salam
วันนี้ไปทำธุระที่เมืองโกเบ ซึ่งนั่งรถไฟฟ้าข้ามจังหวัดจากเกียวโต
ไปโกเบใช้เวลาราวๆเกือบชั่วโมง ผ่านโอซาก้า
และได้แวะซื้อวัสดุทำผลงานที่ Tokyu Hand ตึกนี้ขายของแทบทุกอย่าง
ขายวัสดุสำหรับผลิตผลงานมากมาย หลังจากนั้นก็แวะมัสยิด...
ได้แต่มองอยู่ข้างนอก เข้าไปไม่ได้ เพราะไม่สะดวกที่จะเข้าไป...
และแวะร้านขายของฮาลาลหน้ามัสยิดโกเบ
ได้ไก่แช่แข็งมา 2 ตัว พริกสดแช่แข็ง บะหมี่ (ตั้งแต่ได้อ่านจากบทความ
เรื่องบะหมี่จากน้องอีโน ไม่กล้าแตะบะหมี่เลยหลังจากนั้น วันนี้เลยฉกบะหมี่
ที่มีตราฮาลาลมาพร้อมด้วยเส้นหมี่มาอีกด้วย)
และยังซื้อขนุนอ่อนแช่ในน้ำกระป๋อง กะจะเอามาแกงกับไก่
(เพิ่งรู้ว่าขนุนในภาษาอังกฤษเขาเรียกว่า Jack Fruit)

และได้เครื่องแกงเผ็ดของไทยเรามาด้วย ที่ร้านนั้นมีสินค้าไทยขายด้วย
ทุกอย่างล้วนมีตราฮาลาล...พริกสดที่ว่าก็นำเข้ามาจากไทย...
น้ำกะทิสดและกะทิผงก็จากบ้านเรา...
และที่สำคัญ ได้ลูกอินทผาลัมมาด้วยหนึ่งกล่อง เอาไว้กินตอนเปิดบวช
(แต่ตอนนี้ฟาดไปหลายลูกแล้ว ชอบบบบบ) อิอิ
เจ้าของร้านน่ารักและใจดี เพราะตอนที่บอกว่ามาไกลค่ะ
ขอให้แพ้คลงถุงที่แข็งแรงให้ เพราะกลัวว่าจะขาดกลางทาง
ปรากฏว่าเจ้าของร้านยกถุงผ้าให้พร้อมรอยยิ้มพิมพ์ใจ
แถมยังให้ชิมลูกอินทผาลัม และยังแถมขนมมาให้อีก
นานๆจะพบไมตรีและรู้สึกอบอุ่นใจแบบนี้...
ปกติคนญี่ปุ่นก็ไม่ได้ใจร้ายนะคะ เพราะป้าๆที่ทำงานที่คอมพินี
หรือร้านสะดวกซื้อใกล้ๆหอ ก็แจกลูกอมให้บ่อยอยู่เหมือนกัน
เวลาไปซื้อของที่นั่น แต่ที่ต่างจากเจ้าของร้านฮาลาลคือรอยยิ้มพิมพ์ใจ
และความห่วงใย เพราะเขาแพ้คลงกระเป๋าผ้าให้อย่่างดี
กลัวว่าเราถือไปจะหนาว (เนื่องจากไก่แช่แข็ง)
เขาก็เลยซ้อนกระดาษกันหนาวกันเย็นมาให้ด้วย เราเองยังคิดไปไม่ถึง
แต่เขาละเอียดจนอดประทับใจไม่ได้...
พอเห็นเราถือของพะรุงพะรัง(เหมือนยับป้าหอบฟาง)
ก็รีบวิ่งมาช่วยเปิดประตูให้ และกล่าวสลามตบท้าย
เลยทำให้นึกถึงบรรยากาศที่บ้านเกิดขึ้นมา...
ของที่ว่าหนักก็เบาไปเลย เพราะเดินยิ้มมาตลอดทาง
ข้างๆร้านขายของฮาลาลมีร้านอาหารตุรกีด้วยค่ะ
อยากเข้าไปลองชิมรสชาติอาหารดูเหมือนกัน แต่บังเอิญว่าไปคนเดียว
ก็เลยตัดใจ เพราะว่ายังไม่เคยกินอาหารตุรกีดูเลยสักครั้ง
ไม่รู้ว่าเผ็ดรึเปล่า...

เลยรู้สึกว่าวันนี้คุ้ม ได้หลายอย่าง อย่างน้อยๆคือได้เจอพี่น้องมุสลิม
ได้ยินเสียงกล่าวสลาม มีโอกาสได้รับสลาม
และมีโอกาสได้เห็นน้ำใจ แม้จะเป็นเพียงสิ่งเล็กๆน้อยๆ
แต่บางครั้ง รอยยิ้มที่จริงใจ สายตาห่วงใย และความเอื้ออาทรเหล่านั้น
มันซึมซับเข้าสู่หัวใจได้ไม่ยากเลย เขาว่าอนุภาคเล็กๆสามารถซึมผ่าน
ร่างกายได้เร็วกว่าอนุภาคใหญ่ๆ เชื่อแล้วว่ามันใช่เลย...
เพราะอนุภาคเล็กก็จริง แต่มันมีพลัง ผ่านเข้าสู่หัวใจได้เร็ว
ทำให้ลืมหนาว ลืมหนักไปเลยค่ะ...
(เพราะวันนี้อากาศหนาว ป้าคนญี่ปุ่นที่บ้านอยู่ข้างหอพักยังบอก
ตอนเดินสวนทางกันว่าวันนี้หนาวสุดๆ ให้ระวังๆก่อนออกเดินทาง...
/คนญี่ปุ่นหลายๆคนที่เจอใจดีมากค่ะ...)

ปล.เจ้าของร้านขายของฮาลาลเป็นผู้หญิงค่ะ
(เดี๋ยวจะมีคนที่เข้ามาอ่านคิดเป็นอื่นไป) อิอิ
ดังนั้น อย่าว่าแต่ผู้ชายที่ชอบรอยยิ้มของผู้หญิงเลยค่ะ...
ผู้หญิงด้วยกันก็ชอบ และคิดว่าใครๆก็ชอบรอยยิ้มกันทั้งนั้น....
รอยยิ้มมันมีหลายแบบ แต่ที่ชื่นใจที่สุดและชอบที่สุด
คือรอยยิ้มจริงใจค่ะ...

อีกอย่างตอนไปเดินซื้อสีทาเหล็กและอุปกรณ์สำหรับทำฐาน
ของงานนิทรรศการที่ Tokyu Hand...
และได้เผลอเดินผ่านไปตรงมุมของเล่นเด็ก มีแต่ของน่ารักๆค่ะ
ตอนนั้นเครียดๆ เพราะว่าหาของที่ต้องการไม่เจอสักที
เด็กน้อยคนนึงที่กำลังเกาะขาแม่กระโดดเหยงๆอยู่
อยู่ๆก็โผล่หน้ามาจ๊ะเอ๋ซะเฉยๆ แถมยิ้มได้น่ารักส่งมาให้อีก
จากที่ว่าเครียดๆ หน้ายุ่งๆเพราะหาของที่ต้องการไม่เจออยู่
ก็หายไปเลย พอยิ้มส่งกลับไปให้ เด็กก็กระโดดดีใจ แม่เด็กก็ส่งยิ้มมาให้ด้วยค่ะ...
เสียงหัวเราะครื้นเครงเลยทีนี้
นอกจากลูกสาวสองคนของเพื่อนที่มหาลัยแล้ว นานๆทีจะได้เจอเด็กญี่ปุ่นน่ารักๆ
และกล้าส่งยิ้มให้ชาวต่างชาติอย่างเรา...
คิดถึงหลานที่บ้านเลย...

เลยรู้ว่า รอยยิ้มนี่ มีพลังได้อย่างน่ามหัศจรรย์จริงๆ
พอเข้ามาในรถไฟตอนขากลับ เจอเด็กที่ไม่แน่ใจว่าประถามหรือมัธยม
กำลังนั่งทำข้อสอบภาษาอังกฤษอย่างตั้งหน้าตั้งตาอยู่ในรถไฟฟ้า
พอเงยหน้ามาเจอกะเหรี่ยงต่างด้าวอย่างเราแอบอ่่านข้อสอบของเขาอยู่
เด็กนั้นมือไม้สั่นไม่กล้ากากบาทข้อสอบซะงั้น

ตอนแรกไม่ได้ตั้งใจจะละลาบละล้วงดูนะคะ แต่ตามันไปปะทะเอง...ฮ่าาา...
อีกอย่างรถไฟมันแน่น ยืนเบียดกับสาวสวยทั้งซ้ายขวา
ไม่อยากจะลงสนามแข่งความงามกับเขา
แล้วข้อสอบเด็กก็อยู่ระดับสายตาตอนก้มหน้าลงไปพอดี...
พอเด็กจับได้ว่าเราแอบอ่านข้อสอบของเขา ทำเอาเก้อไปเลยค่ะ...
เสหน้ามองตึกนอกรถไฟไปงั้นค่ะ ไม่รู้ไม่ชี้...แหะๆ...
สรุปวันนี้ไม่รู้เป็นไง เจอแต่เด็กหน้าตาดี

วัสลามค่ะ