^
^
คำแถ-ลง ของแต่ละคน ช่าง

ระวังหน่อยนะโคลงเคลง หากเคยปีนต้นไม้
และจำความรู้สึกตอนปีนขึ้นต้นไม้ได้ล่ะก็
จะรู้ว่ามันยากและเสียวจะตกลงมาเนอะ...
เคยมีคนแนะนำพี่ว่า หากจะปีนต้นไม้ให้ได้สูงๆต้องมือเหนียว
จับและเกาะกิ่งเอาไว้ให้แน่น ถ้ามือไม่เหนียวพอ หรือมือลื่น
เราจะร่วงตกลงมา ไม่เจ็บปางตายก็ตายไปเลย
เผลอๆอาจมีชิ้นส่วนบางอย่างหัก!!! เหอๆ
และหากกลัวความสูงก็อย่าก้มลงไปมองข้างล่าง
เพราะมันจะทำให้เราขาสั่นหัวใจหวั่นไหวและไม่กล้าไปต่อ..
ให้มุ่งไปข้างหน้าอย่างเดียวและจำให้ได้ว่าขึ้นไปยังไง
ไต่จากกิ่งไหนไปกิ่งไหน เพราะว่า เราต้องลงมาเมื่อสามารถเก็บผลไม้ได้
ตามที่เราต้องการแล้ว...
และคนที่ขึ้นต้นไม้ ส่วนใหญ่จะไม่ใช่คนกลัวความสูง
ไม่กลัวแรงโยกเยกของต้นไม้เวลาต้องลม
ไม่กลัวมดแดงและมดตะนอย ไม่กลัวงูเขียว ไม่กลัวหนอน
ไม่กลัวว่าอาจจะร่วงตกลงมา เพราะถ้ากลัวในสิ่งที่กล่าวมา
เขาจะไม่กล้าปีนขึ้นไป...ส่วนคนที่นึกสนุกโดยรู้เท่าไม่ถึงการณ์
จนต้องร้องไห้ขี้มูกโป่งให้พี่ชายปีนขึ้นไปเอาลงมาก็มี...
และบางคนก็หาเรื่องปีนอยู่นั่น จนค่อยๆใจเข้มแข็งพอ
พากายไต่ไปเรื่อยๆ ต้านแรงลม
เข้าใจและผูกมิตรกับมดแดงและมดตะนอย
ไม่ไปก่อนกวนหรือทำร้ายมัน มันก็ไม่ทำร้ายเรา...
เพราะว่า มันก็มีของรักของหวง มีครอบครัวน้อยๆของมัน
ให้ต้องปกป้องเช่นกัน แต่ก็ต้องโดนมันกัดบ้างแหล่ะ แสบๆคันๆดี...

(แต่มดตัวไหนบังอาจกัดพี่ ไม่รอดสักตัว แต่ถ้ามาเป็นฝูงล่ะก็
พี่ก็หนีเหมือนกันนะ

โส้ไม่ไหวแล )
และหากเด็กคนไหนเคยปีนถึงยอดมะขาม
จะรู้ว่าความรู้สึกสุดยอดเป็นอย่างไร แต่พอจะลงมานั่นแหล่ะ
ขาสั่นเชียว ลืมทางลง หาทางลงไม่ได้ก็มี แต่ยังไงๆมันก็ต้องลง
เพราะจะให้ใครเอาเราลงมาได้อย่างไรกัน ขึ้นไปสูงขนาดนั้น
ที่สำคัญ คงมาช่วยหามเรามาไม่ได้ แม้จะขาสั่นหมดแรงปีนลงก็ตาม
จะให้ค้างติ่งอยู่บนยอดไม้ก็ใช่เรื่อง...
จะให้พ่อเอาเลื่อยมาเลื่อยต้นมะขามให้ล้มๆซะให้พ้นๆ
เพื่อช่วยให้เราลงมาก็ไม่ได้เนอะ (ลองนึกภาพดูสิจ๊ะ)
ดังนั้นเราก็ต้องปีนลงเอง เทคนิคปีนขึ้นกับปีนลงก็ต่างกัน
แต่ถ้าเราจำได้ว่าเราขึ้นมายังไง เราก็หาทางลงได้เร็วและว่อง
ยิ่งขึ้นๆลงๆบ่อยๆยิ่งคล่อง
แต่ก็ต้องไม่ประมาททุกก้าวที่ปีน เมื่อเท้าแตะพื้นดินอีกครั้ง
ความรู้สึกดีและโล่งใจพร้อมความภูมิใจกับผลไม้ที่เก็บมาได้ในถุง
หรือในเสื้อก็จะทำให้เรายิ้มออกมาได้ในที่สุด...
แม้ต้องเจ็บ แต่มันก็คุ้มก็สุขใจเนอะ...
รู้ว่าเสี่ยง...แต่คงต้องขอลอง...
รู้ว่าเหนื้อย ถ้าอยากได้ของที่อยู่สูง...เนอะๆ
เพราะถ้าไม่ชอบปีนต้นไม้เพราะกลัวตก ก็ต้องรอกินผลไม้ที่หล่นลงไป
กว่าจะถึงพื้น บางทีมันก็ช้ำไปเสียแล้ว...
แต่สมัยนี้มีเทคนิคการสอยไม่ให้ผลไม้ช้ำแล้ว ชาวสวนฉลาดเนอะ
แต่ไอ้ที่อยู่บนยอด ยังไงๆก็ต้องปีนไปเอาอยู่ดีเนอะ...
สรุป...
ต้นไม้มิได้เป็นคาน

แต่คานทำมาจากต้นไม้ก็มี

การขึ้นต้นไม้ ก็ไม่ได้หมายความว่า เรากำลังขึ้นคาน

แม้จะนำมาเปรียบเทียบได้บ้างก็ตาม

เพราะ...บทกลอนที่ว่า
อันของสูงแม้ปองต้องจิต ถ้าไม่คิดปีนป่่ายจะได้ฤา...
มันไม่ได้หมายถึงเรื่องราวความรักอย่างเดียว
แต่มันกินความหมายถึงทุกๆอย่างที่เราหมายปองและต้องการจะไปให้ถึง
และเอามาให้ได้น่อ...
เช่น อยากกินแตงโม แต่ไปปีนต้นมะพร้าว ก็ไม่ได้กินแตงโมเนาะ
เหนื่อยเปล่า...เราต้องไปปีนต้นแตงโมสิ ถึงจะได้กิน 5555
หรือ อยากกินมะเขือเผา แต่ไปสอยมะม่วง คงจะได้กินมะเขือเผาอ่ะเนอะ
เราต้องไปสอยมะเขือกินสิ 55555
ว่าแล้วเรามาสอยมะเขือกินกันเต๊อะพี่น้อง...

วัสลามค่ะ