ผู้เขียน หัวข้อ: การเผยแผ่และการเข้ารับอิสลามในประเทศญี่ปุ่น  (อ่าน 46346 ครั้ง)

0 สมาชิก และ 1 บุคคลทั่วไป กำลังดูหัวข้อนี้

ออฟไลน์ nada-yoru

  • เพื่อนรัก (6_6)
  • *****
  • กระทู้: 4010
  • เพศ: หญิง
  • แสงและเงา
  • Respect: +134
    • ดูรายละเอียด

 salam

    ขอเกริ่นนำก่อนค่ะว่า...กระทู้ตั้งขึ้นเพื่อนำเสนอบทความและข่าวสาร
ที่เกี่ยวกับการเผยแผ่ศาสนาอิสลามในประเทศญี่ปุ่นจากอดีตจนถึงปัจจุบัน
และการเข้ารับอิสลามของชาวญี่ปุ่นตามความสามารถของผู้นำเสนอ
(อินชาอัลลอฮฺ)เพื่อให้พี่น้องในเวบแห่งนี้และผู้ที่เข้ามาศึกษา
ได้รับรู้ความเป็นไปของพี่น้องอีกฟากหนึ่งว่าเขามีชีวิตความเป็นอยู่อย่างไร
แล้วเหตุใดชาวญี่ปุ่นเขาจึงเข้ารับอิสลาม พร้อมทั้งชีวิตความเป็นอยู่
ของมุสลิมชาวต่างชาติที่มาอาศัยอยู่ในประเทศญี่ปุ่นค่ะ

ซึ่งผู้นำเสนอเองนั้นมิได้เก่งในด้านภาษาญี่ปุ่นและภาษาไทยมากนัก
แต่จะพยายามทำเท่าที่ความสามารถตามที่อัลลอฮฺ ซุบฮานาฮุวะตาอาลา
ทรงประทานให้มา...อินชาอัลลอฮฺ




 
"และข้ามิได้สร้างญิน และมนุษย์เพื่ออื่นใด เว้นแต่เพื่อเคารพภักดีต่อข้า"

(ซูเราะฮฺ อัซซาริยาต อายะอฺที่ 56)

ออฟไลน์ nada-yoru

  • เพื่อนรัก (6_6)
  • *****
  • กระทู้: 4010
  • เพศ: หญิง
  • แสงและเงา
  • Respect: +134
    • ดูรายละเอียด
       

                       มุสลิมใหม่ชาวญี่ปุ่น
                  Japanese Muslim praises his religion


โดย Yasunori Kawakami, Asahi
แปลโดย วาริษาฮ์ อัมรีล
http://www.newmuslimthailand.com/main/index.php

   สำหรับชายญี่ปุ่นวัยกลาง 30 ที่ไม่มีประสบการณ์ด้านวิศวกรรมคอมพิวเตอร์
มาก่อนเลยอย่าง อิบราฮิม (เคน) โอกุโบ (Ibrahim Ken Okubo) แล้ว
การเริ่มงานอาชีพใหม่เป็นวิศวกรระบบนี้ช่างยากเย็นแสนเข็ญเสียจริง

โอกุโบผ่านการสัมภาษณ์ถึง 35 แห่งในช่วง 6 เดือนกว่าจะได้งานทำ

ระหว่างนั้น มุสลิมใหม่ชาวญี่ปุ่นคนนี้ได้รับการสนับสนุนจากมุสลิมต่างชาติ
ที่เขาเจอที่มัสยิด มุสลิมต่างชาติเหล่านี้ช่วยโอกุโบเท่าที่จะทำได้
บางคนก็แนะนำงานใหม่ให้

"ในอิสลาม เป็นพระประสงค์ของพระเจ้าที่ให้มุสลิมช่วยเหลือคนที่ประสบทุกข์ยาก
ชาวมุสลิมเหล่านี้ไม่ได้ต้องการอะไรจากผมเป็นการแลกเปลี่ยน
ผิดกับประเพณีปฏิบัติของชาวญี่ปุ่น"
โอกุโบกล่าว

"ความคิดของชาวมุสลิมก็คือ เมื่อเราช่วยคนอื่น พระเจ้าก็จะประทานรางวัล
ให้เราเอง ในขณะที่ชาวญี่ปุ่นมักคิดว่าตัวเองไม่มีใคร
เมื่อเจอความทุกข์ไม่รู้จะหันไปหาใคร"


ช่วงอายุ 20 ปีโอกุโบให้ความสนใจกับวัฒนธรรมต่างชาติ
เขาเริ่มเข้าเรียนวิชาภาษาอารบิกที่อิสลามมิกเซ็นเตอร์ญี่ปุ่นที่ย่านเซตากายา
กรุงโตเกียว

ในที่สุดเขาได้พบกับกลุ่มจามาอาตับลีก มิชชันนารีเผยแพร่อิสลามจากปากีสถาน

"ผมรู้สึกประทับใจกับความตั้งอกตั้งใจของพวกเขาในขณะที่ละหมาด
กราบไหว้พระเจ้า และความมีไมตรีจิตของพวกเขา"
โอกุโบกล่าว

จากนั้นเขารับอิสลามและใช้ชีวิตในปากีสถาน 4 เดือนเต็ม
เพื่อเดินทางเผยแพร่ศาสนา


ในปัจจุบัน มีมัสยิด 7 แห่งในญี่ปุ่นที่เป็นของพวกจามาอาตับลีก
โอกุโบเป็นหนึ่งในชาวญี่ปุ่นไม่กี่คนที่อยู่ในกลุ่มนี้

ตอนนี้โอกุโบอายุ 41 แล้ว ทำงานเป็นวิศวกรระบบในโตเกียว
เขาเป็นที่รู้จักดีของชาวปากีสถาน บังกลาเทศ และมุสลิมต่างชาติที่อาศัยในญี่ปุ่น

ตอนโอกุโบเข้าทำงานวันแรก เขาบอกหัวหน้างานว่าเนื่องจากเขาเป็นมุสลิม
ดังนั้นจึงจะไม่ออกไปดื่มเหล้าหลังเลิกงาน และต้องละหมาดในช่วงเวลางาน
หัวหน้าเขาโอเค โอกุโบเลยละหมาดสองหนในช่วงบ่ายที่ห้องกิจกรรมพนักงานบริษัท

ความสัมพันธ์ของชาวมุสลิมต่างชาติกับชาวญี่ปุ่นค่อนข้างมีจำกัด
แต่ก็เริ่มมีมากขึ้นในที่ทำงาน ซึ่งเมื่อชาวญี่ปุ่นได้รู้จักชาวมุสลิมแล้ว
พวกเขามักรู้สึกว่าชาวมุสลิมเป็นพวกที่ใจคอมั่นคง ยอมรับในพระประสงค์ของพระเจ้า
ซึ่งเป็นแรงบันดาลใจให้ชาวญี่ปุ่นจำนวนมากหันมารับอิสลาม

ฮิโรมาซา โอกาวารา, พนักงานบริษัทวัย 35 จากไซตามะ,
ได้รู้จักกับชาวมุสลิมตอนเรียนจบไฮสกูล เขาเข้าทำงานในบริษัทการพิมพ์
และได้เจอกับเพื่อนร่วมงานชาวปากีสถาน ต่อมาโอกาวาราก็รู้สึกทึ่ง
ในการใช้ชีวิตของเพื่อนคนนี้

"เขาเป็นคนที่เข้มแข็งมาก และมองโลกในแง่ดีเสมอ" โอกาวารากล่าว

โอกาวาราคบกับเขาเป็นเพื่อน ช่วยดูแลลูกให้หรือไม่ก็เป็นเพื่อนช้อปปิ้ง
จนท้ายที่สุดก็มากลายเป็นศิษย์

โอกาวาราหันมารับอิสลามเมื่อ 8 ปีก่อน

"ทุกวันนี้ ในญี่ปุ่นคนไม่ค่อยมีความอดทน เจอคนพูดไม่ถูกหูหน่อยก็โมโห
แต่ในโลกอิสลามแล้วชีวิตผ่อนคลายกว่าตั้งเยอะ"
เขากล่าว

จำนวนชาวญี่ปุ่นมุสลิมไม่แน่ชัดนัก ทางสมาคมมุสลิมญี่ปุ่นคาดว่า
น่าจะมีราว 7,000-10,000 คน ส่วนใหญ่เป็นผู้หญิงที่แต่งงาน
กับชาวมุสลิมต่างชาติที่มาทำงานในญี่ปุ่น


นัสรุลลอฮ, ชาวอินเดียนมุสลิมวัย 49, เปิดร้านขายอาหารเอเชียที่ชินจูกุ โตเกียว
และแต่งงานกับสาวญี่ปุ่นเมื่อ 16 ปีก่อน

"ชาวญี่ปุ่นเป็นคนดี แต่แคร์ความคิดเห็นของคนอื่นมากเกินไป
อย่างภรรยาผมบางครั้งก็มัวสนใจเรื่องโรงเรียนหรือไม่ก็เก็บขยะ
ทำให้เลยเวลาละหมาดไป"
นัสรุลลอฮกล่าวยิ้มๆ

จำนวนชาวมุสลิมในญี่ปุ่นเติบโตขึ้นเรื่อยๆ พวกเขาเป็นนักธุรกิจ
วิศวกรคอมพิวเตอร์ และผู้เชี่ยวชาญ
การที่ชาวญี่ปุ่นเข้าใจอิสลามจะเป็นกุญแจสำคัญ
ในความก้าวหน้าในด้านการเมืองระหว่างประเทศของญี่ปุ่นด้วย


ที่มา: Japanese Muslim praises his religion. Asahi: Japan. 5 April 2007.
http://www.asahi.com/english/Herald-asahi/TKY200705040048.html

« แก้ไขครั้งสุดท้าย: ต.ค. 15, 2009, 01:07 PM โดย nada-yoru »
"และข้ามิได้สร้างญิน และมนุษย์เพื่ออื่นใด เว้นแต่เพื่อเคารพภักดีต่อข้า"

(ซูเราะฮฺ อัซซาริยาต อายะอฺที่ 56)

ออฟไลน์ nada-yoru

  • เพื่อนรัก (6_6)
  • *****
  • กระทู้: 4010
  • เพศ: หญิง
  • แสงและเงา
  • Respect: +134
    • ดูรายละเอียด

อัสลามุอลัยกุม

    เพิ่งกลับจากนากาซาคิ มีเรื่องมาเล่าสู่กันฟัง อัลฮัมดุลลิ้ลลอฮ์

ก่อนไปก็สองจิตสองใจ เพื่อนที่ไม่ใช่มุสลิมชวนไปเที่ยวเมืองอื่น
ที่ผ่านมาก็ไม่เคยปฏิเสธ แต่ครั้งนี้เปลี่ยนแผน ลองไปออกตับลีฆบ้าง
อัลฮัมดุลลิ้ลลอฮฺ สนุกมาก ได้แง่คิด มุมมองที่มีคุณค่าต่อศาสนาคงอธิบายไม่หมด

ได้รู้จักพี่น้องมุสลิมจากหลากหลายปรเทศ ได้รับรู้ปัญหาของเขา
และช่วยกันแนะนำแก้ไขเท่าที่เราทำได้ อย่างน้อยได้บอกให้รู้ว่า
เขาไม่ได้โดดเดี่ยว แล้วเราก็ไม่โดดเดี่ยว

ไปกัน 7 คน ส่วนใหญ่เป็นนักศึกษาที่มหาวิทยาลัยคิวชู ขับรถไปเอง
นากาซาคิอยู่ห่างจากฟูกูโอกะไปทางใต้ ประมาณ 170 กม.
เราเดินทางไปเยี่ยมนักศึกษาที่มหาวิทยาลัยนากาซาคิเป็นหลัก
ได้เจอพี่น้องจากหลากหลายชาติ ลิเบีย, อียิปต์, ซูดาน, บังคลาเทศ,
อัฟกานิสถาน เป็นต้น ทุกคนมาร่วมกับเรามาพูดคุยกันเกี่ยวกับความเป็นอยู่
วิถีชีวิต การปรับตัวเข้ากับวัฒนธรรมญี่ปุ่น และการยืนหยัดบนแนวทางอัลอิสลาม
อัลฮัมดุลิ้ลลอฮฺ พี่น้องมุสลิมที่นี่มีอีหม่านเข้มแข็ง
พวกเขารวมตัวกันละหมาดวันศุกร์ในมหาวิทยาลัย ประมาณ 35 คน
พวกเขาดีใจที่ญามาอัตเราไปเยี่ยม ทำให้รู้สึกถึงความยิ่งใหญ่
และความเป็นหนึ่งเดียว

อยากกินข้าวหมกไก่มาก ไปออกญามาอัตคราวนี้ เลยได้กินข้าวหมกทุกมื้อเลย!!!   
ไปพักที่นากาซาคิหนึ่งคืน ที่อพาร์เม็นต์ ของพีน้องมุสลิมเรา
ซึ่งอยู่ไม่ไกลจากหอพักนักศึกษา ทำให้ง่ายในการไปเยี่ยมพี่น้อง
เวลาเดินฆัสก็สนุกดีครับ ได้บรรยากาศแปลกๆ ปกติเราจะกล่าวสลามทักทายพี่น้อง
แต่ที่นี่เราทักด้วยคำว่า คอนนิจิวะ!!! เพราะรอบๆ ที่พักมีแต่ชาวญี่ปุ่น
ไม่มีบ้านมุสลิมเลย อัลฮัมดุลิ้ลลอฮฺ อามีรบอกว่า
แค่คำทักทาย จากการแต่งกาย อัคลาค ที่ชาวญี่ปุ่นเห็น
ให้เขาได้รู้ว่าอิสลามมาแล้วนะ ยังดีกว่าที่เขาไม่เคยเจอมุสลิมเลยทั้งชีวิต

เพราะส่วนใหญ่เขาจะรู้เกี่ยวกับอิสลามตามสื่อเท่านั้น
เขาไม่เคยเห็นมุสลิมตัวเป็นๆ เดินผ่านหน้าบ้าน ทักทาย ยิ้มกับเขา

อย่างไรก็ตามด้วยความอ่อนแอของเรา เราต้องพยายามเสียสละมากขึ้น
เพราะการเสียสละของเราจะดึงฮิดายัตจากอัลลอฮฺตาอาลา อามีน

วันนี้หลังละหมาดดุฮฺริได้แวะไป Peace park เป็นบริเวณจุดศูนย์กลาง
ที่ atomic bomb ถูกหย่อนลง ไปดูพิพิธภัณท์ที่เก็บเรื่องราวต่างๆ ที่เกิดขึ้น
สิงหาคม วันที่ 9 เวลา 11.02 นาฬิกา ระเบิดถูกหย่อนที่นากาซากิ
ระเบิดไม่ได้ตกถึงพื้น แต่ระเบิดกลางอากาศ 500 เมตรเหนือพื้นดิน

ดังนั้นจึงเรียกจุดศูนย์กลางบนพื้นดินว่า hypocenter ประมาณ 74,000
คนเสียชีวิตทันทีในพริบตา และอีก 74,000 คน ต้องทุกข์ทรมานจากการบาดเจ็บ
ภายในรัศมีการทำลายล้างหนึ่งกิโลเมตร ทุกสิ่งทุกอย่างถูกทำลาย 100 %

รัศมีการทำลายค่อยๆ ลดระดับลง ขยายขอบเขตไปถึง 4 กิโลเมตร ในทุกทิศทาง

อัลลอฮุอักบัร แต่วันนี้อิสลามได้ไปถึงที่ ณ ใจกลาง atomic bomb แล้ว

แต่เราเอาศาสนาของอัลลอฮ์ไปหย่อนแทนนิวเคลียร์ อินชาอัลลอฮ์
ฮิดายัตจากอัลลอฮ จะแผ่ขยายไปไกลกว่านิวเคลียร์ อามีน

วันนี้เราไปเดินฆัสที่ใจกลางที่ทิ้งนิวเคลียร์ ไปทักทายคอนนิจิวะ กับชาวญี่ปุ่น
เราได้มีโอกาสพูดคุย พูดถึงอัลลอฮฺ ให้เขารู้จัก

บางคนก็เข้ามาถาม มาพูดคุยกับเราเอง อามีรก็ไปแวะซื้อไอติม
แล้วสอนคุณป้าชาวญี่ปุ่น ให้เขากล่าวกาลีมะและแปลความหมายเป็นญี่ปุ่นให้เข้าใจ

เวลาเรากลับ เขาก็ดักรอโบกมือบายบายเรา อัลฮัมดุลิลลอฮฺ
วันนี้เราทำกันได้เท่านี้ ด้วยเวลาที่จำกัด เพราะต้องรีบเดินทางกลับมาทำงาน
ในเช้าวันจันทร์ เรายังอ่อนแอและห่างไกลจากการเสียสละของนาบี
และซอฮาบะมากมาย อินชาอัลลอฮฺเราจะพยายามมากขึ้น มากขึ้น

ไปครั้งนี้อีหม่ามฟูกูโอกะมัสยิดไปกับเราด้วย อีหม่ามเพิ่งรับอิสลามได้สองปี
แต่ด้วยความมุ่งมั่น และมั่นใจในศาสนาของอัลลอฮฺ เขาจึงยืนหยัดอย่างเข้มแข็ง

ตอนนี้มีห้าญามาอัต กำลังทำงานในญี่ปุ่นตั้งแต่เหนือจรดใต้
ได้แก่ ญามาอัตจากแอฟริกาใต้, ปากีสถาน, มาเลเซีย, ดูไบ และนิวซีแลนด์
ปลายสัปดาห์นี้ญามาอัตดูไบจะมาทำงานที่ฟูกูโอกะ อินชาอัลลอฮฺ
หากมีข้อมูลเพิ่มเติมจะมาเล่าสู่กันฟัง

โดยคุณ Ishak

จาก:http://www.muslim2world.com/board/index.php?showtopic=349&mode=threaded&pid=1869

โพสเมื่อ May 31 2009, 11:26 PM


_____________________________________

หลังจากได้อ่านบทความของคุณอิสฮากแล้วทำให้รู้สึกฮึดขึ้นมาค่ะ
เพราะถึงแม้จะอยู่กันคนละฝั่งของเกาะญี่ปุ่น
และแม้จะไม่เคยรู้จักกันเลยก็ตาม
แต่เมื่อรู้ว่า ณ แผ่นดินนี้ยังมีมุสลิมไทยและอีกหลายๆชาติ
ที่กำลังยืดหยัดต่อสู้เพื่ออิสลามอยู่ เลยทำให้อุ่นใจ
ว่าไม่ใช่แค่เราที่เดินทักทายชาวญี่ปุ่นด้วยคำว่าคอนนิจิวะ
และไม่ใช่แค่เราที่ต้องอยู่ท่ามกลางสังคมที่มักจะมองเราเหมือนที่สื่อมอง

แต่เมื่อเราอธิบายเขาก็พร้อมจะฟังและพร้อมจะทำความเข้าใจในอิสลาม
นั่นคือชาวญี่ปุ่นค่ะ...เลยคิดว่า แม้ชาวญี่ปุ่นจะพยายามปิดกั้นตัวเอง
จากสังคมภายนอก แต่เขาก็พร้อมที่จะเรียนรู้ค่ะ

ดังนั้น...การเผยแผ่สัจธรรมแห่งอัลอิสลามในประเทศนี้ดูจะไม่ยากกว่าที่คิด
และคิดว่าในอนาคตจะมีจามาอาตับลิกมาเผยแผ่อัลอิสลามให้ขยาย
กว้างไกลในประเทศนี้มากขึ้นเรื่อยๆ...อินชาอัลลอฮฺ...

แม้การอธิบายให้คนญี่ปุ่นเข้าใจเราและเข้าใจอิสลามด้วยภาษาญี่ปุ่นนั้น
ยากสักแค่ไหน แต่อิสลามนั้นง่ายสำหรับผู้มีจิตศรัทธา...
เพราะผู้เปิดใจและชี้ทางนำนั้นคือพระเจ้าผู้ยิ่งใหญ่ (อัลลอฮุอักบัร)
ส่วนตัวเรานั้นไซร้ คือบ่าวผู้ป่าวประกาศ...

วัลลอฮุอะลัม

ต่อไปจะพยายามแปลบทความมาลงให้อ่านกันเรื่อยๆนะคะ อินชาอัลลอฮฺ

วัสลามุอะลัยกุม

"และข้ามิได้สร้างญิน และมนุษย์เพื่ออื่นใด เว้นแต่เพื่อเคารพภักดีต่อข้า"

(ซูเราะฮฺ อัซซาริยาต อายะอฺที่ 56)

ออฟไลน์ Andalus

  • เพื่อนรัก (6_6)
  • *****
  • กระทู้: 1131
  • เพศ: ชาย
  • บ่าวผู้ต่ำต้อย
  • Respect: +27
    • ดูรายละเอียด
เกาหลีกับญี่ปุ่นใกล้ๆๆกันก็เอามาฝากมั่ง การเข้ารับอิสลาม

ก่อนถูกส่งไปอิรัก, ทหารเกาหลี 37 คนหันมารับอิสลาม





"ผมหันมาเป็นมุสลิมเพราะรู้สึกว่าอิสลามคำนึงถึงมนุษยธรรมและสันติภาพมากกว่าศาสนาอื่นๆ และหากคุณนำศาสนาไปเชื่อมกับคนในชุมชนแล้ว ผมว่านั่นจะเป็นการช่วยเราในการสร้างสรรค์สันติภาพในอิรักได้" ทหารเกาหลีกล่าวเมื่อวันศุกร์ที่ผ่านมา พวกเขาเปลี่ยนมารับอิสลามก่อนถูกส่งตัวไปประจำการที่เมืองเออร์บิล ทางตอนเหนือของอิรัก ซึ่งเป็นเขตของชาวเคิร์ด

ช่วงบ่ายวันศุกร์ ทหารเกาหลี 37 นายจากเหล่า "ซัยตูน" (เป็นภาษาอารบิก แปลว่า มะกอก) ซึ่งรวมทั้งนายพัน Son Hyeon-ju จากหน่วยทหารราบที่ 11 เดินทางไปที่มัสยิดฮัมนัน-ดง (Hannam-dong) ในกรุงโซล เพื่อเข้าพิธีปฏิญาณตนรับอิสลาม

กลุ่มทหาร, ซึ่งชำระล้างร่างกายตามหลักศาสนาอิสลามเรียบร้อยแล้ว, ได้ปฏิญาณตนในการละหมาดวันศุกร์ที่มัสยิด, ด้วยความช่วยเหลือของอิหม่าม

ชาวมุสลิมในกรุงโซลและเหล่าทหารยืนเข้าแถวอย่างพร้อมเพรียงกัน เพื่อแสดงความเท่าเทียมกันของมนุษย์ทุกคนต่อหน้าพระผู้เป็นเจ้า

กลุ่มทหารเกาหลีได้ปฏิญาณตนเป็นภาษาอารบิก "อัชฮาดุอัลลาอิลาฮาอิลลัลลอฮ์, วาอัชฮาดุอันนามุฮัมมาดัลรอซูลุลลอฮ์" ซึ่งมีความหมายว่า "ฉันขอปฏิญาณว่า ไม่มีพระเจ้าอื่นใดนอกจากอัลลอฮ์ และมุฮัมหมัดคือศาสนฑูตของพระองค์"



ชาวมุสลิมผู้ศรัทธาหันหน้าไปทางอัล-กะบะฮ์ เมืองเมกกะ ประเทศซาอุดิอารเบีย และยอมรับว่า "มุสลิมทุกคนเป็นพี่น้องกัน"

เนื่องจากเมืองเออร์บิลในอิรักนั้นประชากรส่วนใหญ่เป็นมุสลิม ทางเหล่ากองพัน "ซัยตูน" จึงได้ส่งทหารเกาหลีไปศึกษาอิสลามที่มัสยิดฮัมนัน-ดงก่อน ปรากฎว่าทหารหลายคนได้เปลี่ยนมารับอิสลามดังกล่าว

ทางเจ้าหน้าที่กองพันบอกว่า ทหารเกาหลีเหล่านี้ประทับใจในความเป็นปึกแผ่นของชาวมุสลิมทั่วโลก; หากคุณนับถือศาสนาเดียวกันแล้ว คุณจะไม่ถูกปฏิบัติอย่างคนต่างชาติ, ในแง่ของคนท้องถิ่นแล้ว ชาวมุสลิมจะไม่ทำร้ายสตรี แม้แต่ในช่วงสงครามก็ตาม

ปาร์ค ซง-อัก, วัย 22, จากกองพันซัยตูน, กล่าวว่า "สมัยอยู่มหาวิทยาลัยผมเรียนภาษาอารบิกเป็นวิชาเอก และเมื่อต้องอ่านอัล-กุรอาน ผมเลยสนใจในศาสนาอิสลาม ผมตัดสินใจหันมารับอิสลามตอนที่ต้องศึกษาอิสลามกับกองพันซัยตูน"

เขาเสริมว่า "หากเราถูกส่งไปอิรัก เราจะไปละหมาดและร่วมในพิธีอิสลามกับชาวมุสลิมท้องถิ่น พวกเขาก็จะรู้สึกถึงความเป็นพี่น้อง และไม่รู้สึกว่ากองทัพเกาหลีคือกองทัพที่มายึดครองดินแดนอิรัก แต่เราคือทหารที่มาช่วยเหลือพวกเขา"



"โอ้ อัลลอฮฺ ผู้ทรงทำให้จิตใจเปลี่ยนแปลงได้ ขอพระองค์ทรงให้หัวใจของฉันแน่นแฟ้นอยู่บนศาสนา(อิสลาม)ของพระองค์ด้วยเถิด "

ออฟไลน์ nada-yoru

  • เพื่อนรัก (6_6)
  • *****
  • กระทู้: 4010
  • เพศ: หญิง
  • แสงและเงา
  • Respect: +134
    • ดูรายละเอียด

ทางเจ้าหน้าที่กองพันบอกว่า ทหารเกาหลีเหล่านี้ประทับใจในความเป็นปึกแผ่นของชาวมุสลิมทั่วโลก; หากคุณนับถือศาสนาเดียวกันแล้ว คุณจะไม่ถูกปฏิบัติอย่างคนต่างชาติ, ในแง่ของคนท้องถิ่นแล้ว ชาวมุสลิมจะไม่ทำร้ายสตรี แม้แต่ในช่วงสงครามก็ตาม



 myGreat:

ชอบประโยคนี้ที่สุดค่ะ...โดยเฉพาะที่บอกว่า

"หากคุณนับถือศาสนาเดียวกันคุณจะไม่ถูกปฏิบัติอย่างคนต่างชาติ"

อันนี้ใช่เลยค่ะ...เพราะเคยไปละหมาดอีดในมัสยิดที่ญี่ปุ่น
ตอนนั้นชาติไหนเป็นชาติเราไม่รู้ เราไม่สนค่ะ เพราะทุกคนจะหันหน้าไป
ทางทิศเดียวกัน ตามอิหม่ามนำละหมาดคนเดียวกัน
ใช้ภาษาเดียวกัน...พอเสร็จพิธีเราก็ให้สลามด้วยคำเดียวกัน ด้วยการสัมผัสมือ
เรากอดกัน หอมแก้มกันทั้งๆที่ไม่เคยรู้จักกันมาก่อนได้ในวันนั้น...
เราไม่ได้ถามถึงความเป็นมาว่าใครเป็นใคร แต่เราก็ยิ้มให้กัน
(เพราะพูดกันคนละภาษา...อิอิ) ทานอาหารด้วยกัน
เป็นความรู้สึกดี ที่ไม่มีคำว่าแบ่งแยกอยู่ ณ ที่นั้นเลยค่ะ...
เป็นวันออกอีดที่อิ่มที่สุดที่เคยมีมาในชีวิตก็ว่าได้ค่ะ
(ทั้งๆที่ไม่ได้ออกอีดกับคนในครอบครัว แต่รู้สึกอิ่มจริงๆค่ะ ไม่โดดเดี่ยวเลย)...
ขนาดว่ายังไม่เคยไปละหมาดที่มัสยิดอัล-ฮะรอมยังรู้สึกดีขนาดนี้...
อินชาอัลลอฮฺ...อยากไปละหมาดกับพี่น้องทั่วโลกสักครั้งนึงในชีวิตค่ะ...อามีน...

ปล.ขอบคุณคุณenoมากเลยค่ะ ที่่ร่วมเสวนาด้วย
ทำให้ไม่วังเวงจนเกินไป hehe

ญี่ปุ่นกับเกาหลีใกล้แค่ประมาณหนึ่งชั่วโมงถึง(โดยเครื่องบิน)จริงๆค่ะ ;D
ตอนนี้เพื่อนคนเกาหลีกำลังถามเกี่ยวกับอิสลามใหญ่เลยค่ะ...
ไอ้เราความรู้เท่าหางอึ่ง ไม่รู้จะอธิบายยังไง ทำได้เท่าที่ทำได้ค่ะ
ก็ได้แต่ขอดุอาให้อัลลอฮฺทรงเปิดใจเขา...

อัลอิสลามกำลังจะแผ่ขยายขึ้นเรื่อยๆแล้วค่ะ เพราะมีผู้สนใจถามไถ่กันมากขึ้น...
อัลฮัมดุลิลลาฮฺ

วัสลามุอะลัยกุมค่ะ

« แก้ไขครั้งสุดท้าย: ต.ค. 11, 2009, 05:46 PM โดย nada-yoru »
"และข้ามิได้สร้างญิน และมนุษย์เพื่ออื่นใด เว้นแต่เพื่อเคารพภักดีต่อข้า"

(ซูเราะฮฺ อัซซาริยาต อายะอฺที่ 56)

ออฟไลน์ Tameem Addari

  • เพื่อนใหม่ (O_0)
  • *
  • กระทู้: 13
  • Once Dawah Forever Dawah...
  • Respect: 0
    • ดูรายละเอียด
 salam...

อันนี้ฟังกูซารีของคนดะวะห์มา............... hehe
ไม่แน่ใจว่าเป็นญามาอัตจากมาเลเซียหรือไทยแลนด์............. loveit:
ไปออกญามาอัตที่นู่น.....ไม่แน่ใจว่ากี่วัน................... loveit:
ไปถึงที่นู่น...มีพี่น้องมุสลิมคนหนึ่ง...เข้าใจว่าแกเข้ารับอิสลามได้ไม่นาน......... loveit:
แกคอยต้อนรับและก็ดูแลญามาอัตในทุกๆเรื่อง............ loveit:
ทีนี้....ญามาอัตจะออกไปเยี่ยมเยียนพี่น้องมุสลิมและอุมมะห์........... loveit:
แกก็รับอาสาพาไป.....แต่จุดหมายปลายทางหาใช่บ้านคนไม่............ loveit:
แต่กลับเป็นสุสานของคนญี่ปุ่น(บ่ใช่สุสานของมุสลิม)............... loveit:
ญามาอัตก็งงซิครับ....ทำไมถึงพามาที่แบบนี้............ loveit:
ทีนี้แกก็ชี้ไปที่ที่ฝังศพของพ่อแม่ตัวเอง(ไม่รู้นะว่าสุสานเขาเป็นแบบไหน).......... :-[
แล้วแกก็พูดประมาณว่า....หากพวกคุณมาเร็วกว่านี้...พ่อแม่ผมก็คงไม่ตายในสภาพกาเฟรอย่างนี้หรอก........... mycry mycry mycry

ไม่มีมุสลิมคนไหนอยากเห็นคนที่ตัวเองรักตายในสภาพกาเฟรหรอก...แม่นบ่....... sad:
ตัวเรา เวลาของเรา ทรัพย์สินของเรา ต้องพยายามให้ได้ออกในหนทางของ4JJI ......... myGreat:
เพื่อที่ว่ามันอาจเป็นอัสบ๊าบแห่งฮีดายะห์แก่อุมมะห์ทั่วโลก........ myGreat:


wassalam...
กาย ใจ ชีวิต ลมหายใจและสายเลือด มอบเป็นอิสลามพลี...

ออฟไลน์ JawhaR

  • เพื่อนรัก (6_6)
  • *****
  • กระทู้: 1303
  • Respect: +12
    • ดูรายละเอียด
นำเสนอต่อไปนะครับ
จะ ชะแว๊บเข้ามาอ่านเรื่อยๆ  ;D
I'm just a Mini Muslim and will try to be   StrongeR. Insha-Allah

ออฟไลน์ ILHAM

  • เพื่อนตาย T_T
  • *****
  • กระทู้: 11348
  • เพศ: ชาย
  • Sherlock Holmes
  • Respect: +273
    • ดูรายละเอียด
    • ILHAM
พรมมัสยิดที่เกาหลีสวยดีเนาะ
إن شاءالله ติด ENT'?everybody

Sherlock Holmes said "How often have I said to you that when you have eliminated the impossible, whatever remains, however improbable, must be the truth?"
-------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------

ออฟไลน์ Goddut

  • เพื่อนแท้ (-.^)
  • ****
  • กระทู้: 854
  • Respect: +12
    • ดูรายละเอียด
กระทู้สร้างสรรค์

ออฟไลน์ มัยซูน

  • เพื่อนสนิท (._.")
  • ***
  • กระทู้: 280
  • Respect: 0
    • ดูรายละเอียด
ผิดกับกระทู้ "แฉ" แค่ชื่อกระทู้ก็ไม่กล้าคลิกแล้ว
ใช้สองมือหนึ่งหัวใจบอกเล่ากับพระองค์ก้มหน้าลง..แล้วขอความเมตตา

ออฟไลน์ shurfuddeen

  • เพื่อนซี้ (o_O')
  • **
  • กระทู้: 74
  • Respect: 0
    • ดูรายละเอียด
salam...

อันนี้ฟังกูซารีของคนดะวะห์มา............... hehe
ไม่แน่ใจว่าเป็นญามาอัตจากมาเลเซียหรือไทยแลนด์............. loveit:
ไปออกญามาอัตที่นู่น.....ไม่แน่ใจว่ากี่วัน................... loveit:
ไปถึงที่นู่น...มีพี่น้องมุสลิมคนหนึ่ง...เข้าใจว่าแกเข้ารับอิสลามได้ไม่นาน......... loveit:
แกคอยต้อนรับและก็ดูแลญามาอัตในทุกๆเรื่อง............ loveit:
ทีนี้....ญามาอัตจะออกไปเยี่ยมเยียนพี่น้องมุสลิมและอุมมะห์........... loveit:
แกก็รับอาสาพาไป.....แต่จุดหมายปลายทางหาใช่บ้านคนไม่............ loveit:
แต่กลับเป็นสุสานของคนญี่ปุ่น(บ่ใช่สุสานของมุสลิม)............... loveit:
ญามาอัตก็งงซิครับ....ทำไมถึงพามาที่แบบนี้............ loveit:
ทีนี้แกก็ชี้ไปที่ที่ฝังศพของพ่อแม่ตัวเอง(ไม่รู้นะว่าสุสานเขาเป็นแบบไหน).......... :-[
แล้วแกก็พูดประมาณว่า....หากพวกคุณมาเร็วกว่านี้...พ่อแม่ผมก็คงไม่ตายในสภาพกาเฟรอย่างนี้หรอก........... mycry mycry mycry

ไม่มีมุสลิมคนไหนอยากเห็นคนที่ตัวเองรักตายในสภาพกาเฟรหรอก...แม่นบ่....... sad:
ตัวเรา เวลาของเรา ทรัพย์สินของเรา ต้องพยายามให้ได้ออกในหนทางของ4JJI ......... myGreat:
เพื่อที่ว่ามันอาจเป็นอัสบ๊าบแห่งฮีดายะห์แก่อุมมะห์ทั่วโลก........ myGreat:


wassalam...


ออฟไลน์ ILHAM

  • เพื่อนตาย T_T
  • *****
  • กระทู้: 11348
  • เพศ: ชาย
  • Sherlock Holmes
  • Respect: +273
    • ดูรายละเอียด
    • ILHAM
บังคนอีสานหรือนั้น
إن شاءالله ติด ENT'?everybody

Sherlock Holmes said "How often have I said to you that when you have eliminated the impossible, whatever remains, however improbable, must be the truth?"
-------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------

ออฟไลน์ nada-yoru

  • เพื่อนรัก (6_6)
  • *****
  • กระทู้: 4010
  • เพศ: หญิง
  • แสงและเงา
  • Respect: +134
    • ดูรายละเอียด
salam...


ทีนี้แกก็ชี้ไปที่ที่ฝังศพของพ่อแม่ตัวเอง(ไม่รู้นะว่าสุสานเขาเป็นแบบไหน).......... :-[
แล้วแกก็พูดประมาณว่า....หากพวกคุณมาเร็วกว่านี้...พ่อแม่ผมก็คงไม่ตายในสภาพกาเฟรอย่างนี้หรอก........... mycry mycry mycry

ไม่มีมุสลิมคนไหนอยากเห็นคนที่ตัวเองรักตายในสภาพกาเฟรหรอก...แม่นบ่....... sad:
ตัวเรา เวลาของเรา ทรัพย์สินของเรา ต้องพยายามให้ได้ออกในหนทางของ4JJI ......... myGreat:
เพื่อที่ว่ามันอาจเป็นอัสบ๊าบแห่งฮีดายะห์แก่อุมมะห์ทั่วโลก........ myGreat:


wassalam...


วะอะลัยกุมมุสลามค่ะ

คนญี่ปุ่นปกติทั่วไปเขาจะเผาที่วัดแล้วนำกระดูก(อัฐิ)ไปฝังไว้ใกล้ๆกับ
ของบรรพบุรุษค่ะ ส่วนใหญ่ก็จะอยู่บนภูเขาที่สูงๆ...
เพราะภูมิประเทศของบ้านเมืองเขามีแต่เนินเขา พื้นที่ราบมีน้อยค่ะ...

แม้มุสลิมจะมีน้อย แต่ก็จะแยกสุสานกันค่ะ...
เคยไปมา กุบูรของมุสลิม จะอยู่อีกฝั่งของเขาลูกนึงค่ะ...
หลุมฝังศพบางหลุมที่กุบูรของมุสลิมนั้น...
เห็นมีตุ๊กตาหรือสิ่งของบางอย่างอยู่บนหลุมด้วยค่ะ...

เคยคุยกับคนญี่ปุ่นที่เพิ่งเข้ารับอิสลาม เขาบอกว่าสมาชิกทั้งบ้านค้านเขา
แต่ตัวเขานั้นอยากให้คนในบ้านเข้ารับอิสลามเหมือนเขาด้วย
ไม่อยากเห็นคนในครอบครัวต้องลงนรกเลย...
กรณีคล้ายๆกับที่คุณTameem Addari บอกเล่าสู่กันฟังเช่นกันค่ะ...

คนญี่ปุ่นส่วนใหญ่จะรับรู้เรื่องอิสลามจากสื่อต่างๆ
เพราะมุสลิมตัวเป็นๆบนประเทศเขานั้นแทบไม่มีให้เห็นเท่าไหร่เลยค่ะ
นอกจากนักท่องเที่ยว นักธุรกิจและนักศึกษาชาวต่างชาติเป็นส่วนใหญ่...
เขาเลยยังไม่ได้สัมผัสกับวิถีชีวิตแบบอิสลามจริงๆน่ะค่ะ...
เลยคิดว่าการออกดะวะฮฺในประเทศนี้นั้นค่อนข้างเป็นภาระที่ยิ่งใหญ่
และหนักเอาการเลยล่ะค่ะ...

อินชาอัลลอฮฺ

เล่าสู่กันฟังค่ะ...

วัสลามุอะลัยกุมค่ะ


« แก้ไขครั้งสุดท้าย: ต.ค. 13, 2009, 05:46 PM โดย nada-yoru »
"และข้ามิได้สร้างญิน และมนุษย์เพื่ออื่นใด เว้นแต่เพื่อเคารพภักดีต่อข้า"

(ซูเราะฮฺ อัซซาริยาต อายะอฺที่ 56)

ออฟไลน์ binti

  • เพื่อนสนิท (._.")
  • ***
  • กระทู้: 261
  • Respect: +1
    • ดูรายละเอียด
เข้าใจแล้ว  ว่าทำไมอัลลอฮ์จึงประสงค์ให้โด่โด่ไปเรียนที่ญี่ปุ่น มีภารกิจรออยู่นี่เอง

เป็นกำลังใจให้งานดะวะห์สำเร็จลุล่วงไปด้วยดีนะจ๊ะ  loveit:
อัสตัฆฟิรุลลอฮัลอะซีม

ออฟไลน์ ILHAM

  • เพื่อนตาย T_T
  • *****
  • กระทู้: 11348
  • เพศ: ชาย
  • Sherlock Holmes
  • Respect: +273
    • ดูรายละเอียด
    • ILHAM
งานเข้าอย่างเลี่ยงไม่ได้ 555
إن شاءالله ติด ENT'?everybody

Sherlock Holmes said "How often have I said to you that when you have eliminated the impossible, whatever remains, however improbable, must be the truth?"
-------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------

 

GoogleTagged