเปลี่ยนไปด้วยเช่นกัน "


จากหนังสือ  "การพัฒนาศักยภาพอย่างสมบูรณ์ "
ของ ดร.อาจอง ชุมสาย ณ อยุธยา

_______________________________________________


วัสลามุอะลัยกุมค่ะ

^_____________^

"และข้ามิได้สร้างญิน และมนุษย์เพื่ออื่นใด เว้นแต่เพื่อเคารพภักดีต่อข้า"

(ซูเราะฮฺ อัซซาริยาต อายะอฺที่ 56)

ออฟไลน์ nada-yoru

  • เพื่อนรัก (6_6)
  • *****
  • กระทู้: 4010
  • เพศ: หญิง
  • แสงและเงา
  • Respect: +134
    • ดูรายละเอียด
Re: นิทานนานาชาติน่ารักๆ(เบาสมอง)
« ตอบกลับ #29 เมื่อ: ต.ค. 02, 2009, 01:01 AM »
0
 salam


"เจ้าชายแตงโม"

     กาลครั้งหนึ่งนานมาแล้ว มีแตงโมวิเศษอยู่ต้นหนึ่ง
เป็นของเจ้าชายแห่งเมืองดินดำน้ำดี  แตงโมนี้มีรสชาติหวานอร่อยที่สุด 
แต่จะให้ผลวันละ 1 ลูก เท่านั้น เจ้าชายหวงมาก ไม่ยอมแบ่งให้ใครกินเลย

      อยู่มาวันหนึ่ง แตงโมที่ออกมาในเช้าวันนั้นหายไป เจ้าชายกริ้วมาก 
ประกาศจะลงโทษผู้ที่โขมยแตงโมไป

ทันใดนั้นนกตัวหนึ่งก็บินมาเกาะกิ่งไม้ตรงหน้าพระพักตร์เจ้าชาย 
และสารภาพว่าเป็นผู้โขมยแตงโมไปช่วยชีวิตลูกๆ ที่อดอาหารมาหลายวัน

        "ตอนนี้ลูกข้าหลับไปด้วยความอิ่มหนำแล้ว  เจ้าชายจะลงโทษอะไรข้าก็ยอม"  นกตอบอย่างกล้าหาญ

        "อื๋อ...เพื่อเห็นแก่ความรักที่เจ้ามีต่อบุตร เราจะละเว้นโทษแก่เจ้า" 
เจ้าชายตอบอย่างใจดี

        วันรุ่งขึ้นเกิดเหตุการณ์ประหลาด แตงโมออกผล 2 ลูก
เจ้าชายแปลกพระทัยมาก  แต่ไม่ยอมแบ่งให้ใครอยู่ดี

        วันถัดมาแตงโมที่ออกมา 2 ลูกได้หายไป 1 ลูก เจ้าชายกริ้วมาก
รับสั่งให้ทหารออกตามจับตัวโขมย

ทันใดนั้นก็มีหนูตัวเล็กๆ วิ่งมาสารภาพว่าเป็นผู้โขมยแตงโมไปช่วยชีวิตแม่
ที่กำลังป่วยหนัก

        "ตอนนี้แม่ของข้าก็หายป่วยเพราะแตงโมวิเศษของท่าน
ท่านจะลงโทษอะไรข้าก็ยอม"

        เจ้าชายเห็นแก่ความดีของหนู จึงตอบว่า

        "อื๋อ...เพื่อเห็นแก่ความกตัญญูของเจ้า เราจะเว้นโทษแก่เจ้า"
     
        วันรุ่งขึ้นเกิดเหตุการณ์ประหลาดยิ่งขึ้น แตงโมออกผลเป็น 3 ลูก
เจ้าชายแปลกพระทัยยิ่งนัก แต่ก็คงไม่ยอมแบ่งแตงโมให้ใคร

        ถัดมาอีกวันแตงโมที่ออกมา 3 ลูก เหลือเพียง 2  ลูก
เจ้าชายกริ้วมากกว่าครั้งก่อนๆ รับสั่งให้ทหารจับโขมยให้ได้

และแล้วมีลิงน้อยตัวหนึ่งวิ่งเข้ามาสารภาพว่า
เป็นผู้ขโมยแตงโมไปช่วยฝูงลิงที่กำลังจะอดน้ำตาย

        "ตอนนี้พรรคพวกข้าก็รอดตายแล้ว เจ้าชายจะลงโทษอะไรข้าก็ยอม"
        เจ้าชายเห็นแก่ความดีของลิงน้อยจึงตอบว่า

        "อื๋อ...เพื่อเห็นแก่ความห่วงใยที่เจ้ามีต่อพวกพ้อง เราจะละเว้นโทษแก่เจ้า"

        วันรุ่งขึ้นแตงโมออกผลเป็น 4 ลูก คราวนี้เจ้าชายไม่แปลกพระทัย
เพราะพระองค์ทรงรู้แล้วว่า แตงโมวิเศษของพระองค์จะออกลูกเพิ่มขึ้นทุกครั้ง
ที่พระองค์แบ่งให้คนอื่น ดังนั้นจึงมีรับสั่งให้ทหารนำแตงโมไปแบ่งให้ราษฎร
และสัตว์ใหญ่น้อยทุกวัน

        จากนั้นแตงโมก็เพิ่มขึ้นเรื่อยๆ เป็นสิบเป็นร้อย
ชาวเมืองจึงขนานนามพระองค์ตั้งแต่นั้นมาว่า " เจ้าชายแตงโม"


ที่มา:นิทานเรื่องเจ้าชายแตงโม ซึ่งเป็นผลงานที่ได้รับรางวัลภาพประกอบดีเด่น
จากการประกวดนิทานมูลนิธิเด็ก ครั้งที่ 5
ผลิตโดย มูลนิธิเด็ก(เพื่อเด็กที่ตกอยู่ในความมืดมน)

คืนนี้...ขอให้หลับฝันดีนะคะ...

วัสลามุอะลัยกุมค่ะ

^___________^

 loveit: loveit:
"และข้ามิได้สร้างญิน และมนุษย์เพื่ออื่นใด เว้นแต่เพื่อเคารพภักดีต่อข้า"

(ซูเราะฮฺ อัซซาริยาต อายะอฺที่ 56)

 

GoogleTagged