เรื่องจริงที่ควรรู้เกี่ยวกับมารยาทในการหลับนอน ระหว่าง สามีภรรยา

[almadany]

อ่านแล้วได้ความรู้เพิ่มครับ...แต่ทำให้หัวใจแกว่งไปเล็กน้อยน่ะครับ....

[pareet]

 

อ่านแล้วได้ความรู้เพิ่มครับ...แต่ทำให้หัวใจแกว่งไปเล็กน้อยน่ะครับ....

แกว่งแบบไหนครับ

[al-azhary]

ท่านอิบนุอามูน  ร่อฮิมะฮุลลอฮ์ กล่าวว่า    การร่วมหลับนอนนั้น  พึงระวังการปฏิบัติกันบนดาดฟ้าและใต้ต้นไม้ที่ออกผล  เพราะมันจะให้มีผลต่อบุตร  และเช่นเดียวกันนี้  พึงระวังการร่วมหลับนอนโดยหันหน้าไปทางกิบลัตหรือหันหลังไปทางกิบละฮ์ในขณะที่อยู่ในพื้นที่โล่ง หมายถึง ทะเลทราย  เป็นต้น  ดังนั้น  ถ้าหากอยู่ในบ้าน  ทัศนะที่เลื่องลือแล้วนั้น  อนุญาตให้กระทำได้  ซึ่งได้บ่งบอกไว้ในหนังสือ อัลมุคตะซ๊อร  ว่า  ในบ้านนั้นอนุญาตให้ทำการร่วมหลับนอน  ทำการปัสสาวะ  อุจจาระ  โดยหันหน้าและหันหลังไปทางกิบลัต  ถึงหากแม้นว่าไม่มีความจำเป็นก็ตาม  แต่ทางที่ดีแล้วให้มีสิ่งมาปิดกั้น 

และเช่นเดียวกันนี้  พึงระวังการร่วมหลับนอนโดยหันหน้าไปทางจันทร์เพ็ญและดวงอาทิตย์  เพราะได้มีรายงานว่า ทั้งสองจะทำการสาปแช่งผู้กระทำสิ่งดังกล่าว  เหมือนที่ได้กล่าวไว้ในหนังสืออัลมัดค๊อล  แต่ตามทัศนะที่เลื่องลือนั้น อนุญาตให้กระทำได้  แต่ตามทัศนะที่เลือกเฟ้นแล้ว  คือ  สมควรละทิ้ง  เพราะว่าอาจจะมีผลร้ายเกิดขึ้น  และบางทัศนะกล่าวว่า  การร่วมหลับนอนบนดาดฟ้า  ใต้ต้นไม้ที่ออกผล  หันหน้าไปทางดวงอาทิตย์และดวงจันทร์  จะทำให้บุตรเป็นคนชอบลักขโมยและยิ่งยะโสอวดดี  วัลลอฮุอะลัม

เกล็ดความรู้

ในหนังสือหะดิษมุสนัดของท่านอับบัซซาร  กล่าวรายงานถึงท่านนบี ซ๊อลลัลลอฮุอะลัยฮิวะซัลลัม ความว่า "ผู้ใดนั่งปัสสาวะหันหน้าไปทางกิบลัต แล้วเขานึกออก  ดังนั้น  เขาก็ผินออกจากทิศกิบลัตเพื่อให้เกียรติ  โดยเขาไม่ยืนขึ้นจากสถานที่นั้น  อัลเลาะฮ์ก็จักทรงอภัยให้แก่เขา"

[al-azhary]

ท่านอิบนุอามูน ร่อฮิมะฮุลลอฮ์ กล่าวว่า  มักโระฮ์การจับสัมผัสอวัยวะเพศด้วยมือขวา  เพราะมีหะดิษได้รายงานห้ามจากสิ่งดังกล่าว  ด้วยคำกล่าวของท่านนบี ซ๊อลลัลลอฮุอะลัยฮิวะซัลลัม ความว่า  "บุคคใดจากพวกท่านอย่าสัมผัสอวัยวะเพศของเขาด้วยมือขวา" และการห้ามนี้  แบบไม่เด็ดขาด และเพื่อให้เกียรติ  เพราะท่านนบี ซ๊อลลัลลอฮุอะลัยฮิวะซัลลัม กล่าวว่า "ข้างซ้ายนั้นสำหรับใบหน้าของฉัน และสำหรับข้างขวานั้นสำหรับในผ้านุ่งของฉัน"  และท่านหญิงอาอิชะฮ์ ร่อฏิยัลลอฮุอันฮา กล่าวว่า "ท่านร่อซูลุลเลาะฮ์ ซ๊อลลัลลอฮุอะลัยฮิวะซัลลัม จะใช้มือขวาสำหรับการทำสัญญาต่าง ๆ และรับประทานอาหารของท่าน และมือซ้ายของท่านนั้น  สำหรับสิ่งที่ขัดแย้งกับสิ่งดังกล่าว  และสิ่งที่ถ่ายทุกข์"

[al-azhary]

ท่านอิบนุอามูน ร่อฮิมะฮุลลอฮ์ กล่าวว่า  มักโระฮ์การจับสัมผัสอวัยวะเพศด้วยมือขวา  เพราะมีหะดิษได้รายงานห้ามจากสิ่งดังกล่าว  ด้วยคำกล่าวของท่านนบี ซ๊อลลัลลอฮุอะลัยฮิวะซัลลัม ความว่า  "บุคคใดจากพวกท่านอย่าสัมผัสอวัยวะเพศของเขาด้วยมือขวา" และการห้ามนี้  แบบไม่เด็ดขาด และเพื่อให้เกียรติ  เพราะท่านนบี ซ๊อลลัลลอฮุอะลัยฮิวะซัลลัม กล่าวว่า "ข้างซ้ายนั้นสำหรับใบหน้าของฉัน และสำหรับข้างขวานั้นสำหรับในผ้านุ่งของฉัน"  และท่านหญิงอาอิชะฮ์ ร่อฏิยัลลอฮุอันฮา กล่าวว่า "ท่านร่อซูลุลเลาะฮ์ ซ๊อลลัลลอฮุอะลัยฮิวะซัลลัม จะใช้มือขวาสำหรับการทำสัญญาต่าง ๆ และรับประทานอาหารของท่าน และมือซ้ายของท่านนั้น  สำหรับสิ่งที่ขัดแย้งกับสิ่งดังกล่าว  และสิ่งที่ถ่ายทุกข์"

ท่านอิบนุอามูน ร่อฮิมะฮุลลอฮ์  กล่าวว่า  มักโระฮ์กับการสัมผัสอวัยวะเพศของภรรยา และมักโระฮ์การที่สองสามีภรรยามองอวัยวะเพศของกันและกัน เพราะเสมือนกับว่ามันจะทำให้มีผลต่อสายตาและทำให้ความละอายหายไป  และบางครั้งอาจจะเห็นสิ่งที่ไม่พึงประสงค์  จนอาจทำให้มีความหมางเมินต่อกันตามที่ได้ระบุไว้ในหนังสือ อันนะซีฮะฮ์  และเพราะมีหะดิษระบุว่า  ท่านนบี ซ๊อลลัลลอฮุอะลัยฮิวะซัลลัม กล่าวว่า "เมื่อคนใดจากพวกท่านได้ร่วมหลับนอนกับภรรยาของเขาหรือทาสหญิงของเขา  ดังนั้น  เขาก็อย่ามองอวัยวะเพศของนาง  เพราะสิ่งดังกล่าว  ทำให้ตาบอด"  แต่ท่านอิบนุหะญัร  ได้กล่าวถ่ายทอดจากท่านอบูฮาติมว่า  แท้จริง  หะดิษนี้นั้นเมาฏั๊วะอฺ (กุขึ้นมา)  และเพราะคำกล่าวของท่านหญิงอาอิชะฮ์ ร่อฏิยัลลอฮุอันฮา ความว่า "ฉันไม่เคยเห็นสิ่งดังกล่าวจากท่านร่อซูลุลเลาะฮ์ ซ๊อลลัลลอฮุอะลัยฮิวะซัลลัม เลย  และท่านร่อซูลุลเลาะฮ์  ก็ไม่เคยเห็นมันจากฉันเลย  และเราได้อาบน้ำในภายชนะเดียวกัน  โดยมือของเราสลับกันกวักในภาชนะนั้น"

สำหรับการที่ผู้ชายได้มองสิ่งพึงสงวนของตนเองโดยไม่จำเป็นนั้น  มีอยู่สองทัศนะ  คือฮะรอมและมักโระฮ์ ซึ่งท่านอิบนุก๊อฏฏอนได้กล่าวรายงานทั้งสองทัศนะนั้นไว้ในหนังสือ อะห์กามอันนะซ๊อร  และถูกล่าวกันว่าผู้ที่กระทำสิ่งดังกล่าวจะถูกทดสอบด้วยกับการซินา  โดยที่ได้ถูกทดสอบแล้ว  ก็จริงตามสิ่งดังกล่าว  เหมือนที่ได้ระบุไว้ในหนังสืออันนะซีฮะฮ์   และหลักการของสตรีก็เฉกเช่นเดียวกับผู้ชาย

และสิ่งที่ท่านอิบนุอามูน ได้กล่าวไว้ว่ามักโระฮ์นั้น  เพื่อหลีกเลี่ยงจากสิ่งดังกล่าว  สำหรับตามหลักการของศาสนาแล้ว ถือว่าอนุญาตให้กระทำได้ตามที่ได้ระบุไว้ในหนังสืออัลมุคตะซ๊อร  ด้วยคำกล่าวที่ว่า  "อนุญาตให้สำหรับผู้ชายและผู้หญิงกระทำได้  จนกระทั่งการมองอวัยวะเพศอย่างสมบูรณ์ก็ตาม"  และท่านอิบนุอัลกอซิม ได้ถูกถามเกี่ยวกับสิ่งดังกล่าว  ซึ่งท่านได้ตอบว่า "ดังกล่าวนั้นอนุญาตให้กระทำได้"

และเฉกเช่นเดียวกัน คือ มักโระฮ์กับการพูดคุยในขณะร่วมหลับนอน  เพราะท่านร่อซูลุลเลาะฮ์ ซ๊อลลัลลอฮุอะลัยฮิวะวัลลัม กล่าวว่า "คนใดจากพวท่านอย่าพูดมากในขณะที่ทำการร่วมหลับนอน  เพราะมันจะทำให้เกิดการใบ้(สำหรับบุตร)"  ท่านอิบนุ อัลฮาจญ์ กล่าวว่า "สมควรห่างไกลจากสิ่งที่บางคนได้กระทำ(คือพูดมากในขณะทำการร่วมหลับนอน)"  ท่านอิมามมาลิกถูกถามเกี่ยวกับสิ่งดังกล่าว  ซึ่งท่านได้ให้การตำหนิติเตียน  และท่านอิบนุรุชด์ กล่าวว่า "การพูดคุยในขณะร่วมหลับนอนนั้นมักโระฮ์  เพราะมันไม่ใช่เป็นการปฏิบัติของชนในอดีตที่ผ่านมา"

[al-azhary]

ท่านอิบนุอามูน ร่อฮิมะฮุลลอฮ์ กล่าวว่า  เป็นสิ่งที่มักโระฮ์ต่อสามีในการร่วมหลับนอนกับภรรยาโดยไม่มีอารมณ์ร่วมกับนาง  เพราะสิ่งดังกล่าวจากทำลายศาสนาและสติปัญญาความนึกคิดของนาง  และบางครั้งนางอาจจะนึกถึงชายอื่น  และถือว่าเป็นสิ่งที่มักโระฮ์เช่นเดียวกันกับการร่วมหลับนอนในขณะที่นางยังไม่เตรียมพร้อม  ดังนั้น  จึงไม่อนุญาตให้มุสลิมคนหนึ่งทำให้เรื่องศาสนาของภรรยาเสียหาย  และเป็นเหตุให้นางทำการฝ่าฝืนและนึกถึงชายอื่น

และมักโระฮ์เช่นเดียวกันกับการที่สองสามีภรรยาทำการเช็ดอวัยวะเพศของทั้งสองด้วยเศษผ้าผืนเดียวกัน  เพราะสิ่งดังกล่าวอาจจะทำให้เกิดความรังเกียจต่อกัน  ดังนั้น  สิ่งที่ควรกระทำคือ  ให้ทั้งสองเตรียมเศษผ้าสำหรับเช็ดทำความสะอาดอวัยวะของตนเอง เหมือนที่ได้กล่าวไว้ในหนังสือ อัลเราฏ์ อัลยาเนี๊ยะอฺ

[al-azhary]

ท่านอิบนุอามูน กล่าวว่า   ฮะรอมสำหรับสามีทำการร่วมหลับนอนกับภรรยาโดยสองสายตาของเขานั้นมือนางให้เป็นหญิงอื่น  เพราะสิ่งดังกล่าวเป็นประเภทหนึ่งของการทำซินา  ได้กล่าวไว้ในหนังสืออัลมัดค๊อล กล่าวว่า  เขาจงหลีกเลี่ยงจากสิ่งที่ทำให้เกิดความเสียหาย  กล่าวคือ  การที่สามีได้เห็นผู้หญิงคนหนึ่ง  แล้วเขาก็ไปร่วมหลับนอนกับภรรยาของตนโดยสองตาของเขานั้นมองภรรยาเป็นผู้หญิงที่เขาได้เห็น  ซึ่งดังนี้  ถือว่าเป็นประเภทหนึ่งของซินา 

อุลามาอ์ได้กล่าวว่า  ผู้ใดหยิบเหยือกเย็น ๆ มาดื่ม  แล้วสองตาของเขาจิตนาการว่ามันเป็นเหล้า  น้ำดังกล่าวนั้นย่อมเป็นสิ่งที่ฮะรอมสำหรับเขา ,  และหลักการของผู้หญิงก็เหมือนกับหลักการของผู้ชายหรือร้ายแรงยิ่งกว่า(ในการห้ามมองสามีให้เป็นชายอื่นในขณะร่วมหลับนอน)"

และเฉกเช่นเดียวกัน  คือมักโระฮ์สำหรับสามีกับการร่วมหลับนอนกับภรรยาหลังจากฝันเปียก   ได้กล่าวไว้ในหนังสืออันนะซีฮะฮ์  ความว่า  ห้ามสัมผัสอวัยวะเพศด้วยมือขวาและห้ามร่วมหลับนอนกับภรรยาหลังจากเกิดการฝันเปียก  หมายถึง  ให้ทำการอาบน้ำ หรือล้างอวัยวะเพศ หรือปัสสาวะเเสียก่อน  บางทัศนะกล่าวว่า  สิ่งดังกล่าวทำให้เกิดความวิกลจริตต่อบุตรที่จะเกิดมา  กล่าวคือ  เพราะบุตรที่คลอดมานั้น  มาจากส่วนอสุจิที่ตกค้างจากการฝันเปียกซึ่งเป็นผลมาจากการหยอกล้อของชัยฏอน  ดังนั้น  เมื่อบุตรได้เกิดมาจากสิ่งดังกล่าว  ชัยฏอนก็จะทำการครอบงำ

[al-azhary]

เกล็ดความรู้ที่มีประโยชน์

ท่านอิมามอัลฆอซะลีย์ ร่อฮิมะฮุลลอฮ์  กล่าวว่า   "สมควรสำหรับผู้ที่มีญุนุบ  อย่าทำการโกน  ตัดเล็บ  ทำให้เลือดออก  หรือเอาสิ่งหนึ่งสิ่งใดออกจากร่างกาย  เพื่อไม่ให้มันคงมีญุนุบในวันอาคิเราะฮ์ในขณะที่ดังกล่าวได้หวนกลับมายังเขา"

ท่านอิบนุอามูน  ร่อฮิมะฮุลลอฮ์  กล่าวว่า  สุนัตให้ผู้มีญุนุบ  ไม่ว่าจะเป็นหญิงหรือชาย  ทำการอาบน้ำละหมาดในขณะต้องการนอน  เผื่อว่าเขาจะมีความตื่นตัวเพื่อจะทำการอาบน้ำและนอนในลักษณะที่มีฮะดัษใหญ่   ได้กล่าวไว้ในหนังสืออัลมุเดาวะนะฮ์ว่า  ท่านอิมามมาลิกกล่าวว่า  "คนมีญุนุบนั้นอย่านอนในกลางวันหรือกลางคืนจนกระทั่งเขาได้อาบน้ำละหมาดเสียก่อน"

ท่านอิบนุอะร่อฟะฮ์  กล่าวว่า  "การอาบน้ำละหมาดของคนมีญุนุบเพื่อทำการนอนนั้น  เป็นสิ่งที่มัสตะฮับ(ส่งเสริมให้กระทำ) หากแม้นว่าจะอยู่ในช่วงกลางวันก็ตาม  และท่านอิบนุหะบีบถึงว่าเป็นวายิบ"

[al-azhary]

เกล็ดความรู้ที่มีประโยชน์

หนึ่ง : มารยาทในการนอนนั้น  ส่วนหนึ่งก็คือ  ให้เขาทำการอาบน้ำละหมาดในขณะต้องการจะนอน  เพราะท่านนบี ซ๊อลลัลลอฮุอะลัยฮิวะซัลลัม กล่าวว่า "เมื่อท่านต้องการจะนอน  ดังนั้น ท่านก็จงอาบน้ำละหมาดเถิด"  และเขาต้องละหมาดด้วยการอาบน้ำละหมาดนั้นหรือไม่?  ซึ่งตามทัศนะที่เลื่องลือแล้วนั้น  ให้เขาทำการละหมาดด้วยกับการอาบน้ำละหมาดนั้นเมื่อเขาได้เจตนาให้มีฏ่อฮาเราะฮ์(น้ำละหมาด)

ให้เขานอนตะแคงข้างขวาและวางฝ่ามือขวาให้อยู่ใต้แก้มข้างขวาและให้วางฝ่ามือซ้ายให้อยู่บนขาอ่อนข้างซ้ายตามที่ท่านนบี ซ๊อลลัลลอฮุอะลัยฮิวะซัลลัม ได้กระทำแบบอย่างเอาไว้

ให้กล่าวซิกรุลลอฮ์ในขณะนอน  คือ  ในขณะที่ล้มตัวลงนอนตะแคงข้าง  เพราะท่านนบี  ซ๊อลลัลลอฮุอะลัยฮิวะซัลลัม ได้กล่าวดุอาอ์ในขณะนอนว่า

اللهمَّ باسمك ربي وضعت جنبي وباسمك أرفعه ، اللهم إن أمسكت نفسى فاغفر لها وإن أرسلتها فاحفظها بما تحفظ به عبادك الصالحين

"อัลลอฮุมม่า  บิสมิก้า  ร๊อบบี  วะเฏาะอฺตู้ญัมบี  วะบิสมิก้า  อัรฟะอุฮู  อัลลอฮุมม่า  อินอัมซักต้า  นัฟซี  ฟัฆฟิรละฮา  วะอินอัรซัลต้าฮา  ฟะห์ฟัซฺฮา  บิมา  ตะห์ฟัซฺ  บิฮี  อิบาดะกัสซอลิฮีน"

"โอ้อัลเลาะฮ์  ด้วยพระนามของพระองค์  ฉันได้วางสีข้างของฉัน  และด้วยพระนามของพระองค์  ฉันได้ยกสีข้างของฉัน   โอ้อัลเลาะฮ์  หากพระองค์ทรงยึดชีวิตของฉันไว้  ก็โปรดทรงอภัยให้แก่มันด้วยเถิด  และหากพระองค์ทรงปล่อยมันมา  ก็โปรดทรงคุ้มครองมันด้วยเถิด  ด้วยกับสิงที่พระองค์ทรงคุ้มครองบรรดาปวงบ่างของพระองค์ที่มีคุณธรรม"

ได้มีรายงานว่า  ผู้ใดที่ทำการซิกรุลลอฮ์ในขณะนอนนั้น  ชัยฏอนจะไม่มีหนทางใดที่จะกระทำอะไรเขาได้เลย  และผู้ใดที่ไม่กล่าวซิกรุลลอฮ์  ชัยฏอนก็จะนอนค้างกับเขาโดยหยอกเล่นด้วยกับเขาตามที่มันต้องการ   ได้มีรายงานจากท่านอะลี  ร่อฏิยัลลอฮุอันฮุ  ว่า  ผู้ใดที่อ่านอายะฮ์นี้ ทุก ๆ คืนในขณะที่นอน  อัลกุรอานจะไม่หายไปจากหัวใจของเขา  คือ

وَإِلَـهُكُمْ إِلَهٌ وَاحِدٌ لاَّ إِلَهَ إِلاَّ هُوَ الرَّحْمَنُ الرَّحِيمُ ‏ إِنَّ فِي خَلْقِ السَّمَاوَاتِ وَالأَرْضِ وَاخْتِلاَفِ اللَّيْلِ وَالنَّهَارِ وَالْفُلْكِ الَّتِي تَجْرِي فِي الْبَحْرِ بِمَا يَنفَعُ النَّاسَ وَمَا أَنزَلَ اللّهُ مِنَ السَّمَاءِ مِن مَّاء فَأَحْيَا بِهِ الأرْضَ بَعْدَ مَوْتِهَا وَبَثَّ فِيهَا مِن كُلِّ دَآبَّةٍ وَتَصْرِيفِ الرِّيَاحِ وَالسَّحَابِ الْمُسَخِّرِ بَيْنَ السَّمَاء وَالأَرْضِ لآيَاتٍ لِّقَوْمٍ يَعْقِلُونَ
 
(อัลบะกอเราะฮ์ 163 - 164)

ให้ทำการซอลาวาตท่านนบี ซ๊อลลัลลอฮุอะลัยฮิวะซัลลัม   แท้จริงได้ถูกกล่าวว่า  ผู้ใดทำการซ่อลาวาตท่านนบี ซ๊อลลัลลอฮุอะลัยฮิวะซัลลัม  ในขณะที่นอน 10 ครั้ง  แน่นอน เขาจะนอนหลับอยู่ในความคุ้มครองของอัลเลาะฮ์  ตาอาลา

ทำการเตาบะฮ์ต่ออัลเลาะฮ์  เพราะมนุษย์นั้นเมื่อเขาเตรียมตัวที่จะนอน  ก็ประหนึ่งเขาเตรียมตัวจะตาย  และในคำภีร์อัตเตาร๊อต  ระบุว่า "โอ้ลูกหลานของอาดัม  เฉกเช่นที่เจ้าจะนอนนั้น  คือเจ้ากำลังจะตาย  และเฉกเช่นที่เจ้าจะตื่น  เจ้ากำลังฟื้นคืนชีพ"

ทำการซิกรุลลอฮ์ในขณะที่ตื่นจากนอน   ท่านนบี ซ๊อลลัลลอฮุอะลัยฮิวะซัลลัม  ได้กล่าวเมื่อตื่นจากนอนว่า

الحمد لله الذى أحيانا بعد ما أماتنا وإليه النشور

"อัลฮัมดุลิลลาฮิลละซี  อะห์ยานา  บะอฺดะมาอะมาต้านา  วะอิลัยฮินนุชูร"

"มวลการสรรเสิญเป็นกรรมสิทธิ์ของอัลเลาะฮ์  ผู้ทรงให้เรามีชีวิตขึ้นหลังจากพระองค์ทรงให้เราตายและ(เราได้)ฟื้นคืนสู่พระองค์"

สอง : การนอนมากจะทำให้เกิดความยากจน , ทำให้เกิดความเกียจคร้าน , และทำให้เกิดความหลงลืม  และการนอนในขณะที่อิ่ม  ทำให้แก่เร็ว   ได้กล่าวไว้ในหนังสืออันนะซีฮะฮ์  ความว่า  "สามประการที่ทำให้แก่เร็วและบางครั้งทำให้อายุสั้น  คือ แต่งงานตอนชรา , นอนในขณะอิ่ม , เข้าห้องน้ำในขณะท้องตึง

[al-azhary]

ท่านอิบนุอามูน กล่าวว่า  สุนัตให้สามีที่ทำการร่วมหลับนอนและต้องการกลับไปร่วมหลับนอนอีกในเวลาอันใกล้นั้น  ก็ให้เขาทำการล้างอวัยวะเพศของเขา  เพราะมันจะทำให้อวัยวะเพศมีความแข็งแรงและมีความกระปี้กระเปร่า  เพราะท่านนบี ซ๊อลลัลลอฮุอะลัยฮิวะซัลลัม  ได้กระทำสิ่งดังกล่าว  และไม่สุนัตสำหรับภรรยา  เพราะจะทำให้ของนางคลายตัว  ตามที่ท่านอบีอัลหะซันได้กล่าวไว้

ไม่สมควรดื่มน้ำเย็นถัดจากเสร็จกิจ  และเช่นเดียวกัน คืออย่าล้างอวัยวะเพศด้วยน้ำเย็นเพราะมันไม่ทำให้เป็นผลดี  ได้กล่าวไว้ในหนังสือ อัลอีฏอห์ ว่า  ไม่สมควรให้ล้างอวัยวะเพศด้วยน้ำเย็นหลังจากร่วมหลับนอนแล้ว และเมื่อล้างแล้วก็สมควรปล่อยไว้สักช่วงเวลาหนึ่ง

[al-azhary]

ท่านอิบนุอามูน กล่าวว่า  สุนัตให้สามีที่ทำการร่วมหลับนอนและต้องการกลับไปร่วมหลับนอนอีกในเวลาอันใกล้นั้น  ก็ให้เขาทำการล้างอวัยวะเพศของเขา  เพราะมันจะทำให้อวัยวะเพศมีความแข็งแรงและมีความกระปี้กระเปร่า 

มีอายะฮ์หนึ่ง  เมื่ออ่านเป็นประจำแล้ว  จะทำให้มีความแข็งแรงและกระปี้กระเปร่า   พี่น้องท่านใดสนใจ  โปรดติดต่อบัง pareet เข้าของกระทู้นี้ ได้หลังไมค์ครับ เพราะผมส่งวิธีอะมัลไปให้บังเขาเรียบร้อยแล้วครับ   

[al-azhary]

ข้อความต่อไปนี้  กระผมเองก็ลังเลอยู่นานว่าจะนำเสนอดีหรือเปล่า  เพราะว่าอยากจะนำไปปฏิบัติกับตนเองก่อน  แต่ก็คงอีกสักพักใหญ่ ๆ กว่าจะนำมาปฏิบัติตามที่เรียนรู้ได้  ดังนั้น  ผมจึงขอนำเสนอเลยล่ะกันครับ  เพื่อเป็นความรู้และพระองค์ก็จะทรงเพิ่มพูนความรู้ให้แก่ผมและเพิ่มพูนสิ่งที่จะนำเสนอให้แก่ผมตามที่ต้องการ  ยาร๊อบ!

ท่านอิบนุอามูน กล่าวว่า "ได้กล่าวไว้ในหนังสืออันนะซีฮะฮ์  ว่า  เมื่อเขาต้องการจะให้บุตรที่จะเกิดมาเป็นบุตรชาย  ดังนั้น  เขาก็จงใช้ให้ภรรยานอนตะแคงข้างขวาในขณะที่เสร็จกิจร่วมหลับนอน  และหากต้องการได้ลูกหญิง  ก็จงใช้ให้ภรรยานอนตะแคงซ้ายในขณะที่เสร็จกิจร่วมหลับนอน  โดยอย่าปล่อยให้ภรรยานอนหงายหรือนอนท่าอื่น ๆ"   ท่านอิบนุอัรดูน กล่าวว่า "เจ้าของหนังสืออัลอีฏอห์ กล่าวว่า  สมควรอย่างยิ่ง  เมื่อเขารู้สึกว่ากำลังจะหลั่ง  ก็ทำให้ภรรยาเอียงไปด้านสีข้างขวา  และเช่นเดียวกัน  เมื่อเขาต้องการจะถอดอวัยวะเพศออก  ก็ทำให้ภรรยาเอียงไปยังด้านสีข้างขวา  ดังนั้น  ลูกจะเกิดมาเป็นบุตรชาย  อินชาอัลเลาะฮ์"   บางทัศนะกล่าวว่า "เมื่อเขาต้องการที่จะให้ลูกเกิดมาเป็นบุตรชาย  ก็ให้เขาตั้งชื่อในขณะที่ภรรยาเริ่มตั้งครรภ์ว่า มุฮัมมัด"

วัลลอฮุอะลัม   

[al-azhary]

ท่านอิบนุอามูน  กล่าวว่า  การฝันเปียกมีอยู่ 3 ลักษณะ  คือ  เพื่อเป็นเกียรติ ,  เป็นโทษ , และเป็นการอำนวยสุข   ได้กล่าวไว้ในหนังสือ อันนะซีฮะห์  ความว่า  การฝันเปียกด้วยรูปแบบที่หะรอม ถือว่าเป็นการลงโทษ  เพราะมันเกิดขึ้นจากการมักง่ายในการมองและคิดสิ่งที่ไม่ฮะล้าล  ซึ่งถือว่าการฝันดังกล่าวนั้นมาจากการหลอนของชัยฏอน  และการฝันเปียกแบบไม่มีรูปแบบใด ๆ  ย่อมเป็นเนี๊ยะอฺมัต  เพราะถือว่าเป็นการนำสิ่งที่เป็นส่วนเกินของร่างกายออกมา  อีกทั้งยังป้องกันการกดอั้นของอสุจิที่จะนำพาไปสู่การมีอารมณ์ และยังได้ผลบุญของการอาบน้ำยกฮะดัษด้วย  และการฝันในรูปแบบที่ถูกต้องตามหลักศาสนา (ฝันว่าร่วมหลับนอนกับภรรยา เป็นต้น) ย่อมเป็นเกียรติ เพราะมันเป็นความเอร็ดอร่อยที่ไม่มีโทษ  และการฝันในรูปแบบเป็นเกียรติย่อมดีกว่าการฝันรูปในแบบอำนวยสุข

ท่านอัตตัฟญูรูนีย์  กล่าวว่า  เมื่อบุคคลหนึ่งกลัวว่าจะฝันเปียก  เขาจงกล่าวเมื่อต้องการจะนอนว่า

اَللهمَّ إِنِي أَعُوْذُ بِكَ مِنَ الإِحْتِلامِ ، وَأَعُوْذُ بِكَ أَنْ يَلْعَبَ الشَّيْطَانُ بِيْ فِي اليَقَظَةِ وَالمَنَامِ

?อัลลอฮุมม่า อินนี อะอูซุบิก้า มินัลอิห์ติลาม  วะอะอูซู้บิก้า  อัยอัลอะบัชชัยฏอนนู้บี  ฟิลยะก่อซ่อติวัลมะนาม?

?โอ้อัลลอฮ์  ฉันขอความคุ้มครองด้วยกับพระองค์  จากการฝันเปียก  และขอความคุ้มครองด้วยกับพระองค์จากการหลอกเล่นของชัยฏอนที่มีต่อฉัน  ในทั้งยามตื่นและยามนอน?

หลังจากนั้น  ก็ให้เขาอ่านเสริมอายะฮ์กุรซีย์และท้ายของซูเราะฮ์อัลบะกอเราะฮ์

[al-azhary]

ท่านอิบนุอามูน  ร่อฮิมะฮุลลอฮ์ กล่าวว่า  ห้ามสามีภรรยาทำการแพร่ความลับของอีกฝ่ายหนึ่งให้คนอื่นฟัง  เพราะสิ่งดังกล่าวเป็นอะมานะฮ์ที่จำเป็นต้องรักษา  และเป็นสิ่งพึงสงวนที่จำเป็นต้องปกปิด  เพราะมีหะดิษที่ได้สัญญาถึงโทษอันร้ายจากจากการกระทำสิ่งดังกล่าว   ได้กล่าวไว้ในหนังสือ อัลมัดค๊อล ว่า  ?สมควรยิ่งสำหรับเขานั้น  เมื่อได้ร่วมหลับนอนกับภรรยา  และสิ่งที่ได้เกิดขึ้นระหว่างทั้งสองนั้น  ก็จะอย่าบอกเล่าสิ่งหนึ่งสิ่งใดจากเรื่องดังกล่าวผู้อื่นฟัง? เพราะสิ่งดังกล่าว  เป็นพฤติกรรมของคนโง่เขลา  และไม่ใช่เป็นพฤติกรรมของผู้มีคุณธรรมในอดีตที่ผ่านมา

[นูรุ้ลอิสลาม]

ท่านอิบนุอามูน กล่าวว่า  สุนัตให้สามีที่ทำการร่วมหลับนอนและต้องการกลับไปร่วมหลับนอนอีกในเวลาอันใกล้นั้น  ก็ให้เขาทำการล้างอวัยวะเพศของเขา  เพราะมันจะทำให้อวัยวะเพศมีความแข็งแรงและมีความกระปี้กระเปร่า 

มีอายะฮ์หนึ่ง  เมื่ออ่านเป็นประจำแล้ว  จะทำให้มีความแข็งแรงและกระปี้กระเปร่า   พี่น้องท่านใดสนใจ  โปรดติดต่อบัง pareet เข้าของกระทู้นี้ ได้หลังไมค์ครับ เพราะผมส่งวิธีอะมัลไปให้บังเขาเรียบร้อยแล้วครับ   

ทำไมไม่เคยบอกกันมั่งล่ะครับน้อง  กำลังหาสูตรอยู่พอดี