ขอความกระจ่าง และสนทนา เรื่อง"กอฎอรและกอฎัร"

[wahaba]

นี่แหละครับ วะฮาบี มีความตะกัปโบร เป็นที่ตั้ง  ขอให้พวกนี้หมดไปจากสังคมมุสลิมของเรา 

[ILHAM]

สูญพันธุ์เลยยิ่งดี

[subson]

ผมจะหยุดตามคำขอของคุนเพื่อให้คุนได้ชี้แจงต่อไป 

แต่ผมไม่หยุดแค่นี้เพราะผมเสียหายจากคำวิจารย์ผ่านแว่นดำของคุน

คุนมาวันอาทิตย์ งั้นผมมาวันจัน   ผมจะไม่แตะจนกว่าคุนชี้แจง

[ส้มโชกุน]

 salam
   ใจเย็นๆน่ะค่ะทุกๆคน  ขอความกรุณาอย่าใช้อารมณ์กันเลย  มันมีแต่จะเสียหายและสร้างความร้าวฉาน
เข้ามาเพื่อมาหาความรุ้แต่ได้บาปกลับไป  มันคุ้มกันมั้ยเอ่ย 
พูดกันดีๆน่ะค่ะ  อย่าทำสงครามกันเลย  รู้มั้ยว่าพี่เล่นเถียงกันแบบนี้  คนอื่นๆที่เข้ามาอ่าน  เขาก็รุ้สึกอึดอัด  ไม่สบายใจ  เพราะเขาไม่อยากให้พี่น้องต้องมาทะเลาะกันเอง  และหนูก็เชื่อว่าผู้สร้างก็ไม่โปรดปรานเช่นกัน


อยากให้ทุกคนไม่ว่าจะเป็นคนถาม คนตอบ ผู้รู้ ผู้ไม่รุ้ จะเด็กหรือผู้ใหญ่  ก็ควรให้เกียรติซึ่งกันและกัน อย่าสาดโคลนใส่กันเลยน่ะ
ถึงแม้ว่าแต่ละคนจะใช้คำพูดที่สุภาพมากเพียงใด  แต่ก็แฝงไว้ด้วยยาพิษ  มันก็เหมือนเป็นคำด่านั่นแหละค่ะ  เพราะอ่านแล้วก็ทำให้เสียความรุ้สึกเท่ากัน


แต่ก็ขอขอบคุณและขอชื่นชมพี่ๆทุกคน  ที่มีความพยายามและมีความตั้งใจที่จะอธิบาย  ชี้แจงในเรื่องต่างๆ  ทำให้คนไม่รุ้อย่างหนูได้รุ้มากขึ้น(แต่ก็รุ้ไม่หมด...เหอๆ)  และพออ่านแล้ว อ่านแล้วอ่านอีก อ่านหลายๆรอบ และอ่านมาเรื่อยๆ  ก็มีความรุ้สึกว่าไม่อยากรุ้แล้ว(ฮือๆๆๆๆ..)
แต่ถึงยังไงหนูจะพยายามคัดเลือกเอาแต่สิ่งที่ดีกลับไปน่ะค่ะ

หากผิดพลาดประการใดก็ขออภัยด้วยค่ะ
 วัสลาม.....

[Goddut]

ว่าจะมากทม ก็มาหาผมได้เลย
มีการรอวิจารณ์หลังผมนำเสนอ
แล้วก็จะมาบอก เหมือนที่เคยคิดไว้ก่อนหน้าผมนำเสนอแล้ว
ไม่ไหวเลยครับ คุณสับสน ละอายใจบ้างเถอะ

มีการบอกผมใส่แว่นดำ เฮ้อ เพี้ยนไปหมด
คุณไม่ตอบ เพราะไม่รู้จะตอบอะไร ตอบไม่ได้ อัลกรุอานก็ไม่รู้จัก

ประโยคที่ว่า ดีมาจากอัลลอฮฺ เลวมาจากมนุษย์ คุณยังออกมาวิจารณ์ นี่ประโยคจากอัลกรุอานยังไม่สบอารมณ์คุณ ยังสงสัยจน เป็นเหตุให้คุณตั้งกระทู้นี้มา

แล้วผมเป็นแค่มนุษย์จะไปสบอารมณ์คุณได้อย่างไร ?
นอูซุบิลลามินาซาลิก
วัสลาม...

[Goddut]

ผมจะหยุดตามคำขอของคุนเพื่อให้คุนได้ชี้แจงต่อไป 

แต่ผมไม่หยุดแค่นี้เพราะผมเสียหายจากคำวิจารย์ผ่านแว่นดำของคุน

คุนมาวันอาทิตย์ งั้นผมมาวันจัน   ผมจะไม่แตะจนกว่าคุนชี้แจง

ผมไม่ต้องการให้คุณชี้แจงครับ เพราะคุณเพี้ยน
เพราะหากคุณชี้แจงหลังผม คุณก็จะดูของผมก่อน แล้วก็บอกว่า คิดอย่างนั้นนานแล้ว ( 3 หนละ ) คิดเหมือนผมทุกอย่าง แต่ให้ตอบก่อน ตอบไม่ได้
ถ้าคุณจะชี้แจง ก็ชี้แจงก่อนผม ถ้าผมชี้แจงเมื่อไหร่ คุณไม่ต้องมาเสนอ เอาแค่นี้แหละ
แล้วอย่างไร พอให้คุณตอบ คุณกลับบอก ไม่อยากรู้ ไม่เอาแล้ว แบบนี้คุณก็ไปเลยครับ ไม่ต้องมาแสดงอะกีดะเพี้ยนๆ อีก
ผมผิดเองที่ขอให้คุณกลับมา ต่อจากนี้คงต้องบอกว่า คุณไปตามทางของคุณเถอะ...

ด้วยพระนามของอัลลอฮฺ ผมไม่ได้โกรธ แต่ผมคิดว่า คุณสับสนนั้นไม่สมควรจะทำตัวแบบนี้
คิดดูสิ หัวข้อกระทู้เขียนว่า ขอความกระจ่าง แต่ตัวเองนั้น ไม่เชื่อในคำกล่าวผู้อื่น และยกมาโต้แย้ง รวมทั้งตอบแบบผิดๆ เพี้ยนๆ
อีกประการ มีการบอกว่า แกล้งถาม ทั้งๆ ที่รู้แล้ว  แล้วรู้แล้วแบบนี้ จะมาขอความกระจ่างทำไม อีก ?
ไม่ไหวนะครับ แบบนี้

สรุป
ถ้าอยากจะชี้แจงมาก ก็ให้ชี้แจงก่อนผม ผมจะเลื่อนไปเป็นวันจันทร์
ถ้าไม่ชี้แจง ก่อน แล้วผมได้ตอบแล้วเรียบร้อย คุณไม่ต้องเสนอหน้ามาที่กระทู้นี้อีก ไม่ไหวจะมาแก้แนวคิดเพี้ยนๆ
เพี้ยนไม่ว่า แต่ไม่รู้ว่าตัวเองเพี้ยน แล้วก็ยังเอาอะกีดะเพี้ยนๆ มาสอนพี่น้องในเวปไซต์อีก
นอูซุบิลลามินซาลิก
วัสลาม...

[subson]

อัสลามูอลัยกุม คุน Goddut

ผมยอมรับว่าผมมองคุนในแง่ร้ายจิงๆ  ผมเข้าใจมาตลอดว่าคุนเกลียดผม แม้ว่าคุนจะบอกว่าไม่ได้อคติ ไม่ได้รังเกียจก้ตาม  เพราะผมอ่าน คห. แต่ละกระทู้ของคุนนั้นมันทำให้ผมรู้สึกอย่างนั้นจิงๆ  บางทีก็เสียความรู้สึก บางทีก็รู้สึกน้อยใจ บางทีรู้สึกเหมือนคุนกำลังด่าผม แต่เมื่อคุนกล่าวด้วยนามของอัลลอฮ  ทำให้ผมรู้สึกตัวทันทีว่า ทั้งหมดนั้นเป็นแค่ความรู้สึกนึกคิดเอาเอง ของผมเพียงคนเดียว ประหนึ่งว่าผมคิดเพื่อทำร้ายตัวเอง โดยที่คุนไม่ได้ทำอะไรผมเลย  ผมขอมาอัฟจริงๆ ที่ผมทำทุกอย่างลงไปที่กระทบกับความรู้สึกของคุน ไม่ว่าจะเป็นการแหย่เพื่อให้ได้คำตอบ หรือการประชดเพื่อให้ได้สนทนาต่อไป  หรืออะไรทั้งมวลที่ผมทำไปโดยไม่รู้ตัว

คุนอย่าเพิ่งท้อแท้ซิครับ  คุนรู้รึเปล่าว่าคุนกำลังทำบุญโดยไม่รู้ตัว   คุนเพิ่มความรู้ให้กับผม  คุนได้กระจายความรู้ให้คนอื่นๆ  อย่างน้อยคุนได้ทบทวนในสิ่งที่รู้มา  ผมเชื่อ100%ว่ามีบางคนที่ไม่รู้  มีบางคนที่รู้แล้ว แต่ไม่มาก พอได้อ่าน คห.ของคุนแล้ว ก็ได้ความรู้เพิ่มกลับไป

ที่ผมกล่าวว่า “ผมแกล้งถามในสิ่งที่รู้แล้ว” ด้วยนามของอัลลอฮ ในขณะนั้นผมหมายถึงคำถามที่ว่า
“ทำไมทุกอย่างถูกบันทึกไว้หมดแล้ว แต่อีกฮาดิษมาบอกว่าเยี่ยมญาติสามารถเพิ่มริสกีได้”
และแล้วอาจารย์ al-azhary ก็มาตอบ และเป็นไปตามที่ผมศึกษามาหมาดๆ   ที่ผมถามนั้นผมเชื่อสนิทใจว่าบางคนนั้นยังไม่รู้   เพราะเมื่อก่อนผมก็ไม่รู้เหมือนกัน ประมาณว่า งง ตกลงยังไงกัน   
ผมหมายถึงเรื่องนี้เรื่องเดียว ไม่เกี่ยวกับคำถามอื่นเลย  คำถามอื่นบางคำถาม ผมไม่รู้จิงๆ บางคำถามผมรู้มานิดเดียวแล้วอยากได้เพิ่ม บางคำถามผมถามเพราะคิดว่าบางคนไม่รู้เหมือนที่ผมเคยไม่รู้ บางคำถาม ถามเพื่ออยากได้เหตุผลฝั่งตรงข้าม     แต่ผมเห็นคุนตอบอยู่คนเดียวไม่มีใครอยากคุยด้วยเลย นอกจากด่า

และหากคุนสังเกต คห.ของบางคนนั้น คุนก็จะเห็นว่า เขากำลังติดตามอ่านอยู่ เพื่ออะไร ??คุนไม่สะกิดใจบ้างหรือ ?? ก็เพราะว่าเขาอยากรู้เพิ่มไง  บางคนเพี้ยนกว่าผมก็ไม่แน่นะ  ดังนั้นถ้าผมหยุดหรือไม่ตั้งกระทู้แต่แรกก็คงจะหยุดแค่นั้น ไม่มีใครสานต่อ  พี่น้องที่กำลังติดตามอยู่ก็ ต้องหาคำตอบจากที่อื่นเพราะไม่กล้าถาม  รวมทั้งผมด้วย

คุนครับ คุนก็รู้ว่าผมเป็นใคร ถ้าผมอยากรู้อะไรทำไมผมไม่ถามในเว็บมรดก  เว็บอัซซุนนะ เว็บอิสลามมอร์ อิกเราะฯลฯ  ทำไมผมมาถามในเว็บนี้ คุนไม่เอ็ดใจบ้างหรือ  ก็เพราะว่าสิ่งที่ผมถามนั้นเว็บอื่นเค้าไม่รู้
ผมถามเพื่ออยากรู้แล้วมาชั่งใจ ถ้าผมปิดใจผมจะเข้ามาทำไมเว็บนี้ ก็ในเมื่อผมรู้ดีว่าไม่เหมาะกับผม

อย่างน้อยๆระหว่างสนทนา ทำให้พี่น้องได้ชั่งใจ  ผมคนหนึ่งแหละ  ได้รู้ในสิ่งที่ไม่รู้หลายอย่าง ได้เปลี่ยนความคิดไปหลายอย่างเพราะคำอธิบายของคุณ
ผมยกตัวอย่างเช่น  ผมไม่รู้มาก่อนว่าปลาทะเลน้ำลึกไม่มีพยาธิ เพราะที่เรียนมานั้นแค่บอกว่าปลามีพยาธิ
อีกเรื่องคือ ผมเลือกทรรศนะที่ว่า ไฮยีน่า กินไม่ได้เพราะมันล่าสัตว์ด้วยเขี้ยว จากการอธิบายของคุน อีกเช่นกัน  และยังมีอีกนอกเหนือจากนี้อีก


และสุดท้ายผมยอมรับว่าผมไม่สันทัดในเรื่องอธิบาย  ชีวิตจิงผม อธิบายก็ไม่ค่อยมีใครเข้าใจ  เพราะผมเป็นคนไม่ค่อยชอบพูด ชอบอยู่เงียบๆ ขรึมๆ คิดมากกว่าพูด  จึงขาดทักษะในการสื่อสาร
วันนี้งานเข้าทั้งวัน และคืนนี้ก็คงไม่ว่างอีก เพราะต้องคำณวนงบประมาณในการก่อสร้าง รอผมได้มั้ย ผมเลือกที่จะอธิบาย   ผมขอยืนยันว่าผมเข้าใจคล้ายกับคุน แต่การสื่อสารของผมสุ้คุนไม่ได้  ผมคิดว่าถ้าใครเข้าใจในสิ่งที่ผมสื่อก็จะรู้ว่าผมเข้าใจยังไง   ผมจะพยายามสื่อสารให้เข้าใจ  ขอเพียงโอกาสเท่านั้นเอง   อินชาอัลลอฮ

[Goddut]

ด้วยพระนามของอัลลอฮฺ

อัลฮัมดุลลิลา ผมอ่านแล้ว น้ำตาคลอเลย
ผมซึ้ง........... ผมบอกกับพี่น้องของผม หลายคนผ่าน ข้อความส่วนตัวที่มีมาหาว่า ตัวของผมเองนั้นพยายามบอกกับคุณว่า คุณเข้าใจผิด
คุณไม่รู้ถึง อายะอัลกรุอาน ที่ผมยกมา ที่กล่าวว่า "ดีมาจากอัลลอฮฺ ชั่วมาจากมนุษย์"
คุณพร้อมมาวิจารณ์ ประโยคที่มันถูกถอดความมาจากอัลกรุอาน ผมทนไม่ได้ผมต้องชี้แจง

คุณอาจจะไม่ใช่คนเพี้ยน ( วัลลอฮฺอะลัม ) แต่การวิจารณ์อายะตรงนั้น มันทำให้ความเข้าใจคุณเพี้ยนไป
ซึ่งผมถึงกล้าที่จะบอกกับคุณเช่นนั้นจริงๆ

หากคุณได้ ติดตามอ่าน ลิ้งทั้งสอง ข้างต้น ที่มีพี่น้องของเราหยิบยกมาให้ ไม่ว่าจะเป็น .... บทเรียนฮิกัม กับ กอฎอกอดัร ของบังอัล แล้ว
คุณจะทราบดีว่า มันสอดคล้องกันทั้งหมด ซึ่งผมจะอาสาอธิบายต่อไป

ตอนนี้ งานของผม ที่โรงเรียนกำลังจะเสร็จ ( น่าจะพรุ่งนี้ ) อินชาอัลลอฮฺ ผมคงได้มีโอกาส มานำเสนอข้อ 4 ด้วยตัวเอง

อ๋อลืม หลังจากคุณนำเสนอแล้ว...
อินชาอัลลอฮฺ
วัสลาม...

[คนเดินดิน]

      salam

บิสมิลลาฮิรเราะห์มานิรรอฮีม

     เมื่อการสื่อสารผิดพลาด

การปรับความเข้าใจกัน  หันหน้าเข้าหากัน  ก็ทำให้มิตรภาพ

                   ฟุ้งกระจาย

 

     (ปล. เค้าเองก็เป็นอีกหนึ่งที่ติดตามการชี้แจงของท่านก็อตดัร  จนได้รับความกระจ่างมากกกกกกกกกถึงมากที่สุดเช่นกันค่ะ)

 

[nada-yoru]

 

อินชาอัลลอฮฺ...จะรอติดตามจนถึงตอนจบเช่นกันค่ะ...
ไม่กลัวตัวเองจะสับสนด้วยค่ะ...เพราะเรามีดุอาฮฺเป็นอาวุธ...

วัสลามุอะลัยกุมค่ะ

[subson]

salam    ผมขอเริ่มต้นด้วยการอธิบายพื้นฐานความเข้าใจของผมก่อน  แล้วค่อยไปทีละขั้นตอนตามแต่เวลาจะอำนวย (งานยังไม่เสร็จแถมยังไม่ได้นอน)

คำถามคือ  ทำไมผมถึงกล่าวว่า "ทุกสิ่งที่ดีและไม่ดีล้วนมาจากความประสงค์ของอัลลอฮฺ "   

คำตอบ จากข้อมูลดังนี้ครับ  "และพวกเจ้าจะไม่สมประสงค์สิ่งใดเว้นแต่อัลลอฮฺพระเจ้าแห่งสากลโลกจะทรงประสงค์" 81:29

จากโองการนี้ชัดเจนในตัว โดยขอยกตัวอย่างว่า ถ้าเราขัดคำสั่งของอัลลอฮโดยการที่จะไปฆ่าคน  (การฆ่าคนคือสิ่งที่ไม่ดี)  หากไม่ใช่ความประสงค์ของพระองค์แล้ว

เราจะฆ่าคนไม่สำเร็จ เราไม่สามารถทำสิ่งที่ไม่ดีได้สำเร็จ ถ้าอัลลอฮไม่ทรงประสงค์ ซึ่งตรงกับคำที่ว่า"หากอัลลอฮฺไม่ประสงค์ก็ไม่เกิด หากอัลลอฮประสงค์ย่อมเกิดขึ้นแน่นอน"

อีกโองการระบุว่า "...จะไม่ประสบแก่เราเป็นอันขาด นอกจากสิ่งที่อัลลอฮฺได้กำหนดไว้แก่เราเท่านั้น...." 9:51

จากโองการนี้ ผมเห็นว่า ทุกสิ่งประสบกับเรานั้น(ทั้งสิ่งที่ดีและไม่ดี) ได้ถูกกำหนดด้วยความรอบรู้ของพระองค์มาแต่เดิมแล้ว ว่าจะเกิดอะไรขึ้น บ่าวจะเลือกทำสิ่งหนัย อย่างไร ฯลฯ

ดังนั้นผมจึงสรุปว่า  พระองค์ทรงกำหนดให้สิ่งต่างๆเกิดขึ้น ไม่มีสิ่งใดที่อยู่นอกความประสงค์   พระองค์อนุมัติให้เกิดขึ้นตามความเหมาะสม  ทั้งสิ่งที่ดีและไม่ดี

สอดคล้องกับคำกล่าวของคุน Goddut   ที่อธิบายว่า"ซึ่งผมจะขอกล่าวสั้นๆ ว่า .. "พระองค์เป็นผู้ทรงกำหนดทุกสรรพสิ่ง พระองค์ทรงอยู่เหนือมัน ความดีและความชั่ว โดยความดีความชั่วมาจากพระองค์ทรงกำหนด แต่มิได้ทรงกระทำให้บังเกิดความชั่ว เพราะ พระองค์นั้นมิได้ทรงผิดพลาด และทรงอยู่เหนือสิ่งเหล่านั้นทั้งปวง" ( นอกเหนือจากกฎเกณฑ์ )"

โอกาสต่อไปผมจะมาตอบว่า ทำไมผมถึงกล่าวว่า มนุษย์มีความสามารถ เอามาจากหนัย แล้วตกลงมีหรือไม่มี    อินชาอัลลอฮ

[al-azhary]

 salam

นี่คือส่วนหนึ่งจากฮิกัมที่ 22 ซึ่งผมได้เขียนตั้งเอาไว้เกี่ยวกับเรื่องก่อฏอก่อดัรเหมือนกัน  ลองอ่านประกอบกันดูน่ะครับ  เผื่อว่าจะจุดประกายความเข้าใจกันง่ายยิ่งขึ้น

ดังนั้นทุกสิ่งที่ดำเนินอยู่ในการดำเนินชีวิตของมนุษย์  ไม่ว่าจะเป็นการทำภารกิจต่าง ๆ หรือธุรกิจที่เลือกเฟ้นเอาไว้  หรือเหตุการณ์ต่าง ๆ ที่เกิดขึ้นโดยมิได้ตั้งใจ  ล้วนแต่เป็นกระจกใสที่ฉายให้เห็นถึงความรู้ของอัลเลาะฮ์ที่ทรงกำหนดมาตั้งแต่เดิม

คำว่า اَلْقَضَاءُ กอฎออฺของอัลเลาะฮ์  คือ  การรู้ของพระองค์ที่มีมาแต่เดิมเกี่ยวกับทุก ๆ สิ่งที่จะเกิดขึ้นในอนาคต  ส่วน اَلْقَدْرُ ก่อดัรของอัลเลาะฮ์  คือ  การให้ดำเนินไปหรือการทำให้บังเกิดขึ้นซึ่งสรรพสิ่งต่าง ๆ โดยสอดคล้องกับการรู้ของพระองค์ที่มีมาตั้งแต่เดิม  ดังนั้น  การที่อัลเลาะฮ์ทรงรู้เหตุการณ์ต่าง ๆ ของจักรวาลก่อนที่มันจะเกิดขึ้นนั้น  เขาเรียกว่า  กอฎออฺ  และเมื่อเหตุการณ์นั้นได้เกิดขึ้น ตรงตามการรอบรู้ของอัลเลาะฮ์ตั้งแต่เดิม  นั่นแหละเขาเรียกว่า กอดัร  ดู อัลลามะฮ์ ชัยค์ มุฮัมมัด สะอีด ระมะดอน อัลบูฏีย์ , หนังสือ อัลอินซาน มุค็อยยัร อัม มุซัยยัร , หน้า  37.

การก่อฎออฺหรือการรอบรู้ของพระองค์มาตั้งแต่เดิมนั้น  จะปฏิบัติหน้าที่โดยแบ่งประเภทได้ดังนี้

• อัลเลาะฮ์ตะอาลาทรงรู้ว่า  ต่อไปพระองค์จะบันดาลสิ่งที่ไม่เกี่ยวข้องกับการเลือกเฟ้นของมนุษย์  คือ เหตุการณ์ต่าง ๆ ที่เกิดขึ้นตามธรรมชาติ  เช่น  น้ำท่วม  แผ่นดินไหว  การเปลี่ยนแปลงสภาพอากาศ  การเจริญเติบโตของต้นไม้  และเหตุการณ์ต่าง ๆ ที่เกิดขึ้นแก่มนุษย์แบบเลือกเฟ้นไม่ได้  เช่น  การเกิด  การตาย  ความแก่ชรา  การนอนหลับ  การตื่น  เป็นต้น

• อัลเลาะฮ์ตะอาลาทรงรู้ว่า  ต่อไปพระองค์จะสร้างให้เกิดขึ้นมาตามความปรารถนาและการเลือกเฟ้นที่มนุษย์ต้องการจะกระทำ  เช่น  ภารกิจหรือการประกอบธุรกิจต่าง ๆ ที่มนุษย์ชอบและเลือกเฟ้นที่จะกระทำ  ดังนั้นบทบาทของมนุษย์ก็คือการมุ่งเจตนาและตัดสินใจกระทำตามที่เขาได้เลือกเฟ้น  ส่วนบทบาทของอัลเลาะฮ์ตะอาลาก็คือสร้างหรือบันดาลให้บังเกิดขึ้นมาซึ่งสิ่งที่มนุษย์ได้เลือกเฟ้นและตัดสินใจกระทำ

หากมีบางคนกล่าวว่า  “เมื่ออัลเลาะฮ์ทรงรู้มาตั้งแต่เดิมแล้วว่า  ฉันจะทำการฝ่าฝืนพระองค์...แน่นอนว่าพระองค์ได้ทรงบังคับให้ฉันกระทำการฝ่าฝืน!...”  แต่ความจริงแล้วมิใช่เป็นเช่นนั้น  เนื่องจากเขาไม่เข้าใจว่า “ซีฟัตอิลมุ”  صِفَةُ الْعِلْمِ “คุณลักษณะทรงรู้” ของอัลเลาะฮ์นั้น  เป็นคุณลักษณะที่มีหน้าที่เปิดให้แจ้งประจักษณ์ถึงสิ่งที่ถูกรู้ได้  มิใช่เป็นคุณลักษณะที่มีหน้าที่ทำให้บังเกิดผลขึ้นมา  หมายถึงคุณลักษณะการรู้ของพระองค์ก็เสมือนกับแสงไฟส่องหน้ารถที่ทำให้ท่านเห็นสิ่งที่อยู่ข้างหน้าและส่องให้เห็นเส้นทางตามหน้าที่ของมัน  โดยไม่สามารถทำให้บังเกิดผลสิ่งใดขึ้นมาเลย

ถ้าหากท่านมีบุตรอยู่คนหนึ่ง  ซึ่งกำลังเรียนระดับมัธยม  ท่านก็พยายามกำชับและส่งเสริมให้บุตรตั้งใจเรียน  อย่าเกียจคร้าน  ในขณะที่บุตรทำการสอบ  ปรากฏว่าเขาไม่ได้รับความสำเร็จ  แล้วท่านก็กล่าวแก่บุตรว่า  ฉันรู้แล้วว่าลูกจะสอบไม่ผ่านหรอก (เพราะเกียจคร้าน) ดังนั้นจะอนุญาตให้บุตรพูดกับพ่อตามที่พ่อได้รู้มาแล้ว...ได้หรือไม่ว่า  “เพราะเหตุที่พ่อรู้มาแล้วนั่นแหละ ถึงทำให้ฉันสอบตก?!”

ดังนั้นการที่พ่อรู้ว่าบุตรมีความเหมาะสมที่จะได้รับความเสร็จ  ก็มิใช่เป็นสาเหตุให้บุตรมีความสำเร็จ  และการที่พ่อรู้ว่าบุตรน่าจะไม่มีความสำเร็จ  ก็มิใช่เป็นสาเหตุให้บุตรสอบตกเช่นเดียวกัน  แต่การสอบผ่านหรือสอบตกนั้น  อยู่ที่บุตรจะให้ความสนใจกับการเล่าเรียนมากน้อยแค่ไหนเท่านั้นเอง

เช่นเดียวกับสภาวะของบ่าวที่มีต่ออัลเลาะฮ์ตะอาลา  ซึ่งพระองค์ได้ให้เขามีสติปัญญาและมีความคิดในการเลือกเฟ้นตัดสินใจได้  ดังนั้นมิใช่การรู้ของพระองค์ที่ว่าเขาได้ดำรงมั่นอยู่บนแนวทางที่ถูกต้อง  เป็นสาเหตุให้เขาได้รับความสำเร็จ  และมิใช่การรู้ของพระองค์ที่ว่าเขาไม่ได้ดำรงมั่นอยู่บนแนวทางที่ถูกต้อง  เป็นสาเหตุให้เขาเป็นผู้ล้มเหลว  แต่สาเหตุทั้งหมดนั้น  อยู่ในสิ่งที่บ่าวได้เลือกเฟ้นให้แก่ตัวเขาเอง  แล้วเขาก็ทุ่มเทกระทำตามแนวทางที่เขาได้เลือก

วัลลอฮุอะลัม

[khata]

 salam

บรรดาการสรรเสริฐเป็นสิทธิ์ของอัลลอฮฺ....
เป็นกระทู้ที่ติดตามอ่านอยู่เช่นกันค่ะ...

ได้เห็นหากหลายความคิด....มีกระทบกระทั่งกันบ้าง....แต่ถ้าผู้ใดที่บริสุทธิ์ใจก็จะเกิดผลดีมากกว่าความไม่เข้าใจ....

ต้องยกความมุ่งมั่นของท่าน  Goddut  และความอุตสาหะของท่านสับสน...

บางกระทู้บางข้อวความอาจจะไม่ตรงกับความคิดบางคน...แต่ทุกอย่างในกระทู้นี้เป็นเรื่องที่ดีทั้งหมด และที่น่าปลื้มก็คือ...จากที่เข้าใจผิดกันก็มาแสดงความสมานฉันต์กัน....นี้แหละพี่น้องมุสลิม....

[Goddut]

คืออย่างนี้นะครับคุณสับสน คุณคุยคนละประเด็นกับเรา หรือเข้าใจไม่เหมือนกันเลย
สิ่งที่พวกเราหลายๆ ท่าน กำลังจะบอกคุณคือ การมีพระประสงค์ของอัลลอฮฺนั้น อยู่เหนือกาลเวลาทั้งหมด
สิ่งที่คุณกล่าวมานั้น มันเลยไปไกลแล้ว สิ่งที่คุณต้องพยายามทำความเข้าใจเพิ่มนั้น มันถึงจะเข้าถึงแก่นก็คือเรื่องใหม่กว่านี้
บอกไปแล้วตั้งแต่ต้น และ ในบทความบังอัล ที่พี่น้องช่วยยกมา รวมทั้งกับความเห็นข้างบนของบังเขาด้วย ก็สื่อเช่นนั้น

พระประสงค์ของอัลลอฮฺ ดังที่คุณกล่าวนั้น เป็นความเข้าใจในขั้นต้นเท่านั้นเอง
แน่นอนว่า การอนุมัติของพระองค์นั้น เป็นที่สุด แต่เราไม่ได้จบแค่นั้น ไม่ได้เป็นอย่างตัวอย่างที่คุณยก
สิ่งที่เราต้องการจะบอกกับคุณ ที่ผมว่าคุณไม่เข้าใจนั้น และดูอย่างไร คุณก็ไม่เข้าใจจริงๆ ( ซุบฮานัลลอฮฺ ) ด้วยใจที่บริสุทธิ์ของผม
ผมเห็นคุณยังคงพูดคุยเรื่องเดิมๆ คือ กำหนดสภาวะที่ อัลลอฮฺทรงอนุมัติ ซึ่งมันไม่ใช่เรื่องนี้แล้ว
สิ่งที่พวกเรากล่าวนั้นเป็น ปัจจุบัน และอนาคตกว่านั้นมาก ผมอยากจะถามคุณมากกว่า เพราะคุณจะได้เข้าใจจริงๆ ว่าอะไรมันควรจะเป็นอย่างนั้น

เพราะเรื่อง อนุมัตินั้น ทุกคนรู้ดีว่า อัลลอฮฺทรงอนุมัติแล้ว แต่การที่คุณกล่าวและยกตัวอย่าง ซึ่งผมขออนุญาติวิจารณ์ดังนี้
----------------------------------------------------------------------------------------------------
คุณกล่าวว่า หากมีคนจะฆ่าคนๆ นึง แต่เขากลับกลับยกมือไม่ขึ้น ซึ่งคุณกล่าวว่า มันเป็นเพราะประสงค์ของอัลลอฮฺ
----------------------------------------------------------------------------------------------------
ตรงนี้ มันไม่ใช่ซะทีเดียว มันไม่ใช่ในแบบที่คุณคิด ประสงค์ของอัลลอฮฺนั้นทรงมีมาแต่เดิมแล้ว
กล่าวคือถ้า คนจะฆ่าคนนั้น อัลลอฮฺทรงประสงค์อยู่ก่อนนานแล้ว และมีคำตอบของมันแล้วอย่างชัดเจน

แต่........... ไม่ได้หมายความว่า อยู่ดีๆ จะยกมือไม่ขึ้น ซะดื้อๆ มันไม่มีเหตุผล ไร้คำอธิบาย มันไม่ใช่มัวะยีซาตแล้ว
การที่ยกมือไม่ขึ้นนั้นจะต้องมีเหตุผล แต่เหตุผลของมันนั้น ถูกผูกพันธ์กับอัลลอฮฺ ที่พระองค์นั้นทรงกำหนดมา

อ่อ ขอเพิ่ม วิจารณ์อีกบทที่คุณ กล่าวว่า เราคิดเหมือนกัน ดังนี้
----------------------------------------------------------------------------------------------------
ดังนั้นผมจึงสรุปว่า  พระองค์ทรงกำหนดให้สิ่งต่างๆเกิดขึ้น ไม่มีสิ่งใดที่อยู่นอกความประสงค์   พระองค์อนุมัติให้เกิดขึ้นตามความเหมาะสม  ทั้งสิ่งที่ดีและไม่ดี

สอดคล้องกับคำกล่าวของคุน Goddut   ที่อธิบายว่า"ซึ่งผมจะขอกล่าวสั้นๆ ว่า .. "พระองค์เป็นผู้ทรงกำหนดทุกสรรพสิ่ง พระองค์ทรงอยู่เหนือมัน ความดีและความชั่ว โดยความดีความชั่วมาจากพระองค์ทรงกำหนด แต่มิได้ทรงกระทำให้บังเกิดความชั่ว เพราะ พระองค์นั้นมิได้ทรงผิดพลาด และทรงอยู่เหนือสิ่งเหล่านั้นทั้งปวง" ( นอกเหนือจาก
----------------------------------------------------------------------------------------------------
ตรงนี้ ไม่ได้หมายถึง พระองค์ทรงอนุมัติให้เกิดขึ้นทั้งสิ่งที่ดีและไม่ดี มันไม่ใช่อย่างนั้น แน่นอนการกล่าวว่า พระองค์ทรงอนุมัตินั้นถูกต้อง และมันก็เกิดขึ้นตามความเหมาะสม คำว่าเหมาะสมในที่นี้แหละ คือ กำหนดของพระองค์
หากพระองค์กล่าวว่า สิ่งใดถูก สิ่งนั้นก็ถูก พระองค์ให้อิสลามมาเป็นทางนำ อย่างอื่นจึงไม่ใช่ เช่นกัน พระองค์กำหนดว่า หากเราจะเดิน หรือวิ่ง เราก็ต้องมีขา เป็นต้น
ดังนั้นคำว่า เหมาะสม จึงหมายถึง กำหนดที่พระองค์ทรงวางไว้ แต่ไม่ได้หมายความว่าเป็นสิ่งที่ดี หรือไม่ดี หรือกำหนดผลลัพธ์ของคนใดคนหนึ่ง แต่อย่างใด
แต่สิ่งที่พระองค์นั้นทรงกำหนด เนื่องมาจาก บ่าวของพระองค์ที่ได้กระทำไปแล้ว ซึ่งไม่ได้กระทำลงไปจริงๆ แต่พระองค์นั้นทรงรู้มาแต่เดิมแล้ว
นี่แหละคือการกำหนดในอีกนัยนึง ที่จะนำเสนอ มันไม่ได้หมายความถึง ปัจจุบัน ดังตัวอย่างของคุณสับสนเลย...

คุณอ่านข้อความของผม ที่ผมทำตัวสีแดง ผมจะอธิบายให้อีกชั้น
กล่าวคือ พระองค์นั้นทรงกำหนด มันขึ้นมา เช่น ทำอย่างนี้ถึงจะดี ทำอย่างนี้ถึงจะชั่ว แต่ไม่ได้หมายความว่า พระองค์ทรงประสงค์ให้คนทำความชั่ว เพราะมันจะขัดคำความหมายที่ว่าพระองค์นั้นมิทรงยินดี ในเรื่องนี้
การกำหนดของพระองค์ที่ผมยกตัวอย่าง จะใช้คำว่าแต่เดิม ซึ่งหมายถึง การแรกเริ่ม มิใช่ปัจจุบัน ที่ตัวเรานั้นกระทำอยู่
ดังนั้น ผมจึงใช้ และ อุลามะหลายๆ ท่านจึงใช้ว่าศัพท์ว่า "มีมาแต่เดิม" สำทับ เพื่ออธิบายในกำหนดที่พระองค์นั้นทรงตั้งไว้ก่อนหน้านั้น

ดังนั้น หากในตัวอย่างที่คุณยกมา คนนึงจะกินผลไม้ แต่ยกมือไม่ขึ้นนั้น มันเป็นประสงค์ของอัลลอฮฺนั้นถูก แต่ถูกครี่งเดียว
เพราะมันต้องมีปัจจัย อย่างอื่น กำหนดอย่างอื่นมาเกี่ยวข้อง เพราะหากจะอย่างที่คุณนำเสนอ มันเป็นแค่พิ้นฐาน ซึ่งผมคิดว่าใครๆ ก็ต้องรู้อยู่แล้วว่า อัลลอฮฺทรงอนุมัติ ถึงจะทำได้....

หากเอาอย่างที่คุณกล่าว วิจารณ์จากที่คุณนำเสนอ
ผมกล่าวได้เลย 100% ว่า คุณไม่เข้าใจเหมือนผมแน่นอน และอาจจะไม่เข้าใจเหมือนคนอื่นๆ ด้วยซ้ำไป

ผมยังรอให้คุณลองตอบ ข้อ 4 ของผม และผมจะมีข้อ 5 เพิ่มเข้ามา ( ซึ่งผมคิดว่า ข้อ 5 น่าจะทำให้คุณเข้าใจได้ตรงประเด็นมากกว่า )
และด้วยกับความเห็นของคุณล่าสุด มันทำให้ผู้รู้ได้เลยว่า คุณไม่เข้าใจจริงๆ
วัลลอฮฺอะลัม
วัสลาม...

[al-firdaus~*]

อีกโองการระบุว่า "...จะไม่ประสบแก่เราเป็นอันขาด นอกจากสิ่งที่อัลลอฮฺได้กำหนดไว้แก่เราเท่านั้น...." 9:51

จากโองการนี้ ผมเห็นว่า ทุกสิ่งประสบกับเรานั้น(ทั้งสิ่งที่ดีและไม่ดี) ได้ถูกกำหนดด้วยความรอบรู้ของพระองค์มาแต่เดิมแล้ว ว่าจะเกิดอะไรขึ้น บ่าวจะเลือกทำสิ่งหนัย อย่างไร ฯลฯ

เราจะไม่สัมฤทธิผลในสิ่งที่ปราถนา นอกจากโดย (สอดคล้องกับ) ที่อัลลอฮ์ทรงประสงค์เท่านั้น