ผู้เขียน หัวข้อ: รู้ไหมว่าทำไม ?  (อ่าน 29359 ครั้ง)

0 สมาชิก และ 1 บุคคลทั่วไป กำลังดูหัวข้อนี้

ออฟไลน์ nada-yoru

  • เพื่อนรัก (6_6)
  • *****
  • กระทู้: 4010
  • เพศ: หญิง
  • แสงและเงา
  • Respect: +134
    • ดูรายละเอียด
Re: รู้ไหมว่าทำไม ?
« ตอบกลับ #30 เมื่อ: ต.ค. 30, 2009, 12:11 AM »
0

แต่แฟนหงส์ฯอาจไม่คิดอย่างแชก็ได้นะคะ...hehe

เรื่องอายุนั้น นานเท่่าไหร่ก็ไม่แก่ค่ะ...อิอิ...
หากว่าคุณสมบัติยังไม่ครบ เพราะโบราณ(ไม่รู้ว่าใครเหมือนกันค่ะ)
ท่านว่า...

คนแก่ ชอบกินของขม ชอบชมหนุ่มสาว ชอบเล่าความหลัง

อันข้าน้อยนั้นรอดตัวไปค่ะ เพราะว่าสอบไม่ผ่านคุณสมบัติข้อแรกสุด...
เลยเป็นได้แค่ สส

boulay:

"และข้ามิได้สร้างญิน และมนุษย์เพื่ออื่นใด เว้นแต่เพื่อเคารพภักดีต่อข้า"

(ซูเราะฮฺ อัซซาริยาต อายะอฺที่ 56)

ออฟไลน์ บาชีร

  • ปีสามสักที
  • ซังกุงคนสนิท ( +_-)
  • เพื่อนรัก (6_6)
  • *****
  • กระทู้: 2164
  • เพศ: ชาย
  • Respect: +59
    • ดูรายละเอียด
Re: รู้ไหมว่าทำไม ?
« ตอบกลับ #31 เมื่อ: ต.ค. 30, 2009, 06:06 AM »
0
กลางคืนมีกี่ชัวโมงก็นับไปตั้งแต่ดวงอาทิตย์ตกจนดวงอาทิตย์ขึ้น

แล้วถ้าพ้นครึ่งนึงของกลางคืน ก็สามารถอาบน้ำวันอีดได้ และสามารถกินข้าวสะโหรได้ และยังมีอีกหลายหุกุมที่นับตั้งแต่หลังครึ่งคืน
นักเรียนปีสาม กฎหมายอิสลาม อัซฮัร ไคโร

ออฟไลน์ - ครูจริงใจ-

  • อยากเป็นคนดีที่อัลลอฮฺรัก
  • เพื่อนแท้ (-.^)
  • ****
  • กระทู้: 817
  • เพศ: หญิง
  • ทุกวินาทีของเราไม่เคยรอดพ้นจากบันทึกของรอกิบ-อาติด
  • Respect: +96
    • ดูรายละเอียด
Re: รู้ไหมว่าทำไม ?
« ตอบกลับ #32 เมื่อ: ต.ค. 30, 2009, 05:39 PM »
0


3. ทำไมเวลาต้มถั่ว จึงไม่นิยมใส่น้ำตาลพร้อมถั่ว ?  (ข้อนี้คาดว่า ง่ายสุดๆ  :laugh: )



เฉลย-

ก๊ะคนเดินดินกับก๊ะนาดา ::

 ตอบถูกแล้ว แต่ไม่ตรง point ที่คุณครูต้องการเลยได้แค่คนละ 1 คะแนน  ;D ;D

แชมัด ::

แอบขำที่ว่า ต้มถั่วเขียวจนบาน ^^"

.
.
(เคยเห็น 'เด็ดแม่ ) ก่อนต้มถั่วเขียวท่านจะแช่ถั่วก่อนต้มทุกที  (ก้อเคยสงสัยอ่ะนะ ตามประสาเด็กๆ  ;D )
เพิ่งมาถึงบางอ้อ ตอนที่ได้เรียนน่ะแหล่ะ ทฤษฎีที่ว่ามันเป็นอย่างงี้

การแช่ถั่วเขียยวก่อนต้ม ช่วยทำให้ถั่วเขียวสุกเร็วขึ้น เนื่องจากน้ำที่ดูดซับ(บางส่วน) ที่ถูกดูดซับเข้าไปในเนื้อเยื่อของถั่วเขียว
ที่สำคัญ การแช่ถั่วเขียวก่อนต้ม ช่วยลดการเกิดกลิ่นถั่ว (เป็นกลิ่นที่ไม่พึงประสงค์ เกิดจากเอนไซม์ ไลพอกซิจิเนสที่มีในถั่ว ระหว่างต้ม)

- - - > เวลาต้มถั่วเขียวจะต้องใส่น้ำ ลงไปต้มพร้อมถั่ว น้ำจะถูกดูดซึมเข้าไปในถั่วอย่างเต็มที่ จนเมื่อถั่วบานได้ที่ (อย่างแชมัดว่า) จึงใส่น้ำตาล + เกลือเล็กน้อยลงไป 
หากใส่น้ำตาลลงไปเลย  จะเกิดการออสโมซิส ของน้ำในถั่วออกมาข้างนอก น้ำเชื่อมเข้าไปแทน ถั่วเลยแข็ง


(ตอนหลังๆ ครูเริ่มงงเอง - -'   ไม่ทราบว่า พอเข้าใจกันมั๊ยพี่น้อง ? )


« แก้ไขครั้งสุดท้าย: ต.ค. 30, 2009, 05:41 PM โดย - ครูจริงใจ- »

ท่าน ฮะซัน อัลบัศรีย์ (ร่อฮิมะฮุ้ลลอฮฺ) กล่าวว่า :
 
วัลลอฮฺ คนที่เป็นมุอฺมินจริงๆนั้น ท่านจะเห็นว่าเขาจะไม่ตำหนิใครเลยนอกจากตัวเองไม่ว่าจะอยู่ในสถานการณ์ใด
จะคิดว่าตนคือผู้บกพร่องเสมอจะเสียใจ และโทษตนเอง ...แต่ คน ฟาญิร (ไม่ดี) จะกระทำโดยไม่สนใจสิ่งใดและไม่เคยโทษตนเอง..

ออฟไลน์ nada-yoru

  • เพื่อนรัก (6_6)
  • *****
  • กระทู้: 4010
  • เพศ: หญิง
  • แสงและเงา
  • Respect: +134
    • ดูรายละเอียด
Re: รู้ไหมว่าทำไม ?
« ตอบกลับ #33 เมื่อ: ต.ค. 30, 2009, 06:45 PM »
0

- - - > เวลาต้มถั่วเขียวจะต้องใส่น้ำ ลงไปต้มพร้อมถั่ว น้ำจะถูกดูดซึมเข้าไปในถั่วอย่างเต็มที่ จนเมื่อถั่วบานได้ที่ (อย่างแชมัดว่า) จึงใส่น้ำตาล + เกลือเล็กน้อยลงไป 
หากใส่น้ำตาลลงไปเลย  จะเกิดการออสโมซิส ของน้ำในถั่วออกมาข้างนอก
น้ำเชื่อมเข้าไปแทน ถั่วเลยแข็ง



(ตอนหลังๆ ครูเริ่มงงเอง - -'   ไม่ทราบว่า พอเข้าใจกันมั๊ยพี่น้อง ? )




 salam

อ่านที่ครูจริงใจอธิบายแล้วนึกถึงเวลาเชื่อมฟักทอง...
เพราะว่าแรกๆเวลาต้มนั้น น้ำเชื่อมจะใสมากค่ะ
แล้วพอต้มไปๆมันก็จะเข้มข้น หลักของการต้มฟักทอง(ตามประสบการณ์)
จะไม่ต้มจนน้ำเชื่อมเข้มข้นจนเกินไป เพราะว่าฟักทองของเรา
จะเหี่ยวแฟบ เนื่องจากเกิดการออสโมซีสของน้ำ(เรียกชือตามหลักวิชาการ...งิงิ)
(น้ำจากในเซลล์เนื้อของฟักทองจะไหลออกมาข้างนอก ด้วยการออสโมซิส..
เลยทำให้ฟักทองสูญเสียน้ำไป...สาเหตุแห่งการเหี่ยวและแข็ง...
คล้ายๆหน้าคนเรยค่ะคุณครู...งิงิ...แต่บางอารมณ์ก็ชอบกินฟักทองแบบแข็งนะคะ
มันดูเกาะกันแน่นดี...เหอๆ)...

ซึ่งถ้าเป็นถั่ว เนื้อมันจะแข็ง เลยต้องแช่น้ำไว้ เพื่อให้น้ำเข้าไป
การออสโมซีสทำให้เซลล์ขยายใหญ่ขึ้น ถั่วเลยบานอย่างแชมัดว่า ;D


ซึ่งตามกฎของการออสโมซีส คือ สารที่มีน้ำมากกว่าจะแพร่น้ำไปยัง
สารที่มีน้ำน้อยกว่า ซึ่งในน้ำเชื่อมมีความเข้มข้นของน้ำน้อย(มีปริมาณน้ำตาลสูง)
และสารที่มีความเข้มข้นสูงก็จะมีแรงดันออสโมติกสูงตามไปด้วย
น้ำตาลเลยดันเข้าไปแทนที่น้ำในถั่วเขียว ซึ่งน้ำจากถั่วเขียวเองก็จะไหลออกมา
ยังความเข้มข้นของน้ำน้อยกว่าอย่างน้ำเชื่อมข้างนอก...
พอน้ำจากถั่วไหลออกมาก็จะทำให้ถั่วแข็ง(เหมือนกรณีฟักทองเหี่ยว)
และกว่าจะเกิดการสมดุลการแพร่ของของเหลวในหม้อต้มถั่วเขียว
หม้ออาจไหม้โดยที่ถั่วยังไม่สุกก็เป็นได้...ซึ่งอาจจะสุกแบบแข็งๆ...เหอๆ...
คุณครูจริงใจคิดเหมือนกันหรือเปล่าคะ
(ก่อนหน้านี้ไม่ได้นึกถึงการออสโมซีสของน้ำอ่ะสิคะ เลยมั่วตามที่เคยทำกันมา
พอคุณครูสะกิดเลยนึกถึงฟักทองเช่ือมเมื่อสัปดาห์ก่อนขึ้นมา...
สาว่าคล้ายๆกัน...:D)
เพราะว่าเวลาจะเชื่อมฟักทอง ปกติเราก็จะแช่ในน้ำปุูนด้วย...
ต่างกับการเชื่อมเงาะและสะตอ(เบอรี่) เพราะว่าสองอย่างน้ันเนื้อนิ่ม ไม่แข็ง...

เขียนไปมึนไปเช่นกันค่ะ...ไม่รู้ว่ามั่วหรือเปล่านิคุณครู...

ปล.อีกนิดเดียวถั่วเขียวก็จะกลายเป็นถั่วงอกเสียแล้ว...hehe
1คะแนนที่ได้จะเก็บสะสมไว้อย่างดี(รอรางวัลเมื่อสะสมแต้มครบ)...
คุณครูจริงใจมาถามอีกนะคะ...


วัสลามุอะลัยกุมค่ะ

 
 
"และข้ามิได้สร้างญิน และมนุษย์เพื่ออื่นใด เว้นแต่เพื่อเคารพภักดีต่อข้า"

(ซูเราะฮฺ อัซซาริยาต อายะอฺที่ 56)

ออฟไลน์ ILHAM

  • เพื่อนตาย T_T
  • *****
  • กระทู้: 11348
  • เพศ: ชาย
  • Sherlock Holmes
  • Respect: +273
    • ดูรายละเอียด
    • ILHAM
Re: รู้ไหมว่าทำไม ?
« ตอบกลับ #34 เมื่อ: ต.ค. 30, 2009, 06:46 PM »
0
ออสโมซิส มันเกิดเฉพาะกับน้ำ แล้วน้ำตาลในน้ำมันจะซึมผ่านได้ยังไง
إن شاءالله ติด ENT'?everybody

Sherlock Holmes said "How often have I said to you that when you have eliminated the impossible, whatever remains, however improbable, must be the truth?"
-------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------

ออฟไลน์ nada-yoru

  • เพื่อนรัก (6_6)
  • *****
  • กระทู้: 4010
  • เพศ: หญิง
  • แสงและเงา
  • Respect: +134
    • ดูรายละเอียด
Re: รู้ไหมว่าทำไม ?
« ตอบกลับ #35 เมื่อ: ต.ค. 30, 2009, 07:06 PM »
0
น้ำเชื่อมมันก็จะซึมผ่านด้วยการแพร่(มั้ง)อิลฮาม...

ซึ่งการแพร่จะตรงข้ามกับการออสโมซีส

เพราะการแพร่นั้น จากสารละลายที่เข้มข้นมากจะเข้าไปหา
สารที่มีความเข้มข้นต่ำกว่า พอน้ำจากเซลล์ของถั่วมันไหลออกมา
ด้วยขบวนออสโมซีส ซึ่งหากน้ำไหลออกมามากเท่าไร แน่นอนว่่า
สารจะนั้นจะยิ่งเหี่ยวและแข็ง การแทรกซึมเข้าไปจึงยากขึ้น...
ถั่วมันจึงยิ่งแข็งกว่าเดิม...
(รอคุณครูจริงใจมาอธิบายเสริมเน้อ พี่ไม่ถนัดด้านนี้สักเท่าไหร่
อาศัยประสบการณ์และความรู้เท่าหางอึ่งตอนเรียนมัธยมนั้น)
ยิ่งวิชาเค็ม(เคมี)ยิ่งร่อแร่กว่าวิชาอื่นๆ...เหอๆ

แฮ่  boulay:

"และข้ามิได้สร้างญิน และมนุษย์เพื่ออื่นใด เว้นแต่เพื่อเคารพภักดีต่อข้า"

(ซูเราะฮฺ อัซซาริยาต อายะอฺที่ 56)

ออฟไลน์ คนเดินดิน

  • เพื่อนรัก (6_6)
  • *****
  • กระทู้: 1620
  • ขอให้ได้รับความโปรดปรานจากพระผู้ทรงเมตตาด้วยเถิด
  • Respect: +17
    • ดูรายละเอียด
Re: รู้ไหมว่าทำไม ?
« ตอบกลับ #36 เมื่อ: ต.ค. 31, 2009, 09:40 PM »
0
ถึงครูจริงใจ

     โหดอ่ะ

ตอบถูกแล้วแต่ให้คะแนนเค้ากับน้องนาดาแค่ 1 เองอ่ะ

จะกดเกรดกันรึไงเนี่ย

คอยดูนะเค้าจะฟ้องก๊ะฟิรดาวส์  (เกี่ยวไร)

 loveit:
เพราะรู้ดีว่าเป็นเพียงหนึ่งคนที่อ่อนแอ  จึงทำให้คำนึงถึงคุณค่าของหนึ่งชีวิต  โปรดชี้แนะแนวทางที่เที่ยงตรงด้วยเถิด  ยาร็อบบี  سَلَّمْنَا مُسْلِمِيْنَ وَمُسْلِمَاتٍ فِي الدُّنْيَا وَ الأخِرَةِ

ออฟไลน์ ILHAM

  • เพื่อนตาย T_T
  • *****
  • กระทู้: 11348
  • เพศ: ชาย
  • Sherlock Holmes
  • Respect: +273
    • ดูรายละเอียด
    • ILHAM
Re: รู้ไหมว่าทำไม ?
« ตอบกลับ #37 เมื่อ: พ.ย. 01, 2009, 11:12 AM »
0
ให้ก๊ะเขามาตีเลย 555
إن شاءالله ติด ENT'?everybody

Sherlock Holmes said "How often have I said to you that when you have eliminated the impossible, whatever remains, however improbable, must be the truth?"
-------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------

ออฟไลน์ nada-yoru

  • เพื่อนรัก (6_6)
  • *****
  • กระทู้: 4010
  • เพศ: หญิง
  • แสงและเงา
  • Respect: +134
    • ดูรายละเอียด
Re: รู้ไหมว่าทำไม ?
« ตอบกลับ #38 เมื่อ: พ.ย. 07, 2009, 04:03 PM »
0
 salam

ขอถามบ้างนะคะ...พอดีได้ดูสารคดีแล้วชอบเลยนำมาถามค่ะ

"บนโลกใบนี้มีส่ิงมีชีวิตที่ถูกสร้างมาเป็นคู่ๆ
มีเพศผู้หรือเพศพ่อและเพศเมียหรือเพศแม่
โดยทั่วไปแล้ว เพศแม่จะทำหน้าที่เป็น "ผู้คลอด"
แต่มีสิ่งมีชีวิตบางชนิด ที่เพศพ่อได้ทำหน้าที่เป็น "ผู้คลอด"
สิ่งมีชีวิตที่ว่านั้นคืออะไร และท่านรู้ไหมว่าทำไม?"


วัสลามุอะลัยกุมค่ะ

 loveit:

"และข้ามิได้สร้างญิน และมนุษย์เพื่ออื่นใด เว้นแต่เพื่อเคารพภักดีต่อข้า"

(ซูเราะฮฺ อัซซาริยาต อายะอฺที่ 56)

ออฟไลน์ JawhaR

  • เพื่อนรัก (6_6)
  • *****
  • กระทู้: 1303
  • Respect: +12
    • ดูรายละเอียด
Re: รู้ไหมว่าทำไม ?
« ตอบกลับ #39 เมื่อ: พ.ย. 08, 2009, 10:33 AM »
0
ใบ้ให้หน่อยดิคับ

สัตว์ที่ว่าเป็น สัตว์ทะเล ใช่หรือไม่
I'm just a Mini Muslim and will try to be   StrongeR. Insha-Allah

ออฟไลน์ nada-yoru

  • เพื่อนรัก (6_6)
  • *****
  • กระทู้: 4010
  • เพศ: หญิง
  • แสงและเงา
  • Respect: +134
    • ดูรายละเอียด
Re: รู้ไหมว่าทำไม ?
« ตอบกลับ #40 เมื่อ: พ.ย. 08, 2009, 11:21 AM »
0
ใบ้ให้หน่อยดิคับ

สัตว์ที่ว่าเป็น สัตว์ทะเล ใช่หรือไม่

ค่ะ...เป็นลูกทะเลค่ะ...หน้าตาน่าเอ็นดู... ;D
"และข้ามิได้สร้างญิน และมนุษย์เพื่ออื่นใด เว้นแต่เพื่อเคารพภักดีต่อข้า"

(ซูเราะฮฺ อัซซาริยาต อายะอฺที่ 56)

ออฟไลน์ JawhaR

  • เพื่อนรัก (6_6)
  • *****
  • กระทู้: 1303
  • Respect: +12
    • ดูรายละเอียด
Re: รู้ไหมว่าทำไม ?
« ตอบกลับ #41 เมื่อ: พ.ย. 08, 2009, 11:34 AM »
0
ใบ้ให้หน่อยดิคับ

สัตว์ที่ว่าเป็น สัตว์ทะเล ใช่หรือไม่

ค่ะ...เป็นลูกทะเลค่ะ...หน้าตาน่าเอ็นดู... ;D

ใช่ ม้าน้ำป่าว
เหมือนเคยเรียน ตอนมัธยม

แต่เหตุผล ไม่รู้อ่ะ
« แก้ไขครั้งสุดท้าย: พ.ย. 08, 2009, 11:37 AM โดย oo JawhaR oo »
I'm just a Mini Muslim and will try to be   StrongeR. Insha-Allah

ออฟไลน์ nada-yoru

  • เพื่อนรัก (6_6)
  • *****
  • กระทู้: 4010
  • เพศ: หญิง
  • แสงและเงา
  • Respect: +134
    • ดูรายละเอียด
Re: รู้ไหมว่าทำไม ?
« ตอบกลับ #42 เมื่อ: พ.ย. 08, 2009, 11:51 AM »
0
salam

ขอถามบ้างนะคะ...พอดีได้ดูสารคดีแล้วชอบเลยนำมาถามค่ะ

"บนโลกใบนี้มีส่ิงมีชีวิตที่ถูกสร้างมาเป็นคู่ๆ
มีเพศผู้หรือเพศพ่อและเพศเมียหรือเพศแม่
โดยทั่วไปแล้ว เพศแม่จะทำหน้าที่เป็น "ผู้คลอด"
แต่มีสิ่งมีชีวิตบางชนิด ที่เพศพ่อได้ทำหน้าที่เป็น "ผู้คลอด"
สิ่งมีชีวิตที่ว่านั้นคืออะไร และท่านรู้ไหมว่าทำไม?"


วัสลามุอะลัยกุมค่ะ

 loveit:
ใบ้ให้หน่อยดิคับ

สัตว์ที่ว่าเป็น สัตว์ทะเล ใช่หรือไม่

ค่ะ...เป็นลูกทะเลค่ะ...หน้าตาน่าเอ็นดู... ;D

ใช่ม้าน้ำป่าว
เหมือนเคยเรียน ตอนมัธยม

แต่เหตุผล ไม่รู้อ่ะ


ถูกต้องแล้วก๊าบบบบบบบบบบบบบบบบ(เป็ดมาเฉลยด้วยตัวเอง...งิงิ)


ส่วนเหตุผล...



บทความดีดีจาก วารสาร อพวช. ค่ะ


“…ปลาอะไรม้วนหางได้ ???…”


คำถามนี้คงไม่ยากเกินไปสำหรับเด็ก ๆ ยิ่งถ้าเป็นผู้ใหญ่อายุมากกว่า 25 ปีแล้ว
นับว่าเป็นคำถามที่ง่ายมาก ๆ
เพราะเมื่อประมาณ 25 ปี ที่ผ่านมา มีโฆษณาทีวีสียี่ห้อดัง
ได้ใช้ปลาชนิดนี้เป็นดาราหน้ากล้อง ขณะที่พ่อปลากำลังบอกลูกปลาว่า
“ม้วนหางสิลูก” เพื่อใช้หางม้วนจับกับวัตถุบางอย่างใต้น้ำ
หลาย ๆ คนเริ่มร้อง…อ๋อ…กันแล้ว


ม้าน้ำ (Seahorses) หรือจะเรียกให้ถูกต้องจริง ๆ ต้องเรียกว่า “ปลาม้าน้ำ”
พวกมันจัดเป็นปลาจำพวกปลากระดูกแข็ง (ตัวอย่างปลากระดูกแข็ง
เช่น ปลาทู ปลาหมอ ปลาช่อน ปลาการ์ตูน ส่วนปลากระดูกอ่อน
ได้แก่ ปลาฉลาม และ ปลากระเบน) พวกมันใช้เหงือกในการหายใจ
มีครีบหูและครีบหลัง ใช้ในการว่ายน้ำและควบคุมทิศทางการเคลื่อนที่
เหมือนปลาทั่ว ๆ ไป





แต่ทว่า ม้าน้ำมีรูปร่างที่แสนจะแปลก แตกต่างจากปลาชนิดอื่น ๆ
ตรงที่ ม้าน้ำไม่มีเกล็ด แต่มีเกราะแข็งเป็นข้อ ๆ ปกคลุมลำตัวแทน
ม้าน้ำไม่มีครีบหาง แต่มีหางยาวใช้สำหรับยึดเกาะกับปะการัง กัลปังหา
หรือวัสดุอื่น ๆ ที่อยู่ใต้น้ำ ม้าน้ำว่ายน้ำในท่าลำตัวตั้งตรง
เอาส่วนท้องยื่นไปด้านหน้าในขณะที่ปลาส่วนใหญ่ไม่ทำเช่นนั้น
และที่สำคัญ ส่วนหัวและปากที่ยื่นยาวของม้าน้ำ
ช่างละม้ายคล้ายกับส่วนหัวของม้าอย่างมาก
จนเป็นที่มาของชื่อ…ม้าน้ำ…ยังไงล่ะ


ถิ่นที่อยู่อาศัยนับว่าเป็นปัจจัยสำคัญที่ส่งผลต่อรูปลักษณ์
และสีสันของม้าน้ำโดยตรง เช่น ม้าน้ำที่อาศัยอยู่ในแนวปะการัง
มักมีหนามยาวบนลำตัว คล้ายกิ่งก้านของปะการัง
ม้าน้ำที่เกาะเกี่ยวกับกัลปังหาก็จะมีสีสันที่ฉูดฉาดที่เป็นสีเดียวกัน

นอกจากนี้ ม้าน้ำยังสามารถปรับเปลี่ยนสีสันของลำตัวให้เป็นไปตามพฤติกรรม
และอารมณ์ขณะนั้น ๆ ได้อีกด้วย


ไม่เฉพาะความโดดเด่นของรูปร่างหน้าตาเท่านั้นที่น่าสนใจ
วงจรชีวิตของม้าน้ำก็มีความน่าสนใจไม่แพ้กัน

กล่าวคือ เมื่อถึงฤดูผสมพันธุ์ ม้าน้ำตัวผู้จะปรับเปลี่ยนสีของลำตัว
เพื่อดึงดูดม้าน้ำตัวเมีย จากนั้นตัวผู้จะใช้หางโอบกอดตัวเมีย
พร้อมกับแอ่นท้องประกบกับท้องของตัวเมีย
ตัวเมียจะออกไข่ใส่ลงในถุงหน้าท้องของตัวผู้
และม้าน้ำตัวผู้ก็จะปล่อยอสุจิเข้าผสมกับไข่และฟักเป็นตัวอ่อน
ภายในถุงหน้าท้องนั้น


ม้าน้ำตัวผู้จะเฝ้าทะนุถนอมตัวอ่อนภายในถุงหน้าท้องเป็นอย่างดี
โดยมีม้าน้ำตัวเมียทำหน้าที่คอยดูแลปกป้องและว่ายน้ำวนเวียนอยู่ไม่ห่าง
เมื่อถึงกำหนดเวลาประมาณ 14 วัน พ่อม้าน้ำจะบีบกล้ามเนื้อส่วนท้อง
และพ่นลูกม้าน้ำนับร้อย ๆ ตัวให้ออกจากกระเป๋าหน้าท้องสู่โลกท้องทะเลสีคราม

นับเป็นความโชคดีของพ่อม้าน้ำที่ได้มีโอกาสทำหน้าที่เป็น “ผู้คลอด”
ทั้ง ๆ ที่ผู้เป็นพ่อทั้งหลายบนโลกใบนี้ไม่เคยได้สัมผัส



ม้าน้ำเป็นสัตว์ชนิดหนึ่งที่ได้รับการยกย่องให้เป็นสัญลักษณ์ของ
“ความซื่อสัตย์” ต่อคู่ครอง

เพราะเมื่อม้าน้ำตัวผู้และตัวเมียตกลงใจที่จะอยู่ด้วยกันแล้ว
ก็จะอยู่คู่กันแบบที่เรียกว่า “ผัวเดียว เมียเดียว” ไปจนกระทั่งฝ่ายหนึ่งฝ่ายใด
จะตายจากไปถึงจะหาคู่ใหม่

นับเป็นพฤติกรรมที่น่าชื่นชมอย่างมาก แต่พฤติกรรมที่น่าชื่นชมนี้
กลับนำพาโศกนาฎกรรมมาสู่ตัวม้าน้ำเอง
เพราะมีคนจำนวนไม่น้อยที่มีความเชื่อว่า การมอบม้าน้ำคู่ผัวเมียให้แก่คู่บ่าวสาว
เป็นของขวัญในวันแต่งงานนั้น เป็นการอวยพรให้คู่บ่าวสาวมีความรัก
และความซื่อสัตย์ต่อกัน เช่นเดียวกับคู่ของม้าน้ำ


เมื่อวันแต่งงานของเพื่อนหรือคนที่คุณรักมาถึง
ของขวัญของคุณคือสิ่งที่คู่บ่าวสาวปรารถนา
แต่เมื่อเปิดกล่องกลับพบเพียงร่างอันไร้วิญญาณของม้าน้ำสองผัวเมีย
นอนนิ่งอยู่บนผ้ากำมะหยี่สุดหรู คุณคิดว่าคู่บ่าวสาวที่ได้รับของขวัญชิ้นนี้
จะรู้สึกดีใจหรือเสียใจดี ?


…เป็นไงคะ อ่านจบแล้วก็อย่าได้คิดให้ของขวัญกับใครแบบนี้นะคะ
ม้าน้ำ ก็คือ ม้าน้ำ ไม่ได้ช่วยให้คนที่ไม่รักกันอยู่ด้วยกันได้หรอกค่ะ…


ที่มา: http://paaying.wordpress.com


....เป็นดังฉะนี้แลค่ะ....


 loveit: loveit:

ปล.มีสัตว์อีกหลายชนิดค่ะ ที่มีสัญลักษณะคล้ายๆกับม้าน้ำ
เช่น นกกระเรียนเป็นต้น...อีกทั้งปลาดุหยงหรือปลาพะยูนก็เฉกเช่นกันค่ะ

วัสลามุอะลัยกุมค่ะ

« แก้ไขครั้งสุดท้าย: พ.ย. 08, 2009, 12:10 PM โดย nada-yoru »
"และข้ามิได้สร้างญิน และมนุษย์เพื่ออื่นใด เว้นแต่เพื่อเคารพภักดีต่อข้า"

(ซูเราะฮฺ อัซซาริยาต อายะอฺที่ 56)

ออฟไลน์ JawhaR

  • เพื่อนรัก (6_6)
  • *****
  • กระทู้: 1303
  • Respect: +12
    • ดูรายละเอียด
Re: รู้ไหมว่าทำไม ?
« ตอบกลับ #43 เมื่อ: พ.ย. 08, 2009, 01:03 PM »
0
แล้ว ทำไมตัวผู้ถึงเป็นผู้คลอดอะ
หรือว่า ตัวเมียไม่มีถุงหน้าท้อง?
I'm just a Mini Muslim and will try to be   StrongeR. Insha-Allah

ออฟไลน์ nada-yoru

  • เพื่อนรัก (6_6)
  • *****
  • กระทู้: 4010
  • เพศ: หญิง
  • แสงและเงา
  • Respect: +134
    • ดูรายละเอียด
Re: รู้ไหมว่าทำไม ?
« ตอบกลับ #44 เมื่อ: พ.ย. 08, 2009, 02:21 PM »
0
แล้ว ทำไมตัวผู้ถึงเป็นผู้คลอดอะ
หรือว่า ตัวเมียไม่มีถุงหน้าท้อง?

นี่อาจคือคำตอบก็ได้ค่ะ... cool2:


คลายปริศนาม้าน้ำออกลูกได้อย่างไร

ลอนดอน (รอยเตอร์) -

นักวิทยาศาสตร์ได้เปิดเผยความลับเกี่ยวกับม้าน้ำเพศผู้ออกลูกได้อย่างไร
เป็นครั้งแรก ซึ่งอาจจะประโยชน์ต่อการอนุรักษ์พวกมันไว้
มันไม่เหมือนกับสัตว์อื่นและมนุษย์ในเรื่องตัวเมียจะท้อง
จากนั้นตัวผู้จะรับไข่จากท้องตัวเมียมาไว้ที่ถุงหน้าท้องของมันและออกลูก

พวกมันผสมพันธุ์อย่างมีประสิทธิภาพด้วยน้ำเชื้อปริมาณน้อย
และมีระยะเวลาการปฏิสนธิสั้น


"เราดีใจมากที่สามารถค้นพบกลไกการปฏิสนธิในม้าน้ำตัวผู้ในที่สุด
มันเป็นส่วนการสืบพันธุ์ของม้าน้ำที่มีข้อมูลน้อยมากจนถึงปัจจุบัน"

ศาสตราจาร์บิล ฮอลต์ (Bill Holt) แห่งสมาคมสัตวศาสตร์แห่งลอนดอน
(Zoological Society of London, ZSL) แถลงเมื่อวันศุกร์ที่ผ่านมา

ม้าน้ำกำลังผสมพันธุ์กัน ตัวเมีย(ขวา)จะถ่ายไข่ลงในกระเป๋าหน้าท้องของตัวผู้
และตัวผู้จะปล่อยเชื้ออสุจิออกไปในกระแสน้ำและให้เชื้อว่ายมายังกระเป๋า
เพื่อให้เกิดกรปฏิสนธิ

เมื่อไข่ในกระเป๋าหน้าท้องได้รับการปฏิสนธิแล้ว
ตัวผู้จะรอเวลาเพื่อให้ตัวอ่อนพร้อมที่จะออกมาดูโลก

หลังจากได้สังเกตและบันทึกวีดิโอพฤติกรรมการผสมพันธุ์ของม้าน้ำเหลือง
(yellow seahorse; Hippocampus kuda )
ฮอลต์และทีมงานของเขาได้ค้นพบว่าม้าน้ำตัวผู้มีการผสมพันธุ์
ที่มีประสิทธิภาพน้ำหน้ามนุษย์และสัตว์อื่น


แต่ม้าน้ำต้องเผชิญกับการสูญพันธุ์จากการสูญเสียถิ่นอาศัย
มลภาวะและการจับปลา และยังอยู่ในรายชื่อสัตว์ที่จะเข้าสู่ภาวะสูญพันธุ์ในอนาคต (vulnerable) ของ World Conservation Union (IUCN),
Red List of endangered species


"เราทำการนับจำนวนอสุจิและสังเกตพฤติกรรมการผสมพันธุ์
และบันทึกวีดิโอการผสมพันธุ์ทั้งหมด เมื่อรวมหลักฐานทั้งหมดแล้ว
คุณจะเห็นได้อย่างชัดเจนว่ามีอะไรเกิดขึ้นบ้าน" ฮอลต์กล่าว


เพื่อเอาชนะการขาดแคลนเชื้ออสุจิ ม้าน้ำเหลืองตัวผู้จึงสร้างอสุจิ 2 แบบ
ตามรายงานการค้นพบในวารสาร Journal of Experimental Biology



"แต่ที่น่าประหลาดใจมากกว่านั้น เชื้ออสุจิที่มันผลิตจะปล่อยออกมาจากร่างกาย
ไปยังน้ำทะเล แต่เชื้ออสุจิก็สามารถหาทางไปกระเป๋าหน้าท้องของตัวผู้เจอ
ซึ่งเป็นที่ที่ตัวเมียวางไข่เอาไว้" ฮอลต์กล่าว

"เราไม่สามารถได้แน่ชัดว่ามันเกิดขึ้นได้อย่างไร"

สิ่งที่ม้าน้ำตัวเมียต้องทำคือสร้างไข่และเอาไปวางในประเป๋าหน้าท้อง
ซึ่งเป็นกระบวนการที่ใช้เวลา 5-10 วินาที เชื้ออสุจิก็ต้องหาทางไปยัง
กระเป๋าหน้าท้องในทันเวลาเพราะว่าเมื่อไข่ถูกวางในกระเป๋าหน้าท้องแล้ว
กระเป๋าปิดสนิท


ถึงแม้ว่างานวิจัยจะมุ่งเน้นในม้าน้ำเหลืองที่พบในแถบเอเชียตะวันออกเฉียงใต้
ออสเตรเลีย และญี่ปุ่น ฮอลต์และทีมของเขากล่าวว่าม้าน้ำทุกชนิด
มีวิธีการผสมพันธุ์เหมือนกัน


ม้าน้ำเหลืองเมื่อโตเต็มที่แล้วจะยาว 8 ซ.ม. (3.1 นิ้ว) และมีอายุประมาณ 5 ปี
ไม่เหมือนกับมนุษย์ที่สามารถผลิตเชื้ออสุจิได้หลายพันล้านเซลล์
แต่กลับมีลูกได้เพียงครั้งละ 1-2 คนเท่านั้น
ในม้าน้ำจะออกลูกครั้งละประมาณ 100 ตัวทีเดียว


"ถ้าพวกมันมีเชื้ออสุจิเพียงไม่กี่ร้อยเซลล์และสามารถออกลูกได้เป็นร้อยตัว
นั่นถือเป็นสิ่งที่น่าอัศจรรย์ในโลกของเชื้ออสุจิเลย" ฮอลต์เสริม


ที่มา:http://www.neutron.rmutphysics.com


มหัศจรรย์แห่งการสร้างสรรค์ใช่ไหมคะ... cool2:

ปล.มีนิทานน่ารักๆเกี่ยวกับม้าน้ำ มหัศจรรย์แห่งการสร้างสรรค์ด้วยนะคะ...
อินชาอัลลอฮฺ...แล้วจะมาโพสในกระทู้นิทานค่ะ... ;D


วัสลามุอะลัยกุมค่ะ

"และข้ามิได้สร้างญิน และมนุษย์เพื่ออื่นใด เว้นแต่เพื่อเคารพภักดีต่อข้า"

(ซูเราะฮฺ อัซซาริยาต อายะอฺที่ 56)

 

GoogleTagged