สารบัญถามตอบปัญหาศาสนา
0 สมาชิก และ 1 บุคคลทั่วไป กำลังดูหัวข้อนี้
salamขอตอบในฐานะลูกแม่ค้ากล้วยแขกทุกคนคงรู้จักขนุน ขนุนเนื้อ ขนุนหนัง ขนุนละมุด และขนุนจำปาดะขนุนละมุดกับจำปาดะนั้นมีลักษณะคล้ายคลึงกันมาก ขนุนละมุดมีบ้างทางภาคกลาง แต่จำปาดะมีมากทางภาคใต้ ที่ขึ้นหน้าขึ้นตา คือ อำเภอควนโดน จังหวัดสตูลลักษณะสำคัญของขนุนละมุดและจำปาดะคือ กลิ่นหอมแรงและมีเส้นใยเหนียว เตี้ยวไม่ค่อยจะขาด และมีเมือกลื่น ๆแต่จำปาดะ จะกลิ่นหอมแรงกว่า เส้นใยมากกว่า และ เมือกมากกว่า เวลากิน เมือกและเส้นใยติดคอ กลืนลำบากดังนั้นเพื่อให้กินง่าย ๆ พี่น้องเราทางภาคใต้จึงทำให้กินง่ายขึ้นด้วยการชุบแป้ง(ผสมมะพร้าวขูดและปรุงรส)ทอดในน้ำมันมาก ๆ และร้อนจัด วิธีทอดมี 2 วิธี คือ ทอดทั้งเม็ด และเอาเม็ดออกก่อนทอดกินได้ทั้งเนื้อและเม็ด บางท่านก็ทอดแต่พอสุก เนื้อยังนุ่มและมีเมือกอยู่บ้าง บางท่านทอดจนสุก ค่อนข้างกรอบจำปาดะทอดยังหากินได้ง่าย เป็นอาหารของมุสลิม(ที่ถูกเรียกว่า แขก)คนไทยภาคกลางอยากกินของอร่อย ๆ แบบนี้บ้าง เอาขนุนเนื้อหรือขนุนหนังมาทอดเหมือนจำปาดะบ้างก็ไม่อร่อยในที่สุดมีคนสมองไวลองใช้กล้วยน้ำว้าที่ยังไม่สุกดี ชุบแป้งเหมือนแป้งที่ชุบจำปาดะ แล้วทอด อร่อยไปอีกแบบเรียกว่ากล้อยทอดแบบแขก หรือกล้วยแขก ปัจจุบันมีการใส่โน่นเติมนี่ เช่น บางคนใส่ถั่วทอดรวมไปด้วยบางคนใช้ใบเตยหั่นทอดไปด้วย(แต่ไม่ได้กินใบเตย)มีการดัดแปลงนำมันบ้าง เผือกบ้าง ฟักทองบ้าง ชุบแป้งทอดด้วยวิธีการเดียวกันแต่ไม่มีใครเรียก มันแขก เผือกแขก หรือฟักทองแขก เหมือนกล้วยแขกจริง ๆ ไม่ได้โม้
ขออนุญาติเถอะครับกร้ากกกก....แต่อยากกล้วยแขกก็เป็นไทยเพราะที่เมืองไทยไม่มีเคยมีการบังคับกีดกันใครแค่บอกว่า เป็นกล้วยไทย ... ก็ได้เป็นไทยแระ ถึงจะโดนเรียกว่าแขกแต่ชื่อก็เหอะ แง่บๆ
อ้างจาก: Bangmud ที่ พ.ย. 09, 2009, 03:48 PM salamลองคำถามจากผู้อาวุโสบ้าง ทำไมบ้างท้องถิ่นจึงเรียก กล้วยทอด ว่า กล้วยแขกกล้วยแขก เศร้าและไม่เข้าใจจริงๆว่า ทำไม กล้วยแขกต้องทำผิดกฏหมาย กล้วยแขก น้อยใจในชีวิตของตัวเองเหลือเกิน ตั้งแต่เกิดมา จำความได้ก็โดนล้อเลียนมาตลอดว่า เป็นลูกต่างด้าว บ้าง เป็นลูกไม่มีพ่อไม่มีแม่ บ้าง กล้วยแขก ไม่รู้จริงๆว่า พ่อแม่เป็นใคร? อยู่ที่ไหน? รู้แต่ว่าเกิดมาเป็นตัวเป็นตน ทุกคนเขาก็เรียกตนเองว่ากล้วยแขกแล้ว ลุงถนัดข้างบ้านบอกว่าพ่อแม่กล้วยแขกเป็นแขกอินโดนีเซีย ส่วนน้าหมึกบอกว่าเป็นแขกมาเลย์ติดๆกับไทยนี่เอง แต่ป้ายิ่งบอกว่าน่าจะเป็นแขกอินเดียซะมากกว่า ถึงจะบอกไม่ตรงกัน แต่สรุปความแล้ว กล้วยแขกนั้น เป็นแขกแน่นอน !!! แค่ชื่อ กล้วยแขก ก็บอกอยู่โทนโท่ แต่กล้วยแขกคิดว่ากล้วยแขกเป็นไทย กล้วยแขกไม่อยากเป็นแขก ชีวิต กล้วยแขก ช่างอาภัพยิ่งนัก วนเวียน ซ้ำซากเป็นวัฏจักรน่าเบื่อหน่าย เกิดมาโดยไม่รู้จักพ่อแม่ก็หนักหนาแล้ว ซ้ำร้าย ให้มาพลัดพรากจากพี่จากน้องอีก ๓-๔ ชีวิตที่เคยเป็นหนึ่งเดียวต้องมาแยกจาก ประดุจโดนคมมีดกรีดฝานตามแนวยาว !!! วันๆชีวิต กล้วยแขก ต้องทำงานคลุกแป้งมอมแมม แถมต้องผจญกับน้ำมันอันร้อนระอุ เจอกันซ้ำแล้วซ้ำอีก จนเอียนหน้ากันทั้งคู่ ชุดเก่งของ กล้วยแขก มีอยู่ชุดเดียว เป็นชุดไวท์ออนไวท์ ก็ชุดประแป้งขาววอก แถมผสมขาวมะพร้าวขูดเข้าไปอีก ทำให้ขาวไปทั้งตัว เมื่อก่อนกล้วยแขกมักจะเหยาะน้ำปูนใสใส่เหมือนกับคนใส่น้ำหอมเพื่อความดึงดูดใจ แต่กล้วยแขกคิดคำเองแทนดึงดูดว่าเพื่อความ กรอบ ใครถามว่าใส่ทำไม กล้วยแขกก็จะตอบว่า มันกรอบดี แต่เพื่อนๆ กล้วยแขกเขาว่าน้ำปูนใสมันเชย จะทันสมัยเขาใส่ผงฟูกัน นัยว่า มันฟูดี และวันไหนอารมณ์ดีๆ กล้วยแขกจะประดับอาภรณ์ด้วยงาขาวให้มันเท่ขึ้นไปอีก แต่อนิจจาชุดเก่งของ กล้วยแขก ก็ขาวอยู่ได้ประเดี๋ยวเดียว ก็งานของ กล้วยแขก ต้องลงไปผจญกับน้ำมันซ้ำซาก จากชุดไวท์ออนไวท์ก็กลายเป็นสีน้ำตาลบนน้ำตาลไปในบัดดล ที่อยู่ของ กล้วยแขก นี่ก็เป็นเรื่องอาภัพอีกเรื่องหนึ่ง เพื่อนๆ กล้วยแขก เขามีที่อยู่ ดูดี มีฐานะ กล้วยบวชชี กล้วยเชื่อม เขาระดับ เครื่องแก้ว กระเบื้องเคลือบ ระดับสังคโลก แม้แต่เพื่อนรัก กล้วยปิ้ง เขายังอยู่แบบโมเดิร์น ระดับคลาสสิค เอ๊ย พลาสติค แต่ กล้วยแขก นี่สิ ต้องอยู่กับกระดาษเปื้อนหมึก !!! จะมีก็แต่ ข้าวเม่าทอด เพื่อนสนิทเท่านั้นแหละที่ชะตาชีวิตไม่ต่างกัน โดนลอยแพ แต่ข้าวเม่าทอดยังดี ยังได้อยู่เคียงข้างน้องๆพี่ๆ วันๆ กล้วยแขก ต้องทนอยู่กับกระดาษสีน้ำตาลเก่าๆ แถมสีหมึกเอย กลิ่นหมึกเอย อีกต่างหาก โชคมาวาสนาดีจริงๆ กล้วยแขก ถึงจะได้อยู่กระดาษเปล่าๆ แต่มันก็ยังเป็น กระดาษเก่าๆ อยู่ดี ! กล้วยแขก เคยมีความฝันนึกอยาก โกอินเตอร์ !!! อย่าง กล้วยทอด (ที่ไม่ใช่กล้วยทอดเล่นหุ้น)ญาติกันแท้ๆ แค่มีเพื่อนเป็น ไอซ์ซิ่ง เป็น ไอศครีม เขาก็ได้ขึ้นเหลา ขึ้นเรสตัวรองต์ หรือคนบ้านใกล้เรือนเคียงกัน เจ้ามันฝรั่ง พอเปลี่ยนชื่อเสียงเรียงนามเป็น French fried เท่านั้นแหละ มันก็ โกอินเตอร์ ไปซะแล้ว ทั้ง ผู้ใหญ่ ผู้เด็ก วัยรุ่น วัยเล็ก ชอบมันหมด เอ ! หรือว่า กล้วยแขกจะเปลี่ยนชื่อดีไหม ? จะเขียนชื่อ กล้วยแขก เป็นภาษาอังกฤษ ไอ้คำว่า กล้วยแขกเนี่ยเขียนเป็นภาษาอังกฤษมันช่างยากเย็นซะเหลือเกิน แถมเผลอๆอาจอ่านผิดก็อาจเป็นได้ หรือจะเป็น Indian banana ก็ออกยาวไปหน่อย จะ banana guest ก็ดูทะแม่งๆ ยังไงชอบกล คิดแค่ชื่อ วาสนา กล้วยแขก เห็นทีจะไม่รุ่งเป็นแน่ โอว์ กล้วยแขกไม่นึกเลยว่าชะตาชีวิตจะตกต่ำถึงเพียงนี้ ตอนนี้อย่าว่าจะโกอินเตอร์เลย เอาแค่ให้รอดจากคุกจากตารางก็แทบจะไม่ไหวแล้ว ก็จะอะไรอีกเล่า เดิมที กล้วยแขก เป็นต่างด้าวใครๆเขาก็ว่าอย่างนั้น แต่ก็ยังดีที่พอมีงาน มีที่อยู่พอประทังชีวิตไปวันๆ แต่มาตอนนี้ กล้วยแขก ต้องกลายเป็นคนเถื่อน ทำผิดกฏหมาย !!! โดนเจ้านายทั้งบีบทั้งบังคับให้ทำผิดกฏหมาย กล้วยแขกต้องออกหากินตามท้องถนน ใครๆก็รู้กันดีอยู่ว่า ถนน เขามีให้รถวิ่ง ที่สาธารณะเขาห้ามไม่ให้ค้าขาย แล้วมันอะไรกันล่ะเนี่ย อนาคต กล้วยแขก จะเป็นอย่างไรกัน กล้วยแขก ที่ชะตาชีวิตตกต่ำจนต้องทำผิดกฏหมาย เร่ขายตัว (เอง) ตามสี่แยก ชีวิตกล้วยแขก โดย...สถาปนิกต่างดาว
salamลองคำถามจากผู้อาวุโสบ้าง ทำไมบ้างท้องถิ่นจึงเรียก กล้วยทอด ว่า กล้วยแขก
อ้างจาก: al-firdaus~* ที่ พ.ย. 09, 2009, 05:01 PMอ้างจาก: Bangmud ที่ พ.ย. 09, 2009, 03:48 PM salamลองคำถามจากผู้อาวุโสบ้าง ทำไมบ้างท้องถิ่นจึงเรียก กล้วยทอด ว่า กล้วยแขก“กล้วยแขก” เศร้าและไม่เข้าใจจริงๆว่า ทำไม “กล้วยแขก”ต้องทำผิดกฏหมาย “กล้วยแขก” น้อยใจในชีวิตของตัวเองเหลือเกิน ตั้งแต่เกิดมา จำความได้ก็โดนล้อเลียนมาตลอดว่า เป็นลูกต่างด้าว บ้าง เป็นลูกไม่มีพ่อไม่มีแม่ บ้าง “กล้วยแขก” ไม่รู้จริงๆว่า พ่อแม่เป็นใคร? อยู่ที่ไหน? รู้แต่ว่าเกิดมาเป็นตัวเป็นตน ทุกคนเขาก็เรียกตนเองว่ากล้วยแขกแล้ว ลุงถนัดข้างบ้านบอกว่าพ่อแม่กล้วยแขกเป็นแขกอินโดนีเซีย ส่วนน้าหมึกบอกว่าเป็นแขกมาเลย์ติดๆกับไทยนี่เอง แต่ป้ายิ่งบอกว่าน่าจะเป็นแขกอินเดียซะมากกว่า ถึงจะบอกไม่ตรงกัน แต่สรุปความแล้ว “กล้วยแขก”นั้น เป็นแขกแน่นอน !!! แค่ชื่อ “กล้วยแขก” ก็บอกอยู่โทนโท่ แต่กล้วยแขกคิดว่ากล้วยแขกเป็นไทย กล้วยแขกไม่อยากเป็นแขก ชีวิต “กล้วยแขก” ช่างอาภัพยิ่งนัก วนเวียน ซ้ำซากเป็นวัฏจักรน่าเบื่อหน่าย เกิดมาโดยไม่รู้จักพ่อแม่ก็หนักหนาแล้ว ซ้ำร้าย ให้มาพลัดพรากจากพี่จากน้องอีก ๓-๔ ชีวิตที่เคยเป็นหนึ่งเดียวต้องมาแยกจาก ประดุจโดนคมมีดกรีดฝานตามแนวยาว !!! วันๆชีวิต “กล้วยแขก” ต้องทำงานคลุกแป้งมอมแมม แถมต้องผจญกับน้ำมันอันร้อนระอุ เจอกันซ้ำแล้วซ้ำอีก จนเอียนหน้ากันทั้งคู่ ชุดเก่งของ “กล้วยแขก” มีอยู่ชุดเดียว เป็นชุดไวท์ออนไวท์ ก็ชุดประแป้งขาววอก แถมผสมขาวมะพร้าวขูดเข้าไปอีก ทำให้ขาวไปทั้งตัว เมื่อก่อนกล้วยแขกมักจะเหยาะน้ำปูนใสใส่เหมือนกับคนใส่น้ำหอมเพื่อความดึงดูดใจ แต่กล้วยแขกคิดคำเองแทนดึงดูดว่าเพื่อความ “กรอบ” ใครถามว่าใส่ทำไม “กล้วยแขก”ก็จะตอบว่า “มันกรอบดี” แต่เพื่อนๆ “กล้วยแขก”เขาว่าน้ำปูนใสมันเชย จะทันสมัยเขาใส่ผงฟูกัน นัยว่า “ มันฟูดี” และวันไหนอารมณ์ดีๆ “กล้วยแขก”จะประดับอาภรณ์ด้วยงาขาวให้มันเท่ขึ้นไปอีก แต่อนิจจาชุดเก่งของ “กล้วยแขก” ก็ขาวอยู่ได้ประเดี๋ยวเดียว ก็งานของ “กล้วยแขก” ต้องลงไปผจญกับน้ำมันซ้ำซาก จากชุดไวท์ออนไวท์ก็กลายเป็นสีน้ำตาลบนน้ำตาลไปในบัดดล ที่อยู่ของ “กล้วยแขก” นี่ก็เป็นเรื่องอาภัพอีกเรื่องหนึ่ง เพื่อนๆ “กล้วยแขก” เขามีที่อยู่ ดูดี มีฐานะ “กล้วยบวชชี” “กล้วยเชื่อม” เขาระดับ เครื่องแก้ว กระเบื้องเคลือบ ระดับสังคโลก แม้แต่เพื่อนรัก “กล้วยปิ้ง” เขายังอยู่แบบโมเดิร์น ระดับคลาสสิค เอ๊ย พลาสติค แต่ “กล้วยแขก” นี่สิ ต้องอยู่กับกระดาษเปื้อนหมึก !!! จะมีก็แต่ “ข้าวเม่าทอด” เพื่อนสนิทเท่านั้นแหละที่ชะตาชีวิตไม่ต่างกัน โดนลอยแพ แต่ข้าวเม่าทอดยังดี ยังได้อยู่เคียงข้างน้องๆพี่ๆ วันๆ “กล้วยแขก” ต้องทนอยู่กับกระดาษสีน้ำตาลเก่าๆ แถมสีหมึกเอย กลิ่นหมึกเอย อีกต่างหาก โชคมาวาสนาดีจริงๆ “กล้วยแขก” ถึงจะได้อยู่กระดาษเปล่าๆ แต่มันก็ยังเป็น กระดาษเก่าๆ อยู่ดี ! “กล้วยแขก” เคยมีความฝันนึกอยาก โกอินเตอร์ !!! อย่าง กล้วยทอด (ที่ไม่ใช่กล้วยทอดเล่นหุ้น)ญาติกันแท้ๆ แค่มีเพื่อนเป็น ไอซ์ซิ่ง เป็น ไอศครีม เขาก็ได้ขึ้นเหลา ขึ้นเรสตัวรองต์ หรือคนบ้านใกล้เรือนเคียงกัน เจ้ามันฝรั่ง พอเปลี่ยนชื่อเสียงเรียงนามเป็น French fried เท่านั้นแหละ มันก็ โกอินเตอร์ ไปซะแล้ว ทั้ง ผู้ใหญ่ ผู้เด็ก วัยรุ่น วัยเล็ก ชอบมันหมด เอ ! หรือว่า “กล้วยแขก”จะเปลี่ยนชื่อดีไหม ? จะเขียนชื่อ “กล้วยแขก” เป็นภาษาอังกฤษ ไอ้คำว่า “กล้วยแขก”เนี่ยเขียนเป็นภาษาอังกฤษมันช่างยากเย็นซะเหลือเกิน แถมเผลอๆอาจอ่านผิดก็อาจเป็นได้ หรือจะเป็น Indian banana ก็ออกยาวไปหน่อย จะ banana guest ก็ดูทะแม่งๆ ยังไงชอบกล คิดแค่ชื่อ วาสนา “กล้วยแขก” เห็นทีจะไม่รุ่งเป็นแน่ โอว์ “กล้วยแขก”ไม่นึกเลยว่าชะตาชีวิตจะตกต่ำถึงเพียงนี้ ตอนนี้อย่าว่าจะโกอินเตอร์เลย เอาแค่ให้รอดจากคุกจากตารางก็แทบจะไม่ไหวแล้ว ก็จะอะไรอีกเล่า เดิมที “กล้วยแขก” เป็นต่างด้าวใครๆเขาก็ว่าอย่างนั้น แต่ก็ยังดีที่พอมีงาน มีที่อยู่พอประทังชีวิตไปวันๆ แต่มาตอนนี้ “กล้วยแขก” ต้องกลายเป็นคนเถื่อน ทำผิดกฏหมาย !!! โดนเจ้านายทั้งบีบทั้งบังคับให้ทำผิดกฏหมาย กล้วยแขกต้องออกหากินตามท้องถนน ใครๆก็รู้กันดีอยู่ว่า ถนน เขามีให้รถวิ่ง ที่สาธารณะเขาห้ามไม่ให้ค้าขาย แล้วมันอะไรกันล่ะเนี่ย อนาคต “กล้วยแขก” จะเป็นอย่างไรกัน “กล้วยแขก” ที่ชะตาชีวิตตกต่ำจนต้องทำผิดกฏหมาย เร่ขายตัว (เอง) ตามสี่แยก ชีวิตกล้วยแขก โดย...สถาปนิกต่างดาวกว๊ากกกกกก.....ก๊ะ ทำผมฮาแต่เช้าเรย เฮอๆ
อ้างจาก: Bangmud ที่ พ.ย. 09, 2009, 03:48 PM salamลองคำถามจากผู้อาวุโสบ้าง ทำไมบ้างท้องถิ่นจึงเรียก กล้วยทอด ว่า กล้วยแขก“กล้วยแขก” เศร้าและไม่เข้าใจจริงๆว่า ทำไม “กล้วยแขก”ต้องทำผิดกฏหมาย “กล้วยแขก” น้อยใจในชีวิตของตัวเองเหลือเกิน ตั้งแต่เกิดมา จำความได้ก็โดนล้อเลียนมาตลอดว่า เป็นลูกต่างด้าว บ้าง เป็นลูกไม่มีพ่อไม่มีแม่ บ้าง “กล้วยแขก” ไม่รู้จริงๆว่า พ่อแม่เป็นใคร? อยู่ที่ไหน? รู้แต่ว่าเกิดมาเป็นตัวเป็นตน ทุกคนเขาก็เรียกตนเองว่ากล้วยแขกแล้ว ลุงถนัดข้างบ้านบอกว่าพ่อแม่กล้วยแขกเป็นแขกอินโดนีเซีย ส่วนน้าหมึกบอกว่าเป็นแขกมาเลย์ติดๆกับไทยนี่เอง แต่ป้ายิ่งบอกว่าน่าจะเป็นแขกอินเดียซะมากกว่า ถึงจะบอกไม่ตรงกัน แต่สรุปความแล้ว “กล้วยแขก”นั้น เป็นแขกแน่นอน !!! แค่ชื่อ “กล้วยแขก” ก็บอกอยู่โทนโท่ แต่กล้วยแขกคิดว่ากล้วยแขกเป็นไทย กล้วยแขกไม่อยากเป็นแขก ชีวิต “กล้วยแขก” ช่างอาภัพยิ่งนัก วนเวียน ซ้ำซากเป็นวัฏจักรน่าเบื่อหน่าย เกิดมาโดยไม่รู้จักพ่อแม่ก็หนักหนาแล้ว ซ้ำร้าย ให้มาพลัดพรากจากพี่จากน้องอีก ๓-๔ ชีวิตที่เคยเป็นหนึ่งเดียวต้องมาแยกจาก ประดุจโดนคมมีดกรีดฝานตามแนวยาว !!! วันๆชีวิต “กล้วยแขก” ต้องทำงานคลุกแป้งมอมแมม แถมต้องผจญกับน้ำมันอันร้อนระอุ เจอกันซ้ำแล้วซ้ำอีก จนเอียนหน้ากันทั้งคู่ ชุดเก่งของ “กล้วยแขก” มีอยู่ชุดเดียว เป็นชุดไวท์ออนไวท์ ก็ชุดประแป้งขาววอก แถมผสมขาวมะพร้าวขูดเข้าไปอีก ทำให้ขาวไปทั้งตัว เมื่อก่อนกล้วยแขกมักจะเหยาะน้ำปูนใสใส่เหมือนกับคนใส่น้ำหอมเพื่อความดึงดูดใจ แต่กล้วยแขกคิดคำเองแทนดึงดูดว่าเพื่อความ “กรอบ” ใครถามว่าใส่ทำไม “กล้วยแขก”ก็จะตอบว่า “มันกรอบดี” แต่เพื่อนๆ “กล้วยแขก”เขาว่าน้ำปูนใสมันเชย จะทันสมัยเขาใส่ผงฟูกัน นัยว่า “ มันฟูดี” และวันไหนอารมณ์ดีๆ “กล้วยแขก”จะประดับอาภรณ์ด้วยงาขาวให้มันเท่ขึ้นไปอีก แต่อนิจจาชุดเก่งของ “กล้วยแขก” ก็ขาวอยู่ได้ประเดี๋ยวเดียว ก็งานของ “กล้วยแขก” ต้องลงไปผจญกับน้ำมันซ้ำซาก จากชุดไวท์ออนไวท์ก็กลายเป็นสีน้ำตาลบนน้ำตาลไปในบัดดล ที่อยู่ของ “กล้วยแขก” นี่ก็เป็นเรื่องอาภัพอีกเรื่องหนึ่ง เพื่อนๆ “กล้วยแขก” เขามีที่อยู่ ดูดี มีฐานะ “กล้วยบวชชี” “กล้วยเชื่อม” เขาระดับ เครื่องแก้ว กระเบื้องเคลือบ ระดับสังคโลก แม้แต่เพื่อนรัก “กล้วยปิ้ง” เขายังอยู่แบบโมเดิร์น ระดับคลาสสิค เอ๊ย พลาสติค แต่ “กล้วยแขก” นี่สิ ต้องอยู่กับกระดาษเปื้อนหมึก !!! จะมีก็แต่ “ข้าวเม่าทอด” เพื่อนสนิทเท่านั้นแหละที่ชะตาชีวิตไม่ต่างกัน โดนลอยแพ แต่ข้าวเม่าทอดยังดี ยังได้อยู่เคียงข้างน้องๆพี่ๆ วันๆ “กล้วยแขก” ต้องทนอยู่กับกระดาษสีน้ำตาลเก่าๆ แถมสีหมึกเอย กลิ่นหมึกเอย อีกต่างหาก โชคมาวาสนาดีจริงๆ “กล้วยแขก” ถึงจะได้อยู่กระดาษเปล่าๆ แต่มันก็ยังเป็น กระดาษเก่าๆ อยู่ดี ! “กล้วยแขก” เคยมีความฝันนึกอยาก โกอินเตอร์ !!! อย่าง กล้วยทอด (ที่ไม่ใช่กล้วยทอดเล่นหุ้น)ญาติกันแท้ๆ แค่มีเพื่อนเป็น ไอซ์ซิ่ง เป็น ไอศครีม เขาก็ได้ขึ้นเหลา ขึ้นเรสตัวรองต์ หรือคนบ้านใกล้เรือนเคียงกัน เจ้ามันฝรั่ง พอเปลี่ยนชื่อเสียงเรียงนามเป็น French fried เท่านั้นแหละ มันก็ โกอินเตอร์ ไปซะแล้ว ทั้ง ผู้ใหญ่ ผู้เด็ก วัยรุ่น วัยเล็ก ชอบมันหมด เอ ! หรือว่า “กล้วยแขก”จะเปลี่ยนชื่อดีไหม ? จะเขียนชื่อ “กล้วยแขก” เป็นภาษาอังกฤษ ไอ้คำว่า “กล้วยแขก”เนี่ยเขียนเป็นภาษาอังกฤษมันช่างยากเย็นซะเหลือเกิน แถมเผลอๆอาจอ่านผิดก็อาจเป็นได้ หรือจะเป็น Indian banana ก็ออกยาวไปหน่อย จะ banana guest ก็ดูทะแม่งๆ ยังไงชอบกล คิดแค่ชื่อ วาสนา “กล้วยแขก” เห็นทีจะไม่รุ่งเป็นแน่ โอว์ “กล้วยแขก”ไม่นึกเลยว่าชะตาชีวิตจะตกต่ำถึงเพียงนี้ ตอนนี้อย่าว่าจะโกอินเตอร์เลย เอาแค่ให้รอดจากคุกจากตารางก็แทบจะไม่ไหวแล้ว ก็จะอะไรอีกเล่า เดิมที “กล้วยแขก” เป็นต่างด้าวใครๆเขาก็ว่าอย่างนั้น แต่ก็ยังดีที่พอมีงาน มีที่อยู่พอประทังชีวิตไปวันๆ แต่มาตอนนี้ “กล้วยแขก” ต้องกลายเป็นคนเถื่อน ทำผิดกฏหมาย !!! โดนเจ้านายทั้งบีบทั้งบังคับให้ทำผิดกฏหมาย กล้วยแขกต้องออกหากินตามท้องถนน ใครๆก็รู้กันดีอยู่ว่า ถนน เขามีให้รถวิ่ง ที่สาธารณะเขาห้ามไม่ให้ค้าขาย แล้วมันอะไรกันล่ะเนี่ย อนาคต “กล้วยแขก” จะเป็นอย่างไรกัน “กล้วยแขก” ที่ชะตาชีวิตตกต่ำจนต้องทำผิดกฏหมาย เร่ขายตัว (เอง) ตามสี่แยก ชีวิตกล้วยแขก โดย...สถาปนิกต่างดาว
ดูเหมือนกันครับแต่ของผม เขาพาไปกินกล้วยแขกที่กัมพูชาสงสัย คุณไตรภพ เขาทำ 2 รายการ
รณรงค์ไม่อ้างอิงข้อความยาวๆซ้ำๆ
มาอัฟด้วยค๊าบพี่น้องผมยังใหม่อยู่
เวลาที่เราปัสสาวะทำไมถึงต้องขนลุก?
1. Autonomic Imbalance 2. เป็นกามโรค มันเจ็บ 3. ถ้าปวดปัสสาวะมาก ๆ แล้วหาที่ระบายไม่ได้ ขนก็ลุกคือกัน