
เริ่มเลยละกันะนครับ ขอความเห็นกันหน่อย
มีผู้หญิงคนหนึ่งแอบอยู่กินกับคนต่างศาสนามานับ10ปี และครอบครัวจับได้ และต้องการให้ผู้ชายมาเข้ารับอิสลามแต่เขาไม่รับ
แต่ฝ่ายหญิงเลือกที่จะอยู่กับคนต่างศาสนา
1. ผู้หญิงตกศาสนาไหมครับ
2.ที่นี่เมืองไทยเราใช้กฏหมายอิสลามบังคับเขายังไงดี เราไม่อยากให้เขาเป็นอย่างนั้น
แม้พี่น้องในนี้จะเลิกสนใจไปแล้ว
แต่ประเด็นดังกล่าวก็ยังชวนให้ข้าน้อยที่เผลอเข้ามาอ่าน
ได้คิดและใคร่ครวญ
สำหรับข้าน้อยมองว่า
1.ผู้หญิงตกศาสนาหรือไม่...ไม่ทราบได้
เพราะการตกศาสนานั้นมีหลักการชัดเจนอยู่
แต่ที่รู้ๆ บาปชัวร์ บาปตรงข้อหาที่ขัดต่อบทบัญญัติว่าด้วย
การผิดประเวณี(ซีนา)...
และการผิดประเวณีไม่ว่าจะผิดประเวณีกับมุสลิมด้วยกัน
หรือผิดประเวณีกับคนต่างศาสนิกนั้น มันก็คือ การผิดประเวณี(ซีนา)
ส่วนการผิดประเวณีกับการตกมุรตัดอยู่กันคนละข้อบัญญัติกัน...หากว่าการกระทำของน้องเขาส่อเค้าว่า
ตกมุรตัดก็ตกมุรตัด หากยังไม่ส่อเค้า ก็คงมีแต่น้องเค้า
กับอัลลอฮฺเท่านั้นที่รู้ดี...
เพราะการฮุก่มคนๆนึงว่าตกมุรตัดโดยปราศจาก
หลักฐานอันแจ้งชัดนั้น เป็นเรื่องที่ยิ่งใหญ่
และน่ากลัวมากนะคะ...ละไว้ก่อนเป็นดีที่สุด
หากไม่แน่ใจว่าจะตกมุรตัดหรือไม่ ก็ให้ทำการเตาบะฮฺ
กลับเนื้อกลับตัว หันกลับมาสู่อัลลอฮฺ...อินชาอัลลอฮฺ...
อัลลอฮฺนั้นทรงอภัยยิ่ง...
2.แม้ที่นี่จะเป็นเมืองไทย แต่คนไทยเองลึกๆแล้ว
ก็ไม่ได้ยอมรับกับเรื่องการผิดประเวณีสักเท่าไหร่นัก
การบังคับตามกฎหมายไทย หากน้องเขายังไม่บรรลุ
นิติภาวะหรือยังเป็นผู้เยาว์ พ่อแม่ก็มีสิทธิ์แจ้งความ
เอาเรื่องผู้ชายได้...เหตุการณ์นี้เกิดขึ้นให้เห็นเป็นประจำ
เพราะต่อให้ฝ่ายหญิงยอม แต่พ่อแม่ไม่ยอมก็เป็นคดีขึ้นโรง
ขึ้นศาลกันมาแล้ว...จนท้ายที่สุดก็มักจะไกล่เกลี่ยกัน
ด้วยการแต่งงาน...แต่ถ้าผู้หญิงบรรลุนิติภาวะแล้ว
ก็ยากที่คนอื่นจะเข้าไปบังคับเขาได้...นอกจากจะ
เตือนเขาด้วยวิธีการที่ดี...และเรามุสลิมสามารถ
ใช้กฎหมายอิสลามกับทั้งสองได้โดยการสอนศาสนา
ให้กับเขา คอยตักเตือนเขา โดยเฉพาะน้องผู้หญิง....
เขาว่ายามรักเหมือนโคถึก กำลังคึกผิขังไว้
ก็โลดจากคอกไป บ่ยอมอยู่ ณ ที่ขัง...
อะไรก็น่าจะขังยากค่ะ...หากว่ามาแนวๆนี้...
เชื่อว่าเวลาน่าจะช่วยได้ไม่มากก็น้อย...
เพราะลึกๆของคนทำผิดนั้นจะหาความสุขยาก
ที่ยากเพราะจิตใจย่อมรู้ดีว่าที่ตัวเองกำลังทำอยู่นั้น
มันผิด...
ที่สำคัญ...การกระทำเช่นนั้นยังส่งผลให้พ่อแม่เป็นทุกข์...
ซึ่งส่วนหนึ่งอาจเป็นเพราะฝ่ายหญิงยอมให้ฝ่ายชายจนหมด
หมดท้ังกายหมดท้ังใจ(หรือเปล่า)ฝ่ายชายจึงกระทำเช่นนั้น
ราวกับไม่ให้เกียรติกัน ที่บอกว่าไม่ให้เกียรตินั้น
คือ
1.ไม่ให้เกียรติตัวเองที่ทำตัวไร้ความรับผิดชอบ
2.ไม่ให้เกียรติผู้ที่ตัวเองร่วมเรียงเคียงหมอนด้วย
3.ไม่ให้เกียรติครอบครัวของอีกฝ่าย
4.ไม่ให้เกียรติน้ำอสุจิของตัวเอง...เพราะน้ำอสุจิ
ที่เกิดจากการผิดประเวณีนั้นไม่มีเกียรติ...
ส่วนฝ่ายหญิงก็เช่นเดียวกันกับฝ่ายชาย...
เมื่อต่างฝ่ายต่างไม่ให้เกียรติซึ่งกันและกัน
เมื่อรักร้าว จะเหลืออะไรดีๆไว้ให้จดจำ...
ข้าน้อยเชื่อคำแม่อยู่อย่างนึงว่า
ลองผู้หญิงเรายอมผู้ชายจนหมดสิ้นทุกอย่างแล้ว
ก็ไร้หนทางจะต่อรองอันใด...
แม้แต่ความชั่วของเขา เราก็ยากที่จะทัดทาน
หรือห้ามปราม...
ถ้าเรายอมเขาได้โดยง่าย ก็ไม่มีอะไรจะยากสำหรับเขาอีก
หลังจากนั้น...
พ่อข้าน้อยจึงสั่งนักสั่งหนาว่าห้ามเด็ดขาด
ที่จะเอาคนต่างศาสนามาเป็นสามีโดยที่เขายังไร้ศรัทธา
เพราะผู้หญิงไม่มีทางแข็งกว่าผู้ชายในเรื่องนี้...
เลยจำเป็นเหลือเกินที่จะต้องขอให้อัลลอฮฺ
ให้ตัวข้าน้อยเองและพี่น้องของเราห่างไกลจากสิ่งดังกล่าว
เพราะตัวข้าน้อยเองก็เสี่ยงค่ะ...เสี่ยงเพราะอยู่ในสังคมปะปน
วันใดที่อารมณ์หวั่นไหวมีผลเหนือศรัทธา
วันนั้นคงลำบาก...ขออัลลอฮฺทรงให้ห่างไกลด้วยเถิด...
อามีนๆ...
วัสลามค่ะ