ผู้เขียน หัวข้อ: สูตร(ไม่)ลับสำหรับสุขภาพ  (อ่าน 29121 ครั้ง)

0 สมาชิก และ 1 บุคคลทั่วไป กำลังดูหัวข้อนี้

ออฟไลน์ nada-yoru

  • เพื่อนรัก (6_6)
  • *****
  • กระทู้: 4010
  • เพศ: หญิง
  • แสงและเงา
  • Respect: +134
    • ดูรายละเอียด
Re: สูตร(ไม่)ลับสำหรับสุขภาพ
« ตอบกลับ #75 เมื่อ: ธ.ค. 09, 2009, 12:51 AM »
0

 salam


เมื่อภูมิคุ้มกัน คุ้มดี คุ้มร้าย

แพทย์หนุ่มจากจุฬาฯ แนะ 8 สูตรไม่ลับ สำหรับดูแล "ภูมิคุ้มกัน" ให้แข็งแรง
ทำหน้าที่ได้แข็งขัน และไม่ออกนอกลู่นอกทางจนกลายเป็นโรคแพ้ภูมิตัวเอง


ขนาดคนยังแปรพักตร์ แพนด้ายังแอบคลอดลูกไม่บอกใคร
แล้วนับประสาอะไรกับภูมิในกายเราที่จะผันแปรไปดุจใจชายสามโบสถ์ได้เช่นกัน
วันดีดุจเทวากับเราช่วยผจญเชื้อร้าย วันพรุ่งอาจผีเข้าเป็นภูมิซาตาน
มุ่งเหยียบเราเอาให้จมดินเลยก็ได้ ดังโรคประหลาดที่ชื่อว่า
“แพ้ภูมิตนเอง (Autoimmune disease)”
ที่อยู่ๆ กันไปก็ชักชังน้ำหน้าตัวเองพ่อเลยแปรพักตร์เพี้ยนพอกับชกกันในสภา
หาเรื่องสร้าง “ธาตุต้านตัว (Antibody)” ขึ้นมาทำร้ายองคาพยพภายในเสียสิ้น


ถ้าไม่กิน “ยากดภูมิ” เสียหน่อย ภูมิคุ้มกันก็คงหมดเนื้อหมดตัว
เสียยิ่งกว่าเล่นกาสิโนเขมร ที่จริงถ้าได้ป้องกันเสริมภูมิให้ดีตั้งแต่แรก
จะช่วยชะลอโรคภูมิเพี้ยนทุเลา ให้อยู่ในระยะสงบ (Remission period) ได้ดีขึ้น
ไม่ต้องใช้โอสถที่ชื่อน่ากลัวว่า “ยากดภูมิ” ช่วยเสริมด้วย
ซึ่งในสำรับยากดภูมิที่ว่ามักมีสเตียรอยด์เป็นยาดำแทรกอยู่เสมอ

สูตรเสริมภูมิง่ายๆ ไม่ต้องรอจนเหนียงยานประเภท “Do it yourself (DIY)”
ทำได้เองให้ภูมิคุ้มกายได้ไม่กลายเป็น “ภูมิสังหาร”
มีหลักอยู่ไม่กี่ประการ แต่หลักๆ ก็คือตัวท่านเองและธาตุสร้างภูมิที่ชื่อ
“แอนตี้ออกซิแดนท์” ยิ่งเติมสะสมไว้ได้มากเท่าไรก็ยิ่งดี

ขอนำสูตรสำเร็จเผด็จภูมิเพี้ยนมาฝากดังต่อไปนี้ครับ


1.นอนเป็นเวลา เข้านอนแต่สี่ทุ่มตื่นหกโมงเช้าเช่นนี้ทุกวันไม่เว้นวัน
เพราะมันจะช่วยให้สมองท่านสร้างเคมีที่เป็นเสมือนแอนตี้ออกซิแดนท์
ต้านสนิมภูมิแก่ได้อย่างมีประสิทธิภาพ


2.พาออกกำลัง ขอให้ได้เหงื่อเล็กๆ อย่างน้อยวันละครึ่งชั่วโมง 4 วันต่อสัปดาห์
ก็จะดีมากครับ


3.เติมพลังอาหาร หาธาตุเติมภูมิกระแทกท้องโดยเฉพาะ วิตามินเอ, ซี, อี
และสังกะสีที่มีมากในผักเขียวจัด (5 ขีด), กระเทียมสด (10 กลีบ),
หอยนางรมและปลา (1 ขีดต่อวัน) ขอให้กินให้ได้อย่างน้อยวันเว้นวัน
เพราะมันจะช่วยสร้างทหารเลือดขาวคุ้มกายเราและไม่ทำให้ภูมิเพี้ยน


4.สานต่อยอดภูมิ เติมอาหารซูเปอร์เสริมภูมิเช่นสารสกัดเมล็ดองุ่น (OPCs)
ที่มีฤทธิ์แรงกว่าวิตามินซีกับอีถึงห้าสิบเท่า, ดีเอชอีเอ, แอลฟ่าไลโพอิก,
แอล-คานิทีน, โคเอนไซม์คิวเท็น, สารอีจีซีจี (EGCGs) ในชาเขียว
หรือจุลินทรีย์ตัวจ้อยกลุ่มโพรไบโอติกส์จาก โยเกิร์ตขนานแท้สักวันละครั้ง
ก็จะทำให้ภูมิในไส้แข็งแรงดี เมื่อภูมิดีไปถึงในไส้พุงแล้ว
มันก็จะเปล่งพลังออกมาถึงภายนอกเองครับ


5.คอนซูมน้ำมาก คือดื่มน้ำให้ช่วยลดการอักเสบในการได้ต้องดื่มให้ได้
ตามน้ำหนักตัวอย่างน้อย 1 ออนซ์ (30 ซีซี.) ต่อน้ำหนักตัว 1 กิโลกรัม


6.อย่าอยากฉีดยา ขอท่านที่รักอย่ากลัวโรคมากจนเกินไป
เพียรไปฉีดวัคซีนเท่าที่มีอยู่ในสากลโลก หรือไม่กล้ากินอาหารข้างถนน
เพราะคนยิ่งกลัวยิ่งทำให้ไร้ภูมิครับ


7.พาตัวติดดิน ขอให้ใช้ชีวิตอยู่ใกล้ธรรมชาติบ้าง ฉีดวัคซีนแต่พอประมาณ
ตามที่หลวงท่านแนะนำและขอให้ออกแดดเล่นดินทราย
ออกเดินเท้าเปล่าสัมผัสกับธาตุดินนุ่มเย็นบ้างแต่กลับมาให้ล้างเท้าให้ดี
จะได้ไม่มีพยาธิปากขอแถมเข้ามา


8.ไม่สิ้นความหวัง ความทุกข์โทมนัสอุปายาสทั้งหลายเป็นตัวทำให้ “ธาตุเครียด”
ถูกปล่อยออกมาในเลือดทำให้ไปกดทหารเม็ดเลือดขาวให้ไร้เรี่ยวแรงพาขี้เกียจ
ไม่อยากทำงานต้านโรคให้กับตัวเรา
สังเกตได้ว่าเวลาเครียดจัดจะป่วยง่ายเพราะเม็ดเลือดขาวถูกกดไว้
ให้เป็นช่องว่างกว้างขวางรอรับโรคเข้ามาได้ประเภทที่เรียกว่า
เดินสะดุดเชื้อโรคก็ติดเสียแล้ว


ด้วยเรื่องภูมิเป็นเรื่องสำคัญในทางอายุรวัฒน์และทางการแพทย์ทุกสาขา
เพราะมันอาจทำตัวเป็น “เทวา” หรือ “ซาตาน” ก็ได้เพียงชั่วลัดนิ้ว
จึงอยากฝากบัญญัติทั้งแปดข้อนี้ไว้ในอ้อมใจของทุกท่าน
ซึ่งเชื่อว่าจะเป็นเสมือนยันต์ตราเจ้าพ่ออนุมูลอิสระ กันภูมิเสื่อม
และช่วยฝึกฝนภูมิคุ้มกันที่มีอยู่ของท่านให้ทำตัวสัตย์ซื่อไม่ลวงพราง
หรือห้าวเป้งทำร้ายตัวเองจนอ่วม


แค่นี้ท่านก็มีของดีที่ช่วยให้ภูมิคุ้มกายดีไม่แปรพักตร์ไปเป็น “ภูมิคุ้มดีคุ้มร้าย”
ได้แล้วครับ



ข้อมูลจาก : http://images.thaiza.com


ปล.ข้าน้อย(คนโพส)หาใช่แพทย์หรือผู้เชี่ยวชาญ เพียงแค่นำเสนอ
ในสิ่งที่อ่านมาน่ะค่ะ...หากพี่น้องท่านใด
หรือคุณหมอท่านใดผ่านมาอ่านและมีอะไรจะเสริมหรือนำเสนอเพิ่มเติม
กรุณาด้วยนะคะ... ;D


...มีต่อค่ะ...


« แก้ไขครั้งสุดท้าย: ธ.ค. 09, 2009, 12:53 AM โดย nada-yoru »
"และข้ามิได้สร้างญิน และมนุษย์เพื่ออื่นใด เว้นแต่เพื่อเคารพภักดีต่อข้า"

(ซูเราะฮฺ อัซซาริยาต อายะอฺที่ 56)

ออฟไลน์ nada-yoru

  • เพื่อนรัก (6_6)
  • *****
  • กระทู้: 4010
  • เพศ: หญิง
  • แสงและเงา
  • Respect: +134
    • ดูรายละเอียด
Re: สูตร(ไม่)ลับสำหรับสุขภาพ
« ตอบกลับ #76 เมื่อ: ธ.ค. 09, 2009, 01:03 AM »
0


น้ำมันงา


ใช้น้ำมันงาทาคิ้ว จะทำให้คิ้วดกดำน่าจะมีความเป็นไปได้ตามทฤษฏี
และหลักการ แต่ในทางปฏิบัติดิฉันยังไม่เคยทดลอง


น้ำมันงาจัดเป็นน้ำมันพืชที่มีคุณค่าทางโภชนาการสูง
เมื่อเปรียบเทียบกับน้ำมันพืชอื่น ๆรับประทานง่าย
เนื่องจากมีกลิ่นหอมน่าบริโภค เมื่อสกัดบริสุทธิ์ไม่มีกลิ่นมีสารป้องกันหืน
พวกsesamal อยู่ในตัว ดังนั้นจึงสามารถเก็บไว้ได้นานโดยไม่เหม็นหืน
เหมือนน้ำมันพืชอื่น ๆ


ประโยชน์ของน้ำมันงา

1. งา เป็นธัญพืชที่มีคุณค่าทางโภชนาการสูง
มีกรดไขมันที่ไม่อิ่มตัวหลายชนิด เช่น OLEIC ACID,
ช่วยควบคุมคอลเรสเตอรอลไม่ให้สูงเกินไป ป้องกันโรคหัวใจ
และโรคหลอดเลือดบางชนิดได้ มีกรดไขมันที่จำเป็น LINOLEIC ACID อยู่สูงมาก
กรดลิโนลิอิค ซึ่งเป็นกรดไขมันที่จำเป็นต่อการเจริญเติบโต
จำเป็นต่อความชุ่มชื้นของผิวหนัง เพราะเป็นส่วนประกอบของผนังเซลล์
และยังช่วยในการควบคุมและลดสารคลอเลสเตอรอลในเลือดอีกด้วย
วิตามิน บี1 บี2 บี 5และบี6 ช่วยบำรุงประสาท และป้องกันโรคเหน็บชา
นอกจากนี้ยังมีธาตุเหล็ก ที่ช่วยบำรุงเลือด แคลเซียม บำรุงกระดูก ไอโอดีน
ป้องกันโรคคอหอยพอกและสังกะสี ช่วยบำรุงผิวพรรณ


2. แพทย์แผนโบราณของจีนจัดน้ำมันงานเป็นยารสหวาน ฤทธิ์ปานกลาง
บำรุงกำลัง ช่วยในการระบาย แก้ท้องผูก รักษาแผลในกระเพาะอาหาร
ช่วยถอนพิษ ขับพยาธิตัวกลม


หมอพื้นบ้านในชุมชนไทยใหญ่ และชุมชนพม่า
จะใช้น้ำมันงาทารักษาโรคปวดข้อ เคล็ดขัดยอก ข้อบวม และข้อเท้าแพลง


นอกจากนี้ยังสามารถใช้บำรุงผิวพรรณ โดยป้องกันผิวแห้งหยาบ
หรือผิวหนังแตกเป็นรอย ใช้ชะโลมผม ทำให้ผมดกดำ ไม่แตกปลาย
ตลอดจนผสมน้ำปูนใส ทาบรรเทาอาการปวดแสบจากน้ำร้อนลวก


3. น้ำมันงาเหมาะสำหรับบริโภคสำหรับผู้สูงอายุ
เพราะช่วยไม่ให้ระดับซีรั่มคลอเลสเตอรอลในเลือดสูง
เป็นการป้องกันไม่ให้เกิดหลอดเลือดแข็ง ซึ่งเป็นสาเหตุของโรคหัวใจขาดเลือด


รายชื่อผู้ผลิตน้ำมันงาจังหวัดแม่ฮ่องสอน

1. นางสุดาณี คำดี 255/1 หมู่ 1 ต. ปางหมู อ. เมือง จ. แม่ฮ่องสอน
2. นางสุพิศ กรุณาอภินันท์พร 48/1 หมู่ที่ 1 ต. ปางหมู อ. เมือง จ. แม่ฮ่องสอน
3. นายสมชาย ฝั้นอุตมะ 95/1 หมู่ที่ 1 ต. ปางหมู อ. เมือง จ. แม่ฮ่องสอน

ที่มา:
http://www.mhstravel.net/pangmoo.html
http://purefromnatural.blogspot.com/2008/04/blog-post_1172.html
http://farmdev.doae.go.th/FarmHomeWeb/HomeEconomicSeminar47/Document/sesame.doc


"งา" เมล็ดหนึ่ง ๆ จะมีสารอาหารสำคัญมากมาย
ไขมันในงามีอยู่มากประมาณ 45 - 57 % เป็นกรดไขมันไม่อิ่มตัว
และไม่เกิดการเหม็นหืนง่าย โปรตีนมีไม่น้อยกว่า 20 %
มีกรดอะมิโนที่จำเป็นต่อร่างกายอยู่ครบทุกชนิด มีวิตามินบีทุกชนิด
(ยกเว้นวิตามินบี 12) มีวิตามินอีสูง ซึ่งมีสรรพคุณทำให้มีความเป็นหนุ่มสาว

งายังมีสารเซซามิโอ (sesameo) ซึ่งเป็นสารต้านอนุมูลอิสระ (antioxidant)
ที่มีประสิทธิภาพสูงสามารถป้องกันโรคมะเร็งได้
นอกจากนี้ยังพบเกลือแร่ชนิดต่าง ๆ มากถึง 4.1 - 6.5 %
ได้แก่ ธาตุเหล็ก ไอโอดีน สังกะสี แคลเซียมและฟอสฟอรัส


"งา" ในตำราแพทย์จีนโบราณจัดเป็นยารสหวาน ฤทธิ์ปานกลาง บำรุงกำลัง
ช่วยในการระบาย แก้ท้องผูก รักษาแผลในกระเพาะอาหาร ช่วยถอนพิษ
ขับพยาธิตัวกลม หมอพื้นบ้านในชุมชนไทยใหญ่
และชุมชนพม่าจะใช้น้ำมันงาทารักษาโรคปวดข้อ เคล็ดขัดยอก
ข้อบวมและข้อเท้าแพลง


"งา" ผ่านการคิดค้นวิธีแปรรูปโดยภูมิปัญญาท้องถิ่นของชาวไทยใหญ่
ที่เรียกว่า "อีดงา" หรือการบีบหรือสกัดน้ำมันออกมาจากเมล็ดงา
มาตั้งแต่ครั้งบรรพบุรุษ และปัจจุบันยังสืบต่อมาในรูปของ "น้ำมันงา"
ซึ่งสามารถนำมาใช้ประโยชน์ได้สารพัด


- งามีโอเมก้า 6 ช่วยให้เส้นประสาททำงานได้ดีขึ้น กระตุ้นการสร้างเซลล์ใหม่
ช่วยลดอาการปวดท้อง เจ็บคัดหน้าอก อาการหงุดหงิด
ในระยะก่อนมีประจำเดือน ลดไขมันในเลือด
บรรเทาอาการปวดข้อรูมาตอยด์ ต้านโรคสะเก็ดเงิน ต้านโรคผื่นผิวหนังอักเสบ
ช่วยปรับสภาพผิวที่แห้งกร้านให้กลับดูนุ่มเนียนสดใส
ลดริ้วรอยและความหมองคล้ำของผิวพรรณ
ป้องกันไม่ให้ผิวสูญเสียน้ำหล่อเลี้ยงผิว ทำให้ผิวเนียน มีสุขภาพดี

- งามีโอเมก้า 9 ช่วยเพิ่มโคเลสเตอรอลชนิดดี (HDL) ซึ่งช่วยป้องกันโรคหัวใจ
ต้านโรคหลอดเลือดแข็ง ต้านโรคปวดข้อรูมาตอยด์
ต้านโรคแพ้ภูมิตัวเอง (SLE)
ต้านโรคหอบหืด ต้านโรคหลอดลมอักเสบ
ต้านโรคลำไส้อักเสบเรื้อรัง ต้านเบาหวาน ต้านโรคซึมเศร้า
ต้านโรคผื่นผิวหนังอักเสบ ต้านโรคกล้ามเนื้ออักเสบทั่วตัว
ต้านการเกิดซีส (ที่เต้านม ฯลฯ) ต้านโรคปวดหัว และ ไมเกรน
ต้านโรคปวดหลัง ต้านโรค Multiple Sclerosisป้องกันการแก่ก่อนวัย

ป้องกันปัญหาต่อมลูกหมาก ต้านโรคสะเก็ดเงิน ต้านอาการเอ็นอักเสบต่าง ๆ

งา มีสาร Beta – sitosterol ซึ่งมีฤทธิ์ลดอาการอักเสบได้
ช่วยบรรเทาอาการผิวไหม้แดง และช่วยกระบวนการหายของแผล

งา ช่วยลดอาการอักเสบของริดสีดวง และช่วยลดอาการท้องผูกได้

- สำหรับผู้ที่เป็นสิวช่วงก่อนมีประจำเดือนทานน้ำมันงาก็จะช่วยให้ไม่เป็นได้ค่ะ
เพราะงาจะไปช่วยปรับ ฮอโมนในร่างกายเรา ส่วนเรื่องที่ทำให้คิ้วดกหรือเปล่านั้น
ไม่แน่ใจน่ะค่ะแต่ถ้าเป็นดอกอัญชันล่ะก็แน่นอนค่ะ
โดยการที่นำดอกอัญชันมาบดให้เละแล้วก็ทาคิ้วได้เลย ทาทิ้งไว้ตอนนอน
ตื่นมาก็ล้างออก ทำบ่อยๆจะทำให้คิ้วดกดำขึ้นค่ะ


ที่มา: Yahoo รู้รอบประเทศไทย


วัสลามค่ะ


"และข้ามิได้สร้างญิน และมนุษย์เพื่ออื่นใด เว้นแต่เพื่อเคารพภักดีต่อข้า"

(ซูเราะฮฺ อัซซาริยาต อายะอฺที่ 56)

ออฟไลน์ nada-yoru

  • เพื่อนรัก (6_6)
  • *****
  • กระทู้: 4010
  • เพศ: หญิง
  • แสงและเงา
  • Respect: +134
    • ดูรายละเอียด
Re: สูตร(ไม่)ลับสำหรับสุขภาพ
« ตอบกลับ #77 เมื่อ: ธ.ค. 09, 2009, 01:15 AM »
0


กินตามกรุ๊ปเลือด

กำลัง เป็นเทรนด์ใหม่ที่ได้รับความนิยมของ Dr.Peter J.D"Adamo
ซึ่งได้รับรางวัลแพทย์ธรรมชาติบำบัดยอดเยี่ยมจากอเมริกา ปี 1990
เขาใช้เวลาในการศึกษาเรื่องนี้มานานกว่า 30 ปี
จนได้ข้อสรุป และเขียนเป็นหนังสือชื่อ Eat Right for Your Type


เขาอธิบายว่า เลือดแต่ละกรุ๊ปมีสารเคมีในเลือดต่างกัน
แต่จะมี Antigen เป็นตัวกระตุ้นการสร้างภูมิคุ้มกันให้กับร่างกาย
ซึ่งอาหารทุกชนิดล้วนมีโปรตีนซึ่งเป็นอนุมูลอิสระ
มีคุณสมบัติเหนียวและจับเกาะติดเลือดเรียกว่า เล็คติน
ถ้าการกินอาหารที่มีเล็คตินไม่เหมาะกับเลือดเรา
เล็คตินเหล่านั้นยังเข้าไปรบกวนการทำงานของระบบย่อยอาหาร
การสร้างอินซูลิน การเผาผลาญอาหาร และความสมดุลของฮอร์โมน


คุณสุวิมล สุธีโสภณ ต้นตำรับอาหารแนว blood type cuisine
ในชื่อ The Third Floor อาคารวีรสุ ถนนวิทยุ เป็นผู้ที่ศึกษา
และทดลองกินอาหารตามกรุ๊ปเลือดมานานกว่า 3 ปี
เธอบอกว่า การกินแบบนี้ไม่ทรมานตัวเองจนเกินไป
ขณะที่การกินอาหารแนวอื่น อาจจะทำให้เรารู้สึกเครียด เพราะความอยากกิน
แต่วิธีนี้เพียงแต่เรากินของที่ห้ามให้น้อยลงและกินของมีประโยชน์ให้มากขึ้น
ซึ่งผลพลอยได้คือ น้ำหนักลด โรคปวดตามข้อค่อยๆ หายไป


หลายคนที่เอาหลักนี้ไปแล้วลองทำกับข้าวกินเอง ชมว่าเขาน้ำหนักลดลง
ไปกินอาหารนอกบ้านก็ไม่ลำบาก เพราะเราสามารถเอาหลักการกิน
ตามกรุ๊ปเลือดไปปรับใช้ได้


กรุ๊ป A นักมังสวิรัติดีๆ นี่เอง

คน เลือดกรุ๊ปนี้ส่วนใหญ่จะมีกรดในกระเพาะต่ำ
ทำให้ระบบการย่อยไม่ค่อยดี ระบบภูมิคุ้มกันก็ไม่ดี
มีโอกาสเสี่ยงต่อการเกิดโรคหัวใจและมะเร็ง
กรุ๊ปเอ จึงถูกจัดเป็นนักมังสวิรัติ อาหารที่เหมาะกับกรุ๊ปเลือด
กินปลาสัปดาห์ละ 3-4 ครั้ง เพื่อเสริมโปรตีน หลีกเลี่ยงปลาเนื้อขาว
เช่น ปลาตาเดียว หรือปลาจะละเม็ด เพราะมีเล็คตินรบกวนระบบการย่อย
หลีกเลี่ยงเนื้อสัตว์ต่างๆ อาจกินเนื้อไก่ได้นิดหน่อย
เลือกดื่มนมถั่วเหลือง นมแพะ หรือโยเกิร์ตไขมันต่ำแทนนมวัว
กินไข่ได้บ้างเป็นครั้งคราว บรรดาตระกูลถั่วต่างๆ อาทิ เมล็ดฟักทอง
เมล็ดทานตะวัน ถั่วลิสงที่มีเยื่อหุ้มบางๆ และถั่วเหลือง
เหมาะกับคนเลือดกรุ๊ปนี้ สามารถกินข้าวกล้องหรือซีเรียลได้วันละ 1-2 ครั้ง
ผักทั้งสด และสุก กินแล้วดี โดยเฉพาะหอมหัวใหญ่และบร็อกโคลี่
มีสารแอนติออกซิแดนต์สูง แคร์รอต ฟักทอง ผักโขม และกระเทียม
ช่วยกระตุ้นการสร้างภูมิคุ้มกัน กินผลไม้ได้แทบทุกชนิดยกเว้นแตงโม
แคนตาลูป มะม่วง มะละกอ กล้วย ส้ม เพราะย่อยยาก
พวกชาสมุนไพรจะไปเพิ่มกรดในกระเพาะ ไวน์แดงดื่มได้
แต่ควรเลี่ยงเบียร์และน้ำอัดลม


กรุ๊ป B อ้วนง่าย

คน ที่มีเลือดกรุ๊ปนี้ ส่วนใหญ่มีปัญหากับไวรัส และภูมิคุ้มกันบกพร่อง
ระบบประสาทไม่ค่อยดีชอบปวดตามข้อ ซึ่งไม่ใช่อาการของเก๊าต์
หรือรูมาตอยด์ มีโอกาสเกิดโรคแผลในสมอง (Sclerosis)
หรือโรคแพ้ภูมิตัวเอง


อาหารที่เหมาะกับกรุ๊ปเลือด เนื้อกระต่าย กวาง แกะ ไก่งวง
ควรกินปลาน้ำลึก เช่น ปลาหิมะ และปลาเนื้อขาวอย่างปลาจะละเม็ด
ปลาตาเดียว หลีกเลี่ยงเนื้อหมู ไก่ หอยเชลล์ กุ้ง ปู หอยแครง
เพราะจะรบกวนระบบในร่างกาย สามารถกินนม เนย ไข่
ในปริมาณที่เหมาะสมได้

ข้าวโอ๊ตและข้าวกล้องดีต่อคนเลือดกรุ๊ปนี้ ขณะที่แป้งสาลี ถั่วลิสง
และโฮลวีต ไม่ดีต่อระบบเผาผลาญของร่างกายทำให้อ้วน และไม่ดีต่อเลือด
อาจเป็นสาเหตุของโรคเส้นโลหิตแตก ควรลองแป้งสเปลต์ (Spelt)
ซึ่งเป็นแป้งที่มีคุณค่าทางสารอาหาร และมีไฟเบอร์สูง
ผักใบเขียวทุกชนิดกินดีหมด เพราะมีแมกนีเซียมช่วยป้องกันอาการผื่นคัน
แต่ถ้าอยู่ระหว่างไดเอ็ตควรหลีกเลี่ยงมะเขือเทศ และข้าวโพด
เพราะมีผลต่อการสร้างอินซูลิน และระบบเผาผลาญ
กินผลไม้ได้แทบทุกชนิด ยกเว้น ลูกพลับ ทับทิม และลูกแพร์
ชาสมุนไพรที่ให้ประโยชน์คือ ขิง เปปเปอร์มิ้นต์ โสม ชาเขียว


กรุ๊ป O High Protein

ปัญหาของคนเลือดกรุ๊ปนี้คือ กระเพาะมีความเป็นกรดสูง
สามารถย่อยอาหารจำพวกเนื้อได้ดีกว่าเลือดกรุ๊ปอื่น
แต่ระบบการเผาผลาญไม่ค่อยดี ระดับฮอร์โมนธัยรอยด์ไม่ค่อยคงที่
จึงทำให้อ้วนง่าย ตามติดมาด้วยปัญหาเลือดแข็งตัวช้า

อาหารที่เหมาะ กับกรุ๊ปเลือด เลือกกินเนื้อได้ตามใจชอบ
กินอาหารทะเลได้เป็นประจำ เพื่อป้องกันโรคเลือดไม่แข็งตัว และธัยรอยด์
แต่ระวังเรื่องไขมันและคอเลสเตอรอลด้วย กินนม เนย ไข่
ในปริมาณที่พอเหมาะ ถ้าอยากผอมต้องเลี่ยงแป้งสาลี ข้าวโอ๊ต
และบรรดาถั่วต่างๆ

ผัก กินได้แทบทุกชนิด โดยเฉพาะบร็อกโคลี่ ผักโขม มีวิตามินเคสูง
ช่วยให้เลือดแข็งตัว ส่วนผักตระกูลกะหล่ำหลีกเลี่ยงเพราะมีผลต่อธัยรอยด์
เห็ดหอม และมะกอกดองทำให้เกิดอาการแพ้ มะเขือยาวและมันฝรั่ง
ทำให้ปวดข้อ ผลไม้กินได้แทบทุกชนิด โดยเฉพาะตระกูลเกรปฟรุต
ตระกูลเบอร์รี่ (ยก เว้นแบล็คเบอร์รี่) ช่วยลดน้ำหนัก ควรเลี่ยงแคนตาลูป
มะพร้าว ส้ม และสตรอเบอร์รี่ เพราะมีกรดสูงเกินไป ชา สมุนไพรที่ดีต่อสุขภาพ
อาทิ เปปเปอร์มินต์ Licorice Tea Parsley ฯลฯ ไม่ควรดื่มเบียร์ ชา กาแฟ
เพราะจะเพิ่มกรดในกระเพาะให้หนักเข้าไปอีก


กรุ๊ป AB มังสวิรัติและคาร์โบไฮเดรต

กรุ๊ป นี้เป็นการผสมผสานระหว่างกรุ๊ปเลือด เอ กับ บี
ดังนั้น วิถีการกินที่เหมาะสมกับคนกรุ๊ปนี้เป็นการผสมผสาน
การกินมังสวิรัติหน่อยๆ กับการกินแบบกรุ๊ปบี นิดๆ
คนที่มีเลือดกรุ๊ปนี้มีจุดอ่อนเรื่องสุขภาพ อยู่ที่ระบบภูมิคุ้มกันอ่อนแอ
และกรดในกระเพาะต่ำ

อาหาร ที่เหมาะ สมกับกรุ๊ปเลือด ได้แก่ ผลิตภัณฑ์จากถั่วเหลืองและเต้าหู้
สามารถกินเนื้อแกะ กวาง กระต่าย และไก่งวงได้นิดหน่อย
ไม่ควรกินปลาเนื้อขาวและแซลมอนรมควันเพราะย่อยยาก
และเป็นพิษต่อระบบทางเดิน อาหาร สามารถกินนม เนย ไข่
และโยเกิร์ตไขมันต่ำได้ จำพวกข้าว ข้าวโอ๊ต ข้าวไรย์
มีประโยชน์ต่อร่างกาย แต่ควรงดเว้นการกินถั่วแดง งา เมล็ดฟักทอง
เมล็ดทานตะวัน ข้าวโพด เพราะจะชะลอการทำงานของอินซูลิน
ทำให้น้ำตาลในเลือดลดลงเฉียบพลัน ผักสดกินได้แทบทุกชนิด
ช่วยป้องกันมะเร็งและโรคหัวใจ ผลไม้กินได้ดีเป็นบางอย่าง
อาทิ องุ่น พลัม ตระกูลเบอร์รี่ สับปะรด ส้มโอ ฯลฯ
เพราะช่วยสร้างความสมดุลของกรดในเนื้อเยื่อ
ไม่ควรกินกล้วย มะม่วง ฝรั่ง ส้ม



ขอขอบคุณ : ข้อมูลจากแผ่นพับ ของ ศูนย์บริการโลหิตแห่งชาติ สภากาชาดไทย



วัสลามค่ะ


 loveit:

"และข้ามิได้สร้างญิน และมนุษย์เพื่ออื่นใด เว้นแต่เพื่อเคารพภักดีต่อข้า"

(ซูเราะฮฺ อัซซาริยาต อายะอฺที่ 56)

little cat

  • บุคคลทั่วไป
Re: สูตร(ไม่)ลับสำหรับสุขภาพ
« ตอบกลับ #78 เมื่อ: ธ.ค. 09, 2009, 01:53 AM »
0
oh: กรุ๊ปเองิ

ออฟไลน์ ILHAM

  • เพื่อนตาย T_T
  • *****
  • กระทู้: 11348
  • เพศ: ชาย
  • Sherlock Holmes
  • Respect: +273
    • ดูรายละเอียด
    • ILHAM
Re: สูตร(ไม่)ลับสำหรับสุขภาพ
« ตอบกลับ #79 เมื่อ: ธ.ค. 09, 2009, 05:04 AM »
0
^
เอพันธุ์แท้หรือพันธุ์ทาง
إن شاءالله ติด ENT'?everybody

Sherlock Holmes said "How often have I said to you that when you have eliminated the impossible, whatever remains, however improbable, must be the truth?"
-------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------

ออฟไลน์ Bangmud

  • เพื่อนรัก (6_6)
  • *****
  • กระทู้: 2821
  • Respect: +127
    • ดูรายละเอียด
Re: สูตร(ไม่)ลับสำหรับสุขภาพ
« ตอบกลับ #80 เมื่อ: ธ.ค. 09, 2009, 09:03 AM »
0
แชเลือดกลุ่ม เอ
อ้างถึง
กรุ๊ปเอ จึงถูกจัดเป็นนักมังสวิรัติ อาหารที่เหมาะกับกรุ๊ปเลือด
กินปลาสัปดาห์ละ 3-4 ครั้ง เพื่อเสริมโปรตีน หลีกเลี่ยงปลาเนื้อขาว
เช่น ปลาตาเดียว หรือปลาจะละเม็ด เพราะมีเล็คตินรบกวนระบบการย่อย
หลีกเลี่ยงเนื้อสัตว์ต่างๆ อาจกินเนื้อไก่ได้นิดหน่อย
เลือกดื่มนมถั่วเหลือง นมแพะ หรือโยเกิร์ตไขมันต่ำแทนนมวัว
กินไข่ได้บ้างเป็นครั้งคราว บรรดาตระกูลถั่วต่างๆ อาทิ เมล็ดฟักทอง
เมล็ดทานตะวัน ถั่วลิสงที่มีเยื่อหุ้มบางๆ และถั่วเหลือง
เหมาะกับคนเลือดกรุ๊ปนี้ สามารถกินข้าวกล้องหรือซีเรียลได้วันละ 1-2 ครั้ง
ผักทั้งสด และสุก กินแล้วดี โดยเฉพาะหอมหัวใหญ่และบร็อกโคลี่
มีสารแอนติออกซิแดนต์สูง แคร์รอต ฟักทอง ผักโขม และกระเทียม
ช่วยกระตุ้นการสร้างภูมิคุ้มกัน กินผลไม้ได้แทบทุกชนิดยกเว้นแตงโม
แคนตาลูป มะม่วง มะละกอ กล้วย ส้ม เพราะย่อยยาก
พวกชาสมุนไพรจะไปเพิ่มกรดในกระเพาะ ไวน์แดงดื่มได้
แต่ควรเลี่ยงเบียร์และน้ำอัดลม
ต้องไปหาปลาแซลมอนกิน เพราะปลาเมืองไทยมีแต่เนื้อสีขาว ปลาโอบางชนิดเนื้อสีดำ ปลาแซลมอนเนื้อสีแดง คงจะพอกินได้
ผักกินบ้าง แต่เนื้อสัตว์คงจะขาดยาก ชอบทั้งแพะและไก่ ถ้าไม่กินตามคำแนะนำแล้วจะเป็นโรคอะไรได้บ้าง
ขณะนี้มีทั้งความดันโลหิตสูง เบาหวาน ไขมันสูง Ankylosing spondylitis ฯลฯ คนสูงอายุเขาเป็นโรคไหนกัน แชรับมาหมด
ไม่เข้าใจว่าทำไม มะละกอ กล้วยและส้ม จึงย่อยยาก เพราะกินทีไรก็เห็นย่อยง่ายทุกที
อายุก็ประมาณนี้แล้ว ถ้าต้องมางดของชอบเพื่อยืดอายุไปอีกปี 2 ปี คงไม่เอาแล้ว
กินตามใจปาก กินของอร่อย กินแล้วไม่ตายทันทีก็กินไปเถอะ แชว่านะ

ออฟไลน์ ILHAM

  • เพื่อนตาย T_T
  • *****
  • กระทู้: 11348
  • เพศ: ชาย
  • Sherlock Holmes
  • Respect: +273
    • ดูรายละเอียด
    • ILHAM
Re: สูตร(ไม่)ลับสำหรับสุขภาพ
« ตอบกลับ #81 เมื่อ: ธ.ค. 09, 2009, 01:00 PM »
0
กินแล้วไม่ตายทันทีก็กินไปเถอะ 555 ชอบๆๆๆ

ว่าแต่แช เอพันธุ์ทางหรือพันธุ์แท้ล่ะ
إن شاءالله ติด ENT'?everybody

Sherlock Holmes said "How often have I said to you that when you have eliminated the impossible, whatever remains, however improbable, must be the truth?"
-------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------

ออฟไลน์ nada-yoru

  • เพื่อนรัก (6_6)
  • *****
  • กระทู้: 4010
  • เพศ: หญิง
  • แสงและเงา
  • Respect: +134
    • ดูรายละเอียด
Re: สูตร(ไม่)ลับสำหรับสุขภาพ
« ตอบกลับ #82 เมื่อ: ธ.ค. 09, 2009, 01:20 PM »
0
 salam

แชมัดพูดเหมือนแม่ข้าน้อยเลยค่ะ (แม่ข้าน้อยก็เป็น สว ด้วยค่ะแช)... ;D
เพราะแม่โดนหมอสั่งห้ามทานโน่นทานนี่สารพัดอย่าง
เคยโทรมาบ่นกับข้าน้อยบ่อยๆ ถามว่า ที่หมอห้ามน่ะแม่ชอบหมด
แต่ที่หมอให้กินได้ แม่ไม่เห็นชอบเลย
คนไม่ชอบให้กินเข้าไปได้ยังไงล่ะ...
ของกินก็มี จะกินก็ไม่ได้ ริสกีมาหาแท้ๆแต่กลับกินไม่ได้...
ล่าสุดโทรมาปรึกษาว่าอยากกินเนื้อกุรบาน แต่หมอห้ามกินพวกเนื้อ
เพราะว่าย่อยยาก แล้วที่สำคัญ แม่กินทีไรเป็นผื่นคันทั้งตัว
บางครั้งเกาจนแสบ ต้องกินยาเป็นเดือนๆถึงจะหาย...
ข้าน้อยเลยใบ้กินไปพักนึง...เลยถามแม่ว่า...แม่คิดว่าแม่รับอาการคันนั้นได้มั้ย...
แม่บอกว่าไม่ไหว ทรมาน สุดท้ายเลยบอกแม่ว่า...
ดุอาฮฺขออย่าให้อยาก ให้เราสามารถทานของที่เป็นประโยชน์ต่อตัวเราได้
เพราะลางเนื้อชอบลางยา...แม่ก็พูดว่า ต้องปลงใช่มั้ยลูก...
ข้าน้อยเลยบอกว่า แม่อยากกินอะไรก็กินเถอะแม่...
หากแม่คิดว่า มันไม่ทำร้ายแม่ อย่างน้อยแม่ก็นึกถึงลูกที่อยู่ไกลด้วยนะคะ
เขาคงเป็นห่วงแม่อยู่เหมือนกันนา...
เชื่อมั้ยคะแช แม่ข้าน้อยเคยแอบกินทุเรียน
ทั้งที่หมอสั่งห้ามนักสั่งห้ามหนาจนความดันขึ้น ช็อคเข้าโรงพยาบาลมาแล้วค่ะ
ด้วยประการละฉะนี้...แม่จึงต้องยอมความตามใจลูกบ้างในบางครั้งค่ะแช...
จริงๆนะคะ...เมื่อก่อนเวลาข้าน้อยป่วย แม่ก็ห้ามโน่นห้ามนี่เหมือนกันนะคะ
มีคนเอาของกินมาฝากตั้งมากมายกินได้แค่ไข่ต้มก็เคยมาแล้ว...
แม่บอกว่าหายก่อนแล้วค่อยกิน...ข้าน้อยเคยแขวะว่าถ้าตายตอนนี้ล่ะแม่
อดเลยนะนั่น...แม่บอกว่า อดทนๆ อัลลอฮฺรักผู้ที่อดทน
พระองค์จะคุ้มครอง ลูกจะหาย...แล้วค่อยกินนะ...
(ปลอบเราสุดๆ) ;D

โต๊ะครูของข้าน้อยเป็นโรคลำไส้ ต้องผ่าตัดลำไส้
หมอห้ามกินโน่นกินนี่อยู่ช่วงนึง จนหมดหนทางเยียวยารักษา
หมอเลยหยุดห้าม ข้าน้อยเลยฝากแม่ถามว่าโต๊ะครูอยากกินอะไร
เดี๋ยวจะส่งไปให้...โต๊ะครูบอกว่าได้ทั้งนั้น หากเป็นของลูกศิษย์
เลยส่งเห็ดหอมไปให้ค่ะ...ชื่นใจสุดๆ เพราะแม่บอกว่า
โต๊ะครูทานข้าวได้เยอะกว่าครั้งไหนๆ แล้วหลังจากนั้นไม่กี่วัน
ท่านก็กลับไปสู่ความเมตตาของอัลลอฮฺ...


ปล.หมอกลัวอะไรมากที่สุดคะแช...หมอกลัวหมอด้วยกันบ้างหรือเปล่าคะ
สำหรับกระทู้เรื่องเลือกทานอาหารตามกรุ๊ปเลือดนั้น...
ข้าน้อยเองก็ใช่ว่าจะตามนั้นนะคะแช เพราะว่าตอนนี้ ที่กินได้อยู่
ก็มีไม่กี่อย่างเองค่ะ...อย่างน้อยๆเนื้อสัตว์สี่เท้าก็กินไม่ได้
เพราะแสลงมาตั้งแต่เกิด บวกกับอาหารหะรอมต่างๆตามหลักศาสนา
ข้าน้อยว่า หากให้งดกว่านี้อีก คงเหลือไม่กี่อย่างที่ทานได้ค่ะแช... hehe
แต่ในภาวะที่เจ็บป่วย ยอมทุกอย่างค่ะแช...
แม้ขนาดต้องกินไข่ต้มเช้าเย็นยังเคยยอมตามใจหมอและแม่มาแล้วเลยค่ะ...
(ก็ไม่เข้าใจว่าทำไมต้องยอมด้วยค่ะ) hehe


วัสลามค่ะ


 
"และข้ามิได้สร้างญิน และมนุษย์เพื่ออื่นใด เว้นแต่เพื่อเคารพภักดีต่อข้า"

(ซูเราะฮฺ อัซซาริยาต อายะอฺที่ 56)

ออฟไลน์ มัยซูน

  • เพื่อนสนิท (._.")
  • ***
  • กระทู้: 280
  • Respect: 0
    • ดูรายละเอียด
Re: สูตร(ไม่)ลับสำหรับสุขภาพ
« ตอบกลับ #83 เมื่อ: ธ.ค. 09, 2009, 01:54 PM »
0
ประสบการณ์ตรงค่ะ

ก่อนโน้น สิบกว่าปีแล้ว แม่เป็นคนเจ็บออดๆแอดๆ
สามวันดีสี่วันไข้ เดี๋ยวเป็นโน่น เดี๋ยวเป็นนี่ สุขภาพแย่มาก
ทำให้คุณภาพชีวิตแย่ตามไปด้วย

หลังจากคุณพ่อเสีย มีการปฏิวัติเรื่องอาหารการกิน
ขอใช้คำว่าปฏิวัติ เพราะเป็นการเปลี่ยนครั้งใหญ่
มีการดูแลสุขภาพเรื่องกิน เรื่องออกกำลังกาย และอย่างอื่นด้วย
แต่ก็เรื่องกินเป็นหลัก  สุขภาพแม่ดีขึ้นเรื่อยๆ

ภูมิแพ้ ปวดเมื่อยตามเนื้อตามตัว ไอ หอบหายไปเลย 
จนเวลาล่วงเลยมาเกือบสิบปีแล้ว จนเมื่อเดือนรอมดอนที่ผ่านมา
ก่อนรายอ 2 วัน แม่ต้องเข้าโรงพยาบาล
และภายใน 7 วัน นั้น แม่เข้า รพ.สามครั้ง

หลังจากวิเคราะห์กันแล้ว ก็พอจะทราบที่มาที่ไป
จึงบอกให้แม่รู้ และแก้ไข พอแม่กลับไปกินอาหารเหมือนเดิม

นี่ก็หลายเดือนแล้ว ไม่ต้องเข้า รพ.อีกเลย


« แก้ไขครั้งสุดท้าย: ธ.ค. 09, 2009, 02:53 PM โดย มัยซูน »
ใช้สองมือหนึ่งหัวใจบอกเล่ากับพระองค์ก้มหน้าลง..แล้วขอความเมตตา

ออฟไลน์ nada-yoru

  • เพื่อนรัก (6_6)
  • *****
  • กระทู้: 4010
  • เพศ: หญิง
  • แสงและเงา
  • Respect: +134
    • ดูรายละเอียด
Re: สูตร(ไม่)ลับสำหรับสุขภาพ
« ตอบกลับ #84 เมื่อ: ธ.ค. 09, 2009, 02:04 PM »
0
oh: กรุ๊ปเองิ

พี่บีงิ...

ครอบครัวพี่บีเกือบทั้งหลัง(คนที่โดนจับตรวจก็บีกันทั้งนั้นค่ะ)
ให้เลือดกันได้ด้วยงิ... ;D

มีคนบอกว่า บีพันธุ์ทาง เพราะไม่ค่อยเหมือนพวกบีด้วยกันเท่าไหร่ 555

ว่าแต่เอพันธุ์ทางของอิลฮามเป็นอย่างไรรึ...

 cool2:

ปล.ประชากรญี่ปุ่นส่วนใหญ่ เอค่ะ...ส่วนบีน้อยสุดๆ
คนญี่ปุ่นชอบทักว่าพี่กรุ๊ปโอ ที่ญี่ปุ่นเขาวิจัยกันถึงเรื่อง
ลักษณะนิสัยตามหมู่เลือด แต่พี่เฉยๆ
เพราะว่าที่เขาว่ามา ไม่เห็นเป็นพี่เลยนิ(สาว่า)
สงสัยทฤษฎีนั้นคงใช้ได้เฉพาะคนญี่ปุ่นมั้งคะ...เหอๆ
มีบางบริษัท รับคนเข้าทำงานโดยการมองที่กรุ๊ปเลือดด้วย
เขาบอกว่ามีผลต่อการทำงานนั้นๆซะงั้น...
กรุ๊ปเลือดที่เขาไม่ต้องการเขาก็ไม่รับเข้าทำงาน
ต่อให้มีผลงานดีหรือประสบการณ์ดีมาก่อนก็ตามค่ะ...
ตอนฟังแรกๆตกใจ แต่มันก็เป็นเรื่องจริง เขาทำอย่างนั้นจริงๆ
ตอนไปสมัครทำงานพิเศษระหว่างเรียน
เขายังถามพ่ีเลยว่าพี่กรุ๊ปเลือดอะไร ตอนนั้นมึนว่านี่ฉันมาสมัครงาน
ไม่ได้มาโรงพยาบาลนะ...ก็ค่อยๆเข้าใจมาเรื่อยๆ... ;D

« แก้ไขครั้งสุดท้าย: ธ.ค. 09, 2009, 02:14 PM โดย nada-yoru »
"และข้ามิได้สร้างญิน และมนุษย์เพื่ออื่นใด เว้นแต่เพื่อเคารพภักดีต่อข้า"

(ซูเราะฮฺ อัซซาริยาต อายะอฺที่ 56)

ออฟไลน์ ILHAM

  • เพื่อนตาย T_T
  • *****
  • กระทู้: 11348
  • เพศ: ชาย
  • Sherlock Holmes
  • Respect: +273
    • ดูรายละเอียด
    • ILHAM
Re: สูตร(ไม่)ลับสำหรับสุขภาพ
« ตอบกลับ #85 เมื่อ: ธ.ค. 09, 2009, 02:24 PM »
0
แปลกๆจริง ดูอาขอไม่ให้อยากกิน ต้องดูอาขอให้ไม่คันสิ
إن شاءالله ติด ENT'?everybody

Sherlock Holmes said "How often have I said to you that when you have eliminated the impossible, whatever remains, however improbable, must be the truth?"
-------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------

ออฟไลน์ a d n a n

  • เพื่อนแท้ (-.^)
  • ****
  • กระทู้: 698
  • เพศ: ชาย
  • "และคำพูดที่ดี เป็นซอดาเกาะฮฺ" (บุคอรียฺ , มุสลิม)
  • Respect: +13
    • ดูรายละเอียด
Re: สูตร(ไม่)ลับสำหรับสุขภาพ
« ตอบกลับ #86 เมื่อ: ธ.ค. 09, 2009, 02:26 PM »
0
^
^
มีด้วยหรอ ขอให้ไม่คาน    Oops:
หากมาอย่าง " ผึ้ง " ก็จะได้ ~o น้ำหวาน o~ กลับไป oOo หากมาอย่าง " แมลงวัน " ก็จะไม่ได้อะไร นอกจาก

ออฟไลน์ nada-yoru

  • เพื่อนรัก (6_6)
  • *****
  • กระทู้: 4010
  • เพศ: หญิง
  • แสงและเงา
  • Respect: +134
    • ดูรายละเอียด
Re: สูตร(ไม่)ลับสำหรับสุขภาพ
« ตอบกลับ #87 เมื่อ: ธ.ค. 09, 2009, 02:44 PM »
0
แปลกๆจริง ดูอาขอไม่ให้อยากกิน ต้องดูอาขอให้ไม่คันสิ

ไม่แปลกหรอกอิลฮาม...เพราะว่่าแม่พี่ไม่ได้เป็นโรคเดียว
บางโรคแสลงกับอาหารบางอย่าง บางโรคไม่แสลง
เมื่อจับมาชนกัน เลยกินได้ไม่กี่อย่าง...
แต่แม่พี่อยากกินทุกอย่่างที่หมอห้ามน่ะสิ...
แล้วที่หมอห้ามเพราะมีกรณีว่าโรคนั้นรักษาไม่หายขาด
คือต้องรักษาตามอาการ เมื่อคันก็ให้ยาแก้คัน ฯลฯ

ดังนั้น อาหารบางอย่างกินได้ บางอย่างกินไม่ได้
พี่นั้นดุอาฮฺให้แม่พี่หายขาดจากอาการป่วยตลอด...
แค่อาการท่านไม่กำเริบ ก็อัลฮัมดุลิลลาฮฺแล้วค่ะ...
เลยต้องควบคุม เพราะบางโรคไม่มียารักษาให้หายขาดได้...
หรือพูดง่่ายๆคือเป็นหลายโรค เลยหาสาเหตุที่แท้จริงแห่งโรคไม่ได้
เลยต้องรักษาตามอาการ...
และการรักษาที่หมอแนะนำคือเรื่องโภชนาการค่ะ...
คือควบคุมการทานอาหาร การออกกำลังกาย ไม่ให้อาการกำเริบ
มิใช่ทำเพื่อให้หายขาด...
เห็นแม่อยากกิน ทั้งที่กินแล้วต้องเข้าโรงพยาบาล
สิ่งเดียวที่ขอได้คือ ขอให้แม่พ่ีไม่อยากกินในสิ่งนั้นๆ
เหมือนที่พี่ก็ขอให้พ่ีไม่อยากกินเนื้อวัวหรือสัตว์สี่เท้า
เพราะว่าเวลาได้กลิ่นก็หอมนะ...แต่กินเข้าไปแล้วทรมาน
พาลจะออกมาทั้งหมดที่กินไป คลื่นไส้ได้ทั้งวัน...
พี่ไม่ได้เป็นโรคแต่มันเป็นของแสลง...
และเวลาอยากกินแล้วกินไปแล้วทรมานกว่าการไม่ได้กินในส่ิงที่อยาก
พี่ว่าเมื่อไม่อยากก็ตัดปัญหาไปได้เยอะค่ะ...

เพราะเวลาแม่พี่ช็อคทีนี้ ไม่หายใจจับชีพจรไม่เจอหลายนาที
ความรู้สึกนั้นแหล่ะค่ะที่สั่งให้เราต้องใส่ใจท่านมากกว่าแต่ก่อน...
โดยมีพี่สาวพี่คอยดูแลควบคุมเรื่องนี้อยู่อย่่างใกล้ชิด ห่างไม่ได้เลยค่ะ
พี่เลยบอกพี่สาวว่า นี่เป็นอามานะฮฺที่พี่สาวมีโอกาสได้ทำหน้าที่
ที่ครั้งหนึ่งแม่เคยทำให้เราเมื่อตอนเรายังเล็กๆ
เพราะลูกบางคนไม่มีโอกาสได้ทำหรือทำแต่ทำได้ไม่เต็มที่...
ท่านเองก็ยอมนะคะ เพียงแต่งอแงบ้างในบางครั้ง...





"และข้ามิได้สร้างญิน และมนุษย์เพื่ออื่นใด เว้นแต่เพื่อเคารพภักดีต่อข้า"

(ซูเราะฮฺ อัซซาริยาต อายะอฺที่ 56)

ออฟไลน์ FiTrImA

  • เพื่อนซี้ (o_O')
  • **
  • กระทู้: 130
  • เพศ: หญิง
  • " จะมีการตอบแทนความดีอันใดเล่านอกไปจากความดี? "
  • Respect: +2
    • ดูรายละเอียด
Re: สูตร(ไม่)ลับสำหรับสุขภาพ
« ตอบกลับ #88 เมื่อ: ธ.ค. 09, 2009, 04:10 PM »
0
 salam
เฮ้อ !! เรื่องกินเนี๊ยห้ามไม่ได้จิง ๆ
เครียดก็กิน ดีใจก็ฉลอง ( ที่ร้านอาหาร)
ไม่ว่าอารมย์ไหนก็กินได้ตลอด  เหอๆๆ

ช่วงนี้แบบว่าคับมากก
ก็พยามยามจะกินให้พอดี กินเวอร์ไปก็ไม่เหมาะสม
และต้องกินอาหารที่ฮาลาลด้วย จะได้งอิ่ม และไม่ปาบ hehe


แค่อยากระบาย เพราะอยู่ในช่วงอึดอัด  loveit:

 

ออฟไลน์ ILHAM

  • เพื่อนตาย T_T
  • *****
  • กระทู้: 11348
  • เพศ: ชาย
  • Sherlock Holmes
  • Respect: +273
    • ดูรายละเอียด
    • ILHAM
Re: สูตร(ไม่)ลับสำหรับสุขภาพ
« ตอบกลับ #89 เมื่อ: ธ.ค. 09, 2009, 04:14 PM »
0
salam
เฮ้อ !! เรื่องกินเนี๊ยห้ามไม่ได้จิง ๆ
เครียดก็กิน ดีใจก็ฉลอง ( ที่ร้านอาหาร)
ไม่ว่าอารมย์ไหนก็กินได้ตลอด  เหอๆๆ

ช่วงนี้แบบว่าคับมากก
ก็พยามยามจะกินให้พอดี กินเวอร์ไปก็ไม่เหมาะสม
และต้องกินอาหารที่ฮาลาลด้วย จะได้งอิ่ม และไม่ปาบ hehe


แค่อยากระบาย เพราะอยู่ในช่วงอึดอัด  loveit:

 

ปลงเถอะ ฟิตเอ๋ย ขนาดนั้นยังไงๆก็ลดไม่ได้แล้ว 5555
إن شاءالله ติด ENT'?everybody

Sherlock Holmes said "How often have I said to you that when you have eliminated the impossible, whatever remains, however improbable, must be the truth?"
-------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------

 

GoogleTagged