ผู้เขียน หัวข้อ: นิทานนานาชาติน่ารักๆ(เบาสมอง)  (อ่าน 49642 ครั้ง)

0 สมาชิก และ 1 บุคคลทั่วไป กำลังดูหัวข้อนี้

ออฟไลน์ nada-yoru

  • เพื่อนรัก (6_6)
  • *****
  • กระทู้: 4010
  • เพศ: หญิง
  • แสงและเงา
  • Respect: +134
    • ดูรายละเอียด
Re: นิทานนานาชาติน่ารักๆ(เบาสมอง)
« ตอบกลับ #75 เมื่อ: ธ.ค. 07, 2009, 10:51 PM »
0


ตุ๊ดตู่ตายต่างแลน


ผมเกิดที่อำเภอสิชล จังหวัดนครศรีธรรมราช

ตำบลที่ผมเกิดและเติบโต มีคำ "พังเพย" ท้องถิ่น ที่คนในละแวกนั้นพูดเปรียบเปรย
ในท่วงทำนองเย้ยหยัน คนที่ยอมเอาตัวเข้าแลกกับประโยชน์เล็กๆน้อยๆ
เสี่ยงเอาความเป็นความตาย หรือแบกเอาความเสื่อมเสียเป็นเดิมพัน
โดยไม่คุ้มค่าใดในทุกๆมิติ

คำพังเพยนั้นก็คือ "ตุ๊ดตู่ ตายต่างแลน"

เช่น เวลาลูกหลานคนหนึ่งคนใด ดึงดันที่จะขันอาสาเพื่อนบ้าน
เพื่อไปทำการงานแทนเพื่อหวังผลประโยชน์ตอบแทนเล็กๆน้อย ไร้คุณค่า
แต่ลูกหลานยังยอมตนเข้าทำการงานนั้น คนเฒ่าคนแก่จะดุด่าว่า


"มึงจะเป็นตุ๊ดตู่ตายต่างแลนหรือ"

ผมสงสัยยิ่งนัก สอบถามคนเฒ่าคนแก่ในละแวกบ้านทุ่งคา(บ้านเกิดผม) 
คนเฒ่าคนแก่หลายคนให้ความกระจ่างตรงกันว่า

"ตุ๊ดตู่" คือสัตว์ชนิดหนึ่ง มีขนสีดำคล้ายๆหนู น่าขยะแขยง
แต่ตัวโตกว่าหนู ขุดรูอยู่อาศัย หรืออยู่ตามโพรงหรือตอไม้ผุ 
ชอบกินตะกละ ไม่เลือกแม้เศษอาหารเน่าๆ

ส่วน "แลน" ภาคใต้ก็คือ "เหี้ย" ของคนภาคกลางนั่นแหละครับ
ชอบแอบกินไข่เป็ด ไข่ไก่ชาวบ้าน ไม่ละเว้นแม้แต่ไข่งูพิษทุกชนิด


วันหนึ่ง "แลน" หรือ "เหี้ย" ได้ชักชวนให้ตุ๊ดตู่ ออกมาช่วยกันทำมาหากินกัน
โดยแบ่งหน้าที่กันทำ(การทำมาหากินเป็นการเมืองของสัตว์
ส่วนการเมืองของมนุษย์ เป็นความพยายามจัดสรรทรัพยากร
และภาระหน้าที่อย่างเป็นธรรมที่สุด เท่าที่จะทำกันได้)

มาว่ากันต่อครับ "แลน" ออกอุบายให้ตุ๊ดตู่หลอกล่อให้งูจงอาง
ที่กำลังหวงไข่อยู่โมโห เพื่องูจงอางจะได้ออกจากที่ฟักไข่เพื่อไล่ล่าตัวตุ๊ดตู่

"แลน"วางแผนให้ "ตุ๊ดตู่" ยั่วยุให้งูจงอางออกไล่ล่าตุ๊ดตู่ 
แล้วให้ตุ๊ดตู่รีบหนีลงรู  แลนจะเข้ารังงูจงอาง 
ในระหว่างที่จงอางรออยู่ที่ปากรูของตุ๊ดตู่นั้น
ขอให้ตู๊ดตู่ รีบขุดรูหาทางออกอีกทางหนีออกมากินไข่งูจงอางด้วยกัน

เมื่อรับแผนดังกล่าวแล่ว ตู๊ดตู่  ก็รีบดำเนินการตามแผนของแลนในทันที

ขณะที่ตุ๊ดตู่รีบขุดรูหนีออกมา ตัวแลนก็กินไข่งูจงอางจนอิ่มแปล้
แล้วแลนก็รีบวิ่งหนี้ขึ้นไปบนต้นไม้ใหญ่(มิใช่ที่ลอนดอน)อย่างปลอดภัย
เหลือเศษเปลือกไข่งู และไข่เน่าๆอีกเล็กน้อย ฟองสองฟอง

ตู๊ดตู่ รีบบึ่งมาด้วยความตะกละ เห็นเศษไข่และไข่เน่าเหลืออยู่ 
โดยไม่มีจงอางคอยปกป้อง จึงพุ่งเข้ากินตามแผนการที่แลนวางเอาไว้
โดยมิได้ระมัดระวังตามสันดานตะกละ

ทันใดนั้น จงอางก็กลับมา  เห็นตู๊ดตู่ เจ้าตัวดำสกปรก กำลังกินเศษไข่
หวังจะกินให้เกลี้ยงรัง  งูจงอางจึงฉกเขี้ยวลงบนหัวเจ้าตุ๊ดตู่
พ่นพิษร้ายเข้าใส่จนตายคารังจงอาง(ศพตุ๊ดตู่ เมื่อเน่าขึ้นอืด น่ากลัวเป็นที่สุด
เพราะขณะที่มีชีวิตอยู่ก็พองอืด น่าขยะแขยงอยู่แล้ว
ท่านลองหาดูในทีวีบางช่องได้)

ส่วน "แลน" หรือ "เหี้ย" แอบดูความตายของเจ้า "ตุ๊ดตู่" จากแดนไกล
(คือดูจากยอดไม้ที่หนีขึ้นไปอยู่ไง มิใช่แอบดูจาก ดูไบ)

นิทานเรื่อง "ตุ๊ดตู่ ตายต่างแลน" หรือตายต่างเหี้ย  จึงจบลงด้วยประการฉะนี้


ผมเอาคำพังเพยท้องถิ่นมาเล่า และสืบค้นไปถึงนิทาน
อันเป็นที่มาของคำพังเพยดังกล่าว
โดยไม่เกียวกับการเมืองของโลกมนุษย์ใดๆทั้งสิ้น

หากใครจะเข้าใจว่า เป็นสังคมการเมืองของสัตว์ ผมคงเถียงไม่ขึ้น

ก็ "ตู๊ดตู่ ตายต่างแลน"  หรือ"ตุ๊ดตู่ ตายต่างเหี้ย" มันเป็นเรื่องของสัตว์ล้วนๆนี่ครับ


ที่มา: http://www.oknation.net



ปล.เอามาทั้งดุ้นเลยค่ะ...หากไม่เหมาะสมอย่างไร ลบได้เลยนะคะ...
เพราะจริงๆนิทานเรื่องตุ๊ดตู่ตายต่างแลนนั้นเป็นนิทานที่คนเฒ่าคนแก่
เล่าให้ฟังกันมา เป็นนิทานปักษ์ใต้(ซึ่งอาจมีเพียงในบางพื้นที่)ค่ะ...
เพียงแต่ข้าน้อยลองหาดูในกูเกิ้ลแล้วเจอเข้าพอดี
เลยหยิบมาทั้งอย่างนี้เลย...


วัสลามค่ะ







"และข้ามิได้สร้างญิน และมนุษย์เพื่ออื่นใด เว้นแต่เพื่อเคารพภักดีต่อข้า"

(ซูเราะฮฺ อัซซาริยาต อายะอฺที่ 56)

ออฟไลน์ hiddenmin

  • เพื่อนรัก (6_6)
  • *****
  • กระทู้: 2453
  • เพศ: ชาย
  • 404 not found
  • Respect: +76
    • ดูรายละเอียด
    • Ikhlas Studio
Re: นิทานนานาชาติน่ารักๆ(เบาสมอง)
« ตอบกลับ #76 เมื่อ: ธ.ค. 07, 2009, 10:59 PM »
0
ตามนิทานแล้วแลนมันขึ้นต้นตโนดใช่ป่าว

อิอิ

ออฟไลน์ nada-yoru

  • เพื่อนรัก (6_6)
  • *****
  • กระทู้: 4010
  • เพศ: หญิง
  • แสงและเงา
  • Respect: +134
    • ดูรายละเอียด
Re: นิทานนานาชาติน่ารักๆ(เบาสมอง)
« ตอบกลับ #77 เมื่อ: ธ.ค. 07, 2009, 11:10 PM »
0
^

นั่นมันน่่าจะเรื่อง หมายิก(ไล่ล่า/วิ่งไล่)แลน
แล้วแลนวิ่งขึ้นต้นตาล(ต้นโหนด)หรือเปล่าพี่น้องงงงงง 555

"และข้ามิได้สร้างญิน และมนุษย์เพื่ออื่นใด เว้นแต่เพื่อเคารพภักดีต่อข้า"

(ซูเราะฮฺ อัซซาริยาต อายะอฺที่ 56)

ออฟไลน์ ILHAM

  • เพื่อนตาย T_T
  • *****
  • กระทู้: 11348
  • เพศ: ชาย
  • Sherlock Holmes
  • Respect: +273
    • ดูรายละเอียด
    • ILHAM
Re: นิทานนานาชาติน่ารักๆ(เบาสมอง)
« ตอบกลับ #78 เมื่อ: ธ.ค. 08, 2009, 01:03 AM »
0
แลนกลัวหมาด้วยหรอ
إن شاءالله ติด ENT'?everybody

Sherlock Holmes said "How often have I said to you that when you have eliminated the impossible, whatever remains, however improbable, must be the truth?"
-------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------

ออฟไลน์ nada-yoru

  • เพื่อนรัก (6_6)
  • *****
  • กระทู้: 4010
  • เพศ: หญิง
  • แสงและเงา
  • Respect: +134
    • ดูรายละเอียด
Re: นิทานนานาชาติน่ารักๆ(เบาสมอง)
« ตอบกลับ #79 เมื่อ: ธ.ค. 13, 2009, 05:31 PM »
0


salam




เศรษฐีคนหนึ่งชอบใจลูกสาวชาวนายากไร้ผู้หนึ่ง
เขาเชิญชาวนากับลูกสาวไปที่สวนในคฤหาสน์ของเขา
เป็นสวนกรวดกว้างใหญ่ที่มีแต่กรวดสีดำกับสีขาว
เศรษฐีบอกชาวนาว่า...


ชาวนาไม่ตกลง
เศรษฐีบอกว่า
"ถ้าเช่นนั้นเรามาพนันกันดีไหม
ข้าจะหยิบกรวดสองก้อนขึ้นมาจากสวนกรวดใส่ในถุงผ้านี้
ก้อนหนึ่งสีดำ ก้อนหนึ่งสีขาว
ให้ลูกสาวของท่านหยิบก้อนกรวดจากถุงนี้
หากนางหยิบได้ก้อนสีขาว ข้าจะยกหนี้สินให้ท่าน
และนางไม่ต้องแต่งงานกับข้า
แต่หากนางหยิบได้ก้อนสีดำ นางต้องแต่งงานกับข้า
และแน่นอน ข้าจะยกหนี้ให้ท่านด้วย"

ชาวนาตกลง
เศรษฐีหยิบกรวดสองก้อนใส่ในถุงผ้า
หญิงสาวเหลือบไปเห็นว่ากรวดทั้งสองก้อนนั้นเป็นสีดำ

เธอจะทำอย่างไร?
หากเธอไม่เปิดโปงความจริง ก็ต้องแต่งงานกับเศรษฐีขี้โกง
หากเธอเปิดโปงความจริง เศรษฐีย่อมเสียหน้า และยกเลิกเกมนี้
แต่บิดาของเธอก็ยังคงเป็นหนี้เศรษฐีต่อไปอีกนาน

ลูกสาวชาวนาเอื้อมมือลงไปในถุงผ้า  หยิบกรวดขึ้นมาหนึ่งก้อน
พลันเธอปล่อยกรวดในมือร่วงลงสู่พื้น
กลืนหายไปในสีดำและขาวของสวนกรวด

เธอมองหน้าเศรษฐี เอ่ยว่า
"ขออภัยที่ข้าพลั้งเผลอปล่อยหินร่วงหล่น
แต่ไม่เป็นไร ในเมื่อท่านใส่กรวดสีขาวกับสีดำอย่างละหนึ่งก้อนลงไปในถุงนี้
ดังนั้นเมื่อเราเปิดถุงออกดูสีกรวดก้อนที่เหลือ
ก็ย่อมรู้ทันทีว่า กรวดที่ข้าหยิบไปเมื่อครู่เป็นสีอะไร"

ที่ก้นถุงเป็นกรวดสีดำ

"...ดังนั้นกรวดก้อนที่ข้าทำตกย่อมเป็นสีขาว"

ชาวนาพ้นสภาพลูกหนี้ และลูกสาวไม่ต้องแต่งงานกับเศรษฐีขี้โกงคนนั้น   


...วินทร์ เลียววาริณ...

;D ;D ;D

วัสลามค่ะ


"และข้ามิได้สร้างญิน และมนุษย์เพื่ออื่นใด เว้นแต่เพื่อเคารพภักดีต่อข้า"

(ซูเราะฮฺ อัซซาริยาต อายะอฺที่ 56)

ออฟไลน์ nada-yoru

  • เพื่อนรัก (6_6)
  • *****
  • กระทู้: 4010
  • เพศ: หญิง
  • แสงและเงา
  • Respect: +134
    • ดูรายละเอียด
Re: นิทานนานาชาติน่ารักๆ(เบาสมอง)
« ตอบกลับ #80 เมื่อ: ธ.ค. 13, 2009, 05:49 PM »
0


ชายพิการผู้มีหัวใจร่าเริง


ชายคนหนึ่งเคยมีชีวิตที่สะดวกสบาย
เขาเคยมีบ้านหลังใหญ่โต มีรถขับหลายคัน
มีบริวารมากมายรายล้อม
ปรนเปรอชีวิตตนเองด้วยความหรูหราฟู่ฟ่าตลอดมา
บัดนี้ทุกอย่างเปลี่ยนไปจากหน้ามือเป็นหลังมือ
ธุรกิจที่เคยสร้างกำไรอย่างงามของเขาล้มละลายหมดสิ้น
ชายคนนี้กลายเป็นคนสิ้นเนื้อประดาตัว
เขาไม่มีอะไรเหลืออีกแล้ว
นอกจากลูกสาวตัวเล็กๆ สุดที่รักเพียงคนเดียว


เมื่อแรกที่ต้องสูญเสียสมบัตินอกกายไป
ชายผู้นี้คิดจะฆ่าตัวตายเพื่อให้พ้นความอับอาย
และหลีกหนีความเป็นอยู่ในปัจจุบันที่เขาไม่คุ้นชิน
แต่เมื่อเขาเงื้อมีดขึ้นเพื่อปลิดชีวิตตนเอง
ใบหน้าน้อยๆ น่าเอ็นดูของลูกสาววัยห้าขวบก็ปรากฏขึ้นในจิตใจ
แม่ของเด็กตายจากไปนานแล้ว ลูกสาวมีเพียงเขาเป็นที่พึ่งสุดท้าย
หากเขาเป็นอะไรไปแล้วลูกจะอยู่กับใคร
ด้วยความคิดที่ผุดขึ้นมานี้ ทำให้เขาทิ้งมีดในมือทันที
และไม่คิดฆ่าตัวตายอีก แต่ก็ใช้ชีวิตด้วยความหมองเศร้ายิ่งกว่าเดิม


วันหนึ่งลูกสาวของเขากลับมาจากโรงเรียน
เธอวิ่งเข้ามาหาพ่อแล้วโอบกอดด้วยความรักใคร่
พ่อของเด็กกอดตอบและฝืนยิ้มให้ลูกสาวอย่างยากเย็น

"พ่อยิ้มแบบนี้ทุกวันเลย พ่อยิ้มแบบนี้ลูกไม่ชอบ สู้ไม่ยิ้มเลยยังจะดีเสียกว่า"
เด็กหญิงบอกกับพ่อเธอพลางใช้มือน้อยๆ บีบปากผู้เป็นพ่อเบาๆ

"ทำไมล่ะลูก" พ่อถามอย่างสงสัย

"ก็พ่อยิ้มแบบนี้แล้วหน้าของพ่อเหมือนจะร้องไห้ ลูกเลยไม่ชอบ
ลูกไม่อยากให้พ่อร้องไห้" เด็กหญิงตอบ

ผู้เป็นพ่อหัวเราะเยาะกับชะตากรรมของตนเอง ก่อนจะบอกลูกสาวว่า
"ที่จริงแล้ว พ่อก็อยากร้องไห้เหมือนกันล่ะลูก"

"ทำไมพ่อต้องอยากร้องไห้ด้วย" เด็กหญิงขมวดคิ้ว

"แล้วลูกไม่อยากร้องไห้หรือ" พ่อของเด็กย้อนถาม

"ร้องไห้ทำไมลูกไม่ได้เศร้าอะไรนี่ ลูกมีคงวามสุขดีจ้ะพ่อ "เด็กหญิงตอบยิ้มๆ

"มีความสุขหรือ" ผู้เป็นพ่อเอ่ยอย่างแปลกใจ

"จะเป็นอย่างนั้นได้อย่างไน ในเมื่อพ่อทำให้ชีวิตลูกลำบากถึงเพียงนี้
ลูกไม่มีห้องนอนสวยๆ เหมือนก่อน ไม่มีที่วิ่งเล่นกว้างๆ
ไม่มีคนขับรถไปรับไปส่งโรงเรียน ไม่มีเสื้อผ้าสวยๆ ใส่
ไม่มีอาหารดีๆ กิน แล้วอย่างนี้ลูกจะมีความสุขได้อย่างไรกัน"

"ลูกมีความสุขเพราะลูกมีพ่อ เมื่อก่อนตอนเราร่ำรวยนั้น
พ่อไม่เคยอยู่ที่บ้านของเราเลย ตอนนี้เราไม่มีบ้านแล้ว
แต่ลูกได้พ่อคืนมา ลูกถึงมีความสุขอย่างไรล่ะจ๊ะ"
เด็กหญิงตอบอย่างชื่นบาน

ผู้เป็นพ่อนิ่งไปครู่หนึ่งกับคำตอบของลูกสาว ก่อนจะพูดขึ้นอีกว่า

"แต่พ่ออยากทำชีวิตของเราให้ดีกว่านี้ พ่ออยากให้ลูกมีอนาคต
อย่างน้อยลูกก็ควรจะได้เรียนสูงๆ"

"พ่อทำได้นี่ ไม่ยากหรอกจ้ะ สำหรับพ่อของลูก"
เด็กหญิงว่าอย่างไร้เดียงสา

"พ่อ...ไม่รู้จะเริ่มอย่างไร พ่อไม่เหลือทุนให้กับธุรกิจใหม่อีกแล้ว
พ่อละอายใจเหลือเกิน" ผู้เป็นพ่อคร่ำครวญ

"มีคุณลุงคนหนึ่งอยู่ข้างๆ โรงเรียนของหนู เขาเป็นคนที่ทำงานเก่งมาก
แล้วใจดีด้วย เวลาใครไม่สบายใจแล้วไปหาเขา
เขาก็จะช่วยให้คนๆ นั้นสบายใจ พ่อลองไปหาเขาสิจ๊ะ" เด็กหญิงว่า

"คนทำงานเก่งๆ มักยุ่งอยู่ตลอดเวลา เขาคงไม่มีเวลาคุยกับพ่อหรอก
เพราะต้องออกไปติดต่อธุระนอกบ้านบ่อยๆ" ผู้เป็นพ่อกล่าว

"ไม่จ้ะ คุณลุงคนนี้อยู่แต่ในบ้าน และไม่มีวันออกไปไหน"
เด็กหญิงบอกพ่อของเธอ ตอนนั้นเองมีเด็กข้างห้องเช่ามาเคาะประตู
เรียกให้เด็กหญิงออกไปเล่นด้วยกัน เด็กหญิงจึงเอากระเป๋านักเรียนไปเก็บ
ก่อนจะวิ่งออกไปเล่นข้างนอก
ทิ้งพ่อของเธอให้ครุ่นคิดในเรื่องดังกล่าวด้วยความสนใจ


‘ถ้าคนๆ นี้ทำให้เด็กห้าขวบสนใจในตัวเขาได้ และถึงกับแนะนำเราให้เราไปหา
เขาก็น่าจะมีอะไรพิเศษในตัวเองอยู่เหมือนกัน งั้นเราจะลองไปดูก็ได้’
ผู้เป็นพ่อคิดในใจ


เช้าวันรุ่งขึ้น หลังจากส่งลูกเข้าโรงเรียนแล้ว
ชายผู้นี้จึงไปเดินหาบ้านของชายดังกล่าวตามที่ลูกสาวของเขาบอก
ไม่นานเขาก็เจอบ้านของคนๆ นั้น
ซึ่งดูภายนอกก็เป็นบ้านขนาดกะทัดรัดธรรมดาๆ หลังหนึ่งเท่านั้น


ชายผู้นี้รู้สึกลังเลใจ นี่ลูกสาวของเขาพูดจริงหรือล้อเขาเล่นกันแน่
คนที่ทำงานเก่งก็น่าจะอยู่ในบ้านที่ใหญ่โตโอ่อ่ามิใช่หรือ

ขณะนั้นเองมีหญิงวัยกลางคนท่าทางใจดีคนหนึ่งเดินมาที่รั้วหน้าบ้าน
แล้วถามเขาว่าต้องการพบใคร ชายผู้นี้จึงเล่าเรื่องที่ได้รับรู้มาจากลูกสาวของตน
ให้หญิงคนนั้นฟัง เธอฟังอย่างสงบแล้วยิ้มน้อยๆ
ก่อนจะเปิดประตูรั้วเชื้อเชิญให้เขาเข้ามาในบ้านอย่างมีไมตรี


"คนที่คุณต้องการพบ คงจะหมายถึงสามีของดิฉันนะคะ"
เธอบอกในขณะเดินนำเขาเข้าสู่ตัวบ้าน

"กรุณานั่งรออยู่ตรงนี้ก่อนนะคะ เดี๋ยวดิฉันจะเข้าไปบอกสามีของดิฉันให้
ไม่ทราบว่าเขากำลังทำงานอยู่รึเปล่านะค่ะ"
แล้วเธอก็เดินหายไปในห้องๆ หนึ่งที่อยู่ใกล้ๆ กันกับห้องรับแขก


แต่เขาไม่ได้นั่งรอตามคำเชิญ เพราะมีบางสิ่งเบนความสนใจของเขาไปแล้ว
ชายผู้นี้เดินไปจับจ้องดูสิ่งของในตู้กระจกใบหนึ่ง
ซึ่งในนั้นมีเกียรติบัตรสีทองตั้งตระหง่านบอกความสามารถของเจ้าของ
ชายผู้นี้ได้อ่านข้อความในเกียรติบัตรนั้นทีละคำ

"เกียรติบัตรฉบับนี้ มอบให้เพื่อเป็นเกียรติแด่ตัวแทนบริษัทประกันชีวิต
ซึ่งทำยอดขายประกันได้เป็นอันดับหนึ่งติดต่อมาถึงสามสมัยซ้อน"

จากนั้นเขาก็กวาดตาอ่านเกียรติบัตรฉบับอื่นๆ อีกมากมาย
ที่ตั้งอยู่ในตู้ใบนั้น ซึ่งล้วนแล้วแต่แสดงให้เห็นความสามารถทางการขาย
และความก้าวหน้าในอาชีพการงานของเจ้าของเกียรติบัตรเหล่านี้ได้เป็นอย่างดี

"นั่นเป็นผลงานของสามีดิฉันค่ะ"
ภรรยาเจ้าของบ้านเดินมากล่าวแก่เขาด้วยใบหน้ายิ้มละไม

"โปรดอภัยด้วยที่ผมทำเหมือนละลาบละล้วงมากไปสักหน่อย"
ชายผู้นี้กล่าวอย่างเก้อเขิน

"ไม่ได้เป็นการละลาบละล้วงอะไรเลยค่ะ เชิญคุณเข้าไปหาสามีดิฉันเถอะ
เขาอยากคุยกับคุณค่ะ"

ชายผู้นี้กล่าวคำขอบคุณแก่ภรรยาเจ้าของบ้าน
ก่อนจะเดินเก้ๆ กังๆ เข้าไปในห้องของสามีเธอ

เขาคาดว่าห้องนั้นน่าจะเป็นห้องทำงาน ที่มีเอกสารทางธุรกิจมากมายวางสุมอยู่
แต่ไม่ใช่เลย เพราะห้องนี้เป็นเพียงห้องนอนธรรมดาๆ
และมีชายพิการคนหนึ่งนอนอยู่บนเตียงเท่านั้น

"เอ่อ..." ชายผู้นี้ไม่รู้จะพูดอะไรดี เขารู้สึกมึนงงกับสถานการณ์ตรงหน้า
แต่ดูเหมือนว่าชายพิการจะเข้าใจอะไรๆ ได้ดีมากทีเดียว
เขามองผู้มาเยือนแล้วยิ้มให้อย่างเป็นมิตร
ก่อนเชื้อเชิญให้ชายคนนั้นนั่งลงที่เก้าอี้ตัวหนึ่งซึ่งวางอยู่ข้างๆ เตียงเขา

"ผมได้ข่าวจากลูกสาวว่า...ไม่รู้สิ เธอบอกว่าคุณทำงานเก่งมาก
เลยลองให้ผมมาขอคำปรึกษาจากคุณดู...แต่..."

ชายผู้มาเยือนกล่าวอย่างติดๆ ขัด เขาชักไม่แน่ใจ...
เป็นการยากที่จะเชื่อว่า คนพิการคนนี่คือคนทำงานเก่งอย่างที่ลูกสาวของเขาว่า
และยากที่จะเชื่อว่าเกียรติบัตรทั้งหมดในตู้ที่ห้องรับแขกนั้น
เป็นของชายพิการคนนี้ หรือเขาจะได้ของเหล่านี้มาตอนที่ยังปกติดี...
ใช่แล้ว น่าจะเป็นเช่นนั้นแหละ

"ผมเป็นอย่างนี้มานานแล้วล่ะ เป็นโรคประหลาดที่หาสาเหตุไม่ได้"
ชายพิการกล่าวเสมือนอ่านความคิดของชายผู้นี้ได้

"หลายสิบปีมาแล้ว วันหนึ่งผมตื่นขึ้นมาพบว่าขาของผมแข็งทื่อจนขยับไม่ได้
แม้รักษาอย่างไรก็ไม่หาย ต่อมาอาการแข็งทื่อก็ลุกลามมาถึงเอว ลำตัว
และมือของผม จนในที่สุดผมก็เคลื่อนไหวไปไหนไม่ได้
ต้องนอนแช่อยู่แต่บนเตียงอย่างที่คุณเห็นนี่แหละ"

"คุณเป็นตัวแทนขายประกันด้วยหรือ" ชายผู้นั้นถามอย่างไม่แน่ใจ

"ใช่ ผมทำงานขายประกัน หลังจากเป็นแบบนี้ผมก็ต้องออกจากที่ทำงานเก่า
แล้วเริ่มทำงานขายประกัน ซึ่งผมว่าผมก็ทำได้พอใช้นะ" ชายพิการตอบยิ้มๆ

"ไม่หรอกครับ ผมว่าคุณทำได้ดีมากทีเดียว
แต่คุณขายประกันมากมายอย่างนั้นได้อย่างไรกัน
ในเมื่อคุณไปไหนมาไหนไม่ได้ คงไม่มีใครมาหาคุณ
เพื่อขอซื้อประกันถึงบ้านหรอกนะ" ชายผู้มาเยือนถามอย่างแคลงใจ


"ดูเหมือนว่า คุณจะสงสัยในตัวผมมากทีเดียว...
ถูกแล้วครับ ไม่มีใครมาหาผมถึงที่นี้หรอก
และถึงแม้ผมจะไปไหนมาไหนไม่ได้
ก็ไม่ได้หมายความว่าผมจะต้องนอนมองเพดานอย่างเดียวเสียเมื่อไร
ถึงผมจะพิการแต่หัวใจผมยังแข็งแรงดี ผมจึงคิดที่จะทำนั้นทำนี่
แม้ว่าตัวเองจะเคลื่อนไหวไม่ได้"

พูดจบชายพิการก็ทำหน้าพยักเพยิดไปทางโทรศัพท์
ที่วางอยู่บนโต๊ะใกล้ๆ หัวเตียง

"ผมใช้โทรศัพท์นี่คุยติดต่อกับลูกค้า โดยให้ภรรยาช่วยถือหูให้
ซึ่งลูกค้าของผมก็ยินดีที่จะติดต่อกับผมด้วยวิธีนี้
เพราะฉะนั้นอะไรๆ มันก็เลยง่ายขึ้น

"ทำไมคุณต้องดิ้นรนตัวเองขนาดนี้ คุณไม่สบาย
หากคุณเอาแต่นอนก็ไม่มีใครว่าอะไรคุณหรอก" ชายผู้มาเยือนว่า

"ผมยังเชื่อมั่นในสมองของผม
คุณคิดว่าคนเรามีชีวิตอยู่ได้เพราะกำลังกายหรือ...
เปล่าเลย คนเราอยู่ได้เพราะกำลังใจ แม้จะมีแขนขาที่กำยำล่ำสันเพียงไร
แต่ถ้าไร้กำลังใจ แขนขานั้นก็ไร้ความหมาย
ผมเป็นอย่างนี้ใช่ว่าไม่เคยเสียใจ แต่ถ้าเอาแต่เสียใจก็ไม่เห็นว่าจะมีอะไรดีขึ้น
ดังนั้นผมจึงคร้านที่จะเสียใจ ผมว่าผมสู้ดีกว่า...
คุณดูกระดาษที่ติดอยู่บนหัวนอนผมสิ"

ชายพิการเหลือบตามองขึ้นไปทางผนังเหนือหัวเตียงของเขา
มีกระดาษแผ่นหนึ่งติดอยู่อย่างง่ายๆ

"นั่นคือคติพจน์ในการมีชีวิตอยู่ของผม
ผมเขียนขึ้นด้วยกำลังใจของผมเอง
คติพจน์ข้อแรกคือ อย่าวิตกกังวล
และข้อสองคือ ถึงป่วยไข้ก็อย่าหมดกำลังใจ"

"คุณเป็นคนน่าอัศจรรย์มาก" ผู้มาเยือนกล่าวด้วยความทึ้งระคนชื่นชม

"ขอบคุณครับ แต่ผมคงต้องขอบคุณภรรยาของผมและลูกสาว
ซึ่งเป็นครูอนุบาล รวมทั้งเด็กๆ จากโรงเรียนของเธอด้วย
ที่แวะมาเยี่ยมเยียนผมบ่อยๆ เพราะเด็กๆ ได้มอบความเบิกบานให้แก่ผม
เป็นอย่างมาก ผมคิดว่าผมรู้จักลูกสาวของคุณนะ
แกมาที่นี้กับลูกสาวของผมบ่อยๆ และแม่หนูน้อยนั้นก็หน้าตาเหมือนคุณมาก
คุณเป็นพ่อที่เลี้ยงลูกได้ดี เพราะแกเป็นเด็กที่น่ารัก
อยู่เพื่อแกเถอะ ขอให้ใช้ชีวิตต่อไปนี้เพื่อแก

"แต่ถ้าคุณท้อแท้ให้นึกถึงผม ตัวผมนั้นไม่เคยท้อถอยโดยเหตุที่ใช้มือไม่ได้เลย
แน่นอนว่าสิ่งที่ผมเป็นอยู่นี้ทำให้ผมทำงานไม่ได้
และยิ่งลำบากมากในการติดต่อธุรกิจการงาน
แต่ถ้าเราสู้ต่อไป และค่อยๆ คิดหาวิธีแก้ไขสิ่งบกพร่องนี้
เราก็จะทำอะไรได้ตามที่ตั้งใจไว้...

ถ้าคุณจำต้องเสียอะไรไปและเอาคืนกลับมาไม่ได้ ก็ช่างมันเถอะ
แต่อย่ายอมเสียหัวใจที่ร่าเริงเด็ดขาด
เพราะหัวใจที่ร่าเริงจะไม่ยอมให้เจ้าของมันล้มเหลวหรอก เชื่อผมสิ"
ชายผู้พิการกล่าวพร้อมรอยยิ้ม

แน่นอนว่าชายผู้นี้เดินออกจากบ้านของชายพิการด้วยกำลังใจที่เปี่ยม
เขายังคงไม่มีเงินทุนสำหรับเริ่มธุรกิจ แต่มีแรงสู้เพิ่มขึ้นเต็มหัวใจ
ชายผู้นี้เชื่อว่าด้วยแรงใจที่เต็มเปี่ยมนี้
จะทำให้เขาสามารถสร้างชีวิตใหม่ให้ดีขึ้นได้
ดังที่ชายพิการผู้มีหัวใจร่าเริงได้บอกเอาไว้นั่นเอง



...............เธอทั้งหลาย..................

ในสังคมที่มนุษย์ต้องแก่งแย่งแข่งขันกันอย่างเอาเป็นเอาตายนี้
เรามักจะเห็นผู้พ่ายแพ้เกิดมามากกว่าผู้ชนะเสมอ
ดังนั้น หากทั้งชีวิตของเธอจะต้องพบกับความพ่ายแพ้บ้างครั้งสองครั้ง
ก็ไม่เห็นจะเป็นไร...ในเมื่อสมองและหัวใจเธอยังดีอยู่
เธอจะกลัวความพ่ายแพ้ไปทำไมกัน

สำหรับชายพิการคนนี้ เขาเป็นแบบอย่างที่ดีสำหรับพวกเราทุกคน
หากแม้นว่าชายคนนี้ยังมีใจร่าเริงได้ ทั้งๆ ที่ตัวเองพิการไร้มือไร้เท้า
แล้วเราจะมีข้อแก้ตัวอันใดมาคร่ำครวญ
ถึงความไม่พอใจในสิ่งที่ตนเองมีอยู่กันเล่า...

เธอรู้จักใครบ้าง ที่พร่ำบ่นเพราะเขาไม่ได้รับประทานอาหารเช้า
อย่างที่เขาต้องการ

ใครบ้างที่หงุดหงิดอยู่นั่นแล้วเวลาที่ตนเองเป็นหวัด
เวลาที่ไม่ได้ออกไปเที่ยวเล่น เวลาที่ทำอะไรไม่ได้ดั่งใจ
เวลาที่ไม่พอใจในสิ่งที่เขาเป็น
หรือแม้แต่เวลาที่เขาเป็นทุกข์เพราะเรื่องเดิมซ้ำๆ ซากๆ อยู่ตลอดเวลา...

หากเธอรู้จักคนๆ นั้น ก็จงเล่าเรื่องชายพิการผู้มีหัวใจร่าเริงให้เขาฟังเถิด


จากหนังสือด้วยรักบันดาลนิทานสีขาวของดร.อาจอง ชุมสาย ณ อยุธยา


วัสลามค่ะ

"และข้ามิได้สร้างญิน และมนุษย์เพื่ออื่นใด เว้นแต่เพื่อเคารพภักดีต่อข้า"

(ซูเราะฮฺ อัซซาริยาต อายะอฺที่ 56)

ออฟไลน์ nada-yoru

  • เพื่อนรัก (6_6)
  • *****
  • กระทู้: 4010
  • เพศ: หญิง
  • แสงและเงา
  • Respect: +134
    • ดูรายละเอียด
Re: นิทานนานาชาติน่ารักๆ(เบาสมอง)
« ตอบกลับ #81 เมื่อ: ธ.ค. 13, 2009, 05:57 PM »
0


ท่านรู้ได้อย่างไร


มีชายชราผู้หนึ่งที่ดูเหมือนจะมีทุกสิ่งทุกอย่างในชีวิตครบแล้ว
เขามีลูกชายหัวแก้วหัวแหวนคนหนึ่ง
มีม้าที่ได้รางวัลหนึ่งตัว
และวัตถุต่างๆมากมายที่คนส่วนใหญ่ต้องการ

แต่อยู่มาวันหนึ่งสิ่งมีค่าของเขานั่นก็คือม้าของเขาได้แหกคอกออกมา
และวิ่งเตลิดหายไปในป่าที่อยู่ใก้ลๆแค่ชั่วพริบตา
เขาก็เสียม้าที่มีค่ามหาศาลของเขาไป.....

เมื่อเพื่อนบ้านรู้ข่าวต่างก็พากันมาแสดงความเห็นใจอย่างสุดซึ้ง
ทุกคนบอกกับเขาว่า

"ม้าของท่านหนีไปแล้ว ช่างโชคร้ายอะไรเช่นนี้"
เพื่อนบ้านพยายามปลอบโยนชายชราผู้นี้แต่เขากลับตอบว่า

"พวกท่านทราบได้อย่างไรว่ามันคือโชคร้าย"


อีก2-3วันต่อมา
ม้าก็กลับมาบ้านเพราะมันรู้ว่าที่นี่จะมีอาหารและน้ำให้มันหายหิว
มันนำม้าป่าแสนสวยมากค่ากลับมาด้วยถึง12ตัว

เมื่อเพื่อนบ้านทราบข่าวดีอันนี้ต่างก็พากันมาแสดงความยินดี
และกล่าวว่า

"ท่านช่างโชคดีอะไรเช่นนี้" แต่ชายชราผู้นั้นก็ตอบว่า

"ท่านทราบได้อย่างไรว่ามันคือโชคดี"

ในวันถัดมาลูกชายคนเดียวของเขาพยายาม
ที่จะขี่ม้าป่าตัวหนึ่งในบรรดา12ตัวนั้น
เขาถูกสลัดตกลงมาขาหักและต้องพิการนับแต่บัดนั้น

เมื่อเพื่อนบ้านรู้ข่าวก็พากันมาแสดงความเสียใจและบอกว่า

"ลูกชายท่านต้องกลายเป็นคนพิการไปตลอดชีวิต ช่างโชคร้ายอะไรหนอ"

แต่ชายชราผู้นั้นถามอีกเช่นเคยว่า

"ท่านทราบได้อย่างไรว่ามันคือโชคร้ายน่ะ"


อีก1ปีต่อมา...มีขุนศึกคนหนึ่งมาที่เมืองนี้
เพื่อเกณฑ์ชายหนุ่มที่มีร่างกายปกติแข็งแรงสมบูรณ์ทุกคนไปรบ..
พวกเขาแพ้สงคราม และทุกคนถูกฆ่าตายหมด
ชายหนุ่มเพียงคนเดียวที่เหลืออยู่ในหมู่บ้านแห่งนี้ก็คือลูกชายขาพิการ
ของชายชราผู้นั้น....


นิทานเรื่องนี้สอนให้รู้ว่า...

เราไม่รู้หรอกว่าเมื่อไหร่เหตุการณ์ไหนจะเป็นโชค
ร้ายหรือเหตุการณ์ไหนจะเป็นโชคดีที่แท้จริง...
ดังนั้นเราอย่าไปด่วนตัดสินอะไรด้วยความยึดติด
หากถึงคราวโชคดีก็อย่าหลงระเริงจนเกินไป
แต่หากถึงคราวโชคร้ายก็อย่าไปฟูมฟายจนขาดสติ....


ที่มา: FWmail



"และข้ามิได้สร้างญิน และมนุษย์เพื่ออื่นใด เว้นแต่เพื่อเคารพภักดีต่อข้า"

(ซูเราะฮฺ อัซซาริยาต อายะอฺที่ 56)

ออฟไลน์ nada-yoru

  • เพื่อนรัก (6_6)
  • *****
  • กระทู้: 4010
  • เพศ: หญิง
  • แสงและเงา
  • Respect: +134
    • ดูรายละเอียด
Re: นิทานนานาชาติน่ารักๆ(เบาสมอง)
« ตอบกลับ #82 เมื่อ: ธ.ค. 13, 2009, 06:07 PM »
0





กาลครั้งหนึ่ง ยังมีคุณลุงอยู่ท่านหนึ่ง
ในช่วงวัยหนุ่มคุณลุงท่านนี้เป็นหัวหน้าคนงานอยู่ในเหมืองทองคำ
มีรายได้ดีมาก แต่คุณลุงท่านนี้ไม่เคยเก็บเงินเลยมีเท่าไรก็ใช้หมด
เนื่องจากคุณลุงเป็นคนจิตใจดีใครมาหยิบยืมก็ให้ เลี้ยงเพื่อนฝูงตลอด
คุณลุงมีเพื่อนเยอะมาก จนกระทั่งคุณลุงท่านนี้เกษียณอายุจากการทำงาน

ปรากฏว่าไม่มีเงินเหลือเลยจากชีวิตการทำงานอันยาวนาน
คุณลุงมีลูกอยู่ 5 คน เมื่อคุณลุงไม่มีเงิน
ก็จำเป็นต้องไปอาศัยอยู่บ้านลูกๆ ทั้ง 5 คน

วันจันทร์ ก็ไปอยู่บ้านลูกสาว ก็ถูกลูกเขยพูดจากระทบกระเทียบ เช่น

“ทำไมคุณพ่อคุณไม่ไปบ้านลูกคนอื่นบ้างนะ ผมจะทำอะไรก็อึดอัดจริงๆ ”

วันอังคาร ก็ไปอยู่บ้านลูกชาย ก็ถูกหลาน และลูกสะใภ้กระทบกระเทียบ เช่น

 “รำคาญคุณปู่จังเลยกับข้าวที่หนูชอบดูสิคุณปู่ทานหมดเลย
ทำไมคุณปู่ไม่ไปบ้านอื่นบ้าง”

เป็นเช่นนี้ตลอด คุณลุงก็เปลี่ยนไปอยู่บ้านลูกคนนั้นทีคนนี้ที
ก็ถูกลูกบ้าง ลูกเขยบ้าง ลูกสะใภ้บ้าง หลานบ้างพูดจาถากถางอยู่ตลอด
แต่คุณลุงก็ต้องทน เพราะคุณลุงไม่มีเงินเก็บแม้แต่บาทเดียว

อยู่มาวันหนึ่ง คุณลุงตัดสินใจเรียกลูกๆ ทุกคนมาแล้วบอกว่า

“พ่อจะไม่อยู่สัก 2 ปีนะลูก เพราะเพื่อนพ่อที่เป็นเจ้าของเหมืองทองคำ
มันเขียนจดหมายมาขอร้องให้พ่อไปช่วยงานที่เหมืองทองคำของมัน
พ่อจำเป็นต้องไปช่วยเขาจริงๆ”

ลูกๆ ได้ฟังดังนั้นก็ดีใจสนับสนุนเพื่อให้คุณลุงท่านนี้ไปให้พ้นๆ
จะได้ไม่เป็นภาระอีกต่อไป




เมื่อครบ 2 ปี คุณลุงท่านนี้ก็กลับมาพร้อมกับลังเหล็กใบใหญ่ 1 ใบ
ไปไหนแกก็ลากไปด้วย ลูกๆ ก็พากันแปลกใจและถามว่า “ลังอะไร”

คุณลุงตอบว่า

“เป็นสมบัติชิ้นสุดท้ายที่ได้มาจากเหมืองทองคำของเพื่อน
ถ้าใครดูแลพ่อจนถึงวาระสุดท้ายก็จะมอบสมบัติในลังเหล็กให้ทั้งหมด”

ปรากฏว่า ลูกๆ พากันตื่นเต้น ต่างอาสามาดูแลคุณพ่อกันยกใหญ่

วันจันทร์ คุณลุงก็อยู่กับลูกสาวคนโต ลูกเขยกับหลานก็พากันเอาใจบีบนวดให้
หาของกินดีๆ มาให้ แต่ยังไม่ทันไรลูกชายคนที่สองก็มาตามให้ไปอยู่ด้วย

และก็เช่นกันยังไม่ทันไร ลูกสาวคนที่สาม ก็มาตามให้ไปอยู่ด้วยอีก
ปรากฏว่าลูกๆ ทั้ง 5 คน ของคุณลุงต่างแย่งกันเอาใจ
และปรนนิบัติคุณลุงท่านนี้อย่างดี
แต่เวลาไปไหนคุณลุงก็จะลากลังเหล็กใบนี้ไปด้วยตลอด


เวลาผ่านไป 7 ปี คุณลุงท่านนี้เสียชีวิตลง หลังงานพิธีศพลูกๆ
ทุกคนพากันมานั่งล้อมลังเหล็กใบนี้เพื่อแบ่งสมบัติกัน

ลูกสาวคนโตเป็นคนเปิดฝาลังเหล็ก พบว่ายังมีผ้าสีขาวปิดอยู่อีกชั้นหนึ่ง
และมีจดหมายฉบับหนึ่งวางอยู่

ลูกสาวคนโตก็เปิดอ่านให้น้องๆ ฟัง เนื้อความในจดหมายเขียนไว้ว่า





ที่มา: บ้านนิทานพื้นบ้าน


ปล.คืนนี้มาทีเดียว 4 เรื่อง

หลับฝันดี...ราตรีสวัสดิ์


วัสลามมุอะลัยกุมค่ะ



  loveit:


"และข้ามิได้สร้างญิน และมนุษย์เพื่ออื่นใด เว้นแต่เพื่อเคารพภักดีต่อข้า"

(ซูเราะฮฺ อัซซาริยาต อายะอฺที่ 56)

ออฟไลน์ nada-yoru

  • เพื่อนรัก (6_6)
  • *****
  • กระทู้: 4010
  • เพศ: หญิง
  • แสงและเงา
  • Respect: +134
    • ดูรายละเอียด
Re: นิทานนานาชาติน่ารักๆ(เบาสมอง)
« ตอบกลับ #83 เมื่อ: ธ.ค. 27, 2009, 11:24 PM »
0


 salam


พลทหารกับเจ้าหญิง


ทหารหนุ่มแอบหลงรักเจ้าหญิงเลอโฉม
เขาตระหนักถึงความสูงส่งของเธอ
เฉกเช่นเดียวกับที่ตระหนักถึงความต่ำต้อยของตน
แต่เขายังรวบรวมความกล้า
เดินเสี่ยงตายเข้าไปบอกเธอว่า “รัก”
และจะอยู่บนโลกต่อไปโดยไม่มีเธอ-ไม่ได้

เจ้าหญิงผู้เป็นดวงใจตอบเขาว่า
ถ้าเขาสามารถรอคอยอยู่ใต้ระเบียงห้องเธอ
ได้ติดต่อกัน 100 วัน 100 คืน
เธอจะเป็นของเขาตลอดไป


ณ ใต้ระเบียง
ทหารหนุ่มเฝ้ารอคอยอยู่ตรงนั้น
วันแล้ววันเล่า คืนแล้วคืนเล่า
โดยไม่ยอมขยับเขยื้อนกายไปไหน
เขารอคอยในสายลมบาดผิว
รอคอยในสายฝนกระหน่ำ
รอคอยในความเหน็บหนาวของหิมะ
วันแล้ววันเล่า คืนแล้วคืนเล่า
โดยมีเจ้าหญิงของเขาเฝ้าดูอยู่ตลอดเวลา
เธอเห็นหยาดน้ำตาของเขาพรูพราวเป็นสาย

จนกระทั่งในคืนที่ 99
ทหารหนุ่มหยุดร้องไห้
หยุดรอคอย หยุดทุกอย่างไว้
แล้วหันหลังเดินจากไป












เรื่องนี้ไม่มีตอนจบ แต่มีบางคำถาม บางคำตอบในใจ

ความรักของเธอกับเขาอาจจะเหมือนนาฬิกาทราย
เมื่อฝ่ายหนึ่งเริ่มหมดรักไป
ในใจอีกฝ่ายกลับรักขึ้นมาใหม่เต็มเปี่ยม

แต่บางทีทหารหนุ่มอาจตั้งใจแค่แสดงให้เห็นว่าเขารักเธอจริงแท้แค่ไหน
แค่พิสูจน์ให้เห็น แต่ไม่ต้องการครอบครองไว้

หรือบางทีเขาอาจเสียใจ ต้องตัดใจจากไปเพราะรักเขาถูกทำร้ายย่ำยี

หรือบางทีเป็นเจ้าหญิงเองที่เสียใจ
เพราะไม่เคยมีใครรักเธอได้อีกถึงเพียงนี้ !!


 mycry mycry mycry
 
 
จากหนังสือ ฉันเกลียดเธอ ฉันรักเธอ..ชีวิต ของ 'ปราย พันแสง
 


วัสลามุอะลัยกุมค่ะ


"และข้ามิได้สร้างญิน และมนุษย์เพื่ออื่นใด เว้นแต่เพื่อเคารพภักดีต่อข้า"

(ซูเราะฮฺ อัซซาริยาต อายะอฺที่ 56)

little cat

  • บุคคลทั่วไป
Re: นิทานนานาชาติน่ารักๆ(เบาสมอง)
« ตอบกลับ #84 เมื่อ: ธ.ค. 27, 2009, 11:38 PM »
0
salam

 yippy: yippy: yippy: yippy:

มาทักทายเข้าของกระทู้ค่ะ อิอิ loveit:

little cat

  • บุคคลทั่วไป
Re: นิทานนานาชาติน่ารักๆ(เบาสมอง)
« ตอบกลับ #85 เมื่อ: ธ.ค. 27, 2009, 11:45 PM »
0
คิดได้หลายมุม ::)

 "เมื่อวันนั้นเธอต้องการฉันขึ้นมาจริงๆ ณ วันนั้นอาจไม่มีฉันอยู่อีกแล้วก็ได้" mycry

ออฟไลน์ nada-yoru

  • เพื่อนรัก (6_6)
  • *****
  • กระทู้: 4010
  • เพศ: หญิง
  • แสงและเงา
  • Respect: +134
    • ดูรายละเอียด
Re: นิทานนานาชาติน่ารักๆ(เบาสมอง)
« ตอบกลับ #86 เมื่อ: ธ.ค. 28, 2009, 12:18 AM »
0
^

แมวเศร้า... mycry

ค้างคาวซึมลึก... boulay:


"และข้ามิได้สร้างญิน และมนุษย์เพื่ออื่นใด เว้นแต่เพื่อเคารพภักดีต่อข้า"

(ซูเราะฮฺ อัซซาริยาต อายะอฺที่ 56)

ออฟไลน์ nada-yoru

  • เพื่อนรัก (6_6)
  • *****
  • กระทู้: 4010
  • เพศ: หญิง
  • แสงและเงา
  • Respect: +134
    • ดูรายละเอียด
Re: นิทานนานาชาติน่ารักๆ(เบาสมอง)
« ตอบกลับ #87 เมื่อ: ธ.ค. 28, 2009, 12:26 AM »
0
ู^
^
Waalaikumussalam warahmatullah wabarakatuh

กาลครั้งหนึ่งมีอยู่ว่า
มีค้างคาวตัวหนึ่ง บินมาพร้อมกับนิทานก่อนนอนเรื่องนึง
แล้วค้างคาวตัวนั้นก้อจากไป 5555555555555555

แล้วพี่มีคำตอบในใจว่าไงมั่งนิ

ไม่บอกกันหน่อยเร้อออออ



กาลครั้งหนึ่งที่ว่า...มันนานมาแล้วววววว
นานจนค้างคาวตัวนั้นมันจำไม่ได้...เหอๆๆๆ

คำตอบนั้น(ทั้ง)หนา...และหนักเกินไป...
ก็เลยแบกต่อไปด้วยใจเหี่ยวๆ
กะจะโยนให้ค้างคาวอีกตัวที่แวะมาเที่ยว
รับทั้งคานและใจเหี่ยวๆไปคนเดียวเพียวๆเลยเป็นไง...5555




"และข้ามิได้สร้างญิน และมนุษย์เพื่ออื่นใด เว้นแต่เพื่อเคารพภักดีต่อข้า"

(ซูเราะฮฺ อัซซาริยาต อายะอฺที่ 56)

little cat

  • บุคคลทั่วไป
Re: นิทานนานาชาติน่ารักๆ(เบาสมอง)
« ตอบกลับ #88 เมื่อ: ธ.ค. 28, 2009, 12:27 AM »
0
โอ้โห มาเป็นร่ายเชียวก๊ะเรา 555 ;D ;D ;D

little cat

  • บุคคลทั่วไป
Re: นิทานนานาชาติน่ารักๆ(เบาสมอง)
« ตอบกลับ #89 เมื่อ: ธ.ค. 28, 2009, 12:34 AM »
0
เอ่อ  natural:








ม่ายเอา แง  mycry

ปล.ใจเหี่ยวแห้งพอแล้วนิ  fouet:

 

GoogleTagged