salam
คิดอยู่นานค่ะว่าจะตั้งกระทู้นี้ดีหรือเปล่า...
แต่วันนี้ตัดสินใจแล้วว่าจะตั้งค่ะ...

เพื่อพี่น้องมุสลิมะฮฺที่จำต้องออกจากบ้าน เดินทางคนเดียว
หรือตกอยู่ในสถานการณ์คับขัน
ไม่ต้องถึงขั้นออกกระบวนท่าใดๆ หรือกำหมัดตั้งการ์ดขึ้นสู้
หรือใช้กำลังอันน้อยนิดต่อสู้กับผู้ร้ายตัวโตแต่อย่างใดค่ะ...
แต่เป็นการป้องกัน ป้องกันที่หมายถึง พยายามไม่ให้ตนเอง
ต้องเข้าไปเผชิญกับสถานการณ์เลวร้ายหรือเปิดโอกาสให้กับผู้ร้าย
ได้เข้ามาทำร้าย เป็นการตัดไฟแต่ต้นลม
หรือหากตกอยู่ในสถานการณ์ที่ชวนให้ต้องระแวงเราควรปฏิบัติอย่างไร...
ข้าน้อยขอนำข้อมูลที่เคยศึกษามานำเสนอ
และหากท่านใดมีวิธีการดีๆที่พอจะแนะนำ ก็อยากให้ร่วมเสวนาด้วยกันค่ะ...
แต่ไม่ว่าจะอย่างไร....ผู้ที่คุ้มครองเราคืออัลลอฮฺ ซุบฮานาฮุวะตะอาลา
การป้องกันตัวจึงเป็นแค่การหลีกห่างจากภัย
วิธีปฏิบัติเมื่อ นั่ง TAXI คนเดียว ( ป้องกันตัว ) ที่เราต้องระมัดระวังตัวเวลานั่ง taxi
ไม่ใช่เรามองว่าคนขับ taxi ทุกคนไม่ดีนะคะ
แต่เพราะอาชีพ taxi เป็นอาชีพที่ใครมาขับก็ได้ ไม่ต้องทำประวัติอาชญากร
และก็มีคนที่ขับ taxi บางคนใช้อาชีพนี้ในทางไม่ดีอย่างที่เราเห็นในข่าวมากมาย และที่สำคัญคือเมื่อเราอยู่บน taxi ก็จะมีแต่เราและคนขับเท่านั้น
ถ้าเกิดอะไรไม่ดีขึ้น......เราจะทำอย่างไรล่ะ.....เราต้องมีวิธีป้องกันตัว
เพราะฉะนั้นควรดูแลความปลอดภัยของตัวเองไว้หน่อย
เพราะกันไว้ย่อมดีกว่าแก้นะคะ
1.วิธีการปฏิบัติตัวเริ่มตอนไหนดี..........
เริ่มตั้งแต่ก่อนขึ้นรถ ตอนที่เราบอกทางก็สังเกตว่าในรถมีทะเบียนรถ
ที่เป็นแผ่นเหล็กติดอยู่ที่ประตูหรือไหม และแอบสังเกตว่าคนขับหน้าตา ท่าทาง
ดูน่าไว้วางใจหรือไม่ มีอาการมึนเมาหรือเปล่า
2.เมื่อขึ้นไปนั่งทำอะไรอันแรก..........
ควรจำทะเบียนรถทันทีหรือจดใส่กระดาษไว้เลย ดูชื่อคนขับ
และดูรูปว่าในใบที่ติดในรถกับคนที่ขับอยู่ตรงกันหรือไม่
(แล้วจะให้ดีที่สุด โทรศัพท์เลยครับ โทรหาคนที่ท่านกำลังจะไปหา
บอกไปเลยดังๆ ให้คนขับได้ยินว่า " ฉันขึ้นรถ TAXI เขียว-เหลือง
ป้ายทะเบียน กทม. มจ.xxxx คนขับชื่อ นายxxxxx xxxxxxxxxx
แต่หน้าตาไม่เหมือนในรูปที่โชว์นะ แล้วเจอกัน " แล้วนั่งนิ่งๆไปเลย
บอกทางอย่างเดียว ไม่ต้องอาย ทำดี อย่ากลัว
*** แล้วอย่าลืม!!! สเปรย์พริกไทย ที่ซื้อมานะ อยู่ตรงไหน เอาออกมา
ปลด LOCK ให้อยู่ในสภาพพร้อมใช้งาน
เห็นท่าไม่ดี ฉีดก่อนเลยอย่าลังเล)
3.แล้วจะนั่งตรงไหนดีที่สุด..........
ถ้าเราโดยสารไปคนเดียวควรเลือกนั่งเบาะหลังที่นั่งคนขับ
โดยนั่งให้ชิดประตูด้านขวา เพราะมีเบาะกั้นและด้านเดียวกับคนขับ
เป็นการยากที่คนขับจะใช้อาวุธหรือสารเคมี ยาสลบต่างๆต่อผู้โดยสารโดยตรง
และเป็นการยากที่คนขับจะจู่โจมเหยื่อ
แต่เวลาจะลงเมื่อถึงที่หมายควรลงทางประตูด้านซ้ายค่ะ
4.ถ้าไม่รู้ทาง ทำไงดี ..........
พยายามอย่าบอกว่าไม่รู้เส้นทางแถวนี้เลย ถึงแม้มาจากต่างจังหวัดไม่รู้ทางเลย
ถ้าคนขับถามว่าไปทางไหนดี ควรบอกไปว่า ไปทางไหนก็ได้......
แต่ให้ดีก็รถไม่ค่อยติด และไม่เข้าซอยเปลี่ยว (ถ้าไม่จำเป็น)
อย่าได้แสดงท่าทางไม่รู้เส้นทาง ไม่รู้เรื่องเลย เป็นลูกคุณหนูเพิ่งเคยเดินทาง
คนเดียวครั้งแรกหรืออยู่ต่างจังหวัดเพิ่งเข้ากรุงเทพครั้งแรก
เพราะอาจเกิดอันตรายได้นะจ๊ะ และถ้าไม่รู้ทางทั้งคนนั่งและคนขับ
อาจเปลี่ยนรถคันใหม่หรือถามทางกับคนแถวนั้น
แต่ที่ๆ จอดถามต้องปลอดภัย คนเยอะ ไม่เปลี่ยวเพราะอาจเป็นพวกเดียว
กับคนขับที่เตี้ยมกันก็ได้แต่ให้ดีถึงไม่รู้ทางเลย
แต่ถ้าจะไปไหนก็ควรดูๆทางหรือถามคนอื่นว่าตรงผ่านที่ไหนไว้บ้าง
5.คุยอะไรกับ taxi ได้บ้าง..........
ควรคุยกับคนขับเฉพาะเรื่องเส้นทางเท่านั้น ไม่ควรคุยเรื่องส่วนตัว
หากเค้าชวนคุยเซ้าซี้ ควรตัดบทหรือนิ่งเสียหรือทำเสียงเคร่งขรึมให้เค้าเกรงใจ
แต่ถ้าเราไม่มั่นใจในแววตาของตัวเองว่าเข้มแข็งพอไหม
ก็ไม่ต้องไปสบตาคนขับ วางมาดให้เค้าเกรงใจ
เพราะคนเหล่านี้เค้าจะชำนาญในการดูสายตา สีหน้า ท่าทาง
น้ำเสียงของคนอยู่แล้ว คนขับบางคนอาจเริ่มคุยจากพูดถึงตัวเองเป็นคนดี
อย่างโน้นอย่างนี้ เคยช่วยคนมาแล้วหรือเกลียดพวก taxi ที่ทำตัวไม่ดี
หรือเตือนเราให้ระวัง taxi อย่างนั้นอย่างนี้ ถ้าเราคุยโต้ตอบแบบว่าถูกคอ
หรือคล้อยตาม ก็จะเริ่มเข้าเรื่องส่วนตัวและพูดไปพูดมาก็เข้าเรื่องทะลึ่งๆ
หรือเอาเรื่องดูดวงมาทักว่าดูหมองๆเหมือนมีเคราะห์
ถ้าเราไปเชื่อก็จะแนะนำอาจารย์ที่เก่งให้แล้วขอเบอร์หรือจะพาไปเป็นพิเศษ
ลองจินตนาการเอาเองแหละกันนะคะว่ามันอันตรายยังไงได้บ้าง
6.ขณะนั่งสังเกตอะไรบ้าง..........
a.ควรสังเกตเส้นทางตลอดเลาที่ผ่าน มองหาป้ายบอกชื่อถนน ชื่อซอย
ซอยที่เท่าไหร่ ถ้ารู้สึกผิดปกติให้โทรหาญาติหรือเพื่อนโดยบอกเส้นทาง
ที่ผ่านมาทุกระยะ
b.บ่อยครั้งที่จะมีคนขับปรับกระจกมองข้างหลัง มาดูระดับขาหรือระดับหน้าอก
เพราะฉะนั้นถ้าขึ้นไปแล้วเห็นว่าคนขับปรับกระจกต่ำเกินไป
และอยู่ระดับที่มองเห็นขาหรือหน้าอกเรา ถ้าเป็นไปได้ควรลงเลย
เพราะมันแสดงถึงว่าคนขับคนนี้ไม่ให้เกียรติต่อผู้โดยสารผู้หญิง
และบ่งบอกถึงว่าเค้าต้องคิดอะไรที่ไม่ดีอยู่บ้างแหละ
หรือว่าถ้าจะนั่งต่อไปควรเอากระเป๋าหรือเอามือมาปิดขาหรือเอามากอดอกไว้
วางตัวทำท่าทางให้ดูน่าเกรงใจ
แต่ก่อนอื่นเราก็ควรจะดูแลตัวเองเบื้องต้นไว้บ้าง เช่น ไม่แต่งตัวโป้เกินไป
หรือถ้าจะแต่งโป้หน่อยควรมีเสื้อคลุมที่มิดชิด ไม่ควรเปลี่ยนเครื่องแต่งกาย
ในรถ taxi เพราะว่าตัวเราเองเคยเห็นมีนักเรียนเปลี่ยนเสื้อในรถ taxi อ่ะ
คือ ถอดเสื้อนักเรียนแล้วก็ใส่เสื้อที่จะไปเที่ยวข้างนอกอ่ะ
ถึงแม้จะใส่เสื้อซับก็ตามแต่มันก็คงดูไม่ดีนักหรอก หรือถอดเสื้อคลุม
เพื่อจะโชว์เสื้อสายเดียวที่คลุมข้างในหรือใส่เสื้อ 2 ตัวมาแล้ว
ถอดตัวข้างนอกออกหรือเปลี่ยนกางเกงในกระโปรง
ช่าย...มันอาจไม่โป้หนิและอาจปลอดภัยกับคุณเพราะคนที่ทำ
ก็คงต้องนั่งกันหลายคนแหละถึงกล้าทำ แต่มันอาจไปกระตุ้น
ต่อมความเป็นชายของคนขับ ซึ่งอาจเป็นอันตรายต่อผู้โดยสารคนต่อๆไปได้
ใครจะไปรู้ ก็ช่วยๆกัน ผู้หญิงเหมือนกันเนอะ
c.ควรสังเกตด้วยว่าคนขับเอามือมาที่ช่องแอร์บ่อยไหมหรือฉีดสเปรย์อะไร
ที่ช่องแอร์หรือไม่ ถ้าผิดสังเกต รู้สึกมีอาการแปลก เช่น รู้สึกปวดหัว มึนหัว
วิงเวียน คลื่นไส้จะอาเจียน ร้อนวูบไปทั้งตัว หวิวๆเหมือนจะเป็นลม ไม่มีเรี่ยวแรง แสดงว่าคุณอาจโดนมอมยาสลบ ควรหาที่ปลอดภัยคนเยอะๆ สว่างๆ
แล้วลงจากรถเลย โทรหาญาติหรือเพื่อนทันที
หายใจเอาอากาศบริสุทธิ์เยอะๆหาที่พิงแล้วจะดีคุณ
อย่าไปโวยวายตอนอยู่ในรถเพราะระหว่างที่คุณโวยวาย
คุณก็จะสูดเอายาสลบที่มันฟุ้งในรถเข้าไปอีกและจะทำให้คุณสลบเร็วขึ้น
d.มีคนขับบางรายใช้วิธีมาช่วยขนสัมภาระของเรา
แล้วพยายามจะแตะเนื้อต้องตัวเราแบบดูไม่ตั้งใจ
เพื่อจะป้ายยาสลบสลบใส่เรานั่นเอง
7.สิ่งที่สำคัญที่สุดที่ต้องทำเวลานั่ง taxi คือ..........
? อย่าคิดว่า คงไม่มีอะไรหรอก นั่งตั้งหลายครั้งแล้วไม่เห็นมีอะไรเลย
เพราะจะทำให้คุณปิดโอกาสในการระมัดระวังภัยของตัวคุณเอง
? อย่าเผลอหลับบนรถ taxi เด็ดขาด ไม่ว่าคุณจะเหนื่อย ไม่สบาย
หรือเพลียแค่ไหนก็ตาม
8. หากเห็นท่าทางไม่ดี ทำยังไงดีหล่ะ..........
หากเห็นท่าทางไม่ดี เช่น ถูกลวมลาม คนขับรถพูดจาแทะโลม รู้สึกวิงเวียน
เหมือนโดนมอมยา หรือคนขับรถออกนอกเส้นทาง ให้โทรหาญาติ เพื่อนสนิท
หรือแฟนทันที แจ้งรายละเอียดของรถ ทะเบียน สี ยี่ห้อ (หรือศูนย์ไหนถ้ามี)
และชื่อคนขับที่ติดอยู่ในรถ พร้อมกับรายละเอียดสถานที่ และเมื่อสบโอกาส
เช่น รถติดไฟแดงหรือรถชลอลงให้รีบหนีจากรถแล้วแจ้งตำรวจทันที
9.ถ้ามันยิ่งขับเร็ว บอกให้จอด แล้วมันไม่จอด ทำไง??
ตั้งสติดีๆ เปิดประตู ออกสักด้านหนึ่ง ให้ประตูมันไปโบกสบัดนอกรถ
อยู่อย่างนั้นแหละ เดี๋ยวก็ต้องชนอะไรบ้าง เดี๋ยวก็ต้องมีคนเห็นอะไรแปลก
เป็นจุดสังเกตเอง ตำรวจระหว่างทางเห็นก็จะมาช่วยเอง
อย่ายอมให้มันพาไปในที่ลับตาคนได้ มีอะไรในรถขว้างไปเลย
เล็งที่รถข้างๆ ให้ชาวบ้านเห็น
10. ถ้ามันพาไปถึงที่เปลี่ยวแล้วล่ะ??
อย่ายอมให้มันประชิดตัว ชิงออกมาก่อน ถ้าไม่มีอาวุธป้องกันตัว
ให้เอารถเป็นที่กำบัง ไม่ต้องไปไหน ถ้ามันแน่จริง จับให้ทัน วิ่งรอบรถนั้นแหละ
ตะโกนร้องให้คนช่วย ถ่วงเวลาไปก่อน
คนร้าย มันจะมีความตั้งใจที่จะทำร้ายได้แค่ช่วงเวลาสั้นๆ เท่านั้น
หากเลยเวลาช่วงนั้นไปแล้ว ส่วนใหญ่ก็จะล้มเลิก หนีเอาตัวรอด
แต่ถ้านานแล้ว ยังไม่มีใครมาช่วย แล้วมันก็ยังไม่ไปไหน
หาโอกาสดีๆ ตะโกนดังๆ ว่า " ตำรวจมา ตำรวจช่วยด้วย "
แล้ววิ่งสุดชีวิต เพราะคนร้าย มีความกลัวตำรวจอยู่แล้ว
เราตะโกนว่า ตำรวจมา มันก็ตกใจ จะหาทางหนีให้ตัวเองเหมือนกัน
จังหวะนั้น เราคงนำหน้ามันได้สัก 100 เมตร ผมเชื่อมั่นในฝีเท้าหญิงไทย
หมายเลขโทรศัพท์ด่วนแจ้งตำรวจ คือ 191
สถานีวิทยุ จส.100 คือ 1137
สถานีวิทยุ สวพ.91 คือ 1164
ที่มา:thaibodyguard
____ _____ ____
สำหรับข้อ6b มุสลิมะฮฺรอดตัวไป

ส่วนข้อ6dนั้น เราจะต้องเป็นหญิงถึกค่ะ หากอยู่คนเดียวก็ต้องถึกเพิ่มขึ้นอีกนิด
อย่าปล่อยให้ใครมาช่วยถือโน่นถือนี่ให้
แน่นอนค่ะว่า สุภาพบุรุษที่ดีย่อมอยากช่วยเหลือสภาพสตรีที่กำลังตกทุกข์ได้ยาก
แต่ที่ไม่ดีก็คือโจรที่มาในคราบสุภาพบุรุษนี่สิ...
เราไม่เคยรู้จักกันมาก่อน เราจึงมีเหตุผลเพียงพอค่ะ ที่จะไม่ไว้ใจ
ยิ่งคนๆนั้นไม่ใช่พี่น้องมุสลิมด้วยกันแล้ว ยิ่งไม่ต้องคิดนานเลยค่ะ
เมื่อเรายืนยันจะช่วยตัวเอง ใครหน้าไหนก็ไม่กล้าช่วยแน่ๆค่ะ...
ปิดโอกาสโจรไปพร้อมๆกับมิตร แต่เราสามารถหามิตรได้อีกค่ะ ไม่เป็นไรค่ะ
แม้จะเหนื่อยไปนิดแต่ก็ตัดปัญหาไปได้หนึ่งเรื่องค่ะ...
จึงจำต้องพกสโลแกนที่ว่า...สวย ถึก และบึกบึนค่ะ...

(อย่างแรกนั้น เราต้องยอมรับด้วยใจที่เป็นธรรมค่ะว่าเราทุกคนนั้นเกิดมาสวย...)

ดังนั้นความสวยของเราอาจจะไปเตะตาใครก็ได้
เราจึงต้องนึกไว้เสมอว่าฉันสวย ฉันจะได้ไม่เผลอลืมป้องกันตัว
(บางครั้งหน้าตาของเราก็เป็นอาวุธหรือดาบสองคมได้เช่นกันค่ะ)
อย่างที่สอง เราถึกค่ะ เราต้องนึกเสมอว่า เราช่วยเหลือตัวเองได้...
อย่างที่สาม บึกบึน เราออกกำลังกายด้วยการขัดบ้านถูกบ้าน
ล้างจาน ซักเสื้อผ้า ทำทุกอย่างที่ผู้ชายบางคนไม่กล้าทำ แต่เราทำได้
ดังนั้น เราก็บึกบึน เราสู้ได้ ฉันก็สู้คน เราสู้ไหว เรารับได้กับทุกสถานการณ์
เรามีอัลลอฮฺอยู่เคียงข้าง...พระเอกในชีวิตจริงไม่มีเหมือนในหนังในละคร...
และเราไม่ใช่นางเอก...

หากมีข้อความใดไม่เหมาะสม ลบได้เลยนะคะ
วัสลามุอะลัยกุมค่ะ