ผู้เขียน หัวข้อ: รู้ไหมว่าทำไม ?  (อ่าน 30216 ครั้ง)

0 สมาชิก และ 1 บุคคลทั่วไป กำลังดูหัวข้อนี้

ออฟไลน์ ILHAM

  • เพื่อนตาย T_T
  • *****
  • กระทู้: 11348
  • เพศ: ชาย
  • Sherlock Holmes
  • Respect: +273
    • ดูรายละเอียด
    • ILHAM
Re: รู้ไหมว่าทำไม ?
« ตอบกลับ #105 เมื่อ: พ.ย. 23, 2009, 10:33 PM »
0
พายุซุนนัฮ กับพายุบิดอัฮ
إن شاءالله ติด ENT'?everybody

Sherlock Holmes said "How often have I said to you that when you have eliminated the impossible, whatever remains, however improbable, must be the truth?"
-------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------

ออฟไลน์ nada-yoru

  • เพื่อนรัก (6_6)
  • *****
  • กระทู้: 4010
  • เพศ: หญิง
  • แสงและเงา
  • Respect: +134
    • ดูรายละเอียด
Re: รู้ไหมว่าทำไม ?
« ตอบกลับ #106 เมื่อ: พ.ย. 24, 2009, 01:05 PM »
0
^

 natural: natural:
"และข้ามิได้สร้างญิน และมนุษย์เพื่ออื่นใด เว้นแต่เพื่อเคารพภักดีต่อข้า"

(ซูเราะฮฺ อัซซาริยาต อายะอฺที่ 56)

ออฟไลน์ nada-yoru

  • เพื่อนรัก (6_6)
  • *****
  • กระทู้: 4010
  • เพศ: หญิง
  • แสงและเงา
  • Respect: +134
    • ดูรายละเอียด
Re: รู้ไหมว่าทำไม ?
« ตอบกลับ #107 เมื่อ: พ.ย. 24, 2009, 11:20 PM »
0

"คุณรู้ไหมว่าทำไม...
พายุหมุนเขตร้อนทางซีกโลกใต้จึงหมุนตามเข็มนาฬิกา
แต่ทางซีกโลกเหนือหมุนทวนเข็มนาฬิกา?"



 salam


เงียบเลย...ไม่มีใครตอบ...
...สงสัยคงต้องถามเองตอบเองเสียแล้วล่ะโด่โด่เอ๋ย... ;D

บางคำถามเราเคยเรียนเคยรู้เคยอ่านแล้วจึงถาม...เลยถามเองตอบเองได้
แต่ไอ้คำถามที่ไม่รู้คำตอบแล้วจึงถามนี่สิ... mycry



คำตอบจากกรมอุตุฯมีดังนี้ค่ะ....
.
.
.

"และข้ามิได้สร้างญิน และมนุษย์เพื่ออื่นใด เว้นแต่เพื่อเคารพภักดีต่อข้า"

(ซูเราะฮฺ อัซซาริยาต อายะอฺที่ 56)

ออฟไลน์ nada-yoru

  • เพื่อนรัก (6_6)
  • *****
  • กระทู้: 4010
  • เพศ: หญิง
  • แสงและเงา
  • Respect: +134
    • ดูรายละเอียด
Re: รู้ไหมว่าทำไม ?
« ตอบกลับ #108 เมื่อ: พ.ย. 24, 2009, 11:29 PM »
0


สาเหตุที่ซีกโลกเหนือพายุหมุนทวนเข็มนาฬิกา
แต่ซีกโลกใต้หมุนตามเข็มนาฬิกา ?

แหล่งข้อมูล AOML (Atlantic Oceanographic and Meteorological Laboratory)
Why do tropical cyclones' winds rotate counter-clockwise (clockwise)
in the Northern (Southern) Hemisphere? (ตอน1)


    เคยสังเกตุไหมครับว่าทำไม พายุหมุนเขตร้อนในซีกภาคเหนือจึง
“หมุนทวนเข็มนาฬิกา” แต่ในซีกโลกภาคใต้กลับ “หมุนตามเข็มนาฬิกา”
สาเหตุนั่นเพราะ แรงโคริโอลิส (CORIOLIS FORCE)นั่นเอง

ก่อนที่เราจะไปดูวิธีการหมุนของพายุหมุนเขตร้อน
เราจะมาทำความเข้าใจเกี่ยวกับ แรงโคริโอลิส กันก่อนนะครับ

“แรงโคริโอลิส” (CORIOLIS FORCE) หมายถึงแรงเฉ แรงบ่ายเบน แรงเบี่ยงเบน
จะเรียกคำไหนก็ได้ แต่เราจะเรียก”แรงเฉ”กันในที่นี้เพราะเข้าใจง่ายกว่า ม
องเห็นภาพมากกว่า

“แรงเฉ”เกิดจาก การหมุนของโลก
เมื่อเรามองจากรูปโลกมันจะหมุนรอบตัวเองโดยมีทิศทางหมุนทวนเข็มนาฬิกา
จากทิศตะวันตกไปทิศตะวันออก(หมุนจากซ้ายไปขวามือ)

เนื่องจากการหมุนของโลกทำให้ลมหรือวัตถุเคลื่อนที่บนผิวโลก
มีทิศทางการเคลื่อนที่เปลี่ยนไป และแรงที่ทำให้ลมและวัตถุมีทิศทางการเคลื่อนที่
เปลี่ยนไปนี้เรียกว่า “แรงเฉ” หรือ “แรงโคริโอลิส

นอกจากมีผลกับลมแล้ว ยังมีผลกับสิ่งอื่นๆ อีกด้วย ได้แก่ มวลอากาศ กระแสน้ำ
การเดินของคน การวิ่งของรถยนต์ การบินของเครื่องบิน
และการพุ่งขึ้นของจรวด เป็นต้น


การหมุนของโลกทำให้ลมที่พัดในซีกโลกเหนือ เฉโค้งไปทางขวามือ
เฉโค้งไปเรื่อยๆจนลมนั้น “หมุนตามเข็มนาฬิกา”


ส่วนลมในซีกโลกใต้จะเฉโค้งไปทางซ้ายมือ เฉโค้งไปเรื่อยๆจนลมนั้น
“หมุนทวนเข็มนาฬิกา”
ดังภาพด้านล่างต่อไปนี้





ภาพกราฟฟิคด้านบน ภาพนี้ ให้มองว่าขณะนี้โลกกำลังหมุนรอบตัวเอง
ทวนเข็มนาฬิกาหรือจากตกไปออก(จากซ้ายไปขวามือ)

จากภาพลูกศรจะเกิด “แรงเฉ”โค้ง เฉโค้งไปเรื่อยๆจนลมนั้น
“หมุนตามเข็มนาฬิกา” ในซีกโลกเหนือ
และ “หมุนทวนเข็มนาฬิกา” ในซีกโลกใต้ ………

จากภาพกราฟฟิคนี้ลองนึกภาพ เปรียบเสมือนกับ รถประจำทางขนาดใหญ่
กำลังเคลื่อนที่ผ่านตัวเรา(จากซ้ายมือไปขวามือ) อย่างรวดเร็ว
ขณะที่เรากำลังยืนรอรถอยู่ เราจะมีความรู้สึกว่าลมจะพัดดูดเราออกไป
จากถนนไปทางขวาเล็กน้อยชั่วขณะประหนึ่งว่ามีอาการ “เซ” ออกถนน
ไปทางขวามือ(ลักษณะถูกดูดออกจากถนนไปทางขวามือ) …..

ท่านทั้งหลายครับ! ขอเปรียบดังนี้ คือ

1) ตำแหน่งและเส้นทางของรถประจำทางขนาดใหญ่ คือบริเวณเส้นศูนย์สูตร…

2) รถประจำทางขนาดใหญ่กำลังเคลื่อนที่นั้น คือการเคลื่อนที่ของโลก
จากซ้ายไปขวามือ(การหมุนของโลกจากตกไปออกหรือทวนเข็มนาฬิกา)…

3) ตำแหน่งที่เรากำลังยืนรอรถอยู่ คือบริเวณซีกโลกซีกโลกเหนือ…

4) เราซึ่งกำลังยืนรอรถอยู่มีอาการ “เซ” นั้นคือลมหรือวัตถุที่กำลังเกิด “แรงเฉ”
ไปทางขวามือเมื่ออยู่ในซีกโลกเหนือ นั่นเอง

***หมายเหตุ*** ภาพนี้เป็นภาพแรงเฉ(แรงโคริโอลิส)
ของลมทั่วทั้งโลกเท่านั้นเฉยๆ ยังไม่ใช่วิธีการหมุนของพายุหมุนเขตร้อน
ซึ่งจะกล่าวในระยะต่อไป




"และข้ามิได้สร้างญิน และมนุษย์เพื่ออื่นใด เว้นแต่เพื่อเคารพภักดีต่อข้า"

(ซูเราะฮฺ อัซซาริยาต อายะอฺที่ 56)

ออฟไลน์ nada-yoru

  • เพื่อนรัก (6_6)
  • *****
  • กระทู้: 4010
  • เพศ: หญิง
  • แสงและเงา
  • Respect: +134
    • ดูรายละเอียด
Re: รู้ไหมว่าทำไม ?
« ตอบกลับ #109 เมื่อ: พ.ย. 24, 2009, 11:45 PM »
0




ภาพด้านบนนี้บ่งบอกว่า ขณะที่โลกกำลังหมุนรอบตัวเองมีทิศทางทวนเข็มนาฬิกา
หรือจากทิศตะวันตกไปยังตะวันออก(จากซ้ายไปขวา)
จะทำให้เกิด “แรงเฉ” จากภาพในซีกโลกเหนือลูกศรจะเกิด “แรงเฉ”
โค้งไปทางขวา เฉโค้งไปขวาเรื่อยๆจนลมนั้น “หมุนตามเข็มนาฬิกา”
และ ส่วนในซีกโลกใต้ลูกศรจะเกิด “แรงเฉ”โค้งไปทางซ้ายมือ
เฉโค้งไปทางซ้ายเรื่อยๆจนลมนั้น “หมุนทวนเข็มนาฬิกา”

สังเกตบริเวณเส้นศูนย์สูตรปรากฎคำว่า “NO DEFLECTION AT QUATOR”
แปลว่าบริเวณเส้นศูนย์สูตรจะไม่เกิด แรงเฉ(Coriolis Force) เลย

ส่วนด้านบนสุดและด้านล่างสุดของภาพจะปรากฎคำว่า
“MAXIMUN DEFLECTION AT POLE” แปลว่าบริเวณขั้วโลกทั้งเหนือและใต้
จะเกิดแรงเฉ(Coriolis Force)มากที่สุด


คำสองคำนี้บ่งบอกว่าในบริเวณศูนย์สูตรแรงเฉหรือแรงโคริโอลิส มีค่าป็นศูนย์
ที่มีค่าเป็น 0 นี้ ลมจะมีลักษณะการเคลื่อนที่ทิศทางตรงไม่เฉโค้งเลย
และจะมีค่าเฉเพิ่มมากขึ้นตามละติจูดที่สูงขึ้น
และแรงเฉ(แรงโคริโอลิส)จะมีค่าสูงสุดบริเวณขั้วโลกทั้งสอง
ลมจะมีลักษณะพัดเฉโค้งแบบหักศอก ประมาณนั้น ซึ่งมีนัยดังนี้

***หมายเหตุ*** ภาพนี้เป็นภาพแรงเฉ(แรงโคริโอลิส)
ของลมทั่วทั้งโลกเท่านั้นเฉยๆ ยังไม่ใช่วิธีการหมุนของพายุหมุนเขตร้อน
ซึ่งจะกล่าวในระยะต่อไป


---


เพื่อความเข้าใจจะขออธิบายอีกนัยหนึ่งว่า…
 

          ถ้าโลกไม่ได้หมุนรอบตัวเอง ลมจะพัดจากบริเวณความกดอากาศสูง
ไปยังบริเวณความกดอากาศต่ำเป็นเส้นตรงเลยทีเดียว
แต่การหมุนของโลกทำให้เกิดแรงเฉหรือแรงโคริโอลิส
(CORIOLIS FORCES ตั้งชื่อไว้เป็นเกียรติแก่ จีจีโคริโอลิส
หรือ Gaspard Gustave de Coriolis ค.ศ.1792-1843
นักคณิตศาสตร์ชาวฝรั่งเศสคนแรกของโลกที่อธิบายแรงโคริโอลิส)


            แรงเฉ (โคริโอลิส)นี้เอง ซึ่งทำให้ทิศทางของลมเปลี่ยนแปลงไป
ทิศทางที่เปลี่ยนไปนี้ เป็นไปตามกฎของเฟอร์เรล(Ferrel’s law)
ที่ว่า...

ของไหลใดๆที่เคลื่อนที่อย่างเป็นอิสระบนซีกโลกภาคเหนือ
จะมีแรงชนิดหนึ่งเหนี่ยวนำให้ทิศทางการเคลื่อนที่ ”เฉโค้ง” ไปทางขวามือเสมอ


ส่วนซีกโลกภาคใต้จะเคลื่อนที่ ”เฉโค้ง” ไปทางซ้ายมือเสมอ

และพยายามจะเคลื่อนที่เป็นวงกลม โดยซีกโลกเหนือจะเคลื่อนที่หมุนเป็นวงกลม
ตามเข็มนาฬิกา ซีกโลกใต้จะเคลื่อนที่หมุนเป็นวงกลมทวนเข็มนาฬิกา


แรงเฉนี้ จะมีความรุนแรงมากขึ้น-น้อยลงตามระยะจากเส้นศูนย์สูตร
ยิ่งจากเส้นศูนย์สูตรมากเท่าใด “แรงเฉ” ก็จะมีความรุนแรงมากขึ้นเท่านั้น
ในทางกลับกันยิ่งใกล้เส้นศูนย์สูตรมากเท่าใด “แรงเฉ” ก็ค่าน้อยลงตามลำดับ

สำหรับบริเวณเส้นศูนย์สูตรจะไม่ปรากฎ แรงเฉโค้ง(แรงโคริโอลิส) เลย…........
ลองนึกภาพ เปรียบเสมือนกับ เรากำลังขับรถมอร์เตอร์ไซ
หรือขับรถเก๋งจากบริเวณด้านซ้ายมือไปยังขวามืออย่างเร็ว
ขณะขับรถฯเราจะมีความรู้สึกว่าลมพัดตรงเข้าหาหน้าเราตรงๆเลย
จะไม่รู้สึกเลยว่าลมจะพัดเฉเข้าด้านข้างของใบหน้าเราทั้งด้านซ้ายและขวา
แม้สักวินาทีเดียว…..ขณะนั้น
มีคนยืนอยู่ 2 ฟากข้างถนนทั้งทางด้านซ้ายมือ-ขวามือของเราขณะที่เราขี่รถผ่าน
ขณะที่เราขับรถอย่างเร็วมากผ่านตัวเขาทั้งสองนั้นเอง
เขาทั้งสองกลับมีความรู้สึกว่าลมนั้นพัดเฉดึงตัวเขาออกจากถนนเล็กน้อย
เหมือนมีอาการ ”เซ” ออกจากถนนทั้งคู่
คนที่ยืนอยู่ซ้ายมือของเราจะเซ(เฉ)ไปทางขวามือ(ของเขา)
ในทางกลับกัน คนที่ยืนอยู่ขวามือของเราจะเซ(เฉ)ไปทางซ้ายมือ(ของเขา)


จากเหตุการณ์เราขอเปรียบว่า

1) เราผู้ซึ่ง(กำลัง)ขับเคลื่อนรถมอร์เตอไซหรือขับรถเก๋ง
คือการเคลื่อนที่ของโลกจากซ้ายไปขวามือ
(เหมือนการหมุนของโลกทวนเข็มนาฬิกา)…

2) ตำแหน่งและเส้นทางที่เราขับรถนั้น คือบริเวณเส้นศูนย์สูตร (จะไม่มีแรงเฉเลย)

3) ลมที่พัดเข้าใบหน้าเราตรงๆ ขณะขับ คือแรงโคริโอลิสหรือแรงเฉ
มีค่าเป็นศูนย์ เมื่ออยู่บริเวณเส้นศูนย์สูตร

4) ตำแหน่งคน 2 คนที่กำลังยืนอยู่ระหว่างเราทางซ้ายและขวาของเรา
(ยืนระหว่างสองฟากถนน) คือบริเวณซีกโลกเหนือและซีกโลกใต้ตามลำดับ…

5) อาการ “เซ” ของทั้งคนซ้ายและขวาออกไปจากถนนเล็กน้อยของเขาทั้งสอง
ขณะเราขับรถผ่าน คือแรงเฉ(แรงโคริโอลิส) ของทั้งซีกโลกเหนือและใต้ตามลำดับ…

6) ส่วนตัวเราผู้ขับรถ คือผู้ให้กำเนิดลม ”แรงเฉ” จากเส้นศูนย์สูตร มีนัยดังนี้

จากเหตุการณ์ทั้งหมดที่เปรียบเทียบนี้เป็นเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นในชีวิตประจำวัน
ทั้งนี้เพื่อให้เข้าใจแรงโคริโอลิสได้ง่ายขึ้น




ภาพกราฟฟิคนี้ แสดงว่าเมื่อเรามองดูรูปของโลกเรา
จะเห็นว่าโลกหมุนรอบตัวเอง(หมุนทวนเข็มนาฬิกาหรือจากซ้ายไปขวามือ)
จะทำให้เกิด “แรงเฉ”โค้ง เฉโค้งไปเรื่อยๆจนลม มวลอากาศ
หรือกระแสน้ำนั้น “หมุนตามเข็มนาฬิกา” ในซีกโลกเหนือ
แต่จะ “หมุนทวนเข็มนาฬิกา” ในซีกโลกใต้

***หมายเหตุ*** ภาพนี้เป็นภาพแรงเฉของลมทั่วทั้งโลกเท่านั้นเฉยๆ
ยังไม่ใช่วิธีการหมุนของพายุหมุนเขตร้อนซึ่งจะกล่าวในระยะต่อไป


สรุปก็คือ แรงเฉ หรือแรงโคริโอริสเป็นสาเหตุนั่นเอง
ที่มีอิทธิพลทำให้ในซีกโลกเหนือพายุหมุนเขตร้อนจะหมุน “ทวนเข็มนาฬิกา”
แต่ซีกโลกใต้หมุน “ตามเข็มนาฬิกา”


จากสาเหตุแรงเฉ(Coriolis Force) นี่เองที่ทำให้พายุหมุนเขตร้อนซีกโลกเนือ
”หมุนทวนเข็มนาฬิกา” และ ซีกโลกใต้”หมุนตามเข็มนาฬิกา”
มันมีอิทธิพลและกระบวนการอย่างไร ?

เรื่องนี้ยังไม่จบนะครับ เพราะข้อมูลเยอะมากประกอบกับเนื้อหาค่อนข้างยาก
แก่การเข้าใจ เกรงว่าจะกลายเป็นเรื่องที่น่าเบื่อ
เลยแบ่งข้อมูลไว้กระทู้ต่อไป กระทู้นี้จุดประสงค์เพื่อทำความเข้าใจ
เกี่ยวกับแรงโคริโอลิสในเบื้องต้นก่อน
แต่ตอนต่อไป จะเสนอเกี่ยวกับ “แรงโคริโอลิสที่มีอิทธิพล
และกระบวนการต่อการหมุนของพายุหมุนเขตร้อนทั้งซีกโลกเหนือและใต้”


...มีต่อค่ะ...


"และข้ามิได้สร้างญิน และมนุษย์เพื่ออื่นใด เว้นแต่เพื่อเคารพภักดีต่อข้า"

(ซูเราะฮฺ อัซซาริยาต อายะอฺที่ 56)

ออฟไลน์ เหรียญ 2 ด้าน

  • เพื่อนแท้ (-.^)
  • ****
  • กระทู้: 753
  • เพศ: ชาย
  • เรียบง่าย แต่ไร้เทียมทาน (จิงๆๆ)
  • Respect: +8
    • ดูรายละเอียด
    • กัมปงดูกู
Re: รู้ไหมว่าทำไม ?
« ตอบกลับ #110 เมื่อ: พ.ย. 24, 2009, 11:48 PM »
0
ขอบคุนครับ
ชื่อที่เคยใช้ในบอร์ดคือ ahmdduku, الدوكوي, เหรียญ 2 ด้าน

ออฟไลน์ nada-yoru

  • เพื่อนรัก (6_6)
  • *****
  • กระทู้: 4010
  • เพศ: หญิง
  • แสงและเงา
  • Respect: +134
    • ดูรายละเอียด
Re: รู้ไหมว่าทำไม ?
« ตอบกลับ #111 เมื่อ: พ.ย. 24, 2009, 11:59 PM »
0


ภาพกราฟฟิคแสดงให้เห็นว่า แรงโคริโอลิส มีอิทธิพล
และกระบวนการต่อการหมุนของพายุหมุนเขตร้อน
“หมุนทวนเข็มนาฬิกา” ในซีกโลกเหนือ
และ”หมุนตามเข็มนาฬิกา” ในซีกโลกใต้

ที่มา NASA


เนื่องจากสาเหตุแรงเฉ(Coriolis Force) มีอิทธิพล
ทำให้พายุหมุนเขตร้อนซีกโลกเนือ”หมุนทวนเข็มนาฬิกา”
และ ซีกโลกใต้”หมุนตามเข็มนาฬิกา” มันมีอิทธิพลและกระบวนการอย่างไร ?


1.อิทธิพล ต่อการหมุนของพายุหมุนเขตร้อนอย่างไร ?

ตามภาพด้านล่างนี้



ภาพบริเวณหย่อมความกดอากาศต่ำซีกโลกเหนือ
ขณะที่ความกดอากาศสูงกำลังวิ่งเข้าหาความกดอากาศต่ำ

- สูกศรสีแดง หมายถึงแรงโคริโอลิสหรือแรงเฉ จากความกดอากาศสูง

- เส้นวงปิดสีดำทั้งสามวง หมายถึงระดับความกดอากาศต่ำ
  หรือแรงความชันของความกดอากาศ(pressure gradient force),

- แต่ถ้าเส้นวงปิดสีดำวงเดียว หมายถึงเส้นความกดอากาศเท่า(Isobar),

- ส่วนเส้นประสีแดง หมายถึงแรงโคริโอลิสจะพัดเข้าสู่ศูนย์กลาง
  ความกดอากาศต่ำทันที่ ถ้าโลกไม่ได้หมุนรอบตัวเอง

และเนื่องจากโลกหมุน แรงโคริโอลิส(ลูกศรแดง)จะพัดเฉทำมุม
กับเส้นความกดอากาศเท่า(เส้นวงปิดสีดำทั้ง3วง) ประมาณ 10-20 องศา ดังภาพ
จึงเกิดการพัดเวียนรอบความกดอากาศต่ำทวนเข็มนาฬิกา

จากภาพด้านบนอธิบายดังนี้


            ภาพแผนที่บริเวณหย่อมความกดอากาศต่ำในซีกโลกเหนือ
แสดงการกระทำของแรงโคริโอลิสที่มีอิทธิพลต่อพายุหมุนเขตร้อนในซีกโลกเหนือ
รูปนี้ จุด A เป็นตัวแทนของลมซึ่งควรจะพัดไปหาจุด C
ถ้าโลกอยู่นิ่งเฉยไม่ได้หมุนรอบตัวเอง แต่เนื่องจากการที่โลกหมุนรอบตัวเอง
ทำให้ทิศทางของลมหรือมวลอากาศเย็นพัด “เฉียง” ทางซ้าย
ไปเป็นทิศทาง AB เมื่อแรงเฉ พร้อมใจกันเฉไปทางซ้ายกันทั้งหมด
ที่เส้นรอบวงแต่ละวง พายุหมุนเขตร้อนจึงหมุนทวนเข็มนาฬิกาในซีกโลกเหนือ

            ภาพวงปิดทั้งสามวงแต่ละวงคือเส้นความกดอากาศเท่า(ISOBAR)
ตำบลใดก็ตามที่เส้นนี้ลากผ่านจะมีความกดอากาศตามบารอมิเตอร์เท่ากัน
ตำบล C จะมีความกดอากาศต่ำกว่าภายนอก
ด้วยแรงโคริโอลิสทำให้มวลอากาศเย็นจะเคลื่อนที่ขนาน”วน”รอบ
กับเส้นความกดอากาศเท่า(ISOBAR)ดังภาพ
มากกว่าจะเคลื่อนที่เข้าสู่ศูนย์กลางหย่อมความกดอากาศต่ำแบบ
เป็นเส้นตรงเลยทันที

ดังนั้น จากภาพเนื่องจากโลกหมุน “แรงโคริโอลิส”
หรือแรงเฉจากความกดอากาศสูง จะพัดเฉทำมุมกับเส้น
”ความกดอากาศเท่า”(Isobar) ประมาณ 10-20 องศา
ลมจะมีลักษณะเคลื่อนที่ขนาน”วน”รอบกับเส้นความกดอากาศเท่า
จนเกิดการพัดเวียนรอบความกดอากาศต่ำทิศทางทวนเข็มนาฬิกา…
ขอเปรียบอีกครั้งว่า

1) แรงโคริโอลิสหรือแรงเฉ คือลูกศรสีแดง

2) เส้นความกดอากาศเท่า(Isobar) คือเส้นสีดำวงปิดทั้งสามวง…

สรุป แรงโคริโอลิสหรือแรงเฉ คือลูกศรสีแดง + เส้นความกดอากาศ
เท่าทั้งสามวง(Isobar) คือเส้นสีดำวงปิดทั้งสามวง
= พายุหมุนเขตร้อนหมุนทวนเข็มนาฬิกาในซีกโลกเหนือ


2)กระบวนการ ต่อการหมุนของพายุหมุนเขตร้อนอย่างไร ?




ภาพด้านบนแสดงถึง แรงเฉหรือแรงโคริโอลิสนี้ ทำให้ซีกโลกเหนือของไหล
เช่นมวลอากาศ กระแสน้ำ และวัตถุต่างๆ ที่เคลื่อนที่อย่างอิสระ
จะเกิดแรงเฉไปทางขวา เฉขวาไปเรื่อยๆ
จนทำให้ของไหลดังกล่าวหมุนตามเข็มนาฬิกา

ส่วนซีกโลกใต้ของไหล เช่นมวลอากาศ กระแสน้ำ
และวัตถุต่างๆ ที่เคลื่อนที่อย่างอิสระ จะเกิดแรงเฉไปทางซ้าย
เฉซ้ายไปเรื่อยๆ จนทำให้ของไหลดังกล่าวหมุนทวนเข็มนาฬิกา

เเต่ทำไมจึงมีทิศทางตรงกันข้ามกับการหมุนของพายุหมุนเขตร้อน?
เราจะอธิบายภาพด้านล่างต่อๆกันเลย




ภาพนี้แสดงถึงความกดสูงกำลังวิ่งเข้าสู่ความกดอากาศต่ำ
(pressure gradient force) ในซีกโลกเหนือ

- ลูกศรสีน้ำเงิน หมายถึงแรงโคริโอลิสหรือแรงเฉ (Coriolis force)

- ลูกศรสีแดง หมายถึงแรงความชันของความกดอากาศ
  หรือกล่าวอีกนัยว่าความกดสูงกำลังวิ่งเข้าสู่ความกดอากาศต่ำ
  (Pressure gradient force)

- ลูกศรสีดำ หมายถึงกระแสลมจะพัดเวียนรอบในทิศทางทวนเข็มนาฬิกา
  อธิบายคือ แรงโคริโอลิสเมื่อมีค่าสมดุลกับความชันของความกดอากาศ
  จะทำมุมฉากกัน 90 องศา (ลูกศรสีน้ำเงินตั้งฉาก 90 องศากับลูกศรแดง)
  และลูกศรน้ำเงินเมื่อตั้งฉากไปทางขวาของลูกศรแดง
  ทำให้ลมเกิดการพัดเวียนทวนเข็มนาฬิกา


...มีต่อค่ะ...


"และข้ามิได้สร้างญิน และมนุษย์เพื่ออื่นใด เว้นแต่เพื่อเคารพภักดีต่อข้า"

(ซูเราะฮฺ อัซซาริยาต อายะอฺที่ 56)

ออฟไลน์ nada-yoru

  • เพื่อนรัก (6_6)
  • *****
  • กระทู้: 4010
  • เพศ: หญิง
  • แสงและเงา
  • Respect: +134
    • ดูรายละเอียด
Re: รู้ไหมว่าทำไม ?
« ตอบกลับ #112 เมื่อ: พ.ย. 25, 2009, 12:14 AM »
0

เพื่อความเข้าใจมากยิ่งขึ้นขออธิบายอย่างละเอียดดังนี้



ภาพด้านบนแสดงถึง การไหลของความกดอากาศสูงที่พัดเวียน
รอบบริเวณหย่อมความกดอากาศต่ำ (Low Pressure Area) ในซีกโลกเหนือ

- ลูกศรสีน้ำเงินด้านนอก4 มุม หมายถึง แรงความชันของความกดอากาศ
  จากความกดอากาศสูงวิ่งเข้าสู่หย่อมความกดอากาศต่ำ
  (pressure gradient force)

- ลูกศรสีน้ำเงินภายในวงกลม แสดงถึง แรงความชันของความกดอากาศ
  มีค่าสมดุลกับแรงโคริโอลิส(ลูกศรสีแดง)

- ลูกศรสีแดงด้านนอก 4 มุม หมายถึง แรงเฉหรือแรงโคริโอลิส (coriolis force)

- ลูกศรสีแดงด้านใน หมายถึงแรงโคริโอลิสมีค่าสมดุลกับความชัน
  ของความกดอากาศ(ลูกศรสีน้ำเงิน)

 *ไม่ได้แปลว่าลมจะพัดออกไปด้านนอกนะครับ

- ลูกศรสีดำ คือเส้นความกดอากาศเท่า(isobar)
  ซึ่งมีลักษณะพัดรอบทวนเข็มนาฬิกา

1) แรงเฉ(ลูกศรสีแดง) นี้เมื่อมีความสมดุลกับค่าความชัน
    ของความกดอากาศ(ลูกศรสีน้ำเงิน) สังเกตจากภาพทั้งลูกศรสีแดง
    และน้ำเงินบริเวณรอบวงกลมแสดงถึงค่าเท่ากัน

   *ลูกศรแดง*ไม่ได้แปลว่าลมจะพัดออกไปด้านนอกนะครับ แสคงถึงค่าเท่ากัน


2) เมื่อทั้ง 2แรง มีค่าสมดุลกันแล้ว แรงเฉ(ลูกศรสีแดง)
    จะมีลักษณะตั้งฉาก 90 องศากับความชันของความกดอากาศ(ลูกศรน้ำเงิน)
    การตั้งฉาก 90 องศานี้ในซีกโลกเหนือจะตั้งฉากไปทางขวามือ
    สังเกตจากภาพลูกศรด้านนอก ลูกศรแดงจะตั้งฉาก 90 องศา
    กับลูกศรสีน้ำเงิน ดังภาพ

3) เมื่อแรงทั้งสองแรงทำมุมตั้งฉากกันแล้ว ส่งผลให้ลมพัดเฉียงไปทางซ้าย
    จนพัดเวียนทวนเข็มนาฬิกา ในซีกโลกเหนือ


            อธิบายว่า! เพราะเนื่องจากโลกหมุนทำให้เกิด ”แรงเฉ”
เมื่อแรงเฉหรือแรงโคริโอลิส(ลูกศรสีแดง) มีค่าสมดุลกับค่าความชัน
ของความกดอากาศ(ลูกศรสีน้ำเงิน) แรงเฉ(ลูกศรแดง)
จะทำฉากกับความชันของความกดอากาศ(ลูกศรน้ำเงิน)
ส่งผลทำให้เส้นความกดอากาศเท่า(ลูกศรสีดำ)
ก็จะมีลักษณะพัด ”เฉียงซ้าย” รอบศูนย์กลางความกดอากาศต่ำ
พัดเฉียงซ้ายไปเรื่อยๆ จนทวนเข็มนาฬิกา


เพราะฉะนั้น เมื่อลูกศรทั้ง 2 สีมีค่ามดุลกันและมาบรรจบพบเจอกัน ณ จุดๆนั้น
ทั้งลูกศรสีน้ำเงิน คือค่าความชันของความกดอากาศ
หรือการวิ่งจากความกดอากาศสูงสู่ความกดอากาศต่ำ
(pressure gradient force) + ลูกศรแดง คือค่าของแรงเฉ(coriolis force)
= ลูกศรสีดำคือเส้นความกดอากาศเท่า(isobar)
ลมจะเกิดการพัดเวียนรอบไปตามทิศทางทวนเข็มนาฬิกาสู่ศูนย์กลางพายุ



จากภาพด้านบนนี้ดังนี้ขอให้เข้าใจว่าเมื่อแรงโคริโอลิส(ลูกศรสีแดง)
มีค่าสมดุลกับค่าความชันของความกดอากาศ(ลูกศรสีน้ำเงิน)
แรงโคริโอลิส(ลูกศรสีแดง)จะทำมุมตั้งฉากกับค่าความชัน
ของความกดอากาศ(ลูกศรสีน้ำเงิน)

ซึ่งในซีกโลกเหนือลูกศรแดงจะทำมุมตั้งฉากกับลูกศรน้ำเงินไปด้านขวา
ส่งผลให้ลูกศรสีดำพัดเวียนทวนเข็มนาฬิกาไปด้วย
แต่ในซีกโลกใต้ลูกศรแดงจะทำมุมตั้งฉากกับลูกศรน้ำเงินไปด้านซ้าย
ส่งผลให้ลูกศรสีดำพัดเวียนตามเข็มนาฬิกาไปด้วย




แล้วจะเป็นไปได้อย่างไรเมื่อพายุหมุนเขตร้อนจะพัดเวียนเฉียงซ้าย
จนหมุนทวนเข็มนาฬิกาในซีกโลกเหนือ แต่แรงโคริโอลิส(แรงเฉ)
ซึ่งจะพัดเฉขวาแล้วหมุนตามเข็มนาฬิกาในซีกโลกเหนือ

ซึ่งทิศทางการหมุนอย่างนี้มันขัดกับทิศทางการหมุนของพายุหมุนเขตร้อน
มันเป็นไปได้อย่างไร ?

ตอบ ดังที่ได้เรียนไปแล้วตั้งกระทู้ข้อที่ 07 แล้วว่า
แรงเฉนี้ จะมีความรุนแรงมากขึ้น-น้อยลงตามระยะห่างจากเส้นศูนย์สูตร
ยิ่งห่างจากเส้นศูนย์สูตรมากเท่าใด “แรงเฉ” ก็จะมีความรุนแรงมากขึ้นเท่านั้น

ในทางกลับกันยิ่งใกล้เส้นศูนย์สูตรมากเท่าใด “แรงเฉ” ก็ค่าน้อยลงตามลำดับ
สำหรับบริเวณเส้นศูนย์สูตรจะไม่ปรากฎ แรงเฉโค้ง(แรงโคริโอลิส) เลย

ดังนั้นสรุปแล้ว มี 2 สาเหตุดังนี้คือ


       1) แรงโคริโอลิส ยิ่งใกล้บริเวณศูนย์สูตรมากเท่าใดแรงเฉ(แรงโคริโอลิส)
ก็จะยิ่งมีค่าน้อยมากเท่านั้น
ส่วนบริเวณแถบเส้นศูนย์สูตรแรงเฉ(แรงโคริโอลิส)จะมีค่าเป็นศูนย์

ทั้งนี้เนื่องจากบริเวณที่ใกล้ศูนย์สูตรแรงเฉมีค่าน้อยมาก
เป็นผลให้ในซีกโลกเหนือ พายุหมุนเขตร้อนที่ก่อตัวขึ้นบริเวณที่ใกล้ศูนย์สูตร
จะพัดเวียนเฉียงไปทางซ้ายมากกว่าแรงโคริโอลิส(แรงเฉ)
ที่พัดเฉียงไปขวาได้ง่ายขึ้น จนพายุหมุนเขตร้อนพัดเวียนเฉียงซ้าย
จนทวนเข็มนาฬิกา

ส่วนซีกโลกใต้ พายุหมุนเขตร้อนจะพัดเวียนเฉียงไปทางขวา
มากกว่าแรงโคริโอลิส(แรงเฉ)ได้ง่ายขึ้น
จนพายุหมุนเขตร้อนพัดเวียนเฉียงขวาจนตามเข็มนาฬิกา


          2) ประกอบกับลมจากแถวเส้นศูนย์สูตรมีค่ามากกว่าลมจากแถวขั้วโลก เนื่องจากพื้นที่ซึ่งเป็นแหล่งกำเนิดลมในบริเวณแถวใกล้เส้นศูนย์สูตร
ใหญ่กว่าพื้นที่บริเวณขั้วโลก…


ทั้ง 2 ข้อนี้ เปรียบเสมือนกับการขับเรืออย่างรวดเร็วจากซ้ายไปขวา
เมื่อเราขับกระแสน้ำจะปะทะเข้าตัวหัวเรือตรงๆเลย
ขณะเมื่อเราขับเรือนั้นเอง ส่วนน้ำบริเวณด้านข้างเรือทั้งสองข้าง
กระแสน้ำบริเวณที่ชิดกับข้างเรือจะถูกดูดเข้าหาเรือทั้งสองข้าง
โดยข้างเรือด้านซ้ายกระแสน้ำจะถูกดูดเฉไปทางขวา
ส่วนข้างเรือด้านขวามือกระแสน้ำกระแสน้ำจะถูกดูดเฉไปทางซ้าย
และกระเเสน้ำบริเวณข้างเรือทั้งสองข้างไกลออกไปหน่อย
หรือบริเวณท้ายเรือกระแสน้ำจะมีลักษณะหมุนวน
โดยข้างเรือด้านซ้ายหรือท้ายเรือด้านซ้ายกระแสน้ำจะพัดหมุนวนทวนเข็มนาฬิกา
ส่วนข้างเรือด้านขวาหรือท้ายเรือด้านขวากระแสน้ำจะพัดหมุนวนตามเข็มนาฬิกา

โปรดนึกภาพตาม


ท่านครับ เราขอเปรียบว่า…………….

1) เราผู้ขับรถเรือจากซ้ายไปขวา คือการที่โลกหมุนรอบตัวเอง(จากซ้ายไปชวา)…

2) ตำแหน่งเรือและเส้นทางเรือ คือบริเวณเส้นศูนย์สูตร…

3) การที่กระแสน้ำปะทะเข้าหัวเรือตรงๆ คือบริเวณเส้นศูนย์สูตร
   จะไม่ปรากฎแรงเฉ แรงโคริโอลิสมีค่าเป็นศูนย์….

4) กระแสน้ำ(ด้านซ้ายข้างเรือ)ที่ถูกดูดไปทางขวาเข้าตัวเรือ
    คือแรงเฉบริเวณซีกโลกเหนือจะพัดเฉไปขวามือ…

5) กระแสน้ำ(ด้านขวาข้างเรือ)ที่ถูกดูดไปทางซ้ายเข้าตัวเรือ
   คือแรงเฉบริเวณซีกใต้เหนือจะพัดเฉไปซ้ายมือ…

6) กระแสน้ำหมุนวน”ทวนเข็มนาฬิกา” ที่ด้านซ้ายของท้ายเรือและข้างเรือ
    คือการหมุนของพายุหมุนเขตร้อนในซีกโลกเหนือจะ ทวนเข็มนาฬิกา…

7) กระแสน้ำหมุนวน”ตามเข็มนาฬิกา” ที่ด้านขวาของท้ายเรือและข้างเรือ
    คือการหมุนของพายุหมุนเขตร้อนในซีกโลกใต้จะ ตามเข็มนาฬิกา…

8) ตำแหน่งของกระแสน้ำทั้งที่ถูกดูดและพัดหมุนวนด้านซ้ายของเรือ
    คือบริเวณซีกโลกเหนือ…

9) ตำแหน่งของกระแสน้ำทั้งที่ถูกดูดและพัดหมุนวนด้านขวาของเรือ
    คือบริเวณซีกโลกใต้….

10) ส่วนการที่เรากำลังขับเรือนั้น เปรียบเสมือนแหล่งกำเนิดลม
     ในบริเวณแถวใกล้เส้นศูนย์สูตรจะใหญ่กว่า
     หรือมีค่ามากกว่าพื้นที่บริเวณขั้วโลก


...มีต่อค่ะ...


"และข้ามิได้สร้างญิน และมนุษย์เพื่ออื่นใด เว้นแต่เพื่อเคารพภักดีต่อข้า"

(ซูเราะฮฺ อัซซาริยาต อายะอฺที่ 56)

ออฟไลน์ nada-yoru

  • เพื่อนรัก (6_6)
  • *****
  • กระทู้: 4010
  • เพศ: หญิง
  • แสงและเงา
  • Respect: +134
    • ดูรายละเอียด
Re: รู้ไหมว่าทำไม ?
« ตอบกลับ #113 เมื่อ: พ.ย. 25, 2009, 12:26 AM »
0

สิ่งที่คุณอาจพิสูจน์ได้ ?


ในซีกโลกเหนือพายุจะพัดเวียนทวนเข็มนาฬิกา
แต่ซีกโลกใต้พายุจะพัดเวียนตามเข็มนาฬิกามันเป็นไปได้อย่างไร ?


เรามีวิธีพิสูจน์ได้ครับ ให้หาวัตถุทรงกลมอะไรก็ได้
เนื่องจากโลกเรามีลักษณะหมุนทวนเข็มนาฬิกาหรือหมุนจากซ้ายไปขวามือ
เราก็ลองหมุนวัตถุทรงกลมนั้นทวนเข็มนาฬิกาบ้าง และสังเกตุดังต่อไปนี้

1) ขณะที่หมุนอยู่สังเกตุดูด้านบนของวัตถุทรงกลม
    เปรียบเสมือนมองจากขั้วโลกเหนือลงมา จะมีลักษณะหมุนทวนเข็มนาฬิกา
    เช่นเดียวกันกับพายุหมุนเขตร้อนในซีกโลกเหนือก็จะหมุนทวนเข็มนาฬิกา
    ตามไปด้วย

2) เรายังไม่หยุดหมุนนะครับ สังเกตุดูด้านใต้ของวัตถุทรงกลม
    เปรียบเสมือนมองจากขั้วโลกใต้ขึ้นไปจะมีลักษณะหมุนตามเข็มนาฬิกา
    เช่นเดียวกันกับพายุหมุนเขตร้อนในซีกโลกใต้
    ก็จะหมุนตามเข็มนาฬิกาไปด้วย

เพราะฉะนั้น ขณะที่โลกหมุนรอบตัวเองไปตามทิศทางทวนเข็มนาฬิกา
(จากซ้ายไปขวามือ)
ถ้ามองดูโลกจากทางขั้วโลกเหนือลงมาจะเห็นโลกหมุนทวนเข็มนาฬิกา
ซึ่งจะทำให้พายุหมุนเขตร้อนเหนือเส้นศูนย์สูตรในซีกโลกเหนือ
หมุนทวนเข็มไปด้วย

ถ้ามองดูโลกจากทางขั้วโลกใต้ขึ้นไปจะเห็นโลกหมุนตามเข็มนาฬิกา
ซึ่งจะทำให้พายุหมุนเขตร้อนเหนือเส้นศูนย์สูตรในซีกโลกใต้
หมุนตามเข็มไปด้วย
เนื่องจาก

1) แรงโคริโอลิส ยิ่งใกล้บริเวณศูนย์สูตรมากเท่าใดแรงเฉ(แรงโคริโอลิส)
    ก็จะยิ่งมีค่าน้อยมากเท่านั้น ส่วนบริเวณแถบเส้นศูนย์สูตรแรงเฉ
    (แรงโคริโอลิส)จะมีค่าเป็นศูนย์ ทั้งนี้เนื่องจากบริเวณที่ใกล้ศูนย์สูตร
    แรงเฉมีค่าน้อยมาก เป็นผลให้ในซีกโลกเหนือ
    พายุหมุนเขตร้อนที่ก่อตัวขึ้นบริเวณที่ใกล้ศูนย์สูตรจะพัดเวียนเฉียงไปทางซ้าย
    มากกว่าแรงโคริโอลิส(แรงเฉ)ที่พัดเฉียงไปขวาได้ง่ายขึ้น
    จนพายุหมุนเขตร้อนพัดเวียนเฉียงซ้ายจนทวนเข็มนาฬิกา

    ส่วนซีกโลกใต้ พายุหมุนเขตร้อนจะพัดเวียนเฉียงไปทางขวา
    มากกว่าแรงโคริโอลิส(แรงเฉ)ได้ง่ายขึ้น
    จนพายุหมุนเขตร้อนพัดเวียนเฉียงขวาจนตามเข็มนาฬิกา


2) ประกอบกับลมจากแถวเส้นศูนย์สูตรมีค่ามากกว่าลมจากแถวขั้วโลก
    เนื่องจากพื้นที่ซึ่งเป็นแหล่งกำเนิดลมในบริเวณแถวใกล้เส้นศูนย์สูตร
    ใหญ่กว่าพื้นที่บริเวณขั้วโลก…




ภาพถ่ายดาวเทียมด้านบนแสดงให้เห็นว่า
เนื่องจากแรงโคริโอลิสมีอิทธิพลทำให้ในซีกโลกเหนือ
พายุหมุนเขตร้อนจะค่อยๆพัดเฉียงไปซ้ายมือตามลูกศรแดง
จนมันทวนเข็มนาฬิกา

สังเกตแนวเมฆฝนบริเวณอ่าวเบงกอลจะค่อยๆพัดเฉียงไปซ้ายมือ
ตามลูกศรแดง แต่ซีกโลกใต้ ปรากฎพายุหมุนเขตร้อนทั้ง 3 ลูก

สังเกตแนวเมฆฝนทั้งหมด ทั้ง ไซโคลน JOKWE,
หย่อมความกดอากาศต่ำกำลังแรง 99S
และ พายุโซนร้อน OPHELIA “โอเฟเลีย”
เมฆฝนค่อยพัดเฉียงไปขวามือตามลูกศรแดง จนมันเวียนไปตามเข็มนาฬิกา
(ภาพเมื่อวันที่ 6 มีนาคม พ.ศ.2551 เวลา 06.00 น. ตามเวลาประเทศไทย)




ภาพถ่ายดาวเทียมด้านบนแสดงให้เห็นว่า
เนื่องจากแรงโคริโอลิสมีอิทธิพลทำให้ในซีกโลกเหนือพายุหมุนเขตร้อน
อย่างไซโคลน MALA “มาลา” เมฆฝนจะค่อยพัดเฉียงไปซ้ายมือตามลูกศรแดง
จนมันพัดเวียนทวนเข็มนาฬิกา
แต่ซีกโลกใต้ด้านล่างจะปรากฎหย่อมความกดอากาศต่ำ
เมฆฝนค่อยพัดเฉียงไปขวามือตามลูกศรแดง จนมันเวียนไปตามเข็มนาฬิกา

(ภาพเมื่อวันที่ 27 เมษายน พ.ศ.2549 เวลา 19.30 น. ตามเวลาประเทศไทย)


http://web.pointasia.com/th/forum/upload/userFile/200722W_MTSAT_2007_2.jpg

ภาพถ่ายดาวเทียมเมื่อวันที่ 12 พฤศจิกายน 2550 เวลา 02.30 น.
ตามเวลาประเทศไทย




...สาว่ามีอีกค่ะ... ;D


"และข้ามิได้สร้างญิน และมนุษย์เพื่ออื่นใด เว้นแต่เพื่อเคารพภักดีต่อข้า"

(ซูเราะฮฺ อัซซาริยาต อายะอฺที่ 56)

ออฟไลน์ nada-yoru

  • เพื่อนรัก (6_6)
  • *****
  • กระทู้: 4010
  • เพศ: หญิง
  • แสงและเงา
  • Respect: +134
    • ดูรายละเอียด
Re: รู้ไหมว่าทำไม ?
« ตอบกลับ #114 เมื่อ: พ.ย. 25, 2009, 12:48 AM »
0



มีวิธีพิสูจน์ด้วยตนเองอย่างไรว่า
 
ซีกโลกเหนือพายุฯหมุนทวนเข็มนาฬิกา - ซีกโลกใต้หมุนตามเข็มนาฬิกา ?


ก่อนที่จะพิสูจน์ด้วยตนเองเราจะมาเปรียบเทียบกับเหตุการณ์จริงดังต่อไปนี้




จากภาพภาพ:

ขณะเรานั่งเรือเราเคยสังเกตเห็นไหมครับว่า เรือที่กำลังแล่นจากซ้ายไปขวามือ
ท่ามกลางกระแสน้ำเชี่ยวอยู่นั้น บริเวณด้านข้างของเรือทั้ง 2 ข้างนั้น
กระแสน้ำจะหมุนวนตามด้านข้างเรือทั้ง 2 ข้างอยู่ตลอดเวลา
โดยด้านข้างของเรือซ้ายมือ กระแสน้ำจะมีลักษณะพัดหมุนวนทวนเข็มนาฬิกา
ส่วนด้านข้างของเรือขวามือกระแสน้ำจะมีลักษณะพัดหมุนวนตามเข็มนาฬิกา
ส่วนน้ำบริเวณข้างเรือนั้นมันจะถูกดูดเข้าหาเรือทั้งสองข้าง
โดยน้ำบริเวณข้างเรือด้านซ้ายจะถูกดูดไปทางขวาเข้าหาเรือ
ส่วนน้ำบริเวณข้างเรือด้านซ้ายมือจะถูกดูดไปทางซ้ายเข้าหาเรือ

เหตุการณ์ดังกล่าวเปรียบเทียบให้เห็นว่า

1) ตำแหน่งของเรือหรือเส้นทางการเดินเรือ คือบริเวณเส้นศูนย์สูตร

2) เรือที่กำลังแล่นจากซ้ายไปขวามืออยู่นั้น
    คือการที่โลกกำลังหมุนรอบตัวเองทวนเข็มนาฬิกาจากซ้ายไปขวามือ

3) ซ้ายมือของด้านข้างเรือ คือซีกโลกเหนือ

4) ขวามือของด้านข้างเรือ คือซีกโลกใต้

5) น้ำบริเวณข้างเรือด้านซ้ายที่ถูกดูดไปทางขวาเข้าหาเรือ
    เปรียบเสมือน “แรงเฉ” ในซีกโลกเหนือจะมีลักษณะพัดเฉไปขวามือ

6) น้ำบริเวณข้างเรือด้านขวาที่ถูกดูดไปทางซ้ายเข้าหาเรือ
    เปรียบเสมือน “แรงเฉ” ในซีกโลกใต้จะมีลักษณะพัดเฉไปซ้ายมือ

7) กระแสน้ำที่เชี่ยวนั้น เปรียบเสมือนการเคลื่อนที่อย่างอิสระของมวลอากาศ

8) การหมุนวนของกระแสน้ำขณะที่เรือแล่น ด้านซ้ายมือของเรือ
    กระแสน้ำจะมีลักษณะหมุนวนทวนเข็มนาฬิกา
    เปรียบเสมือนบริเวณซีกโลกเหนือพายุหมุนเขตร้อน
    จะพัดเวียนทวนเข็มนาฬิกา

9) และด้านขวามือของเรือกระแสน้ำจะมีลักษณะหมุนวนตามเข็มนาฬิกา
    เปรียบเสมือนบริเวณซีกโลกใต้พายุหมุนเขตร้อนจะพัดเวียน
    ไปตามเข็มนาฬิกา


*หมายเหตุ ภาพด้านบน แสดงถึงการแล่นของเรือในขณะที่กระแสน้ำเชี่ยว
ซึ่งจะเปรียบเทียบกับการหมุนของพายุหมุนเขตร้อนทั้งซีกโลกเหนือและใต้ดังนี้

1) สีฟ้า คือ แม่น้ำ (เปรียบเสมือนอากาศทั่วโลก)

2) วัตถุสีแดง คือ เรือกำลังเคลื่อนที่จาก A ไป B
    (เปรียบเสมือนการหมุนของโลกเราที่มีทิศทางหมุนทวนเข็มนาฬิกา
    หรือถ้ามองจากอวกาศโลกจะหมุนจากซ้ายไปขวามือ )

3) ด้านซ้าย(LEFT)ของเรือ เปรียบเสมือนซีกโลกเหนือ
    และด้านขวา(RIGHT)ของเรือ เปรียบเสมือนซีกโลกใต้

4) ลูกศรสีดำ คือ ทิศทางการเคลื่อนที่ของเรือ จาก A ไป B
    (เปรียบเสมือนการหมุนของโลกเราที่หมุนทวนเข็มนาฬิกา
    หรือถ้ามองจากอวกาศโลกจะหมุนจากซ้ายไปขวามือ )

5) เส้นสีดำยาว คือ เส้นทาง(track)การเดินเรือ
    (เปรียบเสมือนบริเวณเส้นศูนย์สูตร)

6) ลูกศรสีม่วงข้างเรือด้านบน คือ “แรงเฉ” ในซีกโลกเหนือ
    จะมีลักษณะพัดเฉไปขวามือ

7) ลูกศรสีม่วงข้างเรือด้านล่าง คือ “แรงเฉ” ในซีกโลกใต้
    จะมีลักษณะพัดเฉไปซ้ายมือ

8) ลูกศรสีเหลืองต่อเนื่องเป็นวงกลมด้านบน คือ การหมุนเวียนของกระแสน้ำ
   ด้านซ้ายเรือ จะหมุนทวนเข็มนาฬิกา เมื่อเรือกำลังแล่นผ่าน
   (เปรียบเสมือนพายุหมุนเขตร้อนในซีกโลกเหนือ)

9) ลูกศรสีเหลืองต่อเนื่องเป็นวงกลมด้านล่าง คือ การหมุนเวียนของกระแสน้ำ
    ด้านขวาเรือ จะหมุนตามเข็มนาฬิกา เมื่อเรือกำลังแล่นผ่าน
    (เปรียบเสมือนพายุหมุนเขตร้อนในซีกโลกใต้)

10) ลูกศรสีส้ม คือ กระแสน้ำ (เปรียบเสมือนการเคลื่อนที่ของมวลอากาศ
     ทั้งซีกโลกเหนือและใต้)



การเปรียบเทียบจากเรือนี้ ถ้าเราสังเกตจะเห็นว่าขณะที่เรือกำลังแล่น
กระแสน้ำทั้งด้านข้างเรือและท้ายเรือด้านซ้ายจะหมุนวนทวนเข็มนาฬิกา
ส่วนกระแสน้ำทั้งด้านข้างเรือและท้ายเรือด้านขวา จะหมุนวนตามเข็มนาฬิกา
โดยจะหมุนชัดเจนที่สุดเมื่อคลื่นในแม่น้ำหรือทะเลไม่มีเลยหรือมีน้อยสุด
ถ้ามีมากจะไม่ชัดเจน


หมายเหตุ การเปรียบเทียบนี้เป็นการเปรียบเทียบที่เกิดขึ้น
ในชีวิตประจำวันของเราเพื่อให้เกิดความเข้าใจ
แรงโคริโอลิสที่มีอิทธิพลต่อทิศทางการหมุนของพายุหมุนเขตร้อน

---


เราจะพิสูจน์ด้วยตนเองอย่างไร ?

ถ้าในกรณีที่ไม่สะดวก อาจใช้อ่างน้ำบริเวณใกล้ๆ เป็นเครื่องพิสูจน์ได้
พิสูจน์ด้วยตนเองจากการใช้ “ฝ่ามือ” ของเราปาดน้ำดังนี้


ใช้บริเวณฝ่ามือปาดน้ำในอ่าง จากซ้ายไปขวา(ตามการหมุนของโลก)
จะสังเกตเห็นว่า ขณะที่เรากำลังปาดน้ำนั้น
บริเวณผิวน้ำจะเกิดกระแสน้ำหมุนวน ทั้ง 2 ด้านของฝ่ามือ
โดยกระแสน้ำด้านซ้ายของฝ่ามือ (บริเวณด้านบนจากที่มองลงมา)
จะหมุนทวนเข็มนาฬิกา ส่วนกระแสน้ำด้านขวาของฝ่ามือ (บริเวณด้านล่าง)
จะหมุนวนตามเข็มนาฬิกา

ดังนั้นเปรียบเทียบให้เห็นว่า

1)ตำแหน่งของฝ่ามือเรา คือบริเวณเส้นศูนย์สูตร…

2)ทิศทางการเคลื่อนที่ของฝ่ามือเราจากซ้ายไปขวา
   คือทิศทางการหมุนของโลกจากซ้ายไปขวาหรือทวนเข็มนาฬิกา

3) มือที่กำลังปาดน้ำ คือผู้ให้กำเนิดแรงลมบริเวณเส้นศูนย์สูตร…

4) น้ำในอ่าง คือมวลอากาศทั้งหมดบนโลกซึ่งมีแรงเฉ(Coriolis force)…

5) กระแสน้ำที่หมุนทวนเข็มนาฬิกา คือ การหมุนของพายุหมุนเขตร้อน
    ในซีกโลกเหนือ…

6) กระแสน้ำที่หมุนตามเข็มนาฬิกา คือการหมุนของพายุหมุนเขตร้อน
    ในซีกโลกใต้…

7) เส้นทาง(track) การเคลื่อนที่ของฝ่ามือ คือเส้นศูนย์สูตรรอบโลก…


หมายเหตุ การเปรียบเทียบนี้เป็นการเปรียบเทียบที่เกิดขึ้น
ในชีวิตประจำวันของเราเพื่อให้เกิดความเข้าใจ
แรงโคริโอลิสที่มีอิทธิพลต่อทิศทางการหมุนของพายุหมุนเขตร้อน

END END ENDDDDDDDDDDDDDDDDDDDDDDD


ขอขอบคุณแหล่งข้อมูลจาก: เว็บบอร์ดของกรมอุตุนิยมวิทยา






« แก้ไขครั้งสุดท้าย: พ.ย. 25, 2009, 12:57 AM โดย nada-yoru »
"และข้ามิได้สร้างญิน และมนุษย์เพื่ออื่นใด เว้นแต่เพื่อเคารพภักดีต่อข้า"

(ซูเราะฮฺ อัซซาริยาต อายะอฺที่ 56)

ออฟไลน์ nada-yoru

  • เพื่อนรัก (6_6)
  • *****
  • กระทู้: 4010
  • เพศ: หญิง
  • แสงและเงา
  • Respect: +134
    • ดูรายละเอียด
Re: รู้ไหมว่าทำไม ?
« ตอบกลับ #115 เมื่อ: พ.ย. 25, 2009, 12:54 AM »
0
^

หันกลับไปดูเฉลยอีกที...ย๊าวยาววววววว... ;D

อัลฮัมดุลิลลาฮฺ...ขอให้พี่น้องเราปลอดภัยจากภัยพิบัติและบาลอด้วยเถิด
ขออัลลอฮฺทรงคุ้มครอง...อามีน ยาร็อบ


วัสลามุอะลัยกุมค่ะ




« แก้ไขครั้งสุดท้าย: พ.ย. 25, 2009, 12:55 AM โดย nada-yoru »
"และข้ามิได้สร้างญิน และมนุษย์เพื่ออื่นใด เว้นแต่เพื่อเคารพภักดีต่อข้า"

(ซูเราะฮฺ อัซซาริยาต อายะอฺที่ 56)

ออฟไลน์ nada-yoru

  • เพื่อนรัก (6_6)
  • *****
  • กระทู้: 4010
  • เพศ: หญิง
  • แสงและเงา
  • Respect: +134
    • ดูรายละเอียด
Re: รู้ไหมว่าทำไม ?
« ตอบกลับ #116 เมื่อ: พ.ย. 25, 2009, 01:07 AM »
0


อ่านแล้วสงสัยตรงไหนถามได้นะคะ...
หากหาคำตอบมาให้ได้ จะหามาให้เจ้าค่ะ...อินชาอัลลอฮฺ



 ;D
"และข้ามิได้สร้างญิน และมนุษย์เพื่ออื่นใด เว้นแต่เพื่อเคารพภักดีต่อข้า"

(ซูเราะฮฺ อัซซาริยาต อายะอฺที่ 56)

ออฟไลน์ vrallbrothers

  • เพื่อนสนิท (._.")
  • ***
  • กระทู้: 498
  • ALLAH MAHA BESAR...
  • Respect: +9
    • ดูรายละเอียด
Re: รู้ไหมว่าทำไม ?
« ตอบกลับ #117 เมื่อ: พ.ย. 25, 2009, 08:16 PM »
0
 salam


ญะซากิลลาห์ท่าน นาดา-โยรุ ครับ สำหรับข้อมูลฯ เดี๋ยวจะหาเวลาอ่านจะครับ  ;D

เอ...ว่าแต่... นาฬิกาแดดนั้น ถ้าเป็นแถบประเทศอิยิปต์ หากเราสังเกตดูในรอบปี ในช่วงฤดูหนาว ประมาณปลายปี (ช่วง Winter Solstice) ขั้วโลกเหนือจะหันออกจากดวงอาทิตย์ทำให้ เส้นทางเดินของดวงอาทิตย์เหนือท้องฟ้านั้น ดวงอาทิตย์จะขึ้นระหว่างทิศตะวันออกกับทิศตะวันออกเฉียงใต้ และตกระหว่างทิศตะวันตกกับทิศตะวันตกเฉียงใต้ จึงทำให้เงาของนาฬิกาแดดเดินตามเข็มนาฬิกา แต่ในประมาณกลางปี (ช่วง Summer Solstice) ขั้วโลกเหนือจะหันเข้าหาดวงอาทิตย์แนวทางเดินของดวงอาทิตย์บนท้องฟ้า จะขึ้นระหว่างทิศตะวันออกกับทิศตะวันออกเฉียงเหนือ และตกระหว่างทิศตะวันตกกับทิศตะวันตกเฉียงเหนือ จึงทำให้เงาของนาฬิกาแดดเดินทวนเข็มนาฬิกา จึงสงสัยว่า... ช่วงนี้ นาฬิกาแดดที่ใช้ต้องมีการปรับองศาของฐานนาฬิกาหรือเปล่าครับ? เพี่อที่จะทำให้นาฬิกาแดดแถบประเทศอิยิปต์ ยังคงเดินตามเข็มนาฬิกาเหมือนเดิม...

ลองคิดอ่านเรื่องนาฬิกาแดดที่ท่าน นาดา-โยรุ และพี่น้องเสวนาแล้ว คิดตามแล้วเกิดสงกะสัยขึ้นมาครับ.. อิอิ  ;D

รบกวนท่าน นาดา-โยรุ ช่วยไขข้องใจผมหน่อยได้ป่าวครับ?  loveit:


เวลาเปรียบเสมือนคมดาบ...หากท่านไม่ตัดมัน มันจะตัดท่าน



ยะฮูดีใช้ระเบิดฟอสฟอรัส... เลวร้าย ป่าเถื่อนยิ่งกว่าสัตว์เดรัจฉาน

ออฟไลน์ nada-yoru

  • เพื่อนรัก (6_6)
  • *****
  • กระทู้: 4010
  • เพศ: หญิง
  • แสงและเงา
  • Respect: +134
    • ดูรายละเอียด
Re: รู้ไหมว่าทำไม ?
« ตอบกลับ #118 เมื่อ: พ.ย. 26, 2009, 08:23 PM »
0
^

salam

ข้าน้อยขอแปะโป้งไว้ก่อนนะคะท่าน vrallbrothers...
แล้วจะหาคำตอบมาให้ได้ค่ะ...อินชาอัลลอฮฺ

 ;D

วัสลามุอะลัยกุมค่ะ

"และข้ามิได้สร้างญิน และมนุษย์เพื่ออื่นใด เว้นแต่เพื่อเคารพภักดีต่อข้า"

(ซูเราะฮฺ อัซซาริยาต อายะอฺที่ 56)

ออฟไลน์ nada-yoru

  • เพื่อนรัก (6_6)
  • *****
  • กระทู้: 4010
  • เพศ: หญิง
  • แสงและเงา
  • Respect: +134
    • ดูรายละเอียด
Re: รู้ไหมว่าทำไม ?
« ตอบกลับ #119 เมื่อ: พ.ย. 28, 2009, 09:06 PM »
0
salam


เอ...ว่าแต่... นาฬิกาแดดนั้น ถ้าเป็นแถบประเทศอิยิปต์
หากเราสังเกตดูในรอบปี
ในช่วงฤดูหนาว ประมาณปลายปี (ช่วง Winter Solstice)
ขั้วโลกเหนือจะหันออกจากดวงอาทิตย์ทำให้ เส้นทางเดินของดวงอาทิตย์
เหนือท้องฟ้านั้น ดวงอาทิตย์จะขึ้นระหว่างทิศตะวันออก
กับทิศตะวันออกเฉียงใต้ และตกระหว่างทิศตะวันตกกับทิศตะวันตกเฉียงใต้
จึงทำให้เงาของนาฬิกาแดดเดินตามเข็มนาฬิกา

แต่ในประมาณกลางปี (ช่วง Summer Solstice)
ขั้วโลกเหนือจะหันเข้าหาดวงอาทิตย์แนวทางเดินของดวงอาทิตย์บนท้องฟ้า
จะขึ้นระหว่างทิศตะวันออกกับทิศตะวันออกเฉียงเหนือ
และตกระหว่างทิศตะวันตกกับทิศตะวันตกเฉียงเหนือ

จึงทำให้เงาของนาฬิกาแดดเดินทวนเข็มนาฬิกา


จึงสงสัยว่า... ช่วงนี้ นาฬิกาแดดที่ใช้ต้องมีการปรับองศา
ของฐานนาฬิกาหรือเปล่าครับ?
เพี่อที่จะทำให้นาฬิกาแดดแถบประเทศอิยิปต์
ยังคงเดินตามเข็มนาฬิกาเหมือนเดิม...

ลองคิดอ่านเรื่องนาฬิกาแดดที่ท่าน นาดา-โยรุ และพี่น้องเสวนาแล้ว คิดตามแล้วเกิดสงกะสัยขึ้นมาครับ.. อิอิ  ;D

รบกวนท่าน นาดา-โยรุ ช่วยไขข้องใจผมหน่อยได้ป่าวครับ?  loveit:


วะอะลัยกุมมุสลามค่ะ

ว่าไปข้าน้อยนี้ความรู้น้อยค่ะ...hehe
แต่เท่าที่เคยอ่านและค้นหาคำตอบเกี่ยวกับเรื่องประวัตินาฬิกานั้น
มันยาวววววววววววววววมากกกกกกกกกกค่ะท่่าน...แฮะๆ
เลยไม่รู้จะอธิบายว่าอย่างไรให้สั้นและชัดเจน...
อีกอย่่างเรื่องประวัติศาสตร์นี่ก็เป็นอะไรที่จะเชื่อเสียร้อยเปอร์เซ็นก็ไม่ได้อีก
จะเอามาเป็นหลักฐานก็มีตั้งหลายแหล่งที่ค้านกันอยู่...
อ่านไปมึนไปก็เคยค่ะ...งิงิ...

ข้าน้อยเลยคิดว่า...ขอเอาวิธีทำนาฬิกาแดดมาฝากดีกว่า
เผื่อว่าใครที่เข้ามาอ่านอาจจะคิดเห็นอะไรที่แตกต่างกันออกไป
และเข้าใจระบบของนาฬิกาแดดและสามารถเข้าใจ
เรื่องของนาฬิกาแดด ซึ่งคาดว่าเป็นนาฬิกาเรือนแรก
และเป็นต้นแบบของนาฬิกาในปัจจุบันค่ะ...
อีกทั้งน่าจะมีประโยชน์ สามารถนำไปใช้ในชีวิตประจำวันได้ด้วยค่ะ

.
.
.




"และข้ามิได้สร้างญิน และมนุษย์เพื่ออื่นใด เว้นแต่เพื่อเคารพภักดีต่อข้า"

(ซูเราะฮฺ อัซซาริยาต อายะอฺที่ 56)

 

GoogleTagged