คำสั่งใช้แก่บรรดาบนีอิสรออีล

[Muftee]

Tweet

يبني إسرائيل اذكروا نعمتي التي أنعمت عليكم وأوفوا بعهدي أوف بعهدكم وإيي فارهبون

“วงศ์วานอิสรออีลเอ๋ย ! จงรำลึกถึงความโปรดปรานของข้า ที่ข้าได้โปรดปานแก่พวกเจ้า  และจงรักษาข้อสัญญาของข้าให้ครบถ้วน ข้าก็จะรักษาสัญญาของพวกเจ้าให้ครบถ้วน และเฉพาะข้าเท่านั้น พวกเจ้าจงเกรงกลัว"  ซูเราะฮฺ  อัล-บะเกาะเราะฮฺ  อายะฮฺที่ 40


وءامنوا بمآ أنزلت مصدقا لما معكم ولا تكونوا أول كافربه ولا تشتروا بئايتى ثمنا قليلا وإيى فاتقون

“และพวกเจ้าจงศรัทธาต่อสิ่งที่ข้าได้ให้ลงมาเพื่อยืนยันสิ่งทีมีอยู่กับพวกเจ้า และพวกเจ้าจงอย่าเป็นผู้ปฏิเสธศรัทธาต่อสิ่งนั้นเป็นคนแรก และจงอย่าได้นำโองการของข้าไปแลกเปลี่ยนกับราคาอันเล็กน้อย และเฉาะข้าเท่านั้น พวกเจ้าจงยำเกรงฯ"   ซูเราะฮฺ  อัล-บะเกาะเราะฮฺ  อายะฮฺที่ 41


เป็นคำสั่งแด่บนีอิสรออีลให้ขอบคุณในความโปรดปรานของพระองค์

ในโองการที่ 40 นี้ อัลลอฮฺทรงมีคำสั่งแก่บรรดาบนีอิสรออีล ( คำว่า “อิสรออีล” เป็นสมญานามของ นบียะอฺกูบ บุตร นบีอิสหาก  บุตร นบีอิบรอฮีม  ซึ่งหมายถึง บ่าวของอัลอฮฺ หรือความบริสุทธิ์แห่งอัลลอฮฺ หรือผู้นำแห่งนักต่อสู้ ) เพื่อให้รำลึกและขอบคุณในความโปรดปราน (นิอฺมัต) ของอัลลอฮฺ ที่ทรงประทานแก่บรรพบุรุษของพวกเขา 

ในโองการนี้ไม่ได้ระบุถึงประเภทของความโปรดปราน (นิอฺมัต) ที่ทรงประทานแก่บรรพบุรุษของพวกเขา  ว่าเป็นอะไร  แต่นักอรรถาธิบายอัลกุรอาน มีความเห็นตรงกันว่า  “นิอฺมัต” ตรงนี้หมายถึง การเป็นนบีของบรรพบุรุษของพวกเขาที่สืบทอดกันมาช้านานหลายชั่วอายุคนนั่นเอง นับตั้งแต่นบีอิบรอฮีม อะลัยฮิสสลาม จนกระทั่งถึงนบีอีซา อะลัยฮิสสลาม 

ส่วนสาเหตุสำคัญอีกประการหนึ่ง เป็นคำสั่งให้ขอบคุณในความโปรดปรานของอัลลอฮฺ คือ สามารถนำความเชื่อของพวกเขาให้ยอมรับในนบีมุหัมมัด (ซ.ล.) ด้วย  และต้องลบความรู้สึกชาตินิยมที่ว่า “นบีจะต้องมาจากวงศ์วานของอิสรออีล” เท่านั้น เพราะว่านบีนั้นไม่ใช่แค่มาจากบนีอิสรออีลเท่านั้น  แต่ยังมาจากชนชาติอาหรับด้วย คือ นบีอิสมาอีล อะลัยฮิสสลาม  และท่านนบีมุหัมมัด (ซ.ล.)  นั้นคือ เชื้อสายเดียวกันกับพวกเขาด้วยเช่นกัน  คือ เป็นลูกหลานของท่านนบีอิบรอฮีมด้วนกันทั้งคู่ 


เป็นคำสั่งเพื่อให้รักษาคำมั่นสัญญา

บนีอิสรออีล จำเป็นจำต้องรักษาคำมั่นสัญญาของอัลลอฮฺอย่างครบถ้วน  คือ...

1.  สัญญาทางความคิด  คือ ใช้ความคิดและเปรียบเทียบด้วยกับปัญญาที่เป็นกลางต่อจักรวาลและแวดล้อมรอบตัว เพื่อนำไปสู่การรู้จักผู้สร้างโดยแท้จริง  นั่นคือ อัลลอฮฺตะอาลา

2.  เป็นสัญญาทางศาสนา  คือ ทำตนให้เป็นบ่าวและมีความนอบน้อมสักการะต่ออัลลอฮฺเพียงพระองค์เดียว ปฏิบัติตามหุก่มของอัลลอฮฺอย่างเคร่งครัดและศรัทธาต่อคำสอนของศาสนทูต ที่ถูกส่งมาอย่างไม่ลังเล  ซึ่งคำมั่นสัญญาเหล่านั้นมิได้หยุดอยู่แค่บุตรหลานของบนีอิสรออีลอย่างเดียว  หากแต่รวมไปถึงมนุษย์ทุกหมู่เหล่าด้วย  แต่ชาวยะฮูดีและนะศอรอ นั้น กลับไม่ยอมเชื่อในตัวของท่านนบีมุหัมมัด (ซ.ล.)  กลัวว่าตนเองจะหมดความน่าเชื่อถือจากผู้ใหญ่ของพวกเขาและกลัวว่าตนเองจะถูกปลดจากตำแหน่งที่ได้รับ นั่นเอง