ถามว่าเป็นไปไม่ได้หรือ ที่พระองค์อัลลอฮฺผู้ทรงอำนาจยิ่ง จะ แยกทั้งเวลาและสถานที่ในชั้นฟ้าที่ 7 จนถึง ชั้นที่ 2 เพื่อที่จะได้ถึงชั้นฟ้าที่ 1 แต่กระนั้นพระองค์ก็ทรงอยู่ นอกสถานที่และเวลา ...เป็นไปไม่ได้หรือ ? แน่นอนพระองค์ทำได้ และตรงนี้ตามหลักการวิเคราะห์แล้วไม่ใช่สิ่งที่จะเกิดขึ้นไม่ได้เพราะมันขัดแย้งกันในตัวเอง .... แต่ที่กล่าวมานั้นเป็นเพียงการยกตัวอย่าง ให้เห็นว่ามันเป็นไปได้...แต่ไม่ได้หมายความว่าพระองค์จะทำเช่นนั้นจริงๆ...พระองค์จะนุซูลลงมาอย่างไรนั้น เราไม่รู้
มีบางคนเถียงว่า ถ้าพระองค์เสด็จลงมา นั้นก็หมายความว่าพระองค์ต้องทิ้งบัลลังค์ เพื่อที่จะได้เสด็จลงมา ซึ่งก็ค้านกับหลักความเชื่อที่ว่า พระองค์ทรงประทับอยู่เหนือบัลลังค์... แต่เราขอตอบว่า ไม่มีความจำเป็น และไม่ได้เป็นเงื่อนไขบังคับเลยว่า ถ้าพระองค์เสด็จลงมาแล้ว นั้นจะต้องหมายความว่า พระองค์ต้องทอดทิ้งบัลลังค์.... ยกตัวอย่างให้เห็นภาพชัดๆก็คือ คนๆหนึ่ง นั่งอยู่บนเก้าอี้ จากนั้นก็ก้มลงไปหยิบของที่ตกลงที่พื้น ... จะสังเกตุว่า คนๆนี้ไม่ได้เคลื่อนที่ไปไหนเลย...เขาอยู่กับที่...แต่กระนั้นเขาก็สามารถนุซูลได้ ตามคำศัพท์ภาษาอาหรับ .... นี้เป็นการยกตัวอย่างหม้เห็นภาพชัด... แต่ในความเป็นจริงแล้ว ไม่เป็นการสมควรเลยที่จะยกตัวอย่างเช่นนี้เปรียบเทียบ... แต่ที่ต้องทำก็เพราะ หลายๆคนที่ยังสงสัย ในเรื่องนี้ และได้รับอิทธิพลจากแนวคิดของกลุ่ม อะชาอิเราะฮฺ
ก็คล้ายกับการที่เราไม่เข้าใจ และนึกไม่ออก หรือ จิตนาการไม่ออกว่า พระองค์สร้างโลกมาจากความไม่มีอะไรได้อย่างไร...แต่กระนั้นเราก็เชื่อเช่นนั้น.... เพราะฉะนั้น เราได้รับบทเรียนที่สำคัญว่า การที่เราไม่สามารถจิตนาการสิ่งหนึ่งสิ่งใดได้นั้น ไม่จำเป็นเลยว่าสิ่งนั้นจะไม่สามารถเกิดขึ้นได้...เปรียบเสมือนถ้าเรา สามารถย้อนเวลาไปเมื่อ 3000 ปีก่อนได้ และบอกคนเมื่อ 3000 ปีที่แล้วว่า ผมสามารถพูดคุยกับเพื่อนของผม และสามารถเห็นหน้าเห็นตากันได้ ทั้งๆที่เพื่อนผม อยู่ไกลจากผม 10,000 กิโลเมตร .... แน่นอนคนที่มีชีวิตอยู่เมื่อ 3,000 ปีที่แล้วย่อมไม่สามารถ จินตนาการออกได้ว่า มันจะเป็นไปได้อย่างไรที่ คน 2 คน จะสามารถ คุยกันได้ และเห็นหน้ากันได้ ทั้งๆที่อยู่ห่างไกลกันอย่างมาก... แต่สมัยของเราเรื่องนี้ดูเป็นเรื่องแสนที่จะธรรมดา ... เพราะเรามีทั้ง โทรศัพท์มือถือ วีดีโอแคมฟรอก ...
เรารู้กันดีว่า พระองค์จะมาในวันแห่งการตัดสิน และเป็นการมาจริงๆ... บางคนอาจจะเถียงว่า แต่นั้นมันเป็นการมาของพระองค์ที่จะเกิดขึ้นในวันโลกหน้า แต่คำถามก็คือ ก็ในเมื่อเราไม่มีความยากลำบากและไม่มีปัญหาเลยว่าพระองค์อัลลอฮฺจะมาจริงๆในวันแห่งการตัดสินในโลกหน้า และทำไมมันถึงได้เป็นการลำบาก และเป็นปัญหานักที่เราจะเชื่อว่าพระองค์อัลลอฮฺก็สามารถที่จะเสด็จลงมาจริงๆได้เช่นกันในช่วงที่สามของทุกๆคืน
คนบางคนอาจจะเถียงว่า เราไม่สามารถที่จะเข้าใจได้หรือจินตนาการได้ถึงการลงของอัลลอฮฺ มากไปกว่าลักษณะการลงของสิ่งถูกสร้าง ดังนั้นช่วยอธิบายให้เราเข้าใจหน่อย ถึงลักษณะการลงที่เราสามารถที่จะเข้าใจได้ และในขณะเดียวกันการลงนั้นก็แตกต่างจากการลงของสิ่งที่ถูกสร้าง สิ่งแรกที่เราจะตอบเขาไปก็คือ สิ่งที่อิหม่ามมาลิกได้ตอบไป นั้นก็คือ การถามคำถามเช่นนั้นถือว่าเป็น บิดอะฮฺ ...แต่อย่างไรก็ตาม เราจะตอบคำถามนี้ ...แต่เราจะขอถามท่านก่อนว่า จงบอกเรามาว่า คุณรู้ซึ้งและเข้าใจใน คุณลักษณะต่างๆของพระองค์อัลลอฮฺแล้วหรือยัง แน่นอน คุณจะต้องตอบว่า ไม่รู้...ดังนั้นเราขอตอบว่า การที่จะเข้าใจถึงลักษณะใดๆได้นั้น ประการแรกเลยเราจะต้องรู้และเข้าใจถึงผู้ที่มีคุณลักษณะนั้นๆให้ได้เสียก่อน เพราะฉะนั้นถือเป็นเงื่อนไขบังคับ ว่าคุณจะต้องเข้าใจในตัวของสิ่งนั้นๆให้ได้เสียก่อนที่คุณจะ เข้าใจ ลักษณะที่สิ่งนั้นๆมีอยู่กับมัน ...เช่น มันจะเป็นไปได้อย่างไรที่คนที่ตาบอดมาแต่กำเนิด จะเข้าใจ คำว่า เกร็ดหิมะ ถ้าหากเขาผู้นั้นยังไม่รู้และเข้าใจเลยว่า ตัวหิมะนั้นเป็นเช่นไร หรือ ยกตัวอย่างเช่น ให้ใส่คำว่า เราะซฺ ( ซึ่งเป็นคำภาษาอาหรับที่มีความหมายว่า หัว ในภาษาไทย ) กับคำว่า เงิน หุบเขา หรือ ภูเขา .