salam

จากต้นยางพารา ร่วงมาเป็นใบ
แล้วจากใบสีเขียวก็กลายเป็นไม่มีสี
และจากไม่มีสี ก็มามีหลากหลายสีสัน
และจากที่ร่วงจากต้น(ไม้) ก็กลับกลายไปอยู่บนต้น(เหล็ก)

กลายเป็นผลงาน ที่คิดทำมามากกว่าหนึ่งปี
และกระทู้ต้นไม้ ต้นไม้ ต้นไม้ ก็คือหนึ่งในการนำเสนอระหว่างทำผลงานชิ้นนี้ค่ะ
เป็นเพียงผลงานธรรมดาๆชิ้นนึง แต่ว่ามันเป็นหนึ่งในความภูมิใจค่ะ...

ใบยางพาราจากถิ่นกำเนิด(จังหวัดพัทลุง) ได้ปลิวมาถึงแดนอาทิตย์อุทัย
นับสี่พันกว่าใบ จากที่กระเทาะเอาเปลือกใบไม้ออก
จนเหลือแค่เส้นบางๆไร้สี ได้มาย้อมสีสันแห่งฤดูกาลทั้ง 7
คือ ของไทย 3 ฤดู(สีเหลืองของดอกทานตะวันที่คอยติดตามแสงสว่างของดวงตะวัน,
สีเขียวของใบยางพาราที่ยังคงเดิมมิเปลี่ยนแปลง,สีม่วงของดอกศรีตรังที่บ่งบอก
ถึงความเย็นตาเย็นใจของสีและเป็นดอกไม้แม้กลีบร่วงหล่นก็ยังทิ้งความงดงาม
ไว้บนผืนหญ้าและผืนดินที่คอยโอบอุ้มมันมา)
บวกกับสีสันอีก 4 ฤดูของญี่ปุ่น (สีชมพูของดอกซากุระ ดอกไม้ที่เบ่งบาน
หลังจากที่ต้นได้ผ่านฤดูหนาวอันยาวนานกลายเป็นสีสันให้ผู้คนได้ชื่นชม,
สีเขียวอ่อนของใบไม้ที่กำลังเริ่มผลิ,สีเหลืองแดงคือสีสันแห่งฤดูใบไม้ร่วง
ที่แลดูอบอุ่นสวยงามก่อนทิ้งตัวลงสู่พื้นและใบไม้ที่ไร้สีสันคือสีแห่งฤดูหนาว
แต่กลับเป็นใบไม้ที่คนดูต่างชื่นชอบ)
เมื่อย้อมเสร็จก็นำมาเย็บด้วยด้ายและเข็มที่มีลักษณะเฉพาะให้ติดกันเข้าช่อ
ช่อละ 9 ใบ นับร้อยๆช่อ
โดยแต่ละช่อจะมีแม่เหล็กซ่อนอยู่เพื่อสามารถติดบนตู้เย็น
โต๊ะที่ทำงาน ที่ที่เป็นเหล็ก หรือแม้แต่นำไปติดฝาผนัง
(ซึ่งก่อนติดก็จะต้องเชื่อมโดนการนำคลิบหรือตะปูเหล็กเป็นตัวเชื่อมแม่เหล็ก
กับตัวผลิตภัณฑ์)
แล้วนำขึ้นจัดโชว์ในหอศิลป์โดยตั้งใจจะให้เป็นอุโมงค์ใบยาง 7 อัน
แต่มันก็เป็นได้แค่ฝัน เพราะแค่โค้งเหล็ก 3 อัน ก็ต้องใช้ใบยางสี่พันกว่าใบแล้ว
บวกกับต้องเอาเวลาที่มีไปทำเหล็ก เชื่อมเหล็ก พ่นสี ทาสีและทำโปสเตอร์
คิดเรื่องของการจัดโชว์ผลงานต่างๆ...
เลยทำให้รู้ว่า ความฝันและจินตนาการกับความเป็นจริงมันอาจไม่สามารถ
เดินทางมาพบเจอกันได้พอดิบพอดี...
แต่เมื่อเราทำ เราก็จะรู้ มิใช่แค่ได้ฝันค่ะ...
เพราะก่อนหน้านั้น ได้ฝันเห็นภาพๆนึง ภาพใบไม้สีสันสวยงามจับตา
โดยมีข้าน้อยและพี่สาวนั่งมองชื่นชมความงามของมันอยู่ข้างล้าง...
จนข้าน้อยอยากทำมันออกมาให้ได้อย่างภาพฝันนั้น
และไม่ว่าจะพยายามระบายสีใบไม้กี่ใบต่อกี่ใบ
สีสันที่ได้กลับต่างจากภาพฝันที่เคยฝันเห็น...
แน่นอนว่า มันคือฝัน ส่วนที่เรากำลังทำคือความจริง
ความจริงที่มีความฝันเป็นแรงผลักดัน...
และความจริงอีกอย่างก็คือ พี่สาวคือผู้ช่วยเหลือเรื่องใบไม้มาตลอด
เวลาใบไม้ไม่พอ ต้องร้องขอให้พี่ทำส่งมาให้...แล้วข้าน้อยก็จะต้องมานั่งย้อม
ย้อมจนวันสุดท้ายของวันงานมาถึง...

ท้ายที่สุดไม่ว่าเราจะวาดฝันไว้สวยงามเพียงใด แต่สองมือก็สามารถทำออกมาได้
เท่าที่จะทำได้จนสุดความสามารถที่มี ตามระยะเวลาและเงื่อนไขต่่างๆ
ที่ถูกกำหนดเอาไว้แต่เดิมแล้ว...เลยได้ซุ้ม(มีคนทักว่าเหมือนซุ้มงานแต่ง)
เหมือนหรือไม่อย่างไร ลองดูภาพที่จะนำมาลงได้ค่ะ

อย่างน้อย การเรียนออกแบบในหลักสูตรที่เรียนมา
ก็ทำให้เราเรียนรู้ว่า แค่คิดอย่างเดียว มันไม่ช่วยอะไรเลย
แต่เราต้องทำในสิ่งที่คิดและฝันมันออกมาให้ได้ด้วยสมองและสองมือของเราด้วย
หากเราทำไม่ได้ แล้วใครจะสานฝันให้เรา
ไม่มีใครจะรู้หรือเห็นภาพฝันหรือทำตามแบบที่เราคิดเราวาดไว้ได้ดั่งใจเรา
หรือได้ดีเท่าตัวเรา แม้ฝีมือเราจะไม่มากพอที่จะทำ
แต่ถ้าทำ เราจะได้ฝีมือเพิ่มขึ้น
ไม่มีคำว่าสมบูรณ์แบบ ไม่มีใครได้อะไรมาโดยไม่พบกับความผิดพลาด
หรือความล้มเหลวมาก่อน และนั่น คือบทเรียน คือบททดสอบของคนที่จะเรียน
เดี๋ยวจะนำรูปผลิตภัณฑ์จากใบยางพาราจากแดนใต้มาลงค่ะ...