ความรู้เบื้องต้นเกี่ยวกับอัลกุรอาน

[philosophy]

Tweet

السلام عليكم
กระทู้นี้ขอเชิญผู้รู้ทั้งหลายมาช่วยกันเผยเเผ่ความรู้กัน...ดังหะดีษที่ว่า...(بلغواعني ولوأية)ความว่า...จงเผยแพร่จากฉันแม้เพียงแค่อายะฮฺเดียว
ขอเริ่มก่อนเลยนะครับ
بسم الله الرحمن الرحيم
   อัลกุรอานเป็นคัมภีร์ที่มาจากอัลลอฮ ตะอาลา ถูกประทานลงมาให้แก่มนุษยชาติทั้งมวลตั้งแต่สมัยของท่านนบีมุฮัมมัดจนถึงวันกิยามัต โดยไม่มีการเปลี่ยนแปลงและเพิ่มเติมแม้แต่นิดเดียว ดังนั้น อัลกุรอานที่มุสลิมกำลังอ่านและใช้ประกอบอิบาดะห์ในวันนี้เหมือนกับฉบับที่มีอยู่ในสมัยของท่านนบีมุฮัมมัด r และสมัยต่อ ๆ มา

แท้ที่จริง อัลกุรอานเป็นคัมภีร์ที่มาจากอัลลอฮ ตะอาลา นั้นถูกประทานลงมาในภาษาอาหรับอันไพเราะสละสลวย ครอบคลุมเนื้อหาในทุก ๆ ด้านของการดำเนินชีวิต ซึ่งเมื่ออ่านแล้วมีความรู้สึกกินใจและลึกซึ้งมาก จะไม่รู้สึกเสมือนเป็นคัมภีร์ที่มาจากผลงานการแต่งของมนุษย์คนใดแม้แต่คนเดียว ซึ่งผิดจากเนื้อหาที่แต่งโดยมนุษย์ดังที่เราสามารถพิสูจน์จากผลงานการเรียบเรียงหรืองานแต่งทั่วไปซึ่งภายหลังถูกอ้างว่าเป็นคัมภีร์ของพวกเขา

    อัลกุรอานที่มาจากอัลลอฮตะอาลานั้นก็ต้องผ่านการประทานลงมาโดยมะลาอิกะฮญิบรีล อะลัยฮิสะลาม จะเป็นการประทานในลักษณะต่าง ๆ ตามเหตุการณ์และสถานการณ์ที่จำเป็น ทั้งการประทานลงมา ณ นครมักกะฮหรือนครมะดีนะฮ และผ่านการรายงานของบุคคลเป็นจำนวนมากซึ่งประกอบด้วยผู้ที่มีคุณธรรมและสัจจะทั้งสิ้น บุคคลเหล่านั้นล้วนเป็นนักท่อง จำอัลกุรอานทั้งสิ้น พวกเขาจะเป็นกลุ่มชนที่มีเกี่ยรติอันสูงส่งและเป็นคนที่มีความสุขมากในบรรดามุอฺมินทั้งในโลกนี้และวันอาคิเราะห์
    อัลกุรอานฉบับอุษมานีย์ที่ถูกรายงานโดยผู้คนเป็นจำนวนมากที่มีคุณธรรมซึ่งมาถึงมือมุสลิมวันนี้ประกอบด้วยหัวข้อใหญ่ ๆ ดังนี้

ก . ซูเราะห์ 114 ซูเราะห์

ข . อายะฮ 6,666 อายะฮ (6236)

ค . ญุซ 30 ญุซ

ง . คำหรือกะลีมะฮ 51,924 คำ (80,000 คำ )

จ . ฮิซิบ 60 ฮิซบ

ฉ . สถานที่ 2 สถานที่คือ มักกะฮและมะดีนะฮ

ด . ตัวอักษร 323,761 ตัวอักษร

 เดี๋ยวมาต่อกันใหม่
والسلام

[philosophy]

السلام عليكم
มาแว้ว...
ความหมายของอัลกุรอาน 
     ความหมายตามหลักภาษา

คำว่า อัลกุรอาน เป็นคำภาษาอาหรับ แปลว่า การอ่าน ไม่ใช่เป็นคำที่ผันมาจากคำอื่น แต่เป็นคำซึ่งมีความหมายที่มีอยู่ในตัวของมันเอง

 ความหมายตามหลักวิชาการ

อัลกุรอานหมายถึง คำดำรัสของอัลลอฮที่ถูกประทานลงมาแก่ท่านนบีมุฮัมมัดโดยผ่านการรายงานอย่างมุตะวาติรที่การอ่านของมันเป็นอิบาดะฮ

จากความหมายข้างต้นพอสรุปได้ดังนี้

- อัลกุรอานมาจากอัลลอฮฺ ไม่ใช่มาจากใครคนหนึ่งคนใด

- ถูกประทานลงมายังท่านนบีมุฮัมมัดผ่านมะลาอิกะฮญิบรีล ไม่ใช่ถูกประทานลงมาแก่นบรรดานบีก่อน ๆ หรือแก่มนุษย์ทั่วไปที่ไม่ได้อยู่ในฐานะการเป็นนบีและรสูล

- อัลกุรอานถูกถ่ายทอดจากท่านนบีมุฮัมมัด มายังสังคมโดยการรายงานของบุคคลเป็นจำนวนมาก ซึ่งเป็นไปได้ที่ผู้คนเหล่านั้นจะสมคบร่วมคิดโกหกกัน

- อัลกุรอานที่การอ่านของมันเป็นอิบาดะฮที่ได้รับผลบุญ ต่างจากคำพูดของมนุษย์ทั่วไปจะไม่ถือเป็นอิบาดะห์แต่อย่างใด

ดังนั้น อัลกุรอานที่มิได้ครอบคลุมความหมายดังที่ได้กล่าวมา ไม่ใช่อัลกุรอาน ที่มาจากอัลลอฮฺ r อย่างแท้จริง แต่เป็นอัลกุรอานฉบับปลอมซึ่งแต่งโดยกลุ่มคนที่ไม่หวังดีต่อศาสนาอิสลามและสังคมมุสลิม
ไว้มาต่อใหม่คร้าบ...
والسلام
 

 
 

[colidlayla]

อัสลามมูอาลัยกุม
ขอแจมหน่อย
อัลกุรอ่านเป็นคัมภีร์ที่อัลลอฮ(ซ.บ.)ทรงปรทานผ่านท่านญิบรี้ล แก่ท่านศาสดามูฮำมัดเพื่อประกาศทางนำแก่มวลมนุษย์ชาติ รวมเป็นเวลา 23 ปีเป็นคัมภีร์ประมวลเรื่องราวอันเร้นรับในอดีตกาลและในโลกหน้า อัลกุรอ่านเป็นธรรมนูญชีวิตของมุสลิมที่จุดประกายด้วยศาสตร์ ความรู้และวิชาการต่างๆสอดคล้องทุกยุคทุกสมัยและได้ประจักษ์ความจริงเรื่อยมาจากการระบุแห่งอัลกุรอ่านตามกาลเวลาที่ผ่านมาทั้งสิ้น เป็นคัมภีร์ที่ไม่เคยผ่านการ สังคายนา แก้ไขหรื่อเพิ่มเติม ยังคงเหมือนเดิมในสมัยท่านศาสดาเป็นอย่างไรก็เป็นเช่นนั้นตราบจนวันสิ้นโลก
การรวบรวมอัลกุรอ่าน เมื่อท่านศาสดา ได้รับโองการแต่ละอายะฮ์ แต่ละซูเราะห์ ก็มอบให้ เซด บินซาบิต เป็นผู็บันทึกไว้ตามแผ่นกระดุก ที่สะอาด กาบอินทผลัมแผ่นกระดาษ ดินที่ปั้นเป็นอย่างดี ส่วนการรวบรวมเป็นรูปเล่มได้ดำเนินการจริงจังในสมัยท่านคอลีฟะห์ อุสมาน รวม 6เล่ม และได้ส่งไปยังเมือง ประเทศต่างๆ คือ มาดีนะห์ ซีเรีย กูฟะห์ บาซอเราะห์ มักกะห์ และเซด บินซาบิต เก็บรักษาไว้ 1 เล่ม
     อัลกุรอ่านเป็นเครื่องหมายแห่งความมหัศจรรย์(มัวญิวาด)กล่าวคือ เป็นคัมภีร์ที่ไม่มีบุคคลใดประพันธ์และเรียบเรียงเท่าเทียมได้ ไม่ว่าด้านความไพเราะ การใช้ถ้อยคำ สำนานโวหารและการเชื่อมประโยค ทั้งที่ชสวอาหรับในยุคนั้น มีชื่อเสียงด้านการใช้ภาษา
   จำนวนตัวเลขเกี่ยวกับอัลกุรอ่าน ประกอปด้วย  30 ญุชอ์(ภาค) แบ่งเป็น 114 ซูเราะห์(บท) ทั้งหมดมี 6666 อายะห์ มี 77934 คำ รวม 323671 อักษร
ท่านเซดรอซาดคอลีฟะห์ กล่าวว่า อายะห์ บิสมิลลาฮิรเราะห์มานนิรรอฮีม นั้นมี 19 อักษร และแต่ละอักษรปรากฎในอัลกุรอ่านไม่น้อยกว่า 19 ครั้ง และไม่ว่าแต่ละอักษร จะกล่าวซ้ำมากกี่ครั้งในอัลกุรอ่าน ก็จะเป็นจำนวนที่หารลงตัวด้วยจำนวน 19 เสมอ นอกจากนี้
ความหมายคำว่า  ชีวิต  มีปรากฎถึง 145 ครั้ง
ความหมายคำว่า  ตาย   มีปรากฎถึง  145 ครั้ง
คำว่า  ดุนยา  มีปรากฎถึง  115 ครั้ง
คำว่า  อาคีเราะห์  มีปรากฎถึง  115 ครั้ง
         มาลาอีกะห์   มีปรากฎถึง  88  ครั้ง
         ซัยตอน         มีปรากฎถึง  88  ครั้ง
         ร้อน             มีปรากฎถึง  4  ครั้ง
         เย็น              มีปรากฎถึง  4  ครั้ง
         ซากาต          มีปรากฎถึง  32  ครั้ง
         บารอกัต        มีปรากฎถึง  32  ครั้ง
         ภัยพิบัติ        มีปรากฎถึง  75  ครั้ง
         ขอบคุณ        มีปรากฎถึง  75  ครั้ง
         ปัญญา          มีปรากฎถึง  49 ครั้ง
         รัศมี              มีปรากฎถึง  49  ครั้ง
สำเนียงภาษา เป็นสำเนียงที่ไพเราะอย่างสุซึ้ง หาคัมภีร์ใดเสมอเหมือน ทั้งนี้จะเห็นได้จากความนิยมการอ่านจากชาวโลกจำนวนพันๆล้าน อ่านอย่างน้อยวันละ 27 ครี้ง อ่านมาแล้ว 1428 ปี ก็ยังไม่หยุดยั้ง แต่ที่สำคัญยิ่งคือสำเนียง ความชัดเจน ถูกต้องของการอ่านจำเป็นอย่างยิ่งที่ต้องศึกษาให้รู้และเข้าใจ เพื่อจะได้รักษาระดับเสียง สำเนียงไห้ได้มาตรฐานเดิม ดังที่อัลกุรอ่านซูเราะห์อัลฟุรกอนอายะห์ที่ 32 ความว่า เราได้ส่งอัลกุรอ่านมาด้วยสำเนียงมาครฐานเดิม และอีกอายะห์ได้บ่งบอกเชิงบังคับไว้ในซูเราห์อัลมุซซามิ้ล อายะห์ที่ 4 ความว่า สูเจ้าทั้งหลายจงรักษาระดับเสียงของอัลกุรอ่านให้ได้มาตรฐานเดิมอยู่เสมอ
ด้วยเหุผลของอายะห์นี้ บรรดาซอฮาบะห์ และอูลามา จึงเห็นพ้องต้องกันวิเคราะห์การออกเสียงของอัลกุรอ่านเป็นกฎเกณฑ์ต่างๆขึ้นมาเพื่อให้ชนรุ่นหลังเรียรู้กันต่อไป
   
      พวกเราเป็นมัคโลค ย่อมมีผิดพลาด พวกเรามีความยินดีรับคำสนอแนะจากบรรดาผู้รู้ ทรงคุณวุฒิ ทุกๆท่าน ในด้านวิชา ตัจญวีด หากมีการขาดตกบกพร่อง

[กูปีเยาะฮฺสะอื้น]

อยากมีส่วนร่วม
 ชื่อของคำภีร์อัลกุรอ่าน
1. กุรอ่าน
2.ฟุรกอน
3.มุซฮับ
4.กิตาบ
5.อัซซิกร์


อิๆตอนนี้จำได้แค่นี้ใครสามารถก้อช่วยมาเพิ่มต่อน่ะ

[zaiyideen]

พี่น้องทุกท่านที่นำบทความมาบอกเป็นเรื่องดีจริงๆเลยครับพี่น้อง
แต่ผมติดอยู่นิดหนึ่งตามประสา คนความรู้น้อยนะครับ
แบบว่า อธิเช่น
ซูเราะห์ (แปลว่า)
อายะฮ (แปลว่า)
ฮิซิบ (แปลว่า)
บารอกัต(แปลว่า)
ฟุรกอน(แปลว่า)
มุซฮับ(แปลว่า)
และคำอื่นๆ ซึ่งคำเหล่านี้เป็นคำท่ถูกต้องแต่สื่อข้อความภาษาไทย ผมคิดว่าแนะนำมั่งก้อดีนะครับ คือถ้าสื่อคำอ่านอาหรับแนะคำแปลไทยหน่อยนะพี่น้อง
ผมจะได้อ่านบทความด้วยความเข้าใจ ขอบคุณอัลลอฮ์ และพี่น้องทุกท่าน
วัสสลาม

[TruthSeeker]

 salam

[6.38]  และไม่มีสัตว์ใดๆ ในแผ่นดิน และไม่มีสัตว์ปีกใดๆที่บินด้วยสองปีกของมัน นอกจากประหนึ่งเป็นประชาชาติเยี่ยงพวกเจ้านั่นเอง เรามิได้ให้บกพร่องแต่อย่างใดในคัมภีร์ แล้วยังพระเจ้าของพวกเขานั้น พวกเขาจะถูกนำไปชุมนุม
(Yusuf Ali: There is not an animal (that lives) on the earth, nor a being that flies on its wings, but (forms part of) communities like you. Nothing have we omitted from the Book, and they (all) shall be gathered to their Lord in the end. ในส่วนตัวหนา คือ เราไม่ได้ทอดทิ้งอะไรไว้นอกมัน นั่นคือกุรอานนั้นครบถ้วน พอเพียง พระเจ้าไม่ได้ลืมอะไรไว้นอกกุรอาน)

[6.115]  และถ้อยคำแห่งพระเจ้าของฉันนั้นครบถ้วนแล้ว ซึ่งความสัจจะและความยุติธรรมไม่มีผู้ใดเปลี่ยนแปลงบรรดาถ้อยคำของพระองค์ได้และพระองค์นั้นคือผู้ทรงได้ยิน ผู้ทรงรอบรู้
(ไม่ต้องเติมอีก จากหนังสือเล่มอื่น หรือเรื่องเล่าทั้งหลาย)

[19.64]  และเรา (ญิบรีล) มิได้ลงมา เว้นแต่ด้วยพระบัญชาของพระเจ้าของท่านสำหรับพระองค์นั้น สิ่งที่อยู่ระหว่างเบื้องหน้าของเราและสิ่งที่อยู่เบื้องหลังของเรา และสิ่งที่อยู่ระหว่างทั้งสองและพระเจ้าของท่านนั้นมิทรงหลงลืมสิ่งใดเลย

[41.42]  ความเท็จจากข้างหน้าและจากข้างหลังจะไม่คืบคลานเข้าไปสู่อัลกุรอานได้ (เพราะ) เป็นการประทานจากพระผู้ทรงปรีชาญาณผู้ทรงได้รับการสรรเสริญ
(แต่เข้าหนังสือเล่มอื่นได้)

[6.114]  อื่นจากอัลลอฮ์กระนั้นหรือ ที่ฉันจะแสวงหาผู้ชี้ขาด ทั้ง ๆ ที่พระองค์เป็นผู้ทรงประทานคัมภีร์ลงมาแก่พวกท่านในสภาพที่ถูกแจกแจงไว้อย่างละเอียด ? และบรรดาผุ้ที่เรา ได้ให้คัมภีร์แก่พวกเขา นั้น พวกเขารู้ดีว่า แท้จริงอัลลอฮ์นั้นถูกประทานลงมาจากพระเจ้าของเจ้า ด้วยความเป็นจริง เจ้าอย่าได้อยู่ในหมู่ผู้สงสัยเป็นอันขาด

[7.185]  และพวกเขามิได้มองดูในอำนาจทั้งหลายแห่งบรรดาชั้นฟ้า และแผ่นดิน และสิ่งใดสิ่งหนึ่งที่อัลลอฮ์ได้ทรงบังเกิดขึ้นดอกหรือ ? และแท้จริงอาจเป็นไปได้ว่า กำหนดเวลาแห่งความตายของพวกเขานั้นได้ใกล้มาแล้ว แล้วก็ถ้อยคำใดเล่าที่พวกเขาจะศรัทธากันหลังจากอัลกุรอาน

[18.109]  จงกล่าวเถิดมุฮัมมัด หากว่าทะเลเป็นน้ำหมึกสำหรับบันทึกพจนารถของพระผู้เป็นเจ้าของฉัน แน่นอน ทะเลจะเหือดแห้งก่อนที่คำกล่าวของพระผู้เป็นเจ้าของฉันหมดสิ้นไป และแม้ว่าเราจะนำมันเยี่ยงนั้นมาเป็นน้ำหมึกอีกก็ตาม
(ไม่ใช่ว่าพจนารถของพระเจ้าหมด หรือพระเจ้าทิ้งอะไรที่จำเป็นไว้นอกกุรอาน กุรอานครบสมบูรณ์)

[5.87]  ผู้ที่ศรัทธาทั้งหลาย! จงอย่าได้ให้เป็นที่ต้องห้าม ซึ่งบรรดาสิ่งดี ๆ ในสิ่งที่อัลลอฮ์ได้ทรงอนุมัติแก่พวกเจ้า และพวกเจ้าจงอย่าละเมิด แท้จริงอัลลอฮ์นั้นไม่ทรงชอบบรรดาผู้ละเมิด
(อย่าเพิ่มกฏนอกจากที่พระเจ้าได้ห้ามไว้แล้วในกุรอาน ซึ่งครบถ้วนแล้วดังอายะห์ก่อนๆ ที่เสนอมาครับ)

[10.59]  จงกล่าวเถิด (มุฮัมมัด) พวกท่านเห็นแล้วมิใช่หรือซึ่งเครื่องยังชีพที่อัลลอฮ์ทรงประทานให้แก่พวกท่าน แล้วพวกท่านก็ทำให้บางส่วนเป็นที่ต้องห้าม (หะรอม) และบางส่วนเป็นที่อนุมัติ (หะลาล) จงกล่าวเถิด (มุฮัมมัด) อัลลอฮ์ทรงอนุมัติให้แก่พวกท่าน หรือพวกท่านปั้นแต่งให้แก่อัลลอฮ์
(อย่าเพิ่มกฏนอกจากที่พระเจ้าได้ห้ามไว้แล้วในกุรอาน ซึ่งครบถ้วนแล้วดังอายะห์ก่อนๆ ที่เสนอมาครับ)

[6.19]  จงกล่าวเถิด (มุฮัมมัด) ว่า สิ่งใดใหญ่ยิ่งกว่าในการเป็นพยาน จงกล่าวเถิดว่าอัลลอฮ์นั้นคือผู้เป็นพยานระหว่างฉันกับพวกท่าน และอัลกุรอานนี้ก็ได้ถูกประทานลงมาแก่ฉัน เพื่อที่ฉันจะได้ใช้อัลกุรอานนี้ ตักเตือนพวกท่าน และผู้ที่อัลกุรอานนี้ไปถึง พวกท่านจะยืนยันโดยแน่นอนกระนั้นหรือว่า มีบรรดาที่เคารพสักการะอื่นร่วมกับอัลลอฮ์? จงกล่าวเถิด (มุฮัมมัด) ว่า ฉันจะไม่ยืนยัน จงกล่าวเถิด แท้จริงพระองค์นั้นคือผู้ที่ควรแก่การเคารพสักการะแต่เพียงองค์เดียวเท่านั้น และแท้จริงฉันขอปลีกตัวออกจากสิ่งที่พวกท่านให้มีภาคี (แก่อัลลอฮ์)

[25.30]  และร่อซู้ลได้กล่าวว่า ข้าแต่พระเจ้าของข้าพระองค์ แท้จริงชนชาติของข้าพระองค์ได้ยึดเอาอัลกุรอานนี้เป็นที่ทอดทิ้งเสียแล้ว
(คือจะกล่าวในวันแห่งการตัดสิน ลองดูอายะห์ก่อนๆ เช่น 25:25 และปัจจุบันคนได้ทอดทิ้งจริง ท่องฟังเพียงเสียงที่ไม่เข้าใจ)

[75.19]  แล้วแท้จริงหน้าที่ของเราคือ การอธิบายอัลกุรอาน
(การอธิบายกุรอานให้ใจมนุษย์เข้าใจ เป็นหน้าที่ของพระเจ้า)


[2.2]  นี่คือคัมภีร์ (ของอัลลอฮ์) ที่ไม่มีข้อเคลือบแคลงสงสัยอยู่ในนั้น มันเป็นทางนำ สำหรับผู้ที่ยำเกรงต่อพระเจ้า

(และอีกหลายๆอายะห์ที่กล่าวถึงว่าในกุรอานมีความรู้ มีทางนำ หากเราไม่ศึกษาความหมายจากหลายๆแหล่งอย่างจริงจัง แต่เอาเฉพาะเสียงที่ไม่เข้าใจ ท่องจำสิ่งที่ไม่รู้ เราจะได้ทางนำได้อย่างไร)



ขอให้พระเจ้าทรงนำทาง

[as-satuly]

แท้ที่จริง อัลกุรอานเป็นคัมภีร์ที่มาจากอัลลอฮ ตะอาลา นั้นถูกประทานลงมาในภาษาอาหรับอันไพเราะสละสลวย ครอบคลุมเนื้อหาในทุก ๆ ด้านของการดำเนินชีวิต ซึ่งเมื่ออ่านแล้วมีความรู้สึกกินใจและลึกซึ้งมาก จะไม่รู้สึกเสมือนเป็นคัมภีร์ที่มาจากผลงานการแต่งของมนุษย์คนใดแม้แต่คนเดียว ซึ่งผิดจากเนื้อหาที่แต่งโดยมนุษย์ดังที่เราสามารถพิสูจน์จากผลงานการเรียบเรียงหรืองานแต่งทั่วไปซึ่งภายหลังถูกอ้างว่าเป็นคัมภีร์ของพวกเขา

          ใช่แล้วครับ พระมหาคัมภีร์อัลกุรฺอานของพระองค์อัลลอฮฺ ตะอาลา นั้น ถูกประทานลงมาให้แก่มนุษยชาติอย่างครอบคลุมทุกเรื่องทุกด้านอย่างครอบคลุมแล้ว และเช่นเดียวกันกับ ในอัลกุรอานมีเรื่องราวของนะบีย์หลายท่าน ซึ่งปรากฏในพระคัมภีร์ไบเบิลเดิมและพระคัมภีร์ไบเบิลใหม่ ผู้ที่อคติจึงใส่ไคล้ว่า ศาสนาอิสลามก็คือลูกผสมของศาสนายิวและศาสนาคริสต์นั่นเอง

          เป็นความจริง เรื่องราวของนะบีย์หลายท่านที่มีปรากฏในอัลกุรอานนั้น ได้มีในพระคัมภีร์แต่ก่อนๆด้วย แต่ถ้าได้ศึกษาเปรียบเทียบและพิจารณา ก็จะเห็นข้อแตกต่างได้หลายประการ มิใช่แต่ในเรื่องราวของบรรดานะบีย์เท่านั้น แม้แต่ในบทบัญญัติต่างๆก็มีข้อแตกต่างกัน(จากพระคัมภีร์ก่อนๆอีกด้วย)...วัลลอฮุอะอฺลัม - วัสสลามุอะลัยกุม

(อ้างอิงจาก : ดิเรก  กุลสิริสวัสดิ์. 2548. ความรู้เกี่ยวกับอัลกุรฺอาน. พิมพ์ครั้งที่ 2. กรุงเทพฯ : ชมรมหนังสือวิทยปัญญา. หน้า 21.)

[MUMAD]

[6.114]  อื่นจากอัลลอฮ์กระนั้นหรือ ที่ฉันจะแสวงหาผู้ชี้ขาด ทั้ง ๆ ที่พระองค์เป็นผู้ทรงประทานคัมภีร์ลงมาแก่พวกท่านในสภาพที่ถูกแจกแจงไว้ อย่างละเอียด ? และบรรดาผุ้ที่เรา ได้ให้คัมภีร์แก่พวกเขา นั้น พวกเขารู้ดีว่า แท้จริงอัลลอฮ์นั้นถูกประทานลงมาจากพระเจ้าของเจ้า ด้วยความเป็นจริง เจ้าอย่าได้อยู่ในหมู่ผู้สงสัยเป็นอันขาด

  แค่สงสัย

[เหรียญ 2 ด้าน]

ขอบคุณครับ