salam
เวลาที่เราเห็นเพื่อนหรือใครก็ตามที่เรารู้จักมักคุ้น
กำลังเครียดหรือนั่งทำหน้านิ่วคิ้วขมวดผูกเป็นโบว์สีดำ
ลองยื่นขนมเคี้ยวเล่นหรือเครื่องดื่มที่ออกรสหวานหรือจะหวานอมเปรี้ยวก็ได้
ให้เขาลองชิมดูพร้อมรอยยิ้มจริงใจ
โดยเฉพาะขนมขบเคี้ยวที่ว่าไร้ประโยชน์ต่อร่างกายนี่แหล่ะค่ะที่ได้ผลเยี่ยม
โดยที่เราแกะและยื่นให้เขากินกับเราด้วย...
ไม่ได้ให้เขาเอาไปเก็บเอาไว้กินทีหลังและก็ไม่ได้บังคับให้เขากินด้วยคำพูด
เพราะว่า หากยื่นให้เขาไปอย่่างนั้นคนที่กำลังเครียดจัดนั้น
ปกติท้องไม่รับค่ะ คอจะฝืด ไม่อยากกินอะไร
แต่ถ้าเพื่อนยื่นขนมเล็กๆน้อยๆให้(ขนมขบเคี้ยวมันไม่หนักท้องอะไร)
เขาคงไม่กล้าปฏิเสธ และเชื่อเถอะค่ะว่า เขาจะยิ้มออกมาได้
เมื่อเขายิ้มได้ รอยยิ้มนั้นจะค่อยๆสลายบางอย่างที่อัดแน่น
อยู่ในหัวสองหัวของเขา ซึ่งก็คือ หัวสมองและหัวใจของเขาให้คลายออก
คิ้วที่ขมวดเป็นโบว์สีดำก็จะค่อยๆกลายเป็นสีชมพู

ก่อนจะจางลงเมื่อเขาเริ่มรับไมตรีด้วยการหยิบสิ่งที่เราหยิบยื่นให้
และก็เป็นอีกเคล็ดลับนึงเช่นกันค่ะว่่า เวลาเครียดๆหรือต้องใช้สมอง
ในการคิดโน่นคิดนี่ ของหวานๆจะช่วยให้สมองผ่อนคลายลงได้ดีนักแล...
เมื่อสมองผ่อนคลายลง ไม่หมกมุ่นอยู่กับเรื่องเดิมๆหรือเรื่องที่กำลังคิด
กำลังเครียดอยู่ จิตใจก็จะเบาลง คลายลง...
หลังจากนั้นก็ค่อยๆชวนเค้าคุยเรื่องโน้นเรื่องนี้ เรื่องที่ดูผ่อนคลายไปพลาง
ทานขนมนั่นไปพลาง ทานด้วยกันยิ่งดี ยิ่งกินซองเดียวกันยิ่งอร่อย
ย่ิงพยายามแย่งอันที่เขาจะกินด้วยยิ่งสนุก...
(แม้ว่ามารยาทที่ดีนั้น ไม่ควรพูดหรือเล่นในขณะกิน
แต่มันก็น่าจะมีข้อยกเว้นบ้างในบางสถานการณ์ว่ามั้ยคะ

)
เชื่อเถอะค่ะว่า...ได้ผล !!! แต่การจะให้เขาพ้นไปจากความทุกข์นั้น
มันยากค่ะ...เพราะว่าหากเขากลับไปอยู่กับตัวเขาเอง
เขาก็อาจคิดและเครียดขึ้นมาอีก แต่อย่างน้อย เขาก็คงไม่เครียดจนรู้สึกว่า
ไร้คนคอยเป็นห่วงแน่ๆค่ะ เพราะว่า...เขารู้ว่าเราพร้อมจะช่วยเขาอยู่...
และปัญหานั้น...คนที่จะแก้ได้ดีที่สุดก็คงต้องเป็นเจ้าตัวเขาน่ะค่ะ...
เราทำได้แค่ให้กำลังใจ...ช่วยให้เขายิ้มได้...
การหยิบยื่นของกินเล็กๆน้อยๆ ที่ดูไร้ประโยชน์ต่อร่างกายอย่างขนมขบเคี้ยว
บางครั้งมันก็มีประโยชน์ต่อจิตใจ และทำให้คนที่คอกำลังฝืดอยู่
ได้รับรสอาหาร...ลิ้นและกระเพาะอาหารจะได้เร่งให้เขาอยากกินขึ้นมา...
เพราะว่า...อาหารมีส่วนช่วยให้คนอารมณ์ดีได้ค่ะ

ดังนั้น เวลาเครียดจงกิน กินเข้าไป กินเข้าไป กินเข้าไป 55555
อย่าทรมานท้องไส้นะคะ เพราะมันไม่ผิด ผิดที่สมองโน่นนนนนน...

ปล.แต่ถ้าเครียดเพราะไม่มีอะไรกิน อันนี้ ไม่รู้จะแก้ให้ยังไงค่ะ
นอกจาก ยืมตังค์เพ่ือน

สุขภาพใจก็สำคัญ เพราะว่าที่หน้าเหี่ยวเร็วนั้น ไม่ใช่อันใดเลย...

ป.ลิงอีกที...ไอเรามันไม่ใช่จิตแพทย์ แค่เคยได้รับและได้ให้มาก่อน
(ลองนึกภาพตอนที่เรานั่งเครียดกับเรื่องบางเรื่อง
แล้วอยู่ๆหลานของเราวิ่งเขามาหา ไม่พูดไม่จา แล้วยื่นขนมในมือให้
เราจะใจร้ายตวาดเด็กตาดำๆที่กำลังส่งยิ้มมาให้เราพร้อมกับขนมได้หรือคะ
และเราไม่คิดจะยิ้มให้เด็กที่กำลังยิ้มให้เราอย่างจริงใจได้หรือคะ
และเราไม่คิดจะหยิบขนมนั้นขึ้นมากินสักนิดเพื่อไม่ให้เด็กเก้อเชียวหรือคะ
และถ้าเด็กคนนั้นคุยอะไรก็ไม่รู้ที่ไม่ค่อยเข้าไปในหูเรานัก
แต่เห็นเขาพูดเอาพูดเอา ถามโน่นนี่เราด้วยความเป็นห่วง
พูดเรื่องดินน้ำลมฟ้า อากาศ ขนมไม่อร่อย และถามว่าชอบขนมนั้นมั้ย
เราจะรู้สึกยังไงคะ รำคาญหรือเปล่า...สำหรับข้าน้อยคนนึงที่รู้สึกดี
เวลาเครียด หลานๆและเด็กๆช่วยให้หายคลายเครียดลงได้ค่ะ...)
และที่สำคัญ ได้เผลอหยิบสูตรของหลานๆมาใช้หลายต่อหลายครั้ง
ที่เห็นคนที่เรารักหรือเป็นห่วงกำลังเครียด
เลยรู้สึกว่าสิ่งที่บอกหรือพร่ามไปนั้นมันใช้ได้ผลค่ะ...
ขนมเด็กๆพร้อมรอยยิ้มเด็กๆ ช่วยได้ แม้หน้าตาไม่เป็นใจ
แต่แอ๊บแบ๊วได้ค่ะ ขนม รอยยิ้ม...ของกินช่วยด้ายยยยย
แต่ไม่ขอฟังธงว่าใช้ได้กับทุกคน(โดยเฉพาะคนที่กำลังเครียดอยู่ว่า
จะทำยังไงให้น้ำหนักลด เดี๋ยวจะกลายเป็นการซ้ำเติมเพิ่มปัญหาได้ 55555 )
ไม่รู้คุณหมอจะว่ายังไง

วัสลามค่ะ