ผู้เขียน หัวข้อ: โอ้ !! บนีอิสรออีล...พวกท่าน คือ "ผู้ปฏิเสธ"  (อ่าน 1405 ครั้ง)

0 สมาชิก และ 1 บุคคลทั่วไป กำลังดูหัวข้อนี้

ออฟไลน์ Muftee

  • เพื่อนรัก (6_6)
  • *****
  • กระทู้: 1899
  • เพศ: ชาย
  • ตั้งใจเข้าไว้นะ มุฟตีย์น้อย
  • Respect: +190
    • ดูรายละเอียด

โอ้ !! บนีอิสรออีล...พวกท่าน คือ "ผู้ปฏิเสธ"


أتأمرون الناس بالبر وتنسون أنفسكم وأنتم تتلون الكتاب أفلا تعقلون

"พวกเจ้าใช้ให้ผู้คนกระทำความดี โดยที่พวกเจ้าลืมตัวของพวกเจ้าเองกระนั้นหรือ ? และทั้ง ๆ ที่พวกเจ้าอ่านคัมภีร์กันอยู่ แล้วพวกเจ้าไม่ใช้ปัญญากระนั้นหรือ ?"  ซูเราะฮฺ อัล-บะเกาะเราะฮฺ  อายะฮฺที่ 44

واستعينوابالصبروالصلوة وإنها لكبيرة إلا على الخاشعين

"และพวกเจ้าจงอาศัยความอดทน และการละหมาดเถิด และแท้จริงการละหมาดนั้นเป็นสิ่งใหญ่โตนอกจากบรรดาผู้ที่นอบน้อมถ่อมตนเท่านั้น"  ซูเราะฮฺ อัล-บะเกาะเราะฮฺ  อายะฮฺที่ 45

الذين يظنون أنهم ملقوا ربهم وأنهم إليه راجعون

"คือ บรรดาผู้ที่คาดคิดว่า แน่นอนพวกเขาจะพบกับพระเจ้าของพวกเขา และแน่นอนพวกเขาจะเป็นผู้กลับไปสู่พระองค์"  ซูเราะฮฺ อัล-บะเกาะเราะฮฺ  อายะฮฺที่ 46


บรรดาบาทหลวงของบนีอิสรออีล

บาทหลวงและนักพรตของบนีอิสรออีลจะใช้คนภายใต้การปกครองของพวกเชื่อมูฮัมหมัด และคำสอนของพวกเขา แต่พวกเขาเองกลับปฏิเสธ ไม่ใช่เพราะความโง่เขลา แต่เนื่องจากพวกไม่ยอมใช้สติปัญญาอันสมบูรณ์ที่ถูกประทานมาต่างหาก


คัมภีร์และสติปัญญานั้นไร้ประโยชน์

เชคอะห์หมัด มุศตอฟา อัลมารอฆี กล่าวว่า ภายหลังจากอัลลอฮ์ได้เล่าถึงความไม่ดีของพวกนั้นอันเป็นสาเหตุทำให้รัศมีของปัญญาและคัมภีร์ มิสามารถชี้ทางแก่พวกเขาได้อีกแล้ว อัลลอฮ์จึงทรงแนะนำทางให้อีกทางหนึ่ง คือ ให้พวกเขาพึ่งการละหมาด และความขันติ ในการเปลี่ยนแปลงอีกครั้งหนึ่ง


ความขันติและการละหมาด

พวกเขาจะได้รับรัศมีแห่งสัจธรรมของอัลลอฮฺได้ หากพวกเขาใช้ความขันติและใช้อิบาดะฮ์ละหมาดเป็นที่วอนขอ

คำว่า “จงขอความช่วยเหลือจากความขันติ” นั้นคือ พยามห่างไกลจากข้อห้าม พยามยับยั้งตัวเองไม่ให้ตามอารมณ์อย่างสนุกสนานในสิ่งที่เป็นฮาราม

ส่วนคำว่า “จงขอความช่วยเหลือจากการละหมาด” หมายถึง จงทำละหมาดด้วยความนอบน้อมและอิคลาศ เพราะในนั้นมีทั้งการให้เกียรติและความปลอดภัยยิ่งนัก 

“เกียรติ” หมายถึง สามารถทำให้ใกล้ชิดอัลลอฮ์ซึ่งเป็นที่พึ่งทางใจ ทางความคีดและทางกาย

“ส่วนความปลอดภัย” คือ สามารถปลูกฝังความรู้สึกเป็นมนุษย์ ซึ่งไม่เมาะสมอย่างยิ่ง ที่ยังไปติดอยู่กับความงมงายที่แยกไม่ออกระหว่างสิ่งดีและสิ่งไม่ดีเพราะนั่นเป็นคุณสมบัติของเดียรัจฉาน


ผู้ใดที่รู้สึกว่าละหมาดเป็นสิ่งไม่หนักสำหรับเขา

ละหมาดเป็นเรื่องหนักมาก ไม่สามารถปฏิบัติได้เลยนอกจากคนที่มีจิตใจนอบน้อม และมอบความรักต่ออัลลอฮฺเท่านั้น และมุ่งหวังว่าวันหนึ่งเขาจะต้องกลับไปหาพระเจ้าของเขาอย่างแน่นอน ชีวิตของเขาจะฟื้นขึ้นมา การงรนของเขาจะถูกตรวจสอบและรื้อฟื้นขึ้นมาอย่างละเอียด ถ้าเขาดีเขาจะได้รับความโปรดปรานอย่างล้นเหลือ บุคคลประเภทนี้เท่านั้นที่ละหมาดเป็นเรื่องเบาสำหรับเขาไม่ว่าจะอยู่ในสถานที่ใด กรณีใดเขาก็ทำด้วยความเต็มใจและเป็นสุข
« แก้ไขครั้งสุดท้าย: ต.ค. 25, 2009, 08:10 PM โดย Muftee »
// อะฮฺลิสสุนนะฮฺ อัล-อะชาอิเราะฮฺ...สักวันนึง เราต้องเป็นอุละมาอฺที่ยิ่งใหญ่ อินชาอัลลอฮฺ //

 

GoogleTagged