ผู้เขียน หัวข้อ: แสงที่มองไม่เห็น  (อ่าน 13692 ครั้ง)

0 สมาชิก และ 1 บุคคลทั่วไป กำลังดูหัวข้อนี้

ออฟไลน์ nada-yoru

  • เพื่อนรัก (6_6)
  • *****
  • กระทู้: 4010
  • เพศ: หญิง
  • แสงและเงา
  • Respect: +134
    • ดูรายละเอียด
Re: แสงที่มองไม่เห็น
« ตอบกลับ #75 เมื่อ: ม.ค. 08, 2010, 04:08 PM »
0
 salam

ขอนำบทความสั้นๆส่วนหนึ่งจากเรื่องยาวมาลงให้อ่านกันเล่นๆนะคะ ;D



บรรยากาศของทะเลยามพลบค่ำช่างให้ความรู้สึกเงียบเหงายิ่งนัก…

แต่ยังดีที่มีเสียงคลื่นที่คอยขับกล่อมเป็นท่วงทำนองราวกับเสียงดนตรี...

ธรรมชาติช่างสร้างสรรค์สิ่งมหัศจรรย์เอาไว้อย่างลงตัว…

ใครนะที่เป็นผู้ออกแบบธรรมชาติเหล่านี้ขึ้นมา...

ดวงตะวันกำลังเคลื่อนตัวเองลงไปยังตรงเส้นขอบฟ้าทีละนิดๆ

เหมือนจะบอกว่าหน้าที่ของมันสำหรับวันนี้ใกล้จะหมดลงแล้ว...

นกกาใหญ่น้อยต่างบินกลับเข้ารัง...พวกมันต่างโผบินกลับไปยังรัง

‘รัง’ที่ที่มีครอบครัวที่รอมันอยู่ข้างหลัง...

จะมีก็แต่เจ้าเหยี่ยวที่ยังคงกระพือปีกบินว่อนอย่างโดดเดี่ยว
อยู่เหนือบรรดาก้อนเมฆเหล่านั้น...

ไม่รู้ว่าเมื่อไหร่...จะได้หยุดพัก...


"พ่อคะ…พ่อดูนั่นสิคะ"หนูน้อยวัยสิบขวบหน้าตาน่ารักน่าเอ็นดู
กำลังชี้ขึ้นไปยังท้องฟ้าเบื้องหน้าพร้อมกับถามบิดาด้วยความสงสัย

"พ่อคะ ทำไมเจ้าเหยี่ยวมันถึงบินอยู่ตัวเดียวบนท้องฟ้าล่ะคะ…
ทั้งๆที่นกตัวอื่่นๆต่างก็บินกันเป็นฝูงๆ" บิดายิ้มและตอบลูกสาวไปว่า

"ก็เพราะว่าเจ้าเหยี่ยวน่ะมันเป็นถึงจ้าวแห่งท้องฟ้าไงล่ะลูก"

"จ้าวแห่งท้องฟ้า" หนูน้อยพูดตามบิดา แล้วถามต่อว่า

"จ้าวแห่งท้องฟ้า…ต้องอยู่ตัวเดียวหรือคะคุณพ่อ"
บิดายังคงยิ้มแล้วตอบลูกสาวตัวน้อยว่า

"คงงั้นมั้งลูก…ความยิ่งใหญ่มักมาพร้อมกับภาระหนักเสมอ…
เจ้าเหยี่ยวมันคงกำลังทำหน้าที่ของมันอยู่ก็ได้…
และอีกอย่าง อาจจะเป็นเพราะว่าเจ้าเหยี่ยวของลูกน่ะมันเก่ง
และก็มีสายตาที่เฉียบคม แฝงไปด้วยอำนาจ ทำให้ศัตรูของมันเกรงกลัว
ไม่กล้าเข้าใกล้มั้ง อันนี้พ่อก็ตอบไม่ได้เหมือนกัน เพราะพ่อไม่ใช่เหยี่ยว...
แต่พ่อว่า...ต่อไปลูกสาวของพ่อคนนี้จะสามารถตอบคำถามนี้ได้แน่นอน"

บิดาหัวเราะและยกมือตัวเองลูบหัวลูกสาวพร้อมทั้งโยกไปมา
ด้วยความรักใคร่เอ็นดูแต่ลูกสาวตัวดียังไม่วายถามต่อว่า

"แล้วเหยี่ยวมันมีครอบครัวมั้ยคะ" บิดายังคงยิ้มและตอบว่า

"มีสิลูก ทำไมจะไม่มีล่ะ" แต่หนูน้อยยังคงคลางแคลง
ก่อนจะเอียงคอถามบิดาด้วยแววตาอยากรู้

"แล้วครอบครัวมันไปไหนซะล่ะคะ"

"ครอบครัวมันก็รอมันอยู่ที่รังไงล่ะลูก"ผู้เป็นบิดายังคงตอบคำถามลูกสาว
อย่างไม่รู้เบื่อในความขี้สงสัยของลูกสาว

"รัง...เหยี่ยวมีรังด้วยหรือคะ...หนูคิดว่่ามันจะพักอยู่บนก้อนเมฆนั่นซะอีก"
ผู้เป็นบิดาได้ฟังดังนั้นก็หัวเราะชอบใจในความคิดของลูกสาวพลางอธิบายว่า

"ทำไมจะไม่มีล่ะลูก เจ้าเหยี่ยวมันก็ต้องมีรังไว้คอยเป็นที่พักพิง
แล้วรังของมันก็ไม่ได้อยู่บนก้อนเมฆหรอกลูก"

ลูกสาวยิ้มโชว์ฟันทั้งสามสิบสองซี่และไม่วายถามต่อ

"อ้าว...งั้นแล้วรังมันอยู่ที่ไหนล่ะคะ...ถ้าไม่ใช่บนก้อนเมฆนั่น"
บิดาหันไปยิ้มให้ลูกสาวแล้วเอ่ยด้วยน้ำเสียงทุ้มนุ่มว่า

"เอาไว้หนูโตขึ้นแล้วหนูจะรู้เอง...เชื่อพ่อ"

แม้แม่หนูน้อยจะยังคงสงสัยแค่ไหนแต่ก็พยักหน้ารับคำบิดา

แล้วทั้งสองต่างเงียบไปพักนึงก่อนที่แม่หนูน้อยจะทำลายความเงียบโดยการถามว่า

"พ่อคะ...พ่อว่าเหยี่ยวมันจะเหงามั้ย"บิดาเงียบไปชั่วครู่ก่อนตอบลูกสาวว่า

"จำคำพ่อไว้นะลูก...ว่ายิ่งสูงก็ยิ่งหนาว"หนูน้อยขมวดคิ้ว
เพราะไม่เข้าใจในสิ่งที่บิดาพูด

เมื่อบิดาเห็นดังนั้นก็เอ่ยขึ้นว่า

"พ่อว่าเรากลับกันดีกว่านะลูก…เดี๋ยวคุณแม่จะเป็นห่วง"

พูดจบผู้เป็นบิดาก็ดึงมือลูกสาวให้ลุกขึ้นจากแผ่นหิน
ที่ทั้งสองใช้นั่งมองท้องทะเล แม้มันจะอยู่บนผาที่ค่อนข้างสูงจากพื้นดิน
แต่ก็ไม่ได้ชันจนน่าหวาดกลัวนัก

พอลูกสาวลุกขึ้นมาได้ผู้เป็นบิดาก็กุมมือผู้เป็นลูกสาวเอาไว้มั่น
แล้วหันหลังเดินจากไปยังบ้านที่อยู่ไม่ไกลกันนัก
ทิ้งความสงสัยในคำพูดทั้งหมดเอาไว้…

คำพูดที่เด็กน้อยวัยสิบขวบไม่มีทางจะเข้าใจความหมายได้





~~~~~~~~~~~~~~~~~~~~~~~~~~~~~~~~~~~~~~~~~~~~~



...พ่อรักแม่ของเธอ รักด้วยหัวใจ รักและก็เชื่อใจ…

...ถ้าหากว่าขอได้ เธอก็อยากได้ใครสักคนที่รักเธอได้
อย่างที่พ่อรักและเชื่อใจแม่…ไม่รู้ว่าเธอจะขอมากไปรึเปล่า…


“รักแท้มีจริงใช่มั้ยคะพ่อ”คนเป็นลูกถามบิดา
พร้อมกับก้มมองและคลึงแหวนไพลินสีน้ำเงินที่นิ้วเบาๆ
คนเป็นพ่อลูบหัวลูกสาวแผ่วเบาก่อนจะยิ้มกว้างแล้วตอบว่า

“มีจริงสิหนุ่ย แต่กว่าจะเจอรักแท้ เราก็ต้องยอมเสียอะไรๆไปบ้าง
ต้องยอมเจ็บบ้างเป็นธรรมดา”
คนเป็นลูกเอียงคอมองคนเป็นพ่อด้วยแววตาสงสัย บิดาเลยอธิบายเสริมว่า

“ดูอย่างฟันของเราสิ กว่าจะมีฟันแท้ เราก็ต้องเสียฟันน้ำนม
ที่มีมาแต่กำเนิดไปทีละซี่ ฟันแท้ก็จะค่อยๆโผล่ออกมาให้เห็นทีละซี่
บางครั้งเจ็บจนน้ำตาเล็ด ปวดจนแก้มบวมไปหลายวัน เพราะฟันผุ
หนุ่ยคงจำความรู้สึกนั้นได้ใช่มั้ยลูก”ลูกสาวยิ้มขันกับคำเปรียบเปรยของบิดา

“ค่ะ จำได้ว่าร้องไห้ลั่นบ้าน เดินวนรอบบ้านไปหลายรอบ เพราะอยู่ไม่สุข
ปวดฟันจนไม่มีที่จะนอน เพราะจะนอนก็นอนไม่ได้
เหมือนโลกแคบจนเหลือแค่นิดเดียว พยายามหาอะไรมาอุดตรงรูฟันที่มันผุ
หายไปแค่แป๊บเดียว ความเจ็บก็กลับมาอีก
แต่พอพ่อพาไปหาหมอก็หายเป็นปลิดทิ้งเลยค่ะ
แม้จะดูโล่งๆไปบ้าง แต่ก็ไม่เจ็บอีกเลย จนได้ฟันแท้มาเนี่ยแหล่ะค่ะ”
คนเป็นลูกเอ่ยด้วยรอยยิ้มเมื่อนึกถึงตอนที่ปวดฟัน
แล้วต้องตัดใจถอนมันทิ้งไป และเลิกคิ้วราวกับจะบอกบิดาเป็นนัยๆว่า
…หนูรู้นะว่าพ่อคิดอะไรอยู่…

แต่ก็ต้องอึ้งกับคำพูดต่อมาของบิดาที่ว่า

“แต่สุดท้าย ฟันแท้มันก็ต้องจากไป ไม่มีสิ่งใดจะอยู่กับเราไปตลอดหรอกหนุ่ย
เราต้องทำใจทุกๆครั้งเวลาที่เราต้องถอนฟันแต่ละซี่ทิ้ง
เพราะจะยื้อไว้ก็มีแต่จะเจ็บ บางซี่ก็จากไปโดยไม่ได้ร่ำลา
ไม่มีวี่แววว่าจะโยกเยก แต่กลับทิ้งเหงือกคู่ใจในปากของเราไปเฉยเลย
บางซี่เราก็พอยื้อเวลาได้บ้าง ทั้งอุดทั้งครอบ
ทำทุกวิถีทางให้มันได้อยู่กับเราไปนานๆ
แต่สุดท้ายมันก็ต้องทิ้งเราไปอยู่ดี
บางคนที่อายุมากหน่อยก็ต้องอยู่เพื่อเรียนรู้การสูญเสียมากขึ้น
แล้วสุดท้ายก็เหลือผมสีดำไม่กี่เส้นกับฟันแท้ไม่กี่ซี่ที่คอยบอกเราว่า...
ฉันจะไปอยู่กับเธอในหลุมด้วยนะ...
รึบางคนก็แทบจะไม่มีฟันแท้เหลือเลยซักซี่ก่อนตายด้วยซ้ำ”
คำพูดเจือแววตลกของบิดาทำให้หญิงสาวได้คิด

…เธอพอจะเข้าใจความนัยนั้นได้บ้าง…

“หนุ่ยไม่สงสัยเลยว่า ทำไมเมื่อเรายิ่งโตขึ้น เพื่อนของเรา
และคนที่พร้อมจะเดินไปกับเราจึงค่อยๆน้อยลงเรื่อยๆ
จนสุดท้ายก็เหลือแค่ไม่กี่คนหรือแทบไม่เหลือใครเลยด้วยซ้ำ

เหมือนครั้งนึงที่เราเคยยิ้มสวยด้วยฟันเต็มปาก
หากวันนึงเราต้องสูญเสียมันไป ก็อย่าได้สูญเสียรอยยิ้มไปพร้อมกับมันเลย
แม้ว่าจะมีฟันบางซี่ที่หายไป แม้ว่าเราจะยิ้มไม่สวยเท่าเดิม
แต่เราก็ต้องยิ้ม เราต้องกล้าที่จะฉีกยิ้มให้โลกเห็น
เราต้องยิ้มแม้ว่าวันนึงจะไม่มีฟันสักซี่ให้เราโชว์แล้วก็ตาม”
คนเป็นลูกยิ้ม น้ำตาปริ่ม แล้วโอบกระชับเอวบิดาไว้แน่น
เธอไม่อยากสูญเสียฟันแท้ซี่ใดในชีวิตไปเลย…โดยเฉพาะซี่นี้...
อยากจะให้มันอยู่กับเธอแบบนี้ อยากยิ้มโชว์ฟันแบบนี้ไปจนวันตาย…

“เราทุกคนมีฟันแท้เท่าๆกัน แต่ละซี่ไม่เหมือนกัน แต่มันก็มีอย่างละซี่
ความรักที่เราให้มันจึงไม่เหมือนกัน
บางซี่เราก็ละเลยจนมันต้องจากเราไปก่อนเวลาอันควร
เพราะหากซี่ใดหลุดไป ก็จะไม่มีฟันซี่ใหม่งอกมาอีกแล้ว...
นอกจากเราจะต้องใส่ฟันปลอม อยู่กับของปลอมท่ีไม่มีทางดีกว่าของแท้

พ่อจึงอยากให้หนุ่ยดูแลรักษาฟันแท้ทุกๆซี่ที่มีอยู่ในวันนี้ให้ดีที่สุด
เผื่อวันใดที่เราต้องถอนมันทิ้งหรือมันทิ้งเราไป
เราจะได้ไม่ต้องมานั่งเสียดายหรือเสียใจที่ไม่ได้ดูแลมันให้ดี
แล้วสุดท้ายหนุ่ยจะรู้ว่ามีฟันแท้แค่ไม่กี่ซี่ที่จะอยู่กับหนุ่ยไปจนวันตาย
แต่ขอให้หนุ่ยเชื่อว่า รักแท้ไม่ได้มีแค่คนเดียวเช่นรักของหนุ่มสาว
อย่างที่ใครๆเฝ้าฝันหรอกนะ เหมือนฟันแท้ที่ไม่ได้มีแค่ซี่เดียว
อย่าให้ความเจ็บจากการที่เราต้องสูญเสียฟันสักซี่สองซี่ไป ทำให้เรายิ้มไม่ออก
หมดความมั่นใจที่จะฉีกยิ้มต่อไป ไม่กล้าหัวเราะ แล้วละเลยฟันที่เหลือ
เพราะเรายังมีฟันแท้ที่เราต้องดูแลเอาใจใส่อีกหลายซี่
หนุ่ยยังมีพ่อ มีพี่น้อง มีเพื่อนๆที่พร้อมจะอยู่เคียงข้างหนุ่ย
พวกเขาเหล่านั้นคงอยากเห็นรอยยิ้มของหนุ่ยมากกว่าน้ำตา”

คนเป็นลูกยิ้มอย่างซึ้งใจในสิ่งที่บิดาสอน เธอจะลองทำอย่างที่บิดาแนะนำ
แม้บางครั้งการตัดสินใจบางอย่างจะทำให้อะไรๆเปลี่ยนไป
แต่เธอมั่นใจว่าฟันแท้มันก็ย่อมเป็นฟันแท้อยู่วันยันค่ำ
แม้กาลเวลาจะผ่านไปนานสักเท่าไร เธอจะรักษามันให้ดีที่สุด
เพราะหากวันนึงต้องสูญเสียมันไป เธอก็พร้อมที่จะอยู่อย่างไร้ฟันแท้
แต่จะไม่ขออยู่กับฟันปลอม

เพราะเธอรู้ว่าอะไรที่สูญเสียไปแล้ว ย่อมไม่มีอะไรมาทดแทนได้
เหมือนความรู้สึกที่สูญเสียไป อะไรก็มาทดแทนไม่ได้เช่นกัน

“เราต้องยิ้ม แม้ฟันจะหลอก็ตามใช่มั้ยคะ”พูดเสร็จคนเป็นลูกก็หัวเราะร่า
ทำเอาผู้เป็นบิดาหัวเราะตามไปด้วย

“อุ้ย! ฟันหลอ”หญิงสาวยิ้มล้อพร้อมกับมองรอยยิ้มของบิดาไปด้วย

บิดาที่ปัจจุบันมีฟันแท้ไม่เท่ากับที่เธอมี...

เลยไม่วายหยอกเย้าคนเป็นพ่ออย่างนึกสนุกด้วยความเคยชิน
ชายสูงวัยจึงโยกศรีษะลูกสาวด้วยความรักใคร่และเอ็นดู
ดีใจที่ลูกยิ้มได้อย่างนี้ แล้วก็หวังว่าลูกสาวจะไม่แอบเศร้าเวลาอยู่คนเดียว…



 cool2: cool2: cool2: cool2: cool2: cool2: cool2: cool2:


ปล.ส่วนหนึ่งจากเรื่องยาว...เป็นเรื่องราวของพ่อกับลูกสาวค่ะ...
ความรัก บางครั้งก็มองไม่เห็น อาจต้องใช้หัวใจส่อง
ถึงจะมองเห็นรัศมีสีขาวเรืองรองของมัน...

วัสลามค่ะ


« แก้ไขครั้งสุดท้าย: ม.ค. 08, 2010, 04:16 PM โดย nada-yoru »
"และข้ามิได้สร้างญิน และมนุษย์เพื่ออื่นใด เว้นแต่เพื่อเคารพภักดีต่อข้า"

(ซูเราะฮฺ อัซซาริยาต อายะอฺที่ 56)

ออฟไลน์ nada-yoru

  • เพื่อนรัก (6_6)
  • *****
  • กระทู้: 4010
  • เพศ: หญิง
  • แสงและเงา
  • Respect: +134
    • ดูรายละเอียด
Re: แสงที่มองไม่เห็น
« ตอบกลับ #76 เมื่อ: มี.ค. 20, 2010, 09:23 PM »
0
 salam

วัตถุที่เรามองไม่เห็น อาจเกิดจากสาเหตุ 2 ประการ นั้นคือ...

1. เพราะว่าวัตถุดังกล่าวอยู่ในที่ที่ไม่มีแสงส่องไปถึง

กับ

2.เพราะว่าเราตาบอดหรือตาของเราไม่สามารถมองเห็น
เลยมองไม่เห็นวัตถุดังกล่าว แม้ว่าความจริงแล้ว
วัตถุดังกล่าวนั้นจะมีแสงส่องไปถึงหรือไม่ก็ตาม...



วัสลามค่ะ


"และข้ามิได้สร้างญิน และมนุษย์เพื่ออื่นใด เว้นแต่เพื่อเคารพภักดีต่อข้า"

(ซูเราะฮฺ อัซซาริยาต อายะอฺที่ 56)

ออฟไลน์ ILHAM

  • เพื่อนตาย T_T
  • *****
  • กระทู้: 11348
  • เพศ: ชาย
  • Sherlock Holmes
  • Respect: +273
    • ดูรายละเอียด
    • ILHAM
Re: แสงที่มองไม่เห็น
« ตอบกลับ #77 เมื่อ: มี.ค. 20, 2010, 10:36 PM »
0
salam

วัตถุที่เรามองไม่เห็น อาจเกิดจากสาเหตุ 2 ประการ นั้นคือ...

1. เพราะว่าวัตถุดังกล่าวอยู่ในที่ที่ไม่มีแสงส่องไปถึง

กับ

2.เพราะว่าเราตาบอดหรือตาของเราไม่สามารถมองเห็น
เลยมองไม่เห็นวัตถุดังกล่าว แม้ว่าความจริงแล้ว
วัตถุดังกล่าวนั้นจะมีแสงส่องไปถึงหรือไม่ก็ตาม...



วัสลามค่ะ




เหตุผลล่ะ
إن شاءالله ติด ENT'?everybody

Sherlock Holmes said "How often have I said to you that when you have eliminated the impossible, whatever remains, however improbable, must be the truth?"
-------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------

ออฟไลน์ nada-yoru

  • เพื่อนรัก (6_6)
  • *****
  • กระทู้: 4010
  • เพศ: หญิง
  • แสงและเงา
  • Respect: +134
    • ดูรายละเอียด
Re: แสงที่มองไม่เห็น
« ตอบกลับ #78 เมื่อ: มี.ค. 20, 2010, 11:26 PM »
0
^
^

เนื่องจากของบางอย่างใกล้ตา แต่เราก็มองไม่เห็น
กับของบางอย่างอยู่ไกลเกินสายตาจะมองเห็น
เช่นดวงดาวท่ีอยู่ไกลโพ้นออกไป...

หรือไม่ต้องมองให้ไกล ลองเทียบกันระหว่างคนสายตาปกติ
กับสายตาไม่ปกติดู เราจะเห็นว่า ทั้งสอง มีระดับการมองเห็นที่แตกต่างกัน

หรือ หากมองอีกแง่นึง...เช่น...
อนาคตที่เราไม่สามารถมองเห็นได้ และเราก็มิอาจรู้ได้ว่า
หนทางข้างหน้าจะสว่่างสดใสหรือว่ามืดมนมัวหมอง
เพราะบางทีอาจมีแสงสว่างรอเราอยู่ข้างหน้า
หรืออาจจะไม่มีแสงสว่างรอเราอยู่เลย...
อนาคตจึงเป็นสิ่งที่เราไม่สามารถมองเห็นได้...
แต่เราก็ต้องเดินต่อไป แม้จะมองไม่เห็นหนทาง ว่าไหม  cool2:


วัลลอฮุอะลัม

และหากไม่มีแสง เราจะมองอะไรเห็นหรือ  ::)

และต่อให้มีแสง แต่เราไม่มีความสามารถจะมองเห็นได้หรือเราตาบอด
เราจะเห็นได้อย่างไรหรือ  ::)

และต่อให้เราตาดี หรือต่อให้มีแสงหรือไม่มีแสง ก็ไม่มีความหมาย
หากเราปิดตา...

ปล.บางคนก็อยากปิดหูปิดตา หนีหน้ากับบางสิ่งที่ไม่อยากพบเห็นเช่นกัน
มันอยู่ที่ว่าเราจะสู้หรือหนี

วัสลามค่ะ

"และข้ามิได้สร้างญิน และมนุษย์เพื่ออื่นใด เว้นแต่เพื่อเคารพภักดีต่อข้า"

(ซูเราะฮฺ อัซซาริยาต อายะอฺที่ 56)

ออฟไลน์ AUZULODEEN

  • เพื่อนแท้ (-.^)
  • ****
  • กระทู้: 625
  • เพศ: ชาย
  • ทุกๆชีวิตต้องได้ลิ้มรสแห่งความตาย
  • Respect: +1
    • ดูรายละเอียด
Re: แสงที่มองไม่เห็น
« ตอบกลับ #79 เมื่อ: มี.ค. 22, 2010, 10:52 AM »
0
จะสู้ก็เหนื่อยล้า หรือจะหนีก็ไม่ไช่วิสัย
อยู่นิ่งๆก่อนแล้วกัน
แท้จริงเราเป็นสิทธิ์ของอัลลอฮ์ และเราจะต้องกลับคืนไปสู่พระองค์

ออฟไลน์ nada-yoru

  • เพื่อนรัก (6_6)
  • *****
  • กระทู้: 4010
  • เพศ: หญิง
  • แสงและเงา
  • Respect: +134
    • ดูรายละเอียด
Re: แสงที่มองไม่เห็น
« ตอบกลับ #80 เมื่อ: มี.ค. 23, 2010, 08:30 AM »
0
^
^

เพื่อนเคยพูดให้ฟังว่า...แค่ปิดตาตัวเอง คนอื่นก็มองไม่เห็นเราแล้ว
อยากทำอะไรบ้าๆบอๆก็ทำไปเลย ไม่มีใครเห็น 55555

ก็ได้แต่ขำงิ เชื่อเถอะค่ะ บางคนทำอย่างนั้นจริงๆ
หมายถึง พยายามปิดหูปิดตาตัวเอง และคิดว่าจะรอดจากสายตาคนอื่นไปได้
เปล่าเลย เพราะคนที่มองไม่เห็นจริงๆ ไม่ใช่คนอื่น แต่เป็นเราต่่างหาก
ที่ไม่สามารถรับรู้อะไรจากการกระทำของตัวเองได้เลย...

แต่ในทางกลับกัน หากเราไม่มองคนอื่นจนเกินไป
เราจะมีความมั่นใจในการกระทำของเรามากขึ้น...
เช่น เราอยากเปิบข้าวในโรงแรมชื่อดัง หากเราปิดตากิน
เราก็ไม่รู้ไม่เห็นหรอกค่ะว่าคนอื่ืนเขามองเรายังไงบ้างกับสิ่งที่เราทำ
ไม่พรื่อ(มั้ง) แต่คงมีคนอีกหลายคนที่จะจดจำเราไปจนวันตาย 55555
อยากให้คนจดจำทำไม่ยากค่ะ แต่การจะทำให้คนประทับใจไปจนตายนี่สิ...  ::)

ดังนั้น...ลองปิดตาดูบ้างในบางสถานการณ์แต่อย่าปิดใจนะคะ...  mycool:


"และข้ามิได้สร้างญิน และมนุษย์เพื่ออื่นใด เว้นแต่เพื่อเคารพภักดีต่อข้า"

(ซูเราะฮฺ อัซซาริยาต อายะอฺที่ 56)

ออฟไลน์ AUZULODEEN

  • เพื่อนแท้ (-.^)
  • ****
  • กระทู้: 625
  • เพศ: ชาย
  • ทุกๆชีวิตต้องได้ลิ้มรสแห่งความตาย
  • Respect: +1
    • ดูรายละเอียด
Re: แสงที่มองไม่เห็น
« ตอบกลับ #81 เมื่อ: มี.ค. 23, 2010, 08:57 AM »
0
ปิดตาใช้มือปิดแล้วปิดใจใช้อะไรปิด
แท้จริงเราเป็นสิทธิ์ของอัลลอฮ์ และเราจะต้องกลับคืนไปสู่พระองค์

ออฟไลน์ nada-yoru

  • เพื่อนรัก (6_6)
  • *****
  • กระทู้: 4010
  • เพศ: หญิง
  • แสงและเงา
  • Respect: +134
    • ดูรายละเอียด
Re: แสงที่มองไม่เห็น
« ตอบกลับ #82 เมื่อ: มี.ค. 23, 2010, 10:02 AM »
0
ปิดตาใช้มือปิดแล้วปิดใจใช้อะไรปิด

"เจ้าอคติ"มั้งคะที่สามารถปิดกั้นใจคนได้ดีกว่่าอะไรๆ อิอิอิ
หากมี "เจ้าอคติ"เยอะๆ ก็อาจปิดใจได้มิดจมใจ(จะพิมพ์ว่ามิดจมดินก็ดูแปลกๆ ;D )ได้ค่ะ
เผลอๆ อาจไม่มีแสงใดผ่านทะลุเข้าไปถึงใจก็เป็นได้ ว่ามั้ยคะ เหอๆๆๆๆ

หากเราเตะโด่ง"เจ้าอคติ"ไปนอกโลกจนหมดสิ้น โลกนี้คงน่่าอยู่ขึ้นเยอะน่อ  happy2:

อย่าถามต่อนะคะว่า จะเตะ"เจ้าอคติ"ไปนอกโลกได้อย่างไร
เพราะข้าน้อยไม่สามารถค่ะ กำลังเรียนรู้ศิลปะการป้องกันตัวอยู่
ไม่แน่ว่า ต่อไปอาจเตะเจ้านี่ออกนอกโลกได้ในสักวัน... 55555

แต่ปัญหาคือ ขาสั้นนี่แหล่ะค่ะ ถึงเตะได้ก็คงเตะไปได้ไม่ไกลมากนัก เหอๆๆๆ
แต่ว่าข้าน้อยมือยาวค่ะ เพราะว่ามือยาว สาวได้สาวเอา 55555



"และข้ามิได้สร้างญิน และมนุษย์เพื่ออื่นใด เว้นแต่เพื่อเคารพภักดีต่อข้า"

(ซูเราะฮฺ อัซซาริยาต อายะอฺที่ 56)

ออฟไลน์ ILHAM

  • เพื่อนตาย T_T
  • *****
  • กระทู้: 11348
  • เพศ: ชาย
  • Sherlock Holmes
  • Respect: +273
    • ดูรายละเอียด
    • ILHAM
Re: แสงที่มองไม่เห็น
« ตอบกลับ #83 เมื่อ: มี.ค. 23, 2010, 10:56 AM »
0
รีบๆสาวเอาไว้เยอะๆนะ เดี๋ยวก็จะไม่ได้สาวแล้ว
إن شاءالله ติด ENT'?everybody

Sherlock Holmes said "How often have I said to you that when you have eliminated the impossible, whatever remains, however improbable, must be the truth?"
-------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------

ออฟไลน์ a d n a n

  • เพื่อนแท้ (-.^)
  • ****
  • กระทู้: 698
  • เพศ: ชาย
  • "และคำพูดที่ดี เป็นซอดาเกาะฮฺ" (บุคอรียฺ , มุสลิม)
  • Respect: +13
    • ดูรายละเอียด
Re: แสงที่มองไม่เห็น
« ตอบกลับ #84 เมื่อ: มี.ค. 23, 2010, 12:17 PM »
0
^

ใช้คำว่า เดี๋ยว หรอ 
:laugh:
หากมาอย่าง " ผึ้ง " ก็จะได้ ~o น้ำหวาน o~ กลับไป oOo หากมาอย่าง " แมลงวัน " ก็จะไม่ได้อะไร นอกจาก

ออฟไลน์ ILHAM

  • เพื่อนตาย T_T
  • *****
  • กระทู้: 11348
  • เพศ: ชาย
  • Sherlock Holmes
  • Respect: +273
    • ดูรายละเอียด
    • ILHAM
Re: แสงที่มองไม่เห็น
« ตอบกลับ #85 เมื่อ: มี.ค. 23, 2010, 12:57 PM »
0
ลืมไป มันเป็น past simple
إن شاءالله ติด ENT'?everybody

Sherlock Holmes said "How often have I said to you that when you have eliminated the impossible, whatever remains, however improbable, must be the truth?"
-------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------

ออฟไลน์ nada-yoru

  • เพื่อนรัก (6_6)
  • *****
  • กระทู้: 4010
  • เพศ: หญิง
  • แสงและเงา
  • Respect: +134
    • ดูรายละเอียด
Re: แสงที่มองไม่เห็น
« ตอบกลับ #86 เมื่อ: ม.ค. 15, 2013, 10:21 PM »
0
กลับมาอีกครั้งกับเรื่องราวของ"แสง"

วันนี้มาในบทความเร่ือง...


"อาทิตย์ยามอุทัย"



   หลายคนคงรับรู้ได้ว่าโลกเราในวันนี้แตกต่างจากวันวานนัก
ภัยพิบัติต่างๆมีมากขึ้น ถี่ขึ้นทุกวัน ซึ่งภัยธรรมชาติเหล่านั้น
เป็นสิ่งที่เราไม่อาจควบคุมได้ อย่างชาวญี่ปุ่นที่ข้าพเจ้า
เคยมีโอกาสได้สัมผัส พวกเขาเหล่านั้นไม่เคยโทษในสิ่งที่
ไม่อาจควบคุมได้ พวกเขาต่างพยายามต่อสู้และทำทุกอย่าง
ให้ดีที่สุดเท่าที่จะทำได้ จนหลายๆครั้งพวกเขาก็ผ่านมันมาได้
และกลับมายิ่งใหญ่อีกครั้งได้เสมอ

…สำหรับข้าพเจ้า...พวกเขาเปรียบเหมือนอาทิตย์ยามอุทัย…
ที่ส่องแสงขับไล่ความมืดของชีวิต
และพร้อมจะเริ่มวันใหม่อีกครั้งอย่างไม่ย่อท้อ

…แม้จะต้องพบกับความมืดอีกสักกี่ครั้ง
แต่พวกเขาเชื่อว่่าพรุ่งนี้ยังมีตะวันให้เห็นอีก

…รวมทั้งภาพคนไทยที่ช่วยเหลือกันเมื่อครั้งน้ำท่วมใหญ่
ล้วนแล้วแต่สร้างความประทับใจให้ไม่รู้ลืม

ภัยพิบัติเหล่านั้นหาใช่อื่นใดไม่
นอกจากบททดสอบที่มนุษย์ต้องเผชิญ

เมื่อเรารู้ว่าเราสอบไม่ผ่าน
เราก็ต้องสอบซ่อมครั้งแล้วครั้งเล่า

หลายคนคงเคยตกอยู่ในสภาพเช่นดั่งอาทิตย์ยามอัสดง
ที่กำลังลาลับขอบฟ้า มีความมืดมิดรออยู่เบื้องหน้า
มีความเงียบเหงาและโดดเดี่ยวเดียวดายอยู่เบื้องหลัง
ต้องพบกับการสูญเสีย การพลัดพราก
ผู้ที่เป็นดั่งอาทิตย์ยามอุทัยเท่านั้นที่จะสามารถช่วยเหลือ
ให้เหล่าอาทิตย์ยามอัสดงผ่านความมืดมิด
แล้วกลับมาเริ่มต้นวันใหม่ได้อีกครั้ง

…เรามนุษย์โลกเคยสูญเสียกันมามากพอแล้ว
และเราไม่ควรสูญเสียกันและกัน

"เลือด"ของเราทุกหยด
สามารถเป็นดั่งแสงอาทิตย์ยามรุ่งอรุณได้ฉันใด
เราทุกคนก็สามารถเป็นเหมือนดั่งอาทิตย์ยามอุทัย
ที่จะส่องแสงแห่งอรุณรุ่ง รุ่งโรจน์เรืองรองต่อไป
ไม่ดับลงจนกว่าจะสิ้นลมหายใจได้ฉันนั้น


หลายๆท่านที่อ่านบทความนี้
อาจจะยังคงจำกาพย์ด้านล่างนี้ได้…


“ก้าวมาเถิดมวลมิตร เป็นอาทิตย์ยามอุทัย
สว่างกระจ่างไกล      เพื่อขับไล่ความมืดมน
เบิกฟ้าให้แจ่มใส       เปิดหูตาประชาชน
แสงทองส่องสถล      ให้ผู้คนได้ก้าวเดิน”


ขอส่งกำลังใจให้เหล่าอาทิตย์ยามอุทัยให้ก้าวต่อไป
ไม่ชิงพลบ ชิงตกจากฟ้าไปก่อนถึงเวลา…

ปล.ว่าแล้วก็คิดถึงบรรยากาศเก่าๆในวันวาน
ที่เคยเกิดขึ้นในเว็บแห่งนี้...

วัสลามค่ะ

^^

"และข้ามิได้สร้างญิน และมนุษย์เพื่ออื่นใด เว้นแต่เพื่อเคารพภักดีต่อข้า"

(ซูเราะฮฺ อัซซาริยาต อายะอฺที่ 56)

ออฟไลน์ nada-yoru

  • เพื่อนรัก (6_6)
  • *****
  • กระทู้: 4010
  • เพศ: หญิง
  • แสงและเงา
  • Respect: +134
    • ดูรายละเอียด
Re: แสงที่มองไม่เห็น
« ตอบกลับ #87 เมื่อ: ธ.ค. 01, 2013, 10:33 PM »
0
นึกถึงเรื่องราวของ "แสง" อีกครั้ง...
ยังผลให้นึกมาถึงกระทู้นี้ที่ได้เริ่มเขียนมาตั้งแต่ยังอยู่ในอีกดินแดนหนึ่ง...

วันนี้กลับนึกถึงพ่อ...รู้สึกว่าพ่อเป็นครูคนสำคัญเลยในชีวิต...
แม่ก็เฉกเช่นกัน...

ทั้งสองคือลำแสงอันล้ำค่าราวกับอัญมณีที่ไม่อาจมีมนุษย์คนใดเทียบค่านี้ได้เลยจริงๆ
ยังเคยนึกเลยว่า...อดีตที่ผ่านมา...เราได้ทำให้ท้ังสองเสียใจไปมากน้อยแค่ไหน...

วันที่มีเหตุการณ์ร้้ายๆรุมล้อมเรา ไม่ใช่ใครที่ไหนที่กังวลใจแล้วรีบโทรมาหาเรา
ด้วยน้ำเสียงห่วงใยอย่างแท้จริง ห่วงใยเราอย่างเป็นธรรมชาติ
เพราะนั่นคือธรรมชาติของพ่อกับแม่ในการที่จะห่วงใยเรา...
ไม่มีการปรุงแต่งอะไรลงไป...รู้สึกได้เลยว่ามัน"บริสุทธิ์"

ไม่ว่าเราจะรักและห่วงใยใครมากมายแค่ไหน
แต่สุดท้้ายก็ไม่มีใครที่จะห่วงใยเราได้เท่าบุคคลทั้งสอง...
ที่เป็นดั่งแสงและเงาให้กันและกันเสมอมา...

"และข้ามิได้สร้างญิน และมนุษย์เพื่ออื่นใด เว้นแต่เพื่อเคารพภักดีต่อข้า"

(ซูเราะฮฺ อัซซาริยาต อายะอฺที่ 56)

ออฟไลน์ BasemDeen

  • เพื่อนสนิท (._.")
  • ***
  • กระทู้: 260
  • Respect: +9
    • ดูรายละเอียด
Re: แสงที่มองไม่เห็น
« ตอบกลับ #88 เมื่อ: ธ.ค. 03, 2013, 05:58 AM »
0
แหม....นึกว่าแผลที่มองไม่เห็น
กะจะเข้ามาแชร์ซะหน่อย พอดีของเราเพียบ โชคดีที่อ่านก่อน ไม่งั้น โพล๊ะ......

 

GoogleTagged