^
^

เจ็บใจตัวเองน่ะอิลฮาม...
จริงๆคำๆนั้นไม่ได้แปลแค่ว่า เจ็บใจอย่่างเดียว แต่มันรวมเอาคำว่า
เสียใจกับสิ่งที่ทำลงไปด้วยเช่นกัน...
ปกติพี่จะพูดกับอาจารย์และใครๆประจำว่า
ไม่ว่าสิ่งใดที่พี่ได้ตัดสินใจทำลงไปแล้ว แม้จะล้มเหลวหรือผิดพลาด
พี่จะไม่เสียใจเลย...แต่เมื่อวานและวันนี้มันพลาดอย่างไม่น่าให้อภัยตัวเองเลยจริงๆ
แค้นใจตัวเองสุดๆ เพราะพี่ไม่ได้พลาดคนเดียว พี่ไม่ได้ล้มเหลวคนเดียว
แต่พี่ลากคนอื่น คนที่คอยช่วยเหลือพี่ต้องมาเหน็ดเหนื่อยกับพี่ซ้ำแล้ว
ซ้ำเล่ากับเรื่องเดิมๆ...
และคำๆนั้น พี่ลืมไปตั้งนานแล้ว ไอคำว่า กุยาชี่ นี่อาจารย์สอนให้
ตั้งแต่เพิ่งเรียนภาษาญี่ปุ่น พี่ไม่ค่อยพูดนะ
แต่เมื่อวาน แปลกดี อยู่ๆมันรู้สึกเจ็บใจ กับความผิดพลาดซ้ำแล้วซ้ำเล่า
ผิดรอบแรกนี่พอตนตัวเอง พอให้อภัยตัวเองไหว...
แต่พอผิดรอบสอง แล้วต้องมาเริ่มต้นตรงจุดเริ่มต้นใหม่อีกครั้ง
หัวใจคนที่ทำมาตลอด และมันใกล้ถึงฝั่งอยู่รอมร่อ แทบหมดแรงเลยงิ
เหมือนเราเดินลุยน้ำไปใกล้จะถึงฝั่ง
แต่เราเกิดพลาดท่า เดินเซ่อซ่า สะดุดก้อนหินใต้น้ำ
แล้วลื่นหกล้ม เท้าแพลง จะไปต่อกระแสน้ำก็แรง
จะกลับหลังก็มาไกลเกินจะเดินกลับไปได้แล้ว... มันก็เลยต้องไปต่ออย่างช่วยไม่ได้
และด้วยเวลาที่กระชั้นชิด เลยไม่มีเวลาร้องไห้คร่ำครวญหรือเสียใจมากนัก
เพราะต้องเดินหน้าต่อ พ่ีมองหน้าอาจารย์ที่อุตส่าห์ช่วยพี่ไม่ติดเลย
คือพี่ทำมันพลาดจริงๆ พลาดแค่นิดเดียว แค่จุดเล็กๆ...
แต่กลับต้องมาเริ่มต้นใหม่หมด และเป็นสิ่งที่พี่ทำคนเดียวไม่ได้ด้วย
ต้องมีอาจารย์ช่วย และอาจารย์ช่วยพี่มาสองรอบแล้ว...
(สองรอบที่พี่พลาด แต่อาจารย์เขาไม่บ่นให้พี่หมดใจ)
รอบที่สามเกินใจจะทน ขณะนั่งแก้งานอยู่เพราะไม่อยากเริ่มต้นใหม่
พี่ก็อดใจไม่ไหวก็เลยบ่นออกไปว่า "กุยาชี่" ไม่รู้ต่อกี่ครั้ง
คำๆนั้นมันผุดออกมาเองเลยนะ...
อาจารย์ที่กำลังจ้องจะกินเลือดพี่ตอนรู้เรื่องว่าพี่พลาดอีกรอบ
พลาดเรื่องเดิมๆเสียด้วย ท่านเงียบเลย พอได้ยินคำๆนั้นออกจากปากพี่...
เพราะตั้งแต่เข้ามหาลัย พี่ไม่เคยพูดคำๆนี้เลย...
แม้จะเคยพลาดมากี่ครั้งก็ตาม...เพราะที่ผ่านมา พี่ทำเองไง...
แต่คราวนี้มีคนช่วย เลยนึกถึงพ่อตอนที่พ่อสร้างบ้านบนต้นไม้แล้วมันพังลงมา
แล้วพ่อพี่ก็สร้างมันใหม่ไม่รู้กี่รอบเลยงิ...พี่รู้ว่่าท่านเจ็บใจเหมือนที่พี่เป็นแหล่ะ
แต่ท่านไม่บ่น...ที่ผ่านมาพี่ก็เลยไม่บ่นว่าเจ็บใจหรือเสียใจ
เพราะว่าน้อมรับความผิดพลาด มันคือการเรียนรู้ มันคือประสบการณ์
แต่หากว่าความผิดพลาดของเรามันพลาดซ้ำๆกับเรื่องเดิมๆ
และเราไม่ได้เหนื่อยคนเดียว มันก็อดเจ็บใจไม่ได้อ่ะเนอะ...
เรื่องบางเรื่องมันแก้ไขไม่ได้ แม้จะพยายามแก้ไขสักแค่ไหนก็ตาม...
นอกจากต้องไปเริ่มใหม่ที่จุดเริ่มต้น...
และวันนี้พี่ก็ได้กลับไปนับหนึ่งใหม่อีกครั้ง จนสำเร็จแล้ว...เย่ๆ
แต่ว่่า จิกัง หมดตาอิไน่ (มันเปลืองเวลาน่ะ)
แม้ว่าเราไม่สามารถย้อนเวลากลับไปแก้ไขได้อีกครั้ง
แต่เราก็ยังสามารถเริ่มต้นใหม่ได้อีกครั้ง แม้ผลลัพธ์ที่ได้จะไม่เหมือนเดิม
ดังที่ตั้งใจไว้หรืออยากให้เป็นก็ตาม...

...นี่แหล่ะชีวิต...
พลาดแล้วเจ็บ ล้มก็เจ็บ ตอนล้มเราไม่มีเวลาร้องไห้ ไม่มีเวลาฟูมฟ
เพราะต้องใช้เวลาที่มีอันน้อยนิดพยุงตัวเราเองให้ลุกขึ้นต่อ...
ท้อได้แต่อย่่าถอย...

หากเราทำ มันจะเสร็จ อินชาอัลลอฮฺ
เหมือนสำนวนที่อาจารย์รุ่นราวคราวเดียวกับพ่อพี่ให้มาก่อนหน้านี้เลย...
naseba naru. ถ้าก่อก็จะเกิด
nasaneba naranu. ถ้าไม่ก่อก็ไม่เกิด
nanikotomo, ไม่ว่าจะเรื่องใดๆก็ตาม
naranuwa hitono nasanu narikeri. ?ที่ทำไม่ได้(หรือไม่ได้ก่อเกิด)
เพราะเราไม่ได้ทำ(หรือไม่ได้ก่อ)

ปล.ถึงจะสำเร็จไปหนึ่ง แต่มีอีกเป็นร้อยที่ยังไม่ได้ทำ และยังทำไม่ได้
555555555 ต่อเช้าแล้วแหล่ะ
สู้ต่อไป ทาเคชิ !!!!!
ร่ายยาวมาสามบ้านแปดบ้าน หาข้อสรุปเอาเองได้ว่า...
คืนนี้...โต้รุ่ง กับ เป็นยามเฝ้าบอร์ด เหอๆๆๆๆ

วัสลามค่ะ