อัล-อุม มั่วโครตเลย เด๋วอีก2สัปดาห์ผมจะมาขุดกระทู้นี้ขึ้น อัล-อุม เจ้าจงโกหกต่อไปตามสามารถของเจ้าเถอด แล้วไปรับผลในโลกหน้าด้วยวาฮาบีจะไม่ยอมรับในทัศนะและจะไม่สังกัดทัศนะของมัสหับทั้ง4 วาฮาบีคิดว่าการเรียกร้องให้พี่น้องมีมัสหับในการนำปฏิบัติในวิชาฟิกฮ์ของคนทัวไปนั้นเป็นแนวทางที่ลุ่มหลง วาฮาบีนั้นจะไม่สนับสนุนให้คนเอาวามมีมัสหับหรือมุฟตีของเขา
วาฮาบีนั้นจะไม่ยอมรับการอิจมาฮ์ของอุลามาของอุลามะที่มันขัดแย้งกับทัศนะของตน
วาฮาบีนั้นจะไม่ยอมรับการกิยาสที่มันขัดแย้งกับแนวทางของตนวาฮาบนั้นจะอ้างกีตาบุลลอฮ์และซุนนะนบีในการตัดสินปัญหาฮากามต่างๆ
วาฮาบีนั้นจะไม่ยอมรับการตะวีลในบางอายะของอุลามะทั้ง4มัสหับ มากมายครับบนความแตกต่าง
ในที่สุดคุณสับสนก็ยอมรับว่าตัวเองก็เป็นวาฮาบีจนได้ผมบอกแล้วว่า ผมไม่กลัววาฮาบีที่จะมาเอาคืนผมหรอก แต่สิ่งทีผมพูดนั้นมันมีหลักฐานอ้างอิงเสมอครับ อ่านดูซิจะรู้เองว่า ผมไม่ได้มั่วและโกหกคุณสับสน
1เรื่องการปฏิเสธการสังกัดมัสหับของวาฮาบี
ผมอ้างจากหนังสือ มุสลิมจำเป็นต้องมีมัสหับด้วยหรือ เขียนโดย อุลามะวาฮาบีซาอุดี้ ที่มีนามว่า อัลมะซุมี และ อ.มูฮำหมัด เหมอนุกูล แปลเป็นภาษไทย
ในหนังสือเล่มดังกล่าวนั้น ผู้เขียนได้ยืนยันหลังจากสิ่งดังกล่าวว่า
บรรดามัซฮับนั้น เป็นสิ่งที่บิดอะฮ์ อุตริกรรมขึ้นมา โดยเกิดขึ้นหลังจากศตวรรษที่สาม ดังนั้น บรรดามัซฮับจึงเป็นสิ่งที่ลุ่มหลงโดยไม่ต้องสงสัยเลย- ผู้เขียนพยายามฉายภาพให้เห็นว่า
มัซฮับทั้งสี่ ได้เกิดขึ้นมาเพื่อทำการแข่งขันทัดเทียมกับมัซฮับของท่านนบีมุฮัมมัด ซ๊อลลัลลอฮุอะลัยฮิวะซัลลัม-ในหนังสือเล่มนั้นได้กล่าวว่า
"ผู้ใดที่นำเอาบรรดาคำกล่าวทั้งหมดจากอิมามท่านหนึ่งท่านใดจากบรรดาอิมามมัซฮับทั้งสี่ โดยไม่ยึดสิ่งที่มีอยู่ในอัลกุรอานและซุนนะฮ์ แน่นอน เขาได้ขัดกับมติของปวงปราชญ์และดำเนินตามอื่นจากแนวทางของบรรดามุสลิมีน-พร้อมได้อธิบายไว้ว่า
ไม่จำเป็นแก่มุสลิมคนหนึ่ง เมื่อเขาได้ตามโดยสังกัดมัซฮับของอิมามท่านหนึ่งตลอดชีวิต และไม่อนุญาตแก่ผู้ที่มีความรู้แจ้งถึงหลักการของประเด็นหนึ่ง จากหนทางการบ่งชี้ของอัลกุรอานและซุนนะฮ์และความเข้าใจบรรดาจุดประสงค์ของหลักฐานต่าง ๆ ที่มีการขัดแย้งกัน ทำการมีมานะทิฐิมัซฮับอิมามของเขา- อุลามะวาฮาบีคนดังกล่าว ได้อธิบายว่า
ระหว่างการตัดลีดตามและการอิตบาอฺเจริญรอยตาม โดยถือว่าการตัดลีดนั้น เป็นสิ่งที่น่าตำหนิ และการอิตบาอ์เป็นสิ่งที่ดีและถูกสรรเสริญ ซึ่งการอิตบาอ์เจริญรอยตามในสิ่งที่เขามีความเห็นนั้น คือ ผู้เจริญรอยตามได้ถามถึงการตัดสินของอัลเลาะฮ์(ซ.บ.) และร่อซูลของพระองค์(ซ.ล.) และเขาจะไม่ถามถึงความเห็นของคนอื่นหรือมัซฮับของเขา
- ผู้แต่งหนังสือชี้แจงอีกว่า
บรรดามัซฮับที่สร้างความแตกแยกนี้ไม่ได้เกิดขึ้นมานอกจากพวกเขาไม่เจริญรอยตามหลักการนี้แล้วฉไนคุณสับสนจึงหาว่า ผมเป็นคนโกหก ก็ในเมื่อเป็นที่รู้ว่า สิ่งที่ผมกล่าวานั้น เป็นสิ่งที่วาฮาบีกระทำและยอมรับทั้งนั้น
2 เรื่องการปฏิเสธการอิจมาอุลามาฮ์อุลามะในเรื่องดังต่อไปนี้
-การอนุญาตในการให้ปฏิบัติฮาดิสดออีฟในเรื่องคุณงามความดี แต่ทำไมวาฮาบีจึงเที่ยวฮุกมว่าฮาดิสดออีฟนั้นจำเป็นต้องละทิ้ง
- การละหมาดตารอวิ 20รอกาอัต ในเดือนรอมาดอน แต่ทำไมวาฮาบี ยืนยันว่า การละหมาดตารอวิ มีแค่11รอกาอัตเท่านั้น ที่เป็นซุนนะ
-การอนุญาตให้อ่านยาซีนให้กับผู้ที่เสียชีวิตไปแล้ว หรือไม่ ที่กลุ่มวาฮาบีย์ถือว่า มันเป็นบิดอะ ที่ลุ่มหลง
- การอ่านอัลกรุอ่านแล้วฮาดียะผลบุญให้กับให้กับผู้ที่เสียชีวิตไปแล้ว จริงหรือไม่ ที่กลุ่มวาฮาบีย์ถือว่า มันเป็นบิดอะ ที่ลุ่มหลง
- การตัลกีนกับอิจมาอ์ของมัซฮับทั้ง 4 ที่บอกว่ากระทำได้ แต่ทำไม กลุ่มวาฮาบีย์ถือว่า มันเป็นบิดอะ ที่ลุ่มหลง
แล้วฉไนคุณสับสนจึงหาว่า ผมเป็นคนโกหก ก็ในเมื่อเป็นที่รู้ว่า สิ่งที่ผมกล่าวานั้น เป็นสิ่งที่วาฮาบีกระทำและยอมรับทั้งนั้น
3 เรื่องการที่วาฮาบีปฏิเสธการตีความอาชาอีเราะ มีกลุ่มวาฮาบีเท่านั้นกล่าวหาว่ากลุ่มอาชาอิเราะแนวทางคอลัฟนั้นทำบิดอะลุ่มหลงที่ได้เปลี่ยนคำกล่าวของอัลลอฮ์ในอัลกรุอ่าน เกี่ยวกับบางอายะที่พาดพิงไปยังคุณลักษณะหรือซีฟัตต่างๆของพระองค์ที่กล่าวไว้ในอัลกรุอ่าน
เช่น อายะมุตาชาบิฮาต ที่มีความหมายเป็นนัยยะ ที่จำเป็นต้องตีความ
تأويل การตีความ คือการตีความด้วยคุณลักษณะที่เหมาะสมกับความยิ่งใหญ่ของอัลเลาะฮ์ ซุบหานะฮ์ ฯ การตีความนั้นต้องมาจากนักปราชญ์ผู้สันทัดอีกทั้งทรงความรู้ อีกทั้งทำการตีความที่ตรงกับหลักภาษาอาหรับที่พวกเขาเข้าใจกัน และหลังจากตีความนั้น ก็มอบหมาย(ตัฟวีฏ) กับความหมายที่ตีความไปยังอัลเลาะฮ์ ซุบหานะฮ์ ฯ
ท่านปรมาจารย์ อิมาม อัลลักกอนีย์ ได้กล่าวไว้ใน เญาฮะเราะฮ์ อัตเตาฮีดว่า
وكل نص أوهم التشبيها أوّله أو فوّض ورم تنزيها
"ทุกตัวบท(จากอัลกุรอานและซุนนะฮ์)ที่ทำให้คลุมเคลือกับการคล้ายคลึง ท่านก็จงทำการตีความมันหรือท่านจงทำการมอบหมายและเจตนามั่นกับความบริสุทธิ์(ต่อพระองค์)"
แล้วฉไนคุณสับสนจึงหาว่า ผมเป็นคนโกหก ก็ในเมื่อเป็นที่รู้ว่า สิ่งที่ผมกล่าวานั้น เป็นสิ่งที่วาฮาบีกระทำและยอมรับทั้งนั้น
ชี้แจงมาซิครับ ว่าผมสร้างฟิตนะตรงไหนอีก
สำหรับเรื่องการกิยาสผมจะนำเสนอช่วงต่อไปครับว่าวาฮาบีปฏิเสธการกิยาสจริงหรือไม่
