ส่วนคุนโด่ โด่ นั้น เป็นคนสนทนาที่ค่อนข้างน่ารัก งั้นผมขอเสวนาด้วย คือ ที่คุนกล่าวมาทั้งหมดก็ถูกต้อง
แต่รู้รึเปล่าว่าในเนื้อปลาก็มีพยาธิหลายตัว ถ้าเรากินโดยสุกๆดิบๆมันก็อันตรายนะ ถ้าตามที่คุนว่านั้น ก็จะกลายเป็นปลาย่างฮารอม (รึเปล่า)
แม้แต่ผิวของเราก็มีเชื้อโรคไม่รู้กี่ล้านตัว และที่คุนบอกว่าครอบคลุมนั้น ผมก็เห็นด้วยถ้าทุกคนรู้ว่าอะไรสกปรกอะไรสะอาด อะไรดีไม่ดี
อัสลามุอะลัยกุมค่ะคุณสน
อัลฮัมดุลิลลาฮฺ
ในสิ่งที่ว่าดีนั้นมีสิ่งที่ดีกว่า และในสิ่งที่ดีกว่าก็มีสิ่งที่ดีกว่าอีก
และในสิ่งที่ไม่ดีก็มีสิ่งที่ไม่ดีกว่า และในสิ่งที่ไม่ดีกว่าก็มีสิ่งที่ไม่ดีกว่าอีก
ปลานั้นมีพยาธิค่ะ นั่นคือปัญหาที่เราต้องมาเรียนรูุ้วิธีปรุงให้ถูกสุขลักษณะไงล่ะคะ
คุณแม่บ้านเขาก็พยายามเรียนรู้กันอยู่ค่ะ แล้วแต่ใครจะพิถีพิถันมากน้อยแค่ไหน
ส่วนเรื่องจะถูกปากคนทานทุกคนหรือเปล่านั้นมันก็อีกระดับนึงค่ะ...
และเพราะคำว่าพิถีพิถันมันนี่แหล่ะค่ะ ถึงทำให้บางคนเลือกทำอาหารทานเองที่บ้าน
บางคนไม่ไว้ใจตัวเองก็ต้องให้คนอื่นทำให้ เพราะไม่รู้จะทำยังไง
ให้ถูกสุขลักษณะและปลอดภัย การทำอาหารจึงเป็นศาสตร์ที่ต้องเรียนรู้ค่ะ
เพื่อปากท้องของเราและคนที่เรารัก...
เรื่องปลาดิบอันนี้คุณสนถามได้โดนคนที่อยู่แดนปลาดิบอย่างข้าน้อยพอดิบพอดี
ปกติจะทำอาหารทานเองค่ะ...วันไหนไม่อยากทำอะไร ก็ไข่ต้ม...

แต่เวลาต้องไปทานอาหารหรือออกสังคมกับชาวบ้านเขาบ้างนั้น
มันก็ต้องออกไปทานข้างนอก...คราวนี้เราก็ต้องมองหาแล้วล่ะค่ะ
ว่าในร้านอาหารพันๆร้านที่เรียงหน้ามาให้เราเลือกนั้น
เราจะเข้าร้านไหน...90%ที่มาให้เลือก...มีเมนูหมูอยู่ในร้านทั้งนั้นค่ะ...
อย่าได้คิดหาร้านอาหารที่มุสลิมทำหรือมีตราฮาลาลในแดนปลาดิบเลยค่ะ...
เพราะมันเหมือนงมเข็มในมหาสมุทร เอาแค่ไม่มีเมนูหมูอยู่ในร้าน
ก็หากันเป็นชั่วโมงๆแล้วค่ะ...และทางเลือกที่เข้ามาหาประจำก็คงหนีไม่พ้น
"ร้านซูชิ" ของดิบทั้งร้าน(ไม่มีหมู)...แต่มันก็ไม่ร้ายเท่าหมู เพราะเรารู้มาแล้ว
ทั้งจากอัลกุรอาน อัลหะดิษและจากการศึกษาการกินและวิถีชีวิตของหมู
เลยคิดว่า...กินของดิบคงไม่อันตรายเท่ากินหมูมั้ง(มีตัวเลือกเยอะก็จริง แต่จริงๆ
แทบเลือกไม่ได้ค่ะ...จะกลับไปกินอาหารฝีมือแม่ที่ไทยก็ไม่ได้...เลือกมาญี่ปุ่นเองนิ)
..และเพราะว่าศึกษามาพร้อมๆกับการสังเกตการณ์เช่นกันว่า
คนญี่ปุ่นกินปลาดิบแล้วพยาธิมันหายไปอยู่ที่ไหนกัน...
ผลงานวิจัยของเขาบอกว่า...ปลาหรือสัตว์ในน้ำทะเลลึกๆ(ย้ำว่าต้องลึกๆค่ะ)
จะไม่มีพยาธิ(สะอาด)ค่ะ...เราก็เลยเบาใจกับการกินของแปลกในแดนปลาดิบ...
(แปลกของเรา แต่สำหรับเขานั้นไม่แปลกนะคะ)
และแล้วอัลลอฮฺก็เมตตาข้าน้อย...ทำให้ข้าน้อยรู้ซึ้งถึงคำว่ามนุษย์เพิ่มขึ้นอีกหนึ่งข้อ
ปลาในน้ำทะเลลึกน่ะ ไม่มีพยาธิก็จริงค่ะ(เห็นเขาวิจัยกัน)...
แต่ปลาที่เขาเอามาให้เรากินในร้านนั้นมันมาจากทะเลลึกทั้งหมด
จริงๆหรืออออออออออ...ก็ตอนนั้นดันแอบเห็นชื่อประเทศที่เขานำเข้าปลาซาลมอน
มาก็เท่านั้นค่ะ แค่นั้นเอง...ก็เลยได้เวลาบอกลาซูชิปลาดิบ...

ใช่ค่ะ...ชีวิตเราเราจะเลือก...เลือกแล้วเลือกอีก เลือกมันอยู่นั่นแหล่ะค่ะ
จะเลือกไปจนตาย...ซึ่งอัลลอฮฺย่อมรู้แล้วในสิ่งที่เราเลือก...
บางครั้งการทำอาหารกินเอง กินก็กินคนเดียว จะกินอะไรก็ไม่น่าจะเป็นไร
ไม่มีใคร(คน)เห็นว่าเรากินอะไร ก็เราทำกินที่บ้านเราเอง ปรุงก็ปรุงเอง
ฝีมือเราเองทั้งนั้น...จะแปลกอะไรถ้าเราอยากกินของแปลกบ้าง...
ก็ไม่มีใครเห็นสักคน...เขาจะมาว่าอะไรเราได้...ใครจะรู้...

แต่หากมีเพื่อนมาร่วมด้วย ก็คงต้องพิถีพิถันเพิ่มขึ้นอีกนิด
ไม่ใช่แค่ชีวิตเราคนเดียวแล้ว...
จะรักใครสักกี่คนก็รักไปเถอะค่ะ...จะพิถีพิถันทำเพื่อใครก็ทำไปเถอะค่ะ
แต่อย่าลืมรักตัวเองบ้างก็พอค่ะ...
ให้สิ่งดีๆแก่คนอื่นได้ พิถีพิถันเพื่อคนอื่นได้...แล้วทำไมกับตัวเราเอง
เราจึงไม่ทำเพื่อมันบ้างล่ะคะ...
บางครั้งเราอาจไม่ต้องไปฝึกปรือความรักกับใครที่ไหน
หรือกับสาวใดเลย...แค่ฝึกรักตัวเองวันละนิดวันละน้อย
แล้วค่อยๆมองหาสิ่งดีๆให้กับมันเรื่อยๆ...
ความรักทำให้คนละเอียดขึ้น ปราณีตและพิถีพิถันมากขึ้น...
สิ่งดีๆทั้งหลายก็จะตามมา...และสักวัน เราอาจจะรู้เองว่า
เวลาความรักมันบานในใจนั้น...คนที่มีความสุขที่สุดก็ไม่ใช่ใครอื่นเลยค่ะ...
ตัวเราและคนที่อยู่รอบๆตัวเรานั่นเองค่ะ...
หวังว่าคุณสนจะเข้าใจในสิ่งที่ข้าน้อยนำมาเล่าสู่กันฟังนะคะ
ปล.ที่ชอบเอาเรื่องของตัวเองมาเล่ามาอ้างเป็นส่วนใหญ่นั้น...ก็เนื่องจาก
ตัวเราเรารู้ดีกว่าใคร...เรื่องของเราเราจึงเล่าได้อย่างสบายใจที่สุดน่ะค่ะ
สุดท้าย:การที่เรารักใครหรือรักสิ่งไหน(ไม่ว่าจะเป็นรักแบบใด)
ที่เรายอมทำไปทั้งหมด เรายอมทำเพราะว่าจำนนต่อความรัก
หรือว่าเรายอมทำเพราะจำใจ...
...ประสบการณ์ที่เกิดขึ้นไม่สำคัญ...
...ทัศนคติของคุณที่มีต่อประสบการณ์ต่างหากที่สำคัญ...
ผิดพลาดประการใด อภัยให้ด้วยนะคะ
วัสลามุอะลัยกุมค่ะ
^___________^