ผู้เขียน หัวข้อ: การเผยแผ่และการเข้ารับอิสลามในประเทศญี่ปุ่น  (อ่าน 42942 ครั้ง)

0 สมาชิก และ 1 บุคคลทั่วไป กำลังดูหัวข้อนี้

ออฟไลน์ nada-yoru

  • เพื่อนรัก (6_6)
  • *****
  • กระทู้: 4010
  • เพศ: หญิง
  • แสงและเงา
  • Respect: +134
    • ดูรายละเอียด

วะอะลัยกุมมุสลาม วะเราะมาตุลลอฮฺ วะบารอกาตุบัลกิส

 loveit:

สำหรับเรื่องลงจากคาน อันนี้เราแหลงกันมาเนิ่นนานแล้ว
เพราะหากให้พูดอย่างจริงจัง การลงจากคาน ก็หมายถึงการแต่งงาน
ซึ่งสำหรับพ่ี การแต่งงาน หมายถึงการสร้างครอบครัวใหม่
ที่มีเราและใครอีกคนที่จะมาร่วมชีวิตด้วย มันจึงไม่ใช่เรื่องเล็ก
แต่มันเป็นเรื่องใหญ่และปัญหาใหญ่ระดับโลก ;D

เพราะมนุษย์ย่อมต้องมีครอบครัว ถ้าถามว่า พี่คิดเรื่องแต่งงานตั้งแต่เมื่อไหร่
จำได้ว่า ตั้งแต่อนุบาลโน่นแหน่ะ เพราะว่าเล่นขายของกับเพื่อน
ก็มักสมมติให้ตัวเองเป็นพ่อเป็นแม่เป็นลูก มีแต่งชุดเจ้าสาวเข้าพิธีเสร็จสรรพ ;D
แต่เราคิดแค่นั้น เราไม่ได้คิดมากกว่านั้น เราไม่รู้ว่าแต่งงานแล้ว
ต้องยังไง รู้แค่ว่า ผู้หญิงต้องเป็นแม่ ผู้ชายต้องเป็นพ่อ...แล้วก็มีลูก
พี่เคยแกล้งเล่นเป็นชาวต่างชาติ ทำเป็นพูดอะไรก็ไม่รู้เมื่อตอนเด็กๆด้วยซ้ำ

และเมื่อได้เรียนฟัรดูอีน ก็ทำให้ความคิดเรื่องแต่งงานมันเปลี่ยนไป
เราเริ่มคิดมากกว่านั้น พี่มักพูดมักถามพ่อถามแม่บ่อยๆเรื่องนี้
ถามตั้งแต่ยังอยู่มัธยมต้นด้วยซ้ำว่าทำไมคนเราต้องแต่งงาน
แต่งไปเพื่ออะไร พอดูหนังดูละคร เราก็เห็นว่า อ้อ คนรักกัน
ก็ต้องแต่งงานกัน แล้วก็ถามต่ออีกว่า พ่อกับแม่รักกันยังไง
มันเป็นอย่างนั้นมาตลอด เพราะหากจะถามใครสักคน
พี่คนนึงที่เลือกจะถามจากพ่อแม่ เพราะว่า เราคือคนในครอบครัว
และท่่านผ่านในสิ่งที่เราต้องการคำตอบมาแล้ว...

พอโตมาอีก ก็เห็นมากับตาว่าคนรักกันก็ไม่ได้แต่งงานกันเยอะแยะ
แล้วคนที่เขาแต่งงานกัน เขาแต่งกันเพราะอะไร รักอย่างเดียวจริงหรือ  ::)

เคยปรึกษาพ่อ ว่าหากเราอยากแต่งงานกับคนแบบนั้นแบบนี้
พ่อจะว่ายังไง ดีมั้ย แล้วจะมีคนแบบนั้นในโลกนี้มั้ย
พ่อก็แนะนำมาว่า ไม่ว่าเราจะอยากได้ใครมาเป็นคู่ชีวิต
สิ่งที่เราคิดและทำได้ตอนนี้คือ

หากเราอยากได้คนดี เราต้องสร้างความดี
หากเราอยากได้คนมีอีหม่าน เราต้องสร้างอีหม่าน
หากเราอยากได้คนรวย เราต้องสร้างทรัพย์สมบัติ สร้างฐานะ
หากเราอยากได้คนมีความรู้ คนเก่ง คนฉลาด เราต้องสร้างความรู้
สร้างความเก่ง สร้างความฉลาด
หากเราอยากได้คนขยันทำมาหากิน เราก็ต้องสร้างความขยัน
หากเราอยากได้คนหล่อ คนหน้าตาดี เราต้องหันมามองตัวเรา
ว่าเรามีมันแค่ไหน

เพราะพ่อบอกว่า คนดีย่อมคู่กับคนดี คนไม่ดีย่อมคู่กับคนไม่ดี
คนมันต้องเข้ากันได้ และไปด้วยกันได้ มันถึงจะอยู่กันเป็นคู่ได้
หากเข้ากันไม่ได้ แม้จะพยายามที่จะอยู่ด้วยกันยังไง สุดท้ายก็ต้องเลิกร้างกันไป...
รูปกายภายนอกเป็นสิ่งที่เปลี่ยนแปลงยาก แต่อะไรที่ไม่เหนือบ่ากว่าแรง
ที่จะพยายามสร้าง ก็จงสร้าง แล้วดุอาฮฺขอต่อผู้ให้
อินชาอัลลอฮฺ...เราจะได้หรือไม่ คู่ชีวิตเราจะเป็นใครไม่สำคัญ
เท่าเราพยายามที่จะเป็นคู่ชีวิตของคนที่เราอยากจะได้มาเป็นคู่ชีวิตสักแค่ไหน...
เพราะอัลลอฮฺจะตอบแทนเราตามที่พระองค์ทรงประสงค์

คู่รัก บางครั้งก็ไม่อาจเป็นคู่ชีวิต เป็นคู่คิดของเราได้เสมอไป... ;D

และเพราะคิดเรื่องแต่งงานมาตลอด ชีวิตที่ผ่านมาเลยต้องนอนบนคาน
อย่างสบายอุรา เพราะว่า ตะวักกัล มอบหมายไปยังอัลลอฮฺ
ตั้งแต่วันที่พ่อบอกพ่อสอน แม่เตือนมาแล้ว

เมื่อถึงเวลา มันจะมาเอง พี่เชื่ออย่างนั้น
และพี่เชื่อว่า คู่ครองคือของขวัญ
เราอาจจะตั้งหวังเอาไว้อย่่างหนึ่ง แต่อาจจะได้อีกอย่างหนึ่ง
แต่มันก็สิ้นสุดลงที่ ตะวักกัล

และหลายๆครั้งที่มองสาวญี่ปุ่นที่แต่งงานกับมุสลิม
พี่ทึ่งในตัวเขาเหล่านั้น เพราะนั่นหมายถึงว่า เขาต้องเริ่มใหม่
เขาต้องทิ้งบางสิ่งบางอย่างลง และทำให้รู้สึกว่า
อะไรหนอที่ทำให้เธอเชื่อใจและไว้วางใจในการตัดสินใจ
จะแต่งงานกับชาวต่างชาติ ต่างศาสนา ต่่่างวัฒนธรรมได้...

และก็มีอีกมากมายหลายคนที่พบเจอในชีวิต ที่ล้อเล่นกับความรัก
จนเจ็บหนัก เพราะรักทำพิษ

บางคนยอมขอผู้หญิงคนหนึ่งเป็นแฟน เอาภาษามาล่อ
บอกว่าหากได้เขาเป็นแฟน เธอจะใช้ชีวิตในดินแดนที่เขาเป็นเจ้าของประเทศ
เป็นเจ้าของภาษาอย่างสบาย เธอจะมีคนคอยช่วยเหลือทั้งเรื่องภาษา
และเรื่องชีวิต คอยห่วงใย คอยเป็นที่ปรึกษา ไม่เหงา
และเธอจะเก่งในเรื่องของภาษานำหน้าคนอื่นๆได้เป็นแน่แท้
แค่มีแฟนเป็นเจ้าของประเทศ หากไม่พอใจก็เลิกได้...
ไม่ขาดทุนแต่อย่างใด พอใจกันทั้งสองฝ่าย ตกลง โอเคไหม...

มันเป็นอย่างนั้นก็มี...

ซึ่งก็มีบางคนที่บอกปฏิเสธคำเชิญดังกล่าวออกไป
เพราะเชื่อว่่า ไม่มีอะไรได้มาง่ายๆ และได้มาฟรีๆ
ไม่มีอะไรแพงกว่าของฟรี เธอเชื่ออย่่างนั้นของเธอ
เธอเลือกจะเดินคนเดียว กินข้าวคนเดียว ใช้ชีวิตคนเดียว
หิ้วของหนักๆคนเดียว เที่ยวคนเดียว ร้องไห้คนเดียว
ซ่อมโน่นซ่อมนี่คนเดียว นอนคนเดียว แต่ก็ไม่เปล่าเปลี่ยวหัวใจ
เพราะว่าคนที่เธอรักมีมากมาย พ่อแม่ พี่น้อง ผองเพื่อนและครูบาอาจารย์
และก็มีเรื่องให้ต้องทำอีกมากมายเพื่อคนที่รัก เพื่อครอบครัวเธอ
ที่เธอมีอยูู่และมีมาแต่กำเนิด ส่วนเรื่องครอบครัวใหม่ที่อยากจะสร้างเอง
คิดว่า วันนึงมันคงมาถึงเอง...เธอไม่ได้มองว่าสิ่งที่เธอคิดมันถูกต้องแล้ว
แต่มันเป็นสิ่งที่เธอ(นักศึกษาต่างแดนคนนึง)คิด
และที่เธอปฏิเสธก็ไม่ใช่ว่าระแวงหรือไม่ไว้ใจฝ่ายตรงข้าม
เธอแค่ไม่ไว้ใจตนเอง....ไม่เชื่อใจตัวเองว่า เธอจะแบกอะไรเกินตัวได้อีก
สำหรับเวลานั้นๆ เพราะที่แบกก็ว่ามากเกินกำลังสำหรับเธออยู่แล้ว
หากรับมาเพิ่มอีก เธอต้องล้มลงไม่เป็นท่าแน่...

มันเลยเป็นที่มาของการใช้ชีวิตบนคานของคนที่เดินทางมาเรียนต่างแดน
ส่วนชีวิตจะแขวนอยู่บนนั้นต่อไปจนถึงเมื่อไหร่ อินชาอัลลอฮฺ


...จบบรรยายเรื่องคานซ้ากกกกกกกกที...

ไม่ไหวจะเคลียร์งิ...

ปล.อยากบอกสาวๆว่า บ่าวๆเขาอาจจะไม่ได้ต้องการแค่อยากดูแลเรา
ห่วงใยเราอย่างแท้จริงก็ได้ หากเขาแค่มาขอเราเป็นแฟน
โดยที่ไม่ได้ยกสินสอดทองหมั้นมาหาพ่อแม่เราที่บ้าน
มาทำความรู้จักกับครอบครัวเรา ซึ่งเป็นส่วนหนึ่งของชีวิตเรา
ที่หล่อหลอมเรามา... ;D
คำว่า "รัก" ใครๆก็พูดกันได้ตั้งแต่เพิ่งหัดพูด
แต่ใครจะทำได้อย่างที่บอกว่ารัก หรือให้สมกับความหมายของคำว่า "รัก"
(แปะไว้เตือนใจตนเองด้วยงิ เผื่อวันใดเผลอใจ จนลืมด้วยจ้าาาาาา)

ป.ลิงอีกที...กระแสของการเป็นแฟนไปวันๆ เบื่อกันก็เลิกนั้นบูมมากมาย
จนกลายเป็นวัฒนธรรมของบางประเทศไปแล้วค่ะ ;D

ส่วนใครที่รักกัน และอยากมาเรียนที่ญี่ปุ่น ก็สามารถทำเรื่องทำราว
ให้ถูกต้องได้ ด้วยการแต่งงานแล้วมาเรียน มาใช้ชีวิต
มาแชชีวิตด้วยกันได้สบายค่ะ
ฟันธงได้ว่า ที่ญี่ปุ่นไม่มีปัญหา ไม่มีใครมองเป็นของแปลก
หรือมองคนที่แต่งงานมีครอบครัวแล้ว แต่มานั่งเรียนอยู่กับเด็กๆ
เพราะว่า เพื่อนหลายๆคน มีครอบครัว มีลูกต้องเลี้ยง
อายุสามสิบปลายๆ ก็มานั่งเรียนปริญญาตรี(ไม่แน่ใจว่าใบที่เท่าไหร่)
กับเราอยู่เลยค่ะ... น่านับถือในความมุมานะ และความใฝ่รู้ด้วยซ้ำไปค่ะ
ส่วนใครที่ยังไม่มี แต่อยากมาเรียน ก็นอนบนคาน ปลอดภัยสุดๆค่ะ hehe
หรือหากจะลงจากคานระหว่่างเรียน ก็ไม่แปลกอีกเช่นกันค่ะ
กรณีนี้มีเยอะ เพราะว่าเพื่อนอีกคนเพิ่งกลับไปแต่งงานที่ประเทศตนเอง
ไปหมาด ๆเองค่ะ แล้วกลับมาเรียนต่อ....

คิดว่า ความรักไม่มีอุปสรรคต่อการเรียนรู้ หากทำให้มันถูกต้อง
สบายใจระหว่างรักกันค่ะ ;D

เรื่องเล่าจากแดนปลาดิบ(ยาวเนอะ/ยาวประจำ / ยาวสม่ำเสมอ)  boulay:



วัสลามค่ะ


"และข้ามิได้สร้างญิน และมนุษย์เพื่ออื่นใด เว้นแต่เพื่อเคารพภักดีต่อข้า"

(ซูเราะฮฺ อัซซาริยาต อายะอฺที่ 56)

ออฟไลน์ ILHAM

  • เพื่อนตาย T_T
  • *****
  • กระทู้: 11348
  • เพศ: ชาย
  • Sherlock Holmes
  • Respect: +273
    • ดูรายละเอียด
    • ILHAM
^
ความอัดอั้นตันใจ ของคนอยู่บนคาน
إن شاءالله ติด ENT'?everybody

Sherlock Holmes said "How often have I said to you that when you have eliminated the impossible, whatever remains, however improbable, must be the truth?"
-------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------

ออฟไลน์ ...

  • เพื่อนแท้ (-.^)
  • ****
  • กระทู้: 929
  • เพศ: หญิง
  • Respect: +2
    • ดูรายละเอียด

         mycool: mycool: mycool:

   สุดยอดเลย พี่โด่โด่
  ยาวแค่ไหน ก้อตามอ่านจนจบ
 ((แม้จะพบกับอาการปวดตา))
 

ออฟไลน์ ILHAM

  • เพื่อนตาย T_T
  • *****
  • กระทู้: 11348
  • เพศ: ชาย
  • Sherlock Holmes
  • Respect: +273
    • ดูรายละเอียด
    • ILHAM
^
ฝึกงานไว้ซะ เวลาอยู่บนคานจริงจะได้ทำเป็น
إن شاءالله ติด ENT'?everybody

Sherlock Holmes said "How often have I said to you that when you have eliminated the impossible, whatever remains, however improbable, must be the truth?"
-------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------

ออฟไลน์ ...

  • เพื่อนแท้ (-.^)
  • ****
  • กระทู้: 929
  • เพศ: หญิง
  • Respect: +2
    • ดูรายละเอียด
 
  อยู่ตั้งนานแล้ว ประสบการณ์ เยอะกว่าพี่ โด่โด่อีก
เพียงแต่ไม่เคย เปิดเผยความจริงมาก่อน  :-X :-X

ออฟไลน์ ILHAM

  • เพื่อนตาย T_T
  • *****
  • กระทู้: 11348
  • เพศ: ชาย
  • Sherlock Holmes
  • Respect: +273
    • ดูรายละเอียด
    • ILHAM
55555
ไหนเล่ามาซิ
إن شاءالله ติด ENT'?everybody

Sherlock Holmes said "How often have I said to you that when you have eliminated the impossible, whatever remains, however improbable, must be the truth?"
-------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------

ออฟไลน์ nada-yoru

  • เพื่อนรัก (6_6)
  • *****
  • กระทู้: 4010
  • เพศ: หญิง
  • แสงและเงา
  • Respect: +134
    • ดูรายละเอียด
เล่ามาเลยบัลกิส
เพราะความจริงเป็นสิ่งไม่ตาย
แต่คนที่จะตาย คือ คห.ข้างบนนั้น   fouet: fouet: fouet:

ปล.แพนด้าปีนขึ้นมาอยู่บนนี้ด้วยกันตั้งแต่เมื่อไหร่หว่า  ::)
« แก้ไขครั้งสุดท้าย: ก.พ. 25, 2010, 06:44 PM โดย nada-yoru »
"และข้ามิได้สร้างญิน และมนุษย์เพื่ออื่นใด เว้นแต่เพื่อเคารพภักดีต่อข้า"

(ซูเราะฮฺ อัซซาริยาต อายะอฺที่ 56)

ออฟไลน์ ...

  • เพื่อนแท้ (-.^)
  • ****
  • กระทู้: 929
  • เพศ: หญิง
  • Respect: +2
    • ดูรายละเอียด
 
  มีแต่คนอยกรู้  555+
 ไม่เล่าดีกว่า  ;D ;D
 เล่าไป เดี๋ยวหาว่าโม้
 

ออฟไลน์ ILHAM

  • เพื่อนตาย T_T
  • *****
  • กระทู้: 11348
  • เพศ: ชาย
  • Sherlock Holmes
  • Respect: +273
    • ดูรายละเอียด
    • ILHAM
ไม่เป็นไร เล่ามาก่อน
إن شاءالله ติด ENT'?everybody

Sherlock Holmes said "How often have I said to you that when you have eliminated the impossible, whatever remains, however improbable, must be the truth?"
-------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------

ออฟไลน์ nada-yoru

  • เพื่อนรัก (6_6)
  • *****
  • กระทู้: 4010
  • เพศ: หญิง
  • แสงและเงา
  • Respect: +134
    • ดูรายละเอียด
 salam

นำลิงก์เกี่ยวกับการศึกษาในมหาวิทยาลัยคิวชู (Kyushu University)
มาฝากพี่น้องที่สนใจค่ะ ;D

เวอร์ชั่นภาษาญี่ปุ่น

http://www.kyushu-u.ac.jp/index.php


เวอร์ชั่นภาษาอังกฤษ

http://www.kyushu-u.ac.jp/english/index.php



History

http://www.kyushu-u.ac.jp/english/university/history/index.php




School,Institutes and Faculties

http://www.kyushu-u.ac.jp/english/university/information/index.php




Educational and Research Course

http://www.kyushu-u.ac.jp/english/university/information/cource.php


มหาวิทยาลัยคิวชูตั้งอยู่ที่เมือง ฟุกุโอกะ(อยู่ทางตอนใต้ของญี่ปุ่น)ค่ะ ;D

และสำหรับพี่น้องมุสลิมเราก็อุ่นใจได้ค่ะ เพราะที่นั่นมีพี่น้องมุสลิม
จากหลายๆประเทศไปเรียนและทำงานอยู่รวมทั้งคนไทยเอง
ก็มีมิใช่น้อย

และที่สำคัญมีศาสนสถาน เช่นมัสยิดอย่างเป็นทางการแล้ว

นั่นคือ มัสยิดฟุกุโอกะ มัสยิดแห่งแรกในเกาะแดนใต้ (คิวชู)
ศึกษาข้อมูลเกี่ยวกับมัสยิดได้ที่นี่ค่ะ
v
v
v


 มัสยิดแห่งแรกในเกาะแดนใต้(คิวชู) กับเสียงที่ดังขึ้นของสังคมมุสลิม   



และ...


 Fukuoka Masjid Al Nour Islamic Culture Center   



ปล.มหาวิทยาลัยคิวชูมีประวัติอันยาวนานเป็นเวลานับร้อยปี
เป็นมหาวิทยาลัยของภาครัฐค่ะ(อ่านตรงหน้าลิงก์ Historyได้ค่ะ)  ;D
ซึ่งใครๆจะเรียกมหาวิทยาลัยคิวชูสั้นๆว่า Kyudai (คิวได)
มาจากคำว่า Kyushu Daigaku ( Daigaku = University/มหาวิทยาลัย)



Note:

Daigaku (ไดกะกุ) = มหาวิทยาลัย

Daigakusei(Daigaksei) = นักศึกษามหาวิทยาลัย

Daigakuin (ไดกะกุอิน) = บัณฑิตวิทยาลัย(วิทยาลัยในระดับปริญญาโท)

Daigakuinsei (ไดกะกุอินเซ) = นักศึกษาปริญญาโท

Kenkyu (เคงคิว)  = การวิจัย

Kenkyusei (เคงคิวเซ) = นักศึกษาวิจัย

Ryugaku (ริวกะกุ)= การไปศึกษาในต่างประเทศ

Ryugakusei (Ryugaksei) (ริวกะกุเซ/ริวกักเซ) =  นักศึกษาต่างชาติ


ปล. nada-yoru มิได้ศึกษา ณ มหาวิทยาลัยคิวชู ความรู้เรื่องสถาบันการศึกษา
และประสบการณ์ที่นั่นจึงมีไม่มากนัก
นอกเสียจาก หาความรู้ตามหน้าเว็บและสอบถามจากผู้รู้มาอีกทีจ้า... ;D
มีอะไรสงสัย ถามได้ทั้งหน้าไมค์หลังไมค์ค่ะ ยินดีหาคำตอบมาให้
เท่าที่สามารถค่ะ อินชาอัลลอฮฺ

วัสลามค่ะ


« แก้ไขครั้งสุดท้าย: มี.ค. 03, 2010, 11:02 AM โดย nada-yoru »
"และข้ามิได้สร้างญิน และมนุษย์เพื่ออื่นใด เว้นแต่เพื่อเคารพภักดีต่อข้า"

(ซูเราะฮฺ อัซซาริยาต อายะอฺที่ 56)

ออฟไลน์ nada-yoru

  • เพื่อนรัก (6_6)
  • *****
  • กระทู้: 4010
  • เพศ: หญิง
  • แสงและเงา
  • Respect: +134
    • ดูรายละเอียด
http://www.youtube.com/watch?v=L1DE8di-Ojc


<a href="http://www.youtube.com/v/L1DE8di-Ojc" target="_blank" class="new_win">http://www.youtube.com/v/L1DE8di-Ojc</a>


http://www.youtube.com/watch?v=gKjaSRf988s


<a href="http://www.youtube.com/v/gKjaSRf988s" target="_blank" class="new_win">http://www.youtube.com/v/gKjaSRf988s</a>



เป็นหนึ่งในคลิปข่าวสารเกี่ยวกับเรื่องราวของศาสนาอิสลาม
ที่ถูกนำมาเผยแผ่ในประเทศญี่ปุ่นค่ะ

ดูและพิจารณากันเอาเองนะคะ ;D

เพราะว่าข่าวสารทุกอย่างนั้น มันก็มีผลต่อภาพและมุมมองของคนญี่ปุ่น
ต่อศาสนาอิสลามเช่นกันน่ะค่ะ...

คลิปแรกเกี่ยวกับหญิงสาวญี่ปุ่นที่กลายเป็นเจ้าสาวในศาสนาอิสลาม
(ชื่อหัวข้อน่ะค่ะ)

เพราะคำว่า

花嫁 ในภาษาญี่ปุ่นแปลว่า เจ้าสาว
イスラム ในภาษาญี่ปุ่นคือคำว่า อิสลาม

ดังนั้น

イスラムの花嫁 (Islam no hanayome) ก็น่าจะแปลได้ว่า เจ้าสาวของอิสลาม
หรือ เจ้าสาวอิสลาม

และ

イスラムの花嫁になった จึงแปลได้ว่า กลายเป็นเจ้าสาวของอิสลาม
ก็คือ...สาวญี่ปุ่นได้เข้ารับอิสลามด้วยหัวใจอย่างที่เธอได้ให้สัมภาษณ์
ในคลิปน่ะค่ะ และก็กลับไปแต่งงาน ณ บ้านเมืองของเจ้าบ่าว
ซึ่งก็คือ ปากีสถาน

คนที่สัมภาษณ์เขาถามเจ้าบ่าวว่า
"ทั้งๆที่ที่ปากีสถานก็มีผู้หญิงที่เพียบพร้อมทุกอย่่าง
แล้วทำไมหรือถึงได้เลือกเธอ(สาวญี่ปุ่น)"

ฝ่ายเจ้าบ่าวก็ตอบว่า

"เอ่อ...มันก็มีก็จริง แต่ว่า....มันเป็นเรื่องหัวใจและก็ความรู้สึกที่ตรงกัน
เข้ากันได้...คือ ชอบตั้งแต่แรกเจอ..."

แปลไม่เก่งอ่ะค่ะ แต่ว่า ฟังแล้วรู้สึกเขินแทนเจ้าสาว...

คือ เขาไปถ่ายทำกันถึงประเทศเจ้าบ่าวน่ะค่ะ


ส่วนคลิปที่ 2 นั้น สงสัยจะเป็นภาษาอาหรับ แต่ข้าน้อยฟังไม่ออก
อาศัยอ่านคำแปลข้างล่่างเอาอ่ะค่ะ ประทับใจ
ก็เลยนำมาโพส เพราะว่า ช่วงแรก คนญี่ปุ่น(บางคน)ต่อต้านมุสลิมอย่างมาก
เพราะหาว่าเป็นผู้ก่อการร้าย หัวรุนแรง
แต่ช่วงหลังๆเขาเริ่มเรียนรู้และทำความเข้าใจกันมากขึ้น ทำให้ข่าวที่เขารับมา
มิได้มีแค่ด้านเดียวอีกต่อไป... ;D
ภาพที่เขามองมุสลิมเปลี่ยนไปจากตอนแรกๆที่ข้าน้อยมาญี่ปุ่น(คิดว่านะคะ) ;D


วัสลามค่ะ



« แก้ไขครั้งสุดท้าย: มี.ค. 10, 2010, 06:54 PM โดย nada-yoru »
"และข้ามิได้สร้างญิน และมนุษย์เพื่ออื่นใด เว้นแต่เพื่อเคารพภักดีต่อข้า"

(ซูเราะฮฺ อัซซาริยาต อายะอฺที่ 56)

ออฟไลน์ nada-yoru

  • เพื่อนรัก (6_6)
  • *****
  • กระทู้: 4010
  • เพศ: หญิง
  • แสงและเงา
  • Respect: +134
    • ดูรายละเอียด
 salam

มหาวิทยาลัยรามคำแหงมีศูนย์สอบในต่างแดนอย่างในประเทศญี่ปุ่นด้วยค่ะ
ดังนั้น...นักศึกษาที่กำลังศึกษาอยู่ต่างประเทศอย่างญี่ปุ่น
ก็สามารถลงทะเบียนเรียนทางไกลกับมหาวิทยาลัยรามคำแหงได้
แต่ค่าสมัครและค่าสอบแพงกว่าบ้านเรามากเหมือนกันค่ะ...
แต่ว่า...หากบินกลับไปสอบที่ไทยก็ไม่มีปัญหา
เนื่องจาก ช่วงที่ญี่ปุ่นปิดเทอม บ้านเรากำลังสอบพอดี ;D

ปล.ข้าน้อยก็เพิ่งทราบเรื่องนี้จากเพื่อนผองมาอีกที
เนื่องจากหากเราอยากมีวุฒิหรือใบปริญญาอีกใบ
เพื่อเป็นใบเบิกทางในอาชีพการงาน
ก็สามารถเรียนควบกันได้ในสาขาวิชาที่เราพอจะไปด้วยกันได้กับวิชาหลัก
ที่เรากำลังเรียนอยู่ด้วยน่ะค่ะ...

เพราะว่ามีเพื่อนที่รู้้จักบอกว่าอยากลงเรียนครูที่มหาลัยรามคำแหง
ในระหว่างศึกษาสาขาคอมพิวเตอร์ที่ญี่ปุ่น พอจบออกไป
ก็มีวุฒิครูและวุฒิคอมฯ การงานจะคล่องตัวมากขึ้น

ส่วนตัวข้าน้อย ไม่สามารถค่ะ เพราะว่า แค่เรียนไปด้วยทำงานไปด้วยในบางครั้ง
ก็ไม่ไหวจะหาเวลานอนแว้ววววววว เหอๆๆๆๆ

ซึ่งหลายๆคนที่มาเรียนต่างแดนและเป็นคนขยันเรียนหน่อย
อาจจะ no problem แต่ข้าน้อยนั้น....โนมันนี่ 55555

แค่อยากแวะมาบอกพี่น้องหลายๆคนที่สนใจว่า
คนเรามีทางเลือกมากมายค่ะ แต่เราต้องค้นคว้าหา
เพราะไม่มีใครป้อนให้เราถึงปากได้ตลอดเวลา
เมื่อเราโต เราเองก็คงไม่อยากให้ใครมานั่งป้อนข้าวป้อนน้ำให้อีกแล้ว
นอกเสียจากเวลาไม่สบาย ไร้เรี่ยวแรง ;D

ดังนั้น...การเดินทางไปเสาะแสวงหาความรู้ด้วยขาของเราเอง
ทำให้เราได้ความรู้มาอย่างรู้คุณค่าของมัน เห็นคุณค่าของมัน
เพราะว่า สิ่งที่ได้มายากๆมักมีค่ากว่าสิ่งที่ได้มาง่ายๆ ;D

หากถามว่าเหนื่อยกายทำอย่่างไรจึงจะหาย
เป็นข้าน้อยคงตอบว่า นอนหลับพักผ่อน

หากถามว่าเหน่ือยใจทำอย่างไรจึงจะหาย
เป็นข้าน้อยคงตอบว่่า หาที่พักใจค่ะ

แต่หากเหนื่อยสมอง เราจะทำเยี่ยงไร
เป็นข้าน้อยคงตอบว่า เลิกคิดไปเลยค่ะ 555555

วัสลามค่ะ

"และข้ามิได้สร้างญิน และมนุษย์เพื่ออื่นใด เว้นแต่เพื่อเคารพภักดีต่อข้า"

(ซูเราะฮฺ อัซซาริยาต อายะอฺที่ 56)

ออฟไลน์ min-min

  • เพื่อนใหม่ (O_0)
  • *
  • กระทู้: 24
  • Respect: 0
    • ดูรายละเอียด
คลิปคนญี่ปุ่นไปทำฮัจย์  ดูแล้วซึ้งน้ำตาไหลเลยค่ะ


http://www.youtube.com/watch?v=G2Qkss8VLXQ

http://www.youtube.com/watch?v=vebnmECJrCY


ออฟไลน์ hiddenmin

  • เพื่อนรัก (6_6)
  • *****
  • กระทู้: 2453
  • เพศ: ชาย
  • 404 not found
  • Respect: +76
    • ดูรายละเอียด
    • Ikhlas Studio
คนตั้งกระทู้ไม่รู้หายไปไหนแล้ว ไม่รู้ว่าน้ำท่วมบ้านรึเปล่า

ออฟไลน์ nada-yoru

  • เพื่อนรัก (6_6)
  • *****
  • กระทู้: 4010
  • เพศ: หญิง
  • แสงและเงา
  • Respect: +134
    • ดูรายละเอียด
 :salam:

น้ำท่วมค่ะแอดมินน้อย...ต้นไม้เกือบล้มทับบ้านเลยค่ะ...
เพราะบ้านพี่ปลูกต้นไม้ใหญ่ๆไว้หลายต้น แต่ก็อัลฮัมดุลิลลาฮิค่ะ
ต้นไม้รอบๆบ้านล้มไปกันคนละทิศละทาง ราวกับล้มเพื่อหลีกบ้าน
คืนนั้นพายุถล่มหนักใช้ได้เลยค่ะ ที่สงขลาหรือที่น้องชายพี่อยู่นั้นต้นสนแถวแหลมสมิหลา
และโดยรอบล้ม หลังคาปลิว น้องชายรีบโทรมาบอกว่า อีกไม่กี่นาที มันจะไปถล่มบ้านเราแน่ๆ
เพราะเขารู้สึกว่าพายุมันจะผ่านมาแวะบ้านพี่  และมันก็แวะมาจริงๆ อยู่นานด้วยค่ะ
ทำให้พี่และคนในบ้านต่างมารวมตัวกันที่ห้องละหมาด คืนนั้นเราไม่ออกไปไหน
แน่นอนค่ะว่า เวลาเกิดพายุ เราต้องปิดประตู หน้าต่างให้แน่นหนา อย่าออกไปเดินเพ่นพ่าน
เพราะเราไม่รู้ได้ว่าพายุมันจะหอบอะไรมาบ้าง
พี่ยอมรับเลยว่า พายุเข้าถล่มครั้งล่าสุดมันหนักที่สุดเท่าที่พี่พบในไทย
แต่ก็ไม่ใหญ่เท่าที่เจอในญี่ปุ่น อันนั้นมันไต้ฝุ่น พี่ชายพี่พร่ำถามพี่ว่า
เราควรทำไงดี กลัวน้ำจะเข้าบ้านจัง พี่เองบอกว่าคงต้องรีบเก็บของขึ้นที่สูง
และให้รวมตัวกัน นั่งฟังเสียงลม หากว่าเสียงลมกระซิบกระซาบราวกับเสียงปีศาจนับหมื่นตัว
กำลังพูดกระซิบกระซาบเมื่อไหร่ เราก็ต้องเตรียมใจว่า หลังคาบ้านอาจปลิวได้
ต้นไม้อาจทับบ้าน และสิ่งที่ทำได้คือ ดุอาฮฺเท่านั้น
เพราะปีที่แล้ว ไต้ฝุ่นถล่มญี่ปุ่นทั้งคืน พี่นอนไม่หลับ ได้แต่นั่งซิกรุลลอฮฺ...
ไม่เคยรู้สึกว่าอะไรจะน่ากลัว และมันเป็นความน่ากลัวที่เราต้องเผ๙ญตามลำพังอีก...
ต่างจากครั้งนี้ เพราะมีพี่น้องและหลานๆมากมาย ทำให้รู้สึกอุ่นใจมากกว่าที่โน่นเยอะเลย...

แต่ก็อัลฮัมดุลิลลาฮฺค่ะ ที่มันไม่ได้เปลี่ยนเป็นไต้ฝุ่น แต่ก็หนักเอาการ เพราะต้นยางเอย
ต้นไม้เอยล้มระเนระนาดทั้งสวน...ของพวกพี่ไม่เป็นไรก็จริง แต่ของคนอื่นแย่เลยค่ะ...
และคืนนั้นพี่และคนในครอบครัวต่างก็เห็นท้องฟ้าเป็นสีแดงเลือด แม่พี่ตกใจ...
และไม่นานก็มีเสียงฟ้าผ่า หม้อไฟไหม้ ไฟดับหมดทั้งหมู่บ้านเลยค่ะ ส่วนต้นไม้ก็หล้นทับเสาไฟไป
ไม่มีไฟฟ้าใช้ไปหลายวัน...เนตก็ใช้ไม่ได้ โทรศัพท์ไม่ต้องถาม เพราะสัญญาณไม่มี
ถึงมีก็ไม่รู้จะชาร์ตแบตที่ไหนอีก...มันทำให้พี่นึกถึงญี่ปุ่นเลยค่ะ...
เพราะที่นั่น หากเกิดแผ่นดินไหว อะไรๆก็จะใช้การไม่ได้เหมือนกันค่ะ...

สิ่งหนึ่งที่บ้านเราควรระวังมากที่สุดนอกจากน้ำท่วมแล้วก็คงหนีไม่พ้น สึนามิ...
เพราะว่าสัญญาณเตือนภัยมันเสียไปหมดแล้ว...ยังไงพี่น้องที่อยู่ชายฝั่งควรระมัดระวัง
และสังเกตระดับน้ำทะเลด้วยนะคะ และที่สำคัญ ปกติก่อนเกิดสึนามิ จะมีแผ่นดินไหว
ให้เราขึ้นที่สูง หากเป็นตึก ก็ให้อยู่ชั้นที่สูงเกินชั้นที่ 4 เป็นอย่างต่ำ
และหากมีแผ่นดินไหว อย่าเพิ่งวิ่งออกไปไหน ให้ตั้งสติและเปิดประตูทิ้งไว้และใช้อะไรก็ได้
ขวางประตูให้เปิดอยู่อย่างนั้นเป็นอันดับแรกก่อน
เผื่อว่าตอนที่มีอะไรถล่มลงมาขวางประตู เราจะได้มีทางออก และเราควรมองหาที่ทางในการวิ่งหนี
หรือทางหนีทีรอดเอาไว้บ้าง แม้จะยังไม่มีอะไรเกิดขึ้นก็ตาม...หาไว้แต่เนิ่นๆ อย่างน้อยก็ต้องมี
เชือกเอาไว้สำหรับปีนลงมาจากตึกหรืออาคารได้บ้าง หากจำเป็น...โดยเฉพาะถุงยังชีพ
ควรมีติดบ้านเอาไว้ โดยในนั้นต้องมี ไฟ เชือก นกหวีด(เอาไว้ใช้เป่าเรียกคนให้มาช่วยยามมีภัย
หรืออยู่ในที่ที่ไม่สามารถออกไปได้)
ขนม(เพราะสามารถกินได้เลย ไม่ต้องต้มหรือปรุง) น้ำและยาสามัญประจำบ้าน

และถ้าหากเกิดแผ่นดินไหว ให้เราหาที่ซ่อนในห้องหรือในบ้านที่ที่เราคิดว่าจะไม่มีสิ่งของหล่นมาทับได้
และอยู่รอจนกว่าจะแน่ใจว่าไม่เป็นไรแล้ว จึงค่อยวิ่งออกจากบ้านหรืออาคาร
เพื่อไปยังที่โล่งแจ้ง ที่ที่จะไม่มีอะไรล้มหรือพังมาทับเราได้...เพราะอาจมีอีกระลอกตามมาก็เป็นได้ค่ะ
มองหาสิ่งเหล่านี้เอาไว้แต่เนิ่นๆนะคะ เพราะเรามีแค่ชีวิตเดียว และตายแค่ครั้งเดียว...
ตายแล้วกลับมาแก้ไขอะไรไม่ได้อีก...

และที่สำคัญ ดุอาฮฺค่ะ...เพราะอัลลอฮฺคือผู้ช่วยที่แท้จริง...

ปล.พร่ามเสียยาวอีกตามเคย...  hehe

ขอให้พี่น้องในเว็บแห่งนี้สุขภาพดีกันถ้วนหน้า ขออวยพรวันอีดย้อนหลังด้วยนะคะ...
อัลลอฮฺคุ้มครองค่ะ...อามีนๆๆๆๆ

วัสสลามค่ะ

 
"และข้ามิได้สร้างญิน และมนุษย์เพื่ออื่นใด เว้นแต่เพื่อเคารพภักดีต่อข้า"

(ซูเราะฮฺ อัซซาริยาต อายะอฺที่ 56)

 

GoogleTagged