ตาแดง
ตาแดงหรือเยื่อตาอักเสบนั้นเป็นโรคตาอีกอย่างที่พบเห็นกันมาก
การอักเสบหรือระคายเคืองเช่นนี้มักเกิดขึ้นที่ผนังส่วนในของหนังตา
อาการของตาแดงที่เห็นได้ง่ายก็คือหนังตาบวมและกลายเป็นสีแดง
สาเหตุของโรคตาแดงมักจะอ้างกันว่าเกิดจากการติดเชื้อบางอย่าง
หรือไม่ก็อาจเกิดจากอาการเครียดของกล้ามเนื้อตาและดวงตา
รมทั้งอาจเกิดจากการใช้สายตามากเกินควรในภาวะที่ไม่เหมาะสม
เช่น แสงที่ไม่เป็นธรรมชาติ แต่ทั้งหมดนี้ไม่ใช่สาเหตุที่แท้จริงของอาการตาแดง
สาเหตุที่แท้จริงมาจากความบกพร่องของสุขภาพเลือดในร่างกาย
คือเกิดอาการเป็นพิษ ซึ่งสาเหตุก็เกิดจากการอยู่และการกินที่ไม่ถูกต้องอีกเช่นเคย
และมีการกล่าวด้วยว่าหากคุณมีสุขภาพดีอย่างแท้จริงแล้ว
คุณจะไม่มีโอกาสเป็นตาแดงเลย นอกจากนี้ยังมีสิ่งที่น่าสังเกตว่า
อาการตาแดงมักจะมีโอกาสสัมพันธ์กับอาการนาสิกอยู่ไม่น้อย
เช่น สัมพันธ์กับการที่เยื่อจมูกอักเสบ การอักเสบของเยื่อจมูกนั้นเป็นอาการ
ของโรคตาแดงได้ง่ายๆด้วยซึ่งฟังดูเหมือนจะเป็นไปไม่ได้ แต่ก็เป็นเรื่องจริง
ด้วยเหตุนี้การเยียวยาที่ต้นเหตุของอาการตาแดงจึงไม่ใช่การป้ายยาแก้ตาแดง
อย่างที่หลายคนแนะนำกัน แต่ต้องแก้กันที่สุขภาพของเลือดอย่างที่กล่าวมาแล้ว
ข้างต้น คนที่เกิดอาการตาแดงบ่อยๆมักจะเป็นผู้ที่ทานอาหารประเภทแป้ง
มากเกินไป โดยเฉพาะอาหารประเภทแป้งที่ไม่ค่อยมีกากหรือไฟเบอร์มากนัก
เช่น ขนมปังที่ผ่านกรรมวิธีจนขาวน่าทาน เป็นต้น
ทั้งนี้รวมทั้งพาย พุดดิ้ง แยมประเภทต่างๆและขนมหวานด้วย ฯลฯ
และยิ่งผู้นั้นยังชอบทานโปรตีนหรือเนื้อในจำนวนมาก รวมทั้งติดกาแฟด้วยแล้ว
โอกาสที่จะเกิดการอักเสบของเยื่อจมูกและลำคอย่อมมีมากตามมาด้วย
เพราะอาการตาแดงและการอักเสบของเยื่อจมูกนั้นเกี่ยวพันกันดังที่กล่าวมาแล้ว
อย่่างไรก็ตาม อย่าได้ละเลยข้อเท็จจริงที่ว่า การใช้สายตาอย่่างเหมาะสม
ในสภาวะต่างๆกันจะทำให้อาการบกพร่องทางตาเพิ่มระดับความรุนแรงมากขึ้นได้
การแก้ปัญหาตาแดงจึงต้องแก้ด้วยการปรับสภาวะการกินและการอยู่ของเรา
ให้เหมาะสมอย่างที่ควรจะเป็น
เราอาจเริ่มต้นด้วยการกิน อันเป็นการนำหลักโภชนาการเข้ามาใช้ประโยชน์
วิธีที่ดีที่สุดในเรื่องนี้คือ การเปลี่ยนประเภทอาหารที่ทานจากปกติ
มาเป็นการทานผลไม้สดเพียงอย่างเดียวสัก 7-10 วัน
ผลไม้ในที่นี้จะเป็นผลไม้อะไรก็ได้ ยกเว้นกล่วยหอม
ในช่วงนี้ห้ามทานอาหารอื่นอย่างเด็ดขาด แม้แต่น้ำดื่มก็ควรดื่มน้ำธรรมดาเท่านั้น
ห้ามของมึนเมาทุกประเภท
สำหรับผู้ที่มีอาการตาแดงค่อนข้างรุนแรงนั้น ควรจะเพิ่มระยะเวลา
การทานผลไม้จาก 7-10 วัน เป็น 2 สัปดาห์แทน หรือหากจะให้ดี
ก็อาจจะใช้วิธีอดอาหารสัก 4-5 วัน แล้วจึงค่อยควบคุมอาหาร
(ประเภทอาหาร) อย่างเข้มงวดอีก 2 สัปดาห์
ดังนั้น การเยียวยาตาแดงด้วยวิธีธรรมชาตินั้นจึงอยู่ใน 3 ลักษณะ
คือ การอดอาหาร การควบคุมประเภทอาหาร และการทานแต่ผลไม้
อย่างไรก็ตาม หลังจากที่คุณเสร็จสิ้นกรรมวิธีอย่างใดอย่างหนึ่งข้างต้น
ตามความเหมาะสมแล้ว (ซึ่งกินเวลาไม่น้อยกว่า 2 สัปดาห์)
อาหารในวันต่อๆไปก็ควรจะอยู่ในลักษณะต่อไปนี้เท่านั้น นั่นคือ
อาหารเช้า ผลไม้สด นม
อาหารกลางวัน สลัดจานใหญ่ๆสักจาน ขนมปังอย่างชนิดดีไม่ฟอกขาว
เนย ของหวานอาจจะเป็นลูกเกด
อาหารเย็น ผักนึ่ง ไข่ เนย ปลา (เนื้อไม่ควรทานบ่อย) ของหวานอาจจะเป็นลูกพรุน
เบกแอบเปิ้ลหรือผลไม้สด
หมายเหตุ...อาหารกลางวันและอาหารเย็นอาจจะสลับกันได้
วงจรการทานอาหารเช่นที่กล่าวมาทั้งหมดนี้มิควรจะกระทำเพียงรอบเดียว
แล้วเลิกไปเลย หากแต่ควรทำเป้นระยะๆ เช่น ภายในสองสามเดือน
ก็นำวงจรการทานอาหารนี้ออกมาใช้สักครั้ง (ซึ่งกินเวลา 2 สัปดาห์ต่อรอบวงจร)
กระทำจนกว่าระบบอวัยวะภายในจะ "สะอาด"ขึ้น
หลังจาก "การกิน" ถูกจัดให้เข้ากับหลักโภชนาการแล้ว
คราวนี้ก็มาถึงเรื่อง "การอยู่" บ้าง การอยู่เป็นเรื่องสำคัญมากอีกอย่างหนึ่ง
ที่จะช่วยให้สภาวะของร่างกายกลับสู่ภาวะที่สมบูรณ์
และสารพิษหรือภาวะที่เป็นพิษต่างๆหมดไปจากร่างกาย อันจะเป็นการเยียวยา
อาการสารพัดชนิดที่ต้นเหตุ หลักสำคัญของการอยู่นั้นก็คือ
การออกกำลังกายนั่นเอง ซึ่งจะต้องเป็นไปในลักษณะนี้คือ
1) ต้องเป็นการออกกำลังกายอย่างสม่ำเสมอ
2) การออกกำลังกายนั้นจะต้องเป็นการเปิดโอกาสให้ร่างกายได้กระตุ้น
ระบบการหายใจให้ดีขึ้น (คือจะต้องเหนื่อย)
3) การออกกำลังกายควรกระทำในที่แจ้ง กลางแสงแดด หากเป็นไปได้
4) อย่าหักโหมในการออกกำลังกาย
นอกจากการกินและการอยู่แล้ว ก็อย่าได้ละเลยวิธีการบำบัดอาการ
อย่างง่ายๆบางอย่าง เช่น การล้างตาด้วยน้ำเกลือเอปซอมผสมน้ำอุ่น
ทุกเช้าและก่อนนอน แต่ข้อสำคัญคือต้องหลับตาระหว่างล้างให้สนิท
การล้างเช่นนี้จะช่วยบรรเทาอาการ (มิใช่สาเหตุ)ของตาแดงได้อย่างดีพอควร
นอกจากนั้น ควรเปิดโอกาสให้ดวงตาได้สัมผัสกับแสงแดดมากที่สุดเท่าที่จะมากได้
(โดยหลับตาเช่นกัน) ส่วนขี้ผึ้งหรือยาทาประเภทต่างๆนั้น คุณสามารถโยนทิ้ง
ไปได้หากต้องการ เพราะมันแทบจะไม่มีความจำเป็น
หากว่าคุณเยียวยาด้วยวิธีการธรรมชาติดังที่กล่าวมาข้างต้นทั้งหมด
นอกจากนี้คงไม่จำเป็นต้องกล่าวอีกว่าการดูแลดวงตาอย่างระมัดระวัง
เป็นเรื่องที่จำเป็น และแม้ว่าการอ่านหนังสือ
จะเป็นการออกกำลัง "สายตา"อย่างหนึ่ง แต่การใช้สายตาเช่นนั้นก็ไม่ควร
ที่จะใช้ภายใต้ภาวะที่แสงไม่เหมาะสมเป็นระยะเวลานาน
นอกจากนี้อย่าลืมการพักผ่อนและคลายเครียดสายตาด้วยวิธีการต่างๆ
ที่บรรยายมาในตอนต้น โดยเฉพาะวิธีการ "พาล์มมิ่ง"
ซึ่งควรจะกระทำวันละหลายๆครั้ง ครั้งละ 10 นาที
สำหรับการควบคุมอาหารให้เป็นไปตามหลักการที่ว่ามา
ก็ถือเป็นเรื่องที่สำคัญมากที่สุดอย่างหนึ่งที่จะช่วยป้องกันและเยียวยา
อาการผิดปกติของสายตา ไม่ว่าจะเป็นในลักษณะใด
อาหารที่มากด้วยแป้งและไม่มีกากอาหารควรลดให้น้อยลง
และเพิ่มอาหารประเภทผักสด ผลไม้ให้มากขึ้น