ผู้เขียน หัวข้อ: รู้ไหมว่าทำไม ?  (อ่าน 28982 ครั้ง)

0 สมาชิก และ 1 บุคคลทั่วไป กำลังดูหัวข้อนี้

ออฟไลน์ mustura^@^

  • เพื่อนสนิท (._.")
  • ***
  • กระทู้: 336
  • เพศ: หญิง
  • ALLAH is the only ONE !!!
  • Respect: +3
    • ดูรายละเอียด
Re: รู้ไหมว่าทำไม ?
« ตอบกลับ #15 เมื่อ: ต.ค. 05, 2009, 07:30 AM »
0
สีดำเพราะเมลานินหรือเปล่าก๊ะ
เย้ยยยย เมลานินไม่มีในพืช มีเฉพาะในมนุษย์และสัตว์มิจั้ยรึ

ออฟไลน์ - ครูจริงใจ-

  • อยากเป็นคนดีที่อัลลอฮฺรัก
  • เพื่อนแท้ (-.^)
  • ****
  • กระทู้: 817
  • เพศ: หญิง
  • ทุกวินาทีของเราไม่เคยรอดพ้นจากบันทึกของรอกิบ-อาติด
  • Respect: +96
    • ดูรายละเอียด
Re: รู้ไหมว่าทำไม ?
« ตอบกลับ #16 เมื่อ: ต.ค. 05, 2009, 08:25 AM »
0
^
 ;D  เฮอะๆ คนละอย่างกันจ่ะ

สารสีที่เห็นในข้าวเหนียวที่จริงถ้าสังเกตุดีๆ ก็ไม่ได้เป็นสีดำซะสนิทหรอก.
เคยทานขนมหวานที่ทำจากเหนียวดำแล้วราดน้ำกระทิสดๆ ป่ะ ? (ไม่รู้เรียกว่าไรแล้ว..(ลืม  ;D) อันนี้ต้องถามก๊ะฟิรดาวส์ ) สีจะออกดำๆม่วงๆ ไม่ได้มีสีดำสนิทเลย (ไม่รู้ว่าเห็นเหมือนกันป่าว - -')

สารสีที่มีในข้าวเหนียวจัดอยู่ในกลุ่ม Anthocyanins และอาจจัดอยู่ในกลุ่มของสารประกอบพวก  Flavonoid และ Phenolic compounds สารประกอบที่มีโครงสร้างดังกล่าว เป็นสารพฤกษเคมี (Phytochemicals) มีฤทธิ์ในการต้านการเกิดอนุมูลอิสระ (Antioxidant) (ด้วยประการนี้ พวกโอพีซี จึงสามารถใช้ชะลอความชรา ได้บ้างอะไรบ้าง ^^"  )

ส่วนรายละเอียดของ สารเมลานิน  ไปดูเองเน่อ  >> เมลานิน



ปล. พากระทู้ออกทะเลซะไกล๊ไกล  ขอตัวขึ้นฝั่งแล่ะ  ;D



« แก้ไขครั้งสุดท้าย: ต.ค. 06, 2009, 12:39 PM โดย - ครูจริงใจ- »

ท่าน ฮะซัน อัลบัศรีย์ (ร่อฮิมะฮุ้ลลอฮฺ) กล่าวว่า :
 
วัลลอฮฺ คนที่เป็นมุอฺมินจริงๆนั้น ท่านจะเห็นว่าเขาจะไม่ตำหนิใครเลยนอกจากตัวเองไม่ว่าจะอยู่ในสถานการณ์ใด
จะคิดว่าตนคือผู้บกพร่องเสมอจะเสียใจ และโทษตนเอง ...แต่ คน ฟาญิร (ไม่ดี) จะกระทำโดยไม่สนใจสิ่งใดและไม่เคยโทษตนเอง..

ออฟไลน์ - ครูจริงใจ-

  • อยากเป็นคนดีที่อัลลอฮฺรัก
  • เพื่อนแท้ (-.^)
  • ****
  • กระทู้: 817
  • เพศ: หญิง
  • ทุกวินาทีของเราไม่เคยรอดพ้นจากบันทึกของรอกิบ-อาติด
  • Respect: +96
    • ดูรายละเอียด
Re: รู้ไหมว่าทำไม ?
« ตอบกลับ #17 เมื่อ: ต.ค. 05, 2009, 08:33 AM »
0



3. ทำไมเวลาต้มถั่ว จึงไม่นิยมใส่น้ำตาลพร้อมถั่ว ?  (ข้อนี้คาดว่า ง่ายสุดๆ  :laugh: )






ท่าน ฮะซัน อัลบัศรีย์ (ร่อฮิมะฮุ้ลลอฮฺ) กล่าวว่า :
 
วัลลอฮฺ คนที่เป็นมุอฺมินจริงๆนั้น ท่านจะเห็นว่าเขาจะไม่ตำหนิใครเลยนอกจากตัวเองไม่ว่าจะอยู่ในสถานการณ์ใด
จะคิดว่าตนคือผู้บกพร่องเสมอจะเสียใจ และโทษตนเอง ...แต่ คน ฟาญิร (ไม่ดี) จะกระทำโดยไม่สนใจสิ่งใดและไม่เคยโทษตนเอง..

ออฟไลน์ เหรียญ 2 ด้าน

  • เพื่อนแท้ (-.^)
  • ****
  • กระทู้: 753
  • เพศ: ชาย
  • เรียบง่าย แต่ไร้เทียมทาน (จิงๆๆ)
  • Respect: +8
    • ดูรายละเอียด
    • กัมปงดูกู
Re: รู้ไหมว่าทำไม ?
« ตอบกลับ #18 เมื่อ: ต.ค. 05, 2009, 08:46 AM »
0
ใกล้เคียงแล้วค่ะ ^^''

2. ทำไมก่อนนึ่งข้าวเหนียวจึงต้องแช่น้ำ และทำไมไม่หุงเหมือนข้าว ?
ตอบ- ข้าวจัดเป็นคาร์โบไฮเดรตที่อยู่ในกลุ่มโพลิแซคคาไรด์ (ต่อกันด้วยกลูโคสหลายหน่วย) ซึ่งในโครงสร้างจะมีหมู่ไฮดรอกซิล (-OH group) ซึ่งเป็นหมู่ที่ชอบน้ำหันออกมานอกโครงสร้าง
         ทำให้สามารถจับกับโมเลกุลของน้ำได้ด้วยพันธะไฮโดรเจน (H bond)
   
         ข้าว มีองค์ประกอบของอะไมโลส เป็นส่วนใหญ่ ( http://eu.lib.kmutt.ac.th/elearning/Courseware/BCT611/chapter2.html )

         
ภาพที่ 1 : โครงสร้างของอะไมโลส

         
         ข้าวเหนียว มีองค์ประกอบของอะไมโลสและอะไมโลเพคติน (สายแขนง) (http://eu.lib.kmutt.ac.th/elearning/Courseware/BCT611/Chap2/chapter2_1.html)

ภาพที่ 2 :โครงสร้างของอะไมโลเพคติน
     


เหตุผล
          จากภาพที่ 1 และ 2 จะเห็นได้ว่า โครงสร้างของอะไมโลเพคตินจะมีส่วนที่ชอบน้ำในปริมาณที่เยอะกว่า (ทั้งจากสายโซ่หลักและสายแขนง)
ด้วยเหตุผลนี้ หากใส่น้ำลงไปด้วยในตอนหุงจะทำให้หมู่ –OH ที่มีอยู่ในปริมาณสูงในองค์ประกอบของข้าวเหนียว  เกิดการจับกับน้ำได้มาก ส่งผลให้ข้าวเหนียวแฉะนั่นเอง จึงต้องแช่น้ำให้โครงสร้างเกิดการดูดซับน้ำให้เกิดการพองตัวพอประมาณแล้วจึง เทน้ำออกแล้วมานึ่งต่อ  ในขณะที่ข้าวธรรมดามีปริมาณของหมู่ไฮดรอกซิลในส่วนของอะไมโลสในปริมาณที่พอเหมาะที่จะจับกับกับน้ำได้อย่างเหมาะสม (อันนี้ขึ้นอยู่กับเทคนิคการหุง, ปริมาณน้ำต่อข้าวสาร ชนิดของข้าวสาร ฯลฯ) จึงทำให้สามารถใส่น้ำพร้อมข้าวได้เลยขณะหุง

ภาพที่ 3 : ลักษณะการจับกับน้ำของแป้ง

     



อ้างจาก: พี่โด่โด่~

ปล.มีคนบอกมาว่าข้าวเหนียวดำช่วยชะลอการแก่ก่อนวัยค่ะ...

^ เนื่องเพราะข้าวเหนียวดำมีสารที่เรียกว่า โอพีซี [1]ข้าวเหนียวดำจึงมีสารอาหารมากกว่าข้าวเหนียวขาว


--------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------

เพิ่มเติม
 
[1] โอพีซี : OPC ย่อมาจาก Oligomeric Proantho Cyanidins เป็นสารเคมีป้องกันการทำปฏิกิริยากับออกซิเจน ช่วยในการชะลอการแก่ก่อนวัยและเสื่อมถอยของร่างกาย ตลอดจนโรคต่างๆ อีกทั้งช่วยปรับปรุงสภาพของเซลล์ ความยืดหยุ่นของผิวหนัง การเคลื่อนไหวของข้อต่อ ระบบหมุนเวียนโลหิต บำรุงสายตาป้องกันการทำปฏิกิริยากับออกซิเจน มีความจำเป็นในการทำให้สารต่างๆ ในร่างกายมีความเป็นกลาง ซึ่งสำคัญต่อการป้องกันไม่ให้ร่างกายเสื่อมถอย โรคเส้นเลือดไปเลี้ยงหัวใจตีบตัน ลมชักและการแก่ก่อนวัย ทางวิทยาศาสตร์ค้นพบว่าสารนี้มีความเข้มข้นกว่าวิตามินซี 20 เท่า และ 50 เท่าเมื่อเทียบกับวิตามินอี

เพิ่มเติม OPC  >>  http://www.vwander.com/save/?save=news&no=012














ขอบคุณครับ
ชื่อที่เคยใช้ในบอร์ดคือ ahmdduku, الدوكوي, เหรียญ 2 ด้าน

ออฟไลน์ กอ-กล้วย

  • เพื่อนสนิท (._.")
  • ***
  • กระทู้: 353
  • kuru cook
  • Respect: +3
    • ดูรายละเอียด
Re: รู้ไหมว่าทำไม ?
« ตอบกลับ #19 เมื่อ: ต.ค. 05, 2009, 09:23 AM »
0
ขออนุญาตเพิ่มเติมในส่วนของข้อ 2 นะคะ

เนื่องจากข้าวมีหลากหลายสายพันธ์ ดังนั้น ปริมาณอะมิโลสที่พบในข้าวจึงต่างกันด้วย ทำให้ข้าวแต่ละชนิดแสดงคุณสมบัติแตกต่างกัน
อัตราส่วนของอะมิโลสและอะมิโลเพกทินที่แตกต่างกันในข้าวจะส่งผลต่อเนื้อสัมผัสของผลิตภัณฑ์ที่ได้จากข้าวทำให้จุดประสงค์ในการนำข้าวไปใช้ประโยชน์ต่างกัน
๋Juliano ได้จำแนกข้าวที่ผ่านการขัดสีตามปริมาณของอะมิโลสที่วิเคราะห์ด้วยวิธีการเกิดสีกับไอโอดีน ดังนี้

    - ข้าวที่มีปริมาณอะมิโลสต่ำมาก (waxy) พบว่ามีปริมาณอะมิโลสที่เป็นองค์ประกอบเท่ากับร้อยละ 0 – 2 นิยมนำไปใช้ในการทำขนมหวาน และน้ำสลัด นอกจากนี้ยังใช้เป็นอาหารหลักของประเทศลาว และทางภาคเหนือและภาคตะวันออกเฉียงเหนือของประเทศไทย ซึ่งเตรียมโดยการนำมาแช่น้ำและนึ่ง
   - ข้าวที่มีปริมาณอะมิโลสต่ำ พบว่ามีปริมาณอะมิโลสเป็นองค์ประกอบเท่ากับร้อยละ 9 – 20 ของน้ำหนักแห้ง นิยมนำมาใช้ในอาหารเด็ก อาหารเช้า และขนมปังที่ใช้เชื้อยีสต์เพื่อทำให้ขึ้นฟู
   - ข้าวที่มีปริมาณอะมิโลสปานกลาง พบว่ามีปริมาณอะมิโลสเป็นองค์ประกอบเท่ากับร้อยละ 20 – 25 ของน้ำหนักแห้ง ในประเทศฟิลิปปินส์จะนำมาใช้ในการทำเค้กที่จะต้องมีการหมัก (ferment rice cake) และซุปกระป๋อง
   - ข้าวที่มีปริมาณอะมิโลสสูง พบว่ามีปริมาณอะมิโลสเป็นองค์ประกอบมากกว่าร้อยละ 25 ของน้ำหนักแห้ง ใช้ในการทำก๋วยเตี๋ยว

ดังนั้น "ข้าวหอมเป็นน้องของข้าวแข็ง และเป็นพี่ของข้าวเหนียว" จร้า......... เอิ้ก

ออฟไลน์ ILHAM

  • เพื่อนตาย T_T
  • *****
  • กระทู้: 11348
  • เพศ: ชาย
  • Sherlock Holmes
  • Respect: +273
    • ดูรายละเอียด
    • ILHAM
Re: รู้ไหมว่าทำไม ?
« ตอบกลับ #20 เมื่อ: ต.ค. 05, 2009, 10:23 AM »
0

ดังนั้น "ข้าวหอมเป็นน้องของข้าวแข็ง และเป็นพี่ของข้าวเหนียว" จร้า......... เอิ้ก



ผมสงสัยมานานแล้ว มันคืออะไรกันแน่ประโยคนี้ แต่ลืมถาม
إن شاءالله ติด ENT'?everybody

Sherlock Holmes said "How often have I said to you that when you have eliminated the impossible, whatever remains, however improbable, must be the truth?"
-------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------

ออฟไลน์ nada-yoru

  • เพื่อนรัก (6_6)
  • *****
  • กระทู้: 4010
  • เพศ: หญิง
  • แสงและเงา
  • Respect: +134
    • ดูรายละเอียด
Re: รู้ไหมว่าทำไม ?
« ตอบกลับ #21 เมื่อ: ต.ค. 05, 2009, 07:26 PM »
0



3. ทำไมเวลาต้มถั่ว จึงไม่นิยมใส่น้ำตาลพร้อมถั่ว ?  (ข้อนี้คาดว่า ง่ายสุดๆ  :laugh: )



เพราะถั่ว(เขียว)จะไม่สุกแน่เรยยยยยยย ;D

ปล.ถ้าตอบถูกหรือว่าเฉียดฉิวไม่มีรางวัลให้บ้างเหรอคะคุณครูจริงใจ
 party:

วัสลามุอะลัยกุมค่ะ

^_________^
"และข้ามิได้สร้างญิน และมนุษย์เพื่ออื่นใด เว้นแต่เพื่อเคารพภักดีต่อข้า"

(ซูเราะฮฺ อัซซาริยาต อายะอฺที่ 56)

ออฟไลน์ มัคลูเกาะห์☆~

  • เพื่อนใหม่ (O_0)
  • *
  • กระทู้: 61
  • พระองค์เท่านั้นที่ข้าพระองค์นมัสการกราบไหว้
  • Respect: 0
    • ดูรายละเอียด
Re: รู้ไหมว่าทำไม ?
« ตอบกลับ #22 เมื่อ: ต.ค. 05, 2009, 08:16 PM »
0
ถามมั่ง



4. ทำไมเวลาอมข้าวไว้ในปากนานๆ แล้วจะรู้สึกหวานขึ้น ?
@  ขอให้ทุกพื้นที่ของหัวใจฉัน  เต็มไปด้วยความโปรดปรานจากพระองค์  @

ออฟไลน์ คนเดินดิน

  • เพื่อนรัก (6_6)
  • *****
  • กระทู้: 1620
  • ขอให้ได้รับความโปรดปรานจากพระผู้ทรงเมตตาด้วยเถิด
  • Respect: +17
    • ดูรายละเอียด
Re: รู้ไหมว่าทำไม ?
« ตอบกลับ #23 เมื่อ: ต.ค. 28, 2009, 10:06 PM »
0



3. ทำไมเวลาต้มถั่ว จึงไม่นิยมใส่น้ำตาลพร้อมถั่ว ?  (ข้อนี้คาดว่า ง่ายสุดๆ  :laugh: )



เพราะถั่ว(เขียว)จะไม่สุกแน่เรยยยยยยย ;D

ปล.ถ้าตอบถูกหรือว่าเฉียดฉิวไม่มีรางวัลให้บ้างเหรอคะคุณครูจริงใจ
 party:

วัสลามุอะลัยกุมค่ะ

^_________^


คิดเหมือนกันได้ป่ะ

(เค้าเปล่าลอกนะคะคุณครู)

 loveit:
เพราะรู้ดีว่าเป็นเพียงหนึ่งคนที่อ่อนแอ  จึงทำให้คำนึงถึงคุณค่าของหนึ่งชีวิต  โปรดชี้แนะแนวทางที่เที่ยงตรงด้วยเถิด  ยาร็อบบี  سَلَّمْنَا مُسْلِمِيْنَ وَمُسْلِمَاتٍ فِي الدُّنْيَا وَ الأخِرَةِ

ออฟไลน์ nada-yoru

  • เพื่อนรัก (6_6)
  • *****
  • กระทู้: 4010
  • เพศ: หญิง
  • แสงและเงา
  • Respect: +134
    • ดูรายละเอียด
Re: รู้ไหมว่าทำไม ?
« ตอบกลับ #24 เมื่อ: ต.ค. 28, 2009, 10:40 PM »
0
^
^

รอคำตอบจากคุณครูจริงใจจนลืมเรื่องถั่วเขียวไปแล้วค่ะ ;D
ถั่วเขียวจะกลายเป็นถั่วงอกแล้วค่ะคุณครู...



ถามมั่ง

4. ทำไมเวลาอมข้าวไว้ในปากนานๆ แล้วจะรู้สึกหวานขึ้น ?

เพราะในน้ำลายของเรามีเอนไซม์ชื่ออะไมเลสที่ช่วยย่อยข้าวหรือแป้ง(คาร์โบไฮเดรต)
ให้กลายเป็นน้ำตาลค่ะ (ไม่มีคนให้ลอกการบ้าน เลยขอมั่วอีกรอบนะคะ)... ;D



ดังนั้น "ข้าวหอมเป็นน้องของข้าวแข็ง และเป็นพี่ของข้าวเหนียว" จร้า......... เอิ้ก



ผมสงสัยมานานแล้ว มันคืออะไรกันแน่ประโยคนี้ แต่ลืมถาม

ขอตอบตามความเข้าใจของพี่ได้มั้ยอิลฮาม พี่ไม่เห็นพี่กอ-กล้วย
เข้าบอร์ดมานานแล้วนิ...อิอิ...

เพราะข้าวหอมจะนิ่มกว่าข้าวแข็ง แต่ไม่นิ่มจนเหนียวอย่างข้าวเหนียว
ก็เลยอยู่ตรงกลางระหว่างข้าวเหนียวกับข้าวแข็งหรือเปล่านะ

ข้าวแข็งเป็นพี่คนโต(เพราะแข็งที่สุด) ตามมาด้วยข้าวหอมเป็นคนกลาง
และน้องสุดท้องคือข้าวเหนียวเพราะนิ่มที่สุด(มั้ง)คะ ;D

วัสลามุอะลัยกุมค่ะ


 loveit:

"และข้ามิได้สร้างญิน และมนุษย์เพื่ออื่นใด เว้นแต่เพื่อเคารพภักดีต่อข้า"

(ซูเราะฮฺ อัซซาริยาต อายะอฺที่ 56)

ออฟไลน์ Bangmud

  • เพื่อนรัก (6_6)
  • *****
  • กระทู้: 2821
  • Respect: +127
    • ดูรายละเอียด
Re: รู้ไหมว่าทำไม ?
« ตอบกลับ #25 เมื่อ: ต.ค. 29, 2009, 09:01 AM »
0


3. ทำไมเวลาต้มถั่ว จึงไม่นิยมใส่น้ำตาลพร้อมถั่ว ?  (ข้อนี้คาดว่า ง่ายสุดๆ  :laugh: )

ปกติเคยแต่กิน ไม่เคยรู้มาก่อน แต่ถ้าดูตามข้อเท็จจริง
ถ้าใส่น้ำตาลก่อน น้ำจะกลายเป็นน้ำเชื่อม ดูดซึมเข้าสู่ถั่วเขียวยากกว่าน้ำธรรมดา
หรือ อาจเป็นเพราะน้ำเชื่อมมีsurface tension ลดลง เดือดง่าย อุณหภูมิไม่สูงพอที่จะทำให้ถั่วเขียวสุก
ไม่ยืนยันทั้งสองทฤษฎี เพราะวิชาฟิสิกส์ค่อนข้างจะเป็นของแสลง
แต่ถ้าเป็นตามข้อสันนิษฐาน ต้องใส่ถั่วเขีวต้มจนบานก่อน หรือ แช่ถั่วเขียวไว้ก่อนเหมือนแช่ข้าวเหนียว ถูกต้องหรือไม่

ออฟไลน์ nada-yoru

  • เพื่อนรัก (6_6)
  • *****
  • กระทู้: 4010
  • เพศ: หญิง
  • แสงและเงา
  • Respect: +134
    • ดูรายละเอียด
Re: รู้ไหมว่าทำไม ?
« ตอบกลับ #26 เมื่อ: ต.ค. 29, 2009, 09:56 AM »
0
^
^

12ชั่วโมงค่ะ...เพราะช่วงนี้ตะวันขึ้น6 ตก6(โดยประมาณ)

เป็นช่วงเวลากลางวันเท่ากับกลางคืนเจ้าค่ะ
(ยังไม่ทันได้นอนก็เช้าเสียแล้ว...เหอๆ)

ปล.ใช่ท่านมูสังผู้ยิ่งใหญ่หรือเปล่าคะ(สาว่าคุ้นๆ) ;D


วัสลามุอะลัยกุมค่ะ

« แก้ไขครั้งสุดท้าย: ต.ค. 29, 2009, 09:58 AM โดย nada-yoru »
"และข้ามิได้สร้างญิน และมนุษย์เพื่ออื่นใด เว้นแต่เพื่อเคารพภักดีต่อข้า"

(ซูเราะฮฺ อัซซาริยาต อายะอฺที่ 56)

ออฟไลน์ al-firdaus~*

  • ทีมงานหลังบอร์ด (-_-''')
  • เพื่อนรัก (6_6)
  • *****
  • กระทู้: 5015
  • เพศ: หญิง
  • 可爱
  • Respect: +161
    • ดูรายละเอียด
Re: รู้ไหมว่าทำไม ?
« ตอบกลับ #27 เมื่อ: ต.ค. 29, 2009, 10:11 AM »
0
salam

1 วัน มี 24 ชม

แล้ว 1 คืน มีกี่ ชม

อันนี้ไม่แน่นอนอะนะ คิดว่าอยู่ที่ความรู้สึกของแต่ละคน...แฮะๆ

"ดึกแล้วคืนนี้ยังไม่หลับนอน ยังได้ยินเสียงสะท้อนจากหัวใจ
ข่มตาหลับลงยังคงแว่วมา ผ่านค่ำคืนที่ยาวนานเหลือเกิน
ได้ยินเถอะเสียงของเวลาที่หมุนไป มันช้าจนจะทนแทบไม่ไหว

คืนนี้อ้างว้าง คืนนี้เหน็บหนาว คืนนี้ปวดร้าวทรมานใจเหลือเกิน
คืนที่ว่างเปล่ามองไม่เห็นใคร จะหันไปทางไหนไม่มีใครเลยสักคน
คืนนี้เงียบเหงาเมื่อไหร่จะเช้า คืนนี้ช่างยาวนานทรมานกว่าทุกคืน
มันเงียบไปหมด ช่างเงียบเหลือเกิน เงียบจนได้ยินเสียงของหัวใจ

ไม่ว่าคืนนี้ ไม่ว่าคืนไหน มันก็ดูจะคล้ายๆ กันทุกคืน
ทนแทบไม่ไหว แต่ต้องทนฝืน ผ่านค่ำคืนที่ยาวนานนี้ไป"

เห็นมั้ย...ว่ามันยาววววววววววววววววนาน

ออฟไลน์ Bangmud

  • เพื่อนรัก (6_6)
  • *****
  • กระทู้: 2821
  • Respect: +127
    • ดูรายละเอียด
Re: รู้ไหมว่าทำไม ?
« ตอบกลับ #28 เมื่อ: ต.ค. 29, 2009, 11:44 AM »
0
คำถามชักจะเปลี่ยนแนว จาก ทำไม (Why)กลายเป็น เท่าไหร่, อย่างไร (How, How many)
แต่ก็ชอบ
กลางคืนมีกี่ชั่วโมงเห็นด้วยกับ คุณฟิรฺเดาส์ว่า ไม่แน่
ถ้านั่งรอดูถ่ายทอดสด เวลาจะยาวนานมาก แบบว่า "เมื่อไหร่มันจะเริ่มถ่ายทอดเสียทีวะ"
แต่ถ้าถ่ายทอดไปแล้ว เวลาจะน้อยมาก แบบว่า "จะหมดเวลาแล้วเหรอ แมนยูยังตามอยู่เลย"
เวลากลางวันที่บ้านโต๊ะครูก็ไม่แน่นอน กำลังอ่านกุรฺอานอยู่ โต๊ะครูไปเข้าห้องน้ำ ลูกโต๊ะครูบีนเก้าอี้ขึ้นไปหมุนเข็มนาฬิกา
เวลาหายไปครึ่งชั่วโมง คนอื่น ๆ พลอยได้รับผลประโยชน์ไปด้วย ไม่เคยมีใครฟ้องโต๊ะครูเลย
หมายเหตุ : คนแก่ชอบเล่าเรื่องตอนยังอายุน้อย
والسلام

ออฟไลน์ al-firdaus~*

  • ทีมงานหลังบอร์ด (-_-''')
  • เพื่อนรัก (6_6)
  • *****
  • กระทู้: 5015
  • เพศ: หญิง
  • 可爱
  • Respect: +161
    • ดูรายละเอียด
Re: รู้ไหมว่าทำไม ?
« ตอบกลับ #29 เมื่อ: ต.ค. 29, 2009, 11:19 PM »
0
แชมัด...รับมุข al-firdaus~*  :laugh:

 

GoogleTagged