salam
ขอถามบ้างนะคะ...พอดีได้ดูสารคดีแล้วชอบเลยนำมาถามค่ะ
"บนโลกใบนี้มีส่ิงมีชีวิตที่ถูกสร้างมาเป็นคู่ๆ
มีเพศผู้หรือเพศพ่อและเพศเมียหรือเพศแม่
โดยทั่วไปแล้ว เพศแม่จะทำหน้าที่เป็น "ผู้คลอด"
แต่มีสิ่งมีชีวิตบางชนิด ที่เพศพ่อได้ทำหน้าที่เป็น "ผู้คลอด"
สิ่งมีชีวิตที่ว่านั้นคืออะไร และท่านรู้ไหมว่าทำไม?"
วัสลามุอะลัยกุมค่ะ

ใบ้ให้หน่อยดิคับ
สัตว์ที่ว่าเป็น สัตว์ทะเล ใช่หรือไม่
ค่ะ...เป็นลูกทะเลค่ะ...หน้าตาน่าเอ็นดู... 
ใช่ม้าน้ำป่าว
เหมือนเคยเรียน ตอนมัธยม
แต่เหตุผล ไม่รู้อ่ะ
ถูกต้องแล้วก๊าบบบบบบบบบบบบบบบบ(เป็ดมาเฉลยด้วยตัวเอง...งิงิ)
ส่วนเหตุผล...
บทความดีดีจาก วารสาร อพวช. ค่ะ
ปลาอะไรม้วนหางได้

คำถามนี้คงไม่ยากเกินไปสำหรับเด็ก ๆ ยิ่งถ้าเป็นผู้ใหญ่อายุมากกว่า 25 ปีแล้ว
นับว่าเป็นคำถามที่ง่ายมาก ๆ
เพราะเมื่อประมาณ 25 ปี ที่ผ่านมา มีโฆษณาทีวีสียี่ห้อดัง
ได้ใช้ปลาชนิดนี้เป็นดาราหน้ากล้อง ขณะที่พ่อปลากำลังบอกลูกปลาว่า
ม้วนหางสิลูก เพื่อใช้หางม้วนจับกับวัตถุบางอย่างใต้น้ำ
หลาย ๆ คนเริ่มร้อง
อ๋อ
กันแล้ว
ม้าน้ำ (Seahorses) หรือจะเรียกให้ถูกต้องจริง ๆ ต้องเรียกว่า
ปลาม้าน้ำ พวกมันจัดเป็นปลาจำพวกปลากระดูกแข็ง (ตัวอย่างปลากระดูกแข็ง
เช่น ปลาทู ปลาหมอ ปลาช่อน ปลาการ์ตูน ส่วนปลากระดูกอ่อน
ได้แก่ ปลาฉลาม และ ปลากระเบน) พวกมันใช้เหงือกในการหายใจ
มีครีบหูและครีบหลัง ใช้ในการว่ายน้ำและควบคุมทิศทางการเคลื่อนที่
เหมือนปลาทั่ว ๆ ไป
แต่ทว่า ม้าน้ำมีรูปร่างที่แสนจะแปลก แตกต่างจากปลาชนิดอื่น ๆ
ตรงที่ ม้าน้ำไม่มีเกล็ด แต่มีเกราะแข็งเป็นข้อ ๆ ปกคลุมลำตัวแทน
ม้าน้ำไม่มีครีบหาง แต่มีหางยาวใช้สำหรับยึดเกาะกับปะการัง กัลปังหา
หรือวัสดุอื่น ๆ ที่อยู่ใต้น้ำ ม้าน้ำว่ายน้ำในท่าลำตัวตั้งตรง
เอาส่วนท้องยื่นไปด้านหน้าในขณะที่ปลาส่วนใหญ่ไม่ทำเช่นนั้น
และที่สำคัญ ส่วนหัวและปากที่ยื่นยาวของม้าน้ำ
ช่างละม้ายคล้ายกับส่วนหัวของม้าอย่างมาก
จนเป็นที่มาของชื่อ
ม้าน้ำ
ยังไงล่ะ
ถิ่นที่อยู่อาศัยนับว่าเป็นปัจจัยสำคัญที่ส่งผลต่อรูปลักษณ์
และสีสันของม้าน้ำโดยตรง เช่น ม้าน้ำที่อาศัยอยู่ในแนวปะการัง
มักมีหนามยาวบนลำตัว คล้ายกิ่งก้านของปะการัง
ม้าน้ำที่เกาะเกี่ยวกับกัลปังหาก็จะมีสีสันที่ฉูดฉาดที่เป็นสีเดียวกัน
นอกจากนี้ ม้าน้ำยังสามารถปรับเปลี่ยนสีสันของลำตัวให้เป็นไปตามพฤติกรรม
และอารมณ์ขณะนั้น ๆ ได้อีกด้วย
ไม่เฉพาะความโดดเด่นของรูปร่างหน้าตาเท่านั้นที่น่าสนใจ
วงจรชีวิตของม้าน้ำก็มีความน่าสนใจไม่แพ้กัน
กล่าวคือ เมื่อถึงฤดูผสมพันธุ์ ม้าน้ำตัวผู้จะปรับเปลี่ยนสีของลำตัว
เพื่อดึงดูดม้าน้ำตัวเมีย จากนั้นตัวผู้จะใช้หางโอบกอดตัวเมีย
พร้อมกับแอ่นท้องประกบกับท้องของตัวเมีย
ตัวเมียจะออกไข่ใส่ลงในถุงหน้าท้องของตัวผู้
และม้าน้ำตัวผู้ก็จะปล่อยอสุจิเข้าผสมกับไข่และฟักเป็นตัวอ่อน
ภายในถุงหน้าท้องนั้น
ม้าน้ำตัวผู้จะเฝ้าทะนุถนอมตัวอ่อนภายในถุงหน้าท้องเป็นอย่างดี
โดยมีม้าน้ำตัวเมียทำหน้าที่คอยดูแลปกป้องและว่ายน้ำวนเวียนอยู่ไม่ห่าง
เมื่อถึงกำหนดเวลาประมาณ 14 วัน พ่อม้าน้ำจะบีบกล้ามเนื้อส่วนท้อง
และพ่นลูกม้าน้ำนับร้อย ๆ ตัวให้ออกจากกระเป๋าหน้าท้องสู่โลกท้องทะเลสีคราม
นับเป็นความโชคดีของพ่อม้าน้ำที่ได้มีโอกาสทำหน้าที่เป็น ผู้คลอด
ทั้ง ๆ ที่ผู้เป็นพ่อทั้งหลายบนโลกใบนี้ไม่เคยได้สัมผัสม้าน้ำเป็นสัตว์ชนิดหนึ่งที่ได้รับการยกย่องให้เป็นสัญลักษณ์ของ
ความซื่อสัตย์ ต่อคู่ครอง
เพราะเมื่อม้าน้ำตัวผู้และตัวเมียตกลงใจที่จะอยู่ด้วยกันแล้ว
ก็จะอยู่คู่กันแบบที่เรียกว่า ผัวเดียว เมียเดียว ไปจนกระทั่งฝ่ายหนึ่งฝ่ายใด
จะตายจากไปถึงจะหาคู่ใหม่
นับเป็นพฤติกรรมที่น่าชื่นชมอย่างมาก แต่พฤติกรรมที่น่าชื่นชมนี้
กลับนำพาโศกนาฎกรรมมาสู่ตัวม้าน้ำเอง
เพราะมีคนจำนวนไม่น้อยที่มีความเชื่อว่า การมอบม้าน้ำคู่ผัวเมียให้แก่คู่บ่าวสาว
เป็นของขวัญในวันแต่งงานนั้น เป็นการอวยพรให้คู่บ่าวสาวมีความรัก
และความซื่อสัตย์ต่อกัน เช่นเดียวกับคู่ของม้าน้ำ
เมื่อวันแต่งงานของเพื่อนหรือคนที่คุณรักมาถึง
ของขวัญของคุณคือสิ่งที่คู่บ่าวสาวปรารถนา
แต่เมื่อเปิดกล่องกลับพบเพียงร่างอันไร้วิญญาณของม้าน้ำสองผัวเมีย
นอนนิ่งอยู่บนผ้ากำมะหยี่สุดหรู คุณคิดว่าคู่บ่าวสาวที่ได้รับของขวัญชิ้นนี้
จะรู้สึกดีใจหรือเสียใจดี ?
เป็นไงคะ อ่านจบแล้วก็อย่าได้คิดให้ของขวัญกับใครแบบนี้นะคะ
ม้าน้ำ ก็คือ ม้าน้ำ ไม่ได้ช่วยให้คนที่ไม่รักกันอยู่ด้วยกันได้หรอกค่ะ
ที่มา:
http://paaying.wordpress.com....เป็นดังฉะนี้แลค่ะ....

ปล.มีสัตว์อีกหลายชนิดค่ะ ที่มีสัญลักษณะคล้ายๆกับม้าน้ำ
เช่น นกกระเรียนเป็นต้น...อีกทั้งปลาดุหยงหรือปลาพะยูนก็เฉกเช่นกันค่ะ
วัสลามุอะลัยกุมค่ะ