ผู้เขียน หัวข้อ: เคล็ด(ไม่)ลับสำหรับการป้องกันตัว(BODYGUARD)  (อ่าน 3120 ครั้ง)

0 สมาชิก และ 1 บุคคลทั่วไป กำลังดูหัวข้อนี้

ออฟไลน์ nada-yoru

  • เพื่อนรัก (6_6)
  • *****
  • กระทู้: 4010
  • เพศ: หญิง
  • แสงและเงา
  • Respect: +134
    • ดูรายละเอียด

 salam

คิดอยู่นานค่ะว่าจะตั้งกระทู้นี้ดีหรือเปล่า...
แต่วันนี้ตัดสินใจแล้วว่าจะตั้งค่ะ...;D
เพื่อพี่น้องมุสลิมะฮฺที่จำต้องออกจากบ้าน เดินทางคนเดียว
หรือตกอยู่ในสถานการณ์คับขัน
ไม่ต้องถึงขั้นออกกระบวนท่าใดๆ หรือกำหมัดตั้งการ์ดขึ้นสู้
หรือใช้กำลังอันน้อยนิดต่อสู้กับผู้ร้ายตัวโตแต่อย่างใดค่ะ...
แต่เป็นการป้องกัน ป้องกันที่หมายถึง พยายามไม่ให้ตนเอง
ต้องเข้าไปเผชิญกับสถานการณ์เลวร้ายหรือเปิดโอกาสให้กับผู้ร้าย
ได้เข้ามาทำร้าย เป็นการตัดไฟแต่ต้นลม
หรือหากตกอยู่ในสถานการณ์ที่ชวนให้ต้องระแวงเราควรปฏิบัติอย่างไร...

ข้าน้อยขอนำข้อมูลที่เคยศึกษามานำเสนอ
และหากท่านใดมีวิธีการดีๆที่พอจะแนะนำ ก็อยากให้ร่วมเสวนาด้วยกันค่ะ...

แต่ไม่ว่าจะอย่างไร....ผู้ที่คุ้มครองเราคืออัลลอฮฺ ซุบฮานาฮุวะตะอาลา
การป้องกันตัวจึงเป็นแค่การหลีกห่างจากภัย


วิธีปฏิบัติเมื่อ นั่ง TAXI คนเดียว ( ป้องกันตัว )


    ที่เราต้องระมัดระวังตัวเวลานั่ง  taxi
ไม่ใช่เรามองว่าคนขับ  taxi  ทุกคนไม่ดีนะคะ   
แต่เพราะอาชีพ  taxi  เป็นอาชีพที่ใครมาขับก็ได้ ไม่ต้องทำประวัติอาชญากร     
และก็มีคนที่ขับ  taxi บางคนใช้อาชีพนี้ในทางไม่ดีอย่างที่เราเห็นในข่าวมากมาย     และที่สำคัญคือเมื่อเราอยู่บน taxi  ก็จะมีแต่เราและคนขับเท่านั้น   
ถ้าเกิดอะไรไม่ดีขึ้น......เราจะทำอย่างไรล่ะ.....เราต้องมีวิธีป้องกันตัว
 
เพราะฉะนั้นควรดูแลความปลอดภัยของตัวเองไว้หน่อย     
เพราะกันไว้ย่อมดีกว่าแก้นะคะ
 

1.วิธีการปฏิบัติตัวเริ่มตอนไหนดี..........

เริ่มตั้งแต่ก่อนขึ้นรถ ตอนที่เราบอกทางก็สังเกตว่าในรถมีทะเบียนรถ
ที่เป็นแผ่นเหล็กติดอยู่ที่ประตูหรือไหม และแอบสังเกตว่าคนขับหน้าตา ท่าทาง   
ดูน่าไว้วางใจหรือไม่ มีอาการมึนเมาหรือเปล่า

2.เมื่อขึ้นไปนั่งทำอะไรอันแรก..........

ควรจำทะเบียนรถทันทีหรือจดใส่กระดาษไว้เลย ดูชื่อคนขับ
และดูรูปว่าในใบที่ติดในรถกับคนที่ขับอยู่ตรงกันหรือไม่
(แล้วจะให้ดีที่สุด โทรศัพท์เลยครับ โทรหาคนที่ท่านกำลังจะไปหา
บอกไปเลยดังๆ ให้คนขับได้ยินว่า " ฉันขึ้นรถ TAXI เขียว-เหลือง
ป้ายทะเบียน กทม. มจ.xxxx คนขับชื่อ นายxxxxx xxxxxxxxxx 
แต่หน้าตาไม่เหมือนในรูปที่โชว์นะ แล้วเจอกัน " แล้วนั่งนิ่งๆไปเลย
บอกทางอย่างเดียว ไม่ต้องอาย ทำดี อย่ากลัว
*** แล้วอย่าลืม!!! สเปรย์พริกไทย ที่ซื้อมานะ อยู่ตรงไหน เอาออกมา
ปลด LOCK ให้อยู่ในสภาพพร้อมใช้งาน
เห็นท่าไม่ดี ฉีดก่อนเลยอย่าลังเล)

3.แล้วจะนั่งตรงไหนดีที่สุด..........

ถ้าเราโดยสารไปคนเดียวควรเลือกนั่งเบาะหลังที่นั่งคนขับ     
โดยนั่งให้ชิดประตูด้านขวา เพราะมีเบาะกั้นและด้านเดียวกับคนขับ     
เป็นการยากที่คนขับจะใช้อาวุธหรือสารเคมี ยาสลบต่างๆต่อผู้โดยสารโดยตรง     
และเป็นการยากที่คนขับจะจู่โจมเหยื่อ   
แต่เวลาจะลงเมื่อถึงที่หมายควรลงทางประตูด้านซ้ายค่ะ

4.ถ้าไม่รู้ทาง   ทำไงดี ..........   

พยายามอย่าบอกว่าไม่รู้เส้นทางแถวนี้เลย ถึงแม้มาจากต่างจังหวัดไม่รู้ทางเลย   
ถ้าคนขับถามว่าไปทางไหนดี ควรบอกไปว่า ไปทางไหนก็ได้......
แต่ให้ดีก็รถไม่ค่อยติด และไม่เข้าซอยเปลี่ยว  (ถ้าไม่จำเป็น)     
อย่าได้แสดงท่าทางไม่รู้เส้นทาง ไม่รู้เรื่องเลย เป็นลูกคุณหนูเพิ่งเคยเดินทาง
คนเดียวครั้งแรกหรืออยู่ต่างจังหวัดเพิ่งเข้ากรุงเทพครั้งแรก       
เพราะอาจเกิดอันตรายได้นะจ๊ะ และถ้าไม่รู้ทางทั้งคนนั่งและคนขับ
อาจเปลี่ยนรถคันใหม่หรือถามทางกับคนแถวนั้น   
แต่ที่ๆ จอดถามต้องปลอดภัย คนเยอะ ไม่เปลี่ยวเพราะอาจเป็นพวกเดียว
กับคนขับที่เตี้ยมกันก็ได้แต่ให้ดีถึงไม่รู้ทางเลย     
แต่ถ้าจะไปไหนก็ควรดูๆทางหรือถามคนอื่นว่าตรงผ่านที่ไหนไว้บ้าง     

5.คุยอะไรกับ  taxi  ได้บ้าง..........

ควรคุยกับคนขับเฉพาะเรื่องเส้นทางเท่านั้น ไม่ควรคุยเรื่องส่วนตัว     
หากเค้าชวนคุยเซ้าซี้ ควรตัดบทหรือนิ่งเสียหรือทำเสียงเคร่งขรึมให้เค้าเกรงใจ     
แต่ถ้าเราไม่มั่นใจในแววตาของตัวเองว่าเข้มแข็งพอไหม 
ก็ไม่ต้องไปสบตาคนขับ  วางมาดให้เค้าเกรงใจ
เพราะคนเหล่านี้เค้าจะชำนาญในการดูสายตา   สีหน้า   ท่าทาง   
น้ำเสียงของคนอยู่แล้ว คนขับบางคนอาจเริ่มคุยจากพูดถึงตัวเองเป็นคนดี
อย่างโน้นอย่างนี้ เคยช่วยคนมาแล้วหรือเกลียดพวก  taxi   ที่ทำตัวไม่ดี     
หรือเตือนเราให้ระวัง   taxi   อย่างนั้นอย่างนี้ ถ้าเราคุยโต้ตอบแบบว่าถูกคอ
หรือคล้อยตาม ก็จะเริ่มเข้าเรื่องส่วนตัวและพูดไปพูดมาก็เข้าเรื่องทะลึ่งๆ   
หรือเอาเรื่องดูดวงมาทักว่าดูหมองๆเหมือนมีเคราะห์   
ถ้าเราไปเชื่อก็จะแนะนำอาจารย์ที่เก่งให้แล้วขอเบอร์หรือจะพาไปเป็นพิเศษ       
ลองจินตนาการเอาเองแหละกันนะคะว่ามันอันตรายยังไงได้บ้าง

6.ขณะนั่งสังเกตอะไรบ้าง..........

a.ควรสังเกตเส้นทางตลอดเลาที่ผ่าน มองหาป้ายบอกชื่อถนน ชื่อซอย   
ซอยที่เท่าไหร่ ถ้ารู้สึกผิดปกติให้โทรหาญาติหรือเพื่อนโดยบอกเส้นทาง
ที่ผ่านมาทุกระยะ

b.บ่อยครั้งที่จะมีคนขับปรับกระจกมองข้างหลัง มาดูระดับขาหรือระดับหน้าอก   
เพราะฉะนั้นถ้าขึ้นไปแล้วเห็นว่าคนขับปรับกระจกต่ำเกินไป   
และอยู่ระดับที่มองเห็นขาหรือหน้าอกเรา ถ้าเป็นไปได้ควรลงเลย   
เพราะมันแสดงถึงว่าคนขับคนนี้ไม่ให้เกียรติต่อผู้โดยสารผู้หญิง
และบ่งบอกถึงว่าเค้าต้องคิดอะไรที่ไม่ดีอยู่บ้างแหละ   
หรือว่าถ้าจะนั่งต่อไปควรเอากระเป๋าหรือเอามือมาปิดขาหรือเอามากอดอกไว้     
วางตัวทำท่าทางให้ดูน่าเกรงใจ                                                                                                                         

แต่ก่อนอื่นเราก็ควรจะดูแลตัวเองเบื้องต้นไว้บ้าง เช่น ไม่แต่งตัวโป้เกินไป   
หรือถ้าจะแต่งโป้หน่อยควรมีเสื้อคลุมที่มิดชิด ไม่ควรเปลี่ยนเครื่องแต่งกาย
ในรถ  taxi เพราะว่าตัวเราเองเคยเห็นมีนักเรียนเปลี่ยนเสื้อในรถ  taxi อ่ะ 
คือ ถอดเสื้อนักเรียนแล้วก็ใส่เสื้อที่จะไปเที่ยวข้างนอกอ่ะ   
ถึงแม้จะใส่เสื้อซับก็ตามแต่มันก็คงดูไม่ดีนักหรอก หรือถอดเสื้อคลุม
เพื่อจะโชว์เสื้อสายเดียวที่คลุมข้างในหรือใส่เสื้อ 2 ตัวมาแล้ว   
ถอดตัวข้างนอกออกหรือเปลี่ยนกางเกงในกระโปรง   
ช่าย...มันอาจไม่โป้หนิและอาจปลอดภัยกับคุณเพราะคนที่ทำ
ก็คงต้องนั่งกันหลายคนแหละถึงกล้าทำ    แต่มันอาจไปกระตุ้น
ต่อมความเป็นชายของคนขับ     ซึ่งอาจเป็นอันตรายต่อผู้โดยสารคนต่อๆไปได้
ใครจะไปรู้    ก็ช่วยๆกัน    ผู้หญิงเหมือนกันเนอะ

c.ควรสังเกตด้วยว่าคนขับเอามือมาที่ช่องแอร์บ่อยไหมหรือฉีดสเปรย์อะไร
ที่ช่องแอร์หรือไม่ ถ้าผิดสังเกต   รู้สึกมีอาการแปลก เช่น   รู้สึกปวดหัว มึนหัว 
วิงเวียน   คลื่นไส้จะอาเจียน ร้อนวูบไปทั้งตัว หวิวๆเหมือนจะเป็นลม ไม่มีเรี่ยวแรง     แสดงว่าคุณอาจโดนมอมยาสลบ  ควรหาที่ปลอดภัยคนเยอะๆ สว่างๆ
แล้วลงจากรถเลย โทรหาญาติหรือเพื่อนทันที     
หายใจเอาอากาศบริสุทธิ์เยอะๆหาที่พิงแล้วจะดีคุณ       
อย่าไปโวยวายตอนอยู่ในรถเพราะระหว่างที่คุณโวยวาย     
คุณก็จะสูดเอายาสลบที่มันฟุ้งในรถเข้าไปอีกและจะทำให้คุณสลบเร็วขึ้น

d.มีคนขับบางรายใช้วิธีมาช่วยขนสัมภาระของเรา
แล้วพยายามจะแตะเนื้อต้องตัวเราแบบดูไม่ตั้งใจ         
เพื่อจะป้ายยาสลบสลบใส่เรานั่นเอง


7.สิ่งที่สำคัญที่สุดที่ต้องทำเวลานั่ง  taxi   คือ..........

? อย่าคิดว่า “ คงไม่มีอะไรหรอก  นั่งตั้งหลายครั้งแล้วไม่เห็นมีอะไรเลย  “ 
เพราะจะทำให้คุณปิดโอกาสในการระมัดระวังภัยของตัวคุณเอง 

? อย่าเผลอหลับบนรถ  taxi   เด็ดขาด   ไม่ว่าคุณจะเหนื่อย ไม่สบาย   
หรือเพลียแค่ไหนก็ตาม
 
8. หากเห็นท่าทางไม่ดี ทำยังไงดีหล่ะ..........
หากเห็นท่าทางไม่ดี เช่น ถูกลวมลาม คนขับรถพูดจาแทะโลม รู้สึกวิงเวียน     
เหมือนโดนมอมยา    หรือคนขับรถออกนอกเส้นทาง ให้โทรหาญาติ เพื่อนสนิท   
หรือแฟนทันที แจ้งรายละเอียดของรถ ทะเบียน สี   ยี่ห้อ   (หรือศูนย์ไหนถ้ามี)   
และชื่อคนขับที่ติดอยู่ในรถ พร้อมกับรายละเอียดสถานที่ และเมื่อสบโอกาส   
เช่น รถติดไฟแดงหรือรถชลอลงให้รีบหนีจากรถแล้วแจ้งตำรวจทันที
 

9.ถ้ามันยิ่งขับเร็ว บอกให้จอด แล้วมันไม่จอด ทำไง??

ตั้งสติดีๆ เปิดประตู ออกสักด้านหนึ่ง ให้ประตูมันไปโบกสบัดนอกรถ
อยู่อย่างนั้นแหละ เดี๋ยวก็ต้องชนอะไรบ้าง เดี๋ยวก็ต้องมีคนเห็นอะไรแปลก
เป็นจุดสังเกตเอง ตำรวจระหว่างทางเห็นก็จะมาช่วยเอง
อย่ายอมให้มันพาไปในที่ลับตาคนได้ มีอะไรในรถขว้างไปเลย
เล็งที่รถข้างๆ ให้ชาวบ้านเห็น
 

10. ถ้ามันพาไปถึงที่เปลี่ยวแล้วล่ะ??

อย่ายอมให้มันประชิดตัว ชิงออกมาก่อน ถ้าไม่มีอาวุธป้องกันตัว
ให้เอารถเป็นที่กำบัง ไม่ต้องไปไหน ถ้ามันแน่จริง จับให้ทัน วิ่งรอบรถนั้นแหละ
ตะโกนร้องให้คนช่วย ถ่วงเวลาไปก่อน

คนร้าย มันจะมีความตั้งใจที่จะทำร้ายได้แค่ช่วงเวลาสั้นๆ เท่านั้น
หากเลยเวลาช่วงนั้นไปแล้ว ส่วนใหญ่ก็จะล้มเลิก หนีเอาตัวรอด
แต่ถ้านานแล้ว ยังไม่มีใครมาช่วย แล้วมันก็ยังไม่ไปไหน
หาโอกาสดีๆ ตะโกนดังๆ ว่า " ตำรวจมา ตำรวจช่วยด้วย "

แล้ววิ่งสุดชีวิต เพราะคนร้าย มีความกลัวตำรวจอยู่แล้ว
เราตะโกนว่า ตำรวจมา มันก็ตกใจ จะหาทางหนีให้ตัวเองเหมือนกัน
จังหวะนั้น เราคงนำหน้ามันได้สัก 100 เมตร ผมเชื่อมั่นในฝีเท้าหญิงไทย
 
หมายเลขโทรศัพท์ด่วนแจ้งตำรวจ   คือ  191
สถานีวิทยุ  จส.100                       คือ   1137
สถานีวิทยุ  สวพ.91                      คือ   1164

ที่มา:thaibodyguard

____ _____ ____


สำหรับข้อ6b มุสลิมะฮฺรอดตัวไป :D

ส่วนข้อ6dนั้น เราจะต้องเป็นหญิงถึกค่ะ หากอยู่คนเดียวก็ต้องถึกเพิ่มขึ้นอีกนิด
อย่าปล่อยให้ใครมาช่วยถือโน่นถือนี่ให้

แน่นอนค่ะว่า สุภาพบุรุษที่ดีย่อมอยากช่วยเหลือสภาพสตรีที่กำลังตกทุกข์ได้ยาก
แต่ที่ไม่ดีก็คือโจรที่มาในคราบสุภาพบุรุษนี่สิ...

เราไม่เคยรู้จักกันมาก่อน เราจึงมีเหตุผลเพียงพอค่ะ ที่จะไม่ไว้ใจ
ยิ่งคนๆนั้นไม่ใช่พี่น้องมุสลิมด้วยกันแล้ว ยิ่งไม่ต้องคิดนานเลยค่ะ

เมื่อเรายืนยันจะช่วยตัวเอง ใครหน้าไหนก็ไม่กล้าช่วยแน่ๆค่ะ...
ปิดโอกาสโจรไปพร้อมๆกับมิตร แต่เราสามารถหามิตรได้อีกค่ะ ไม่เป็นไรค่ะ
แม้จะเหนื่อยไปนิดแต่ก็ตัดปัญหาไปได้หนึ่งเรื่องค่ะ...

จึงจำต้องพกสโลแกนที่ว่า...สวย ถึก และบึกบึนค่ะ...  yippy:
(อย่างแรกนั้น เราต้องยอมรับด้วยใจที่เป็นธรรมค่ะว่าเราทุกคนนั้นเกิดมาสวย...) ;D

ดังนั้นความสวยของเราอาจจะไปเตะตาใครก็ได้
เราจึงต้องนึกไว้เสมอว่าฉันสวย ฉันจะได้ไม่เผลอลืมป้องกันตัว
(บางครั้งหน้าตาของเราก็เป็นอาวุธหรือดาบสองคมได้เช่นกันค่ะ)

อย่างที่สอง เราถึกค่ะ เราต้องนึกเสมอว่า เราช่วยเหลือตัวเองได้...

อย่างที่สาม บึกบึน เราออกกำลังกายด้วยการขัดบ้านถูกบ้าน
ล้างจาน ซักเสื้อผ้า ทำทุกอย่างที่ผู้ชายบางคนไม่กล้าทำ แต่เราทำได้
ดังนั้น เราก็บึกบึน เราสู้ได้ ฉันก็สู้คน เราสู้ไหว เรารับได้กับทุกสถานการณ์
เรามีอัลลอฮฺอยู่เคียงข้าง...พระเอกในชีวิตจริงไม่มีเหมือนในหนังในละคร...
และเราไม่ใช่นางเอก... oh:


หากมีข้อความใดไม่เหมาะสม ลบได้เลยนะคะ

วัสลามุอะลัยกุมค่ะ


« แก้ไขครั้งสุดท้าย: ต.ค. 24, 2009, 09:10 PM โดย nada-yoru »
"และข้ามิได้สร้างญิน และมนุษย์เพื่ออื่นใด เว้นแต่เพื่อเคารพภักดีต่อข้า"

(ซูเราะฮฺ อัซซาริยาต อายะอฺที่ 56)

ออฟไลน์ ฮัยฟาอ์

  • เพื่อนสนิท (._.")
  • ***
  • กระทู้: 263
  • Respect: 0
    • ดูรายละเอียด
Re: เคล็ด(ไม่)ลับสำหรับการป้องกันตัว(BODYGUARD)
« ตอบกลับ #1 เมื่อ: ต.ค. 24, 2009, 09:20 PM »
0
กล่องดวงใจมีไว้เตะยามคับขัน

ออฟไลน์ nada-yoru

  • เพื่อนรัก (6_6)
  • *****
  • กระทู้: 4010
  • เพศ: หญิง
  • แสงและเงา
  • Respect: +134
    • ดูรายละเอียด
Re: เคล็ด(ไม่)ลับสำหรับการป้องกันตัว(BODYGUARD)
« ตอบกลับ #2 เมื่อ: ต.ค. 24, 2009, 10:17 PM »
0
^
^
^
;D

ข้าน้อยกลัวว่ามันจะเป็นแค่ทฤษฎีที่ปฏิบัติจริงยากน่ะสิคะท่าน
เพราะผู้ชายเขาก็รู้จุดอ่อนของตัวเองดีอยู่แล้ว
ใครเขาจะยอมกันล่ะคะ...พี่ชายข้าน้อยบอกเองว่า
ผู้ชายเขาไม่มีทางให้ผู้หญิงลูบคมง่ายๆ...

ดังนั้น...ทางรอดคือมารยา100เล่มเกวียนกับดุอาอฺค่ะ...
ในร้อยเล่มที่ว่านั้น พี่ชายข้าน้อยบอกว่า ต้องมีสักเล่มสิน่่า
ที่ทำให้ผู้ชายแพ้ทางได้...อิอิ...ดังนั้น เราต้องไม่ประมาทซึ่งกันและกันค่ะ...

 
« แก้ไขครั้งสุดท้าย: ต.ค. 24, 2009, 10:19 PM โดย nada-yoru »
"และข้ามิได้สร้างญิน และมนุษย์เพื่ออื่นใด เว้นแต่เพื่อเคารพภักดีต่อข้า"

(ซูเราะฮฺ อัซซาริยาต อายะอฺที่ 56)

ออฟไลน์ บาชีร

  • ปีสามสักที
  • ซังกุงคนสนิท ( +_-)
  • เพื่อนรัก (6_6)
  • *****
  • กระทู้: 2164
  • เพศ: ชาย
  • Respect: +59
    • ดูรายละเอียด
Re: เคล็ด(ไม่)ลับสำหรับการป้องกันตัว(BODYGUARD)
« ตอบกลับ #3 เมื่อ: ต.ค. 24, 2009, 11:28 PM »
0
ก็ใช้สักสองเล่มก็ได้

เอานิ้วสองนิ้วจิ้มตาแรงๆๆๆๆๆๆๆๆ

รับลองหายซ่าเลย
นักเรียนปีสาม กฎหมายอิสลาม อัซฮัร ไคโร

ออฟไลน์ ILHAM

  • เพื่อนตาย T_T
  • *****
  • กระทู้: 11348
  • เพศ: ชาย
  • Sherlock Holmes
  • Respect: +273
    • ดูรายละเอียด
    • ILHAM
Re: เคล็ด(ไม่)ลับสำหรับการป้องกันตัว(BODYGUARD)
« ตอบกลับ #4 เมื่อ: ต.ค. 25, 2009, 03:27 AM »
0
อ่านอายัต เป่าไป ยาเกนเต็มที่ ได้ผลแน่นอน ไม่ต้องพกอะไร
إن شاءالله ติด ENT'?everybody

Sherlock Holmes said "How often have I said to you that when you have eliminated the impossible, whatever remains, however improbable, must be the truth?"
-------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------

ออฟไลน์ nada-yoru

  • เพื่อนรัก (6_6)
  • *****
  • กระทู้: 4010
  • เพศ: หญิง
  • แสงและเงา
  • Respect: +134
    • ดูรายละเอียด
Re: เคล็ด(ไม่)ลับสำหรับการป้องกันตัว(BODYGUARD)
« ตอบกลับ #5 เมื่อ: ต.ค. 25, 2009, 04:29 AM »
0



 loveit:
 loveit:
 loveit:
"และข้ามิได้สร้างญิน และมนุษย์เพื่ออื่นใด เว้นแต่เพื่อเคารพภักดีต่อข้า"

(ซูเราะฮฺ อัซซาริยาต อายะอฺที่ 56)

ออฟไลน์ Bangmud

  • เพื่อนรัก (6_6)
  • *****
  • กระทู้: 2821
  • Respect: +127
    • ดูรายละเอียด
Re: เคล็ด(ไม่)ลับสำหรับการป้องกันตัว(BODYGUARD)
« ตอบกลับ #6 เมื่อ: ต.ค. 25, 2009, 06:26 AM »
0
อ่านอายัต เป่าไป ยาเกนเต็มที่ ได้ผลแน่นอน ไม่ต้องพกอะไร
มีอายะฮฺอะไรสำหรับกรณีนี้หรือเปล่าครับ
ชะรัตการป้องกันตัวเองตามที่ยกมานี้มากมายเหลือเกิน จำไม่ไหวครับ ผู้ชายต้องระวังน้อยกว่าผู้หญิงจำข้อเตะกล่องดวงใจไว้แหละ ดีที่สุด
ส่วนผู้หญิง ถ้าแต่งกายตามแบบฉบับอิสลาม ก็ลดความเสี่ยงได้มาก ผู้ชายที่คิดจะทำอย่างนี้ได้ เป็นพวกที่จิตใจป่วยเท่านั้น
และภัยผู้หญิงที่จำเป็นต้องป้องกันนั้น ไม่ได้มีเฉพาะคนขับแทกซี่เท่านั้น คนอื่นก็มีมากมาย
ผู้ชายอย่างคนในเวปนี้นึกไม่ค่อยออก เพราะพวกเราคงไม่คิดจะไปก่อภัยให้แก่ใคร ต้องอาศัยคนที่พบเห็นเหตุการณ์มาช่วยนำเสนอ
ช่วยป้องกันสุภาพสตรี โดยเฉพาะมุสลิมาต คนละไม้คนละมือ
والسلام

ออฟไลน์ nada-yoru

  • เพื่อนรัก (6_6)
  • *****
  • กระทู้: 4010
  • เพศ: หญิง
  • แสงและเงา
  • Respect: +134
    • ดูรายละเอียด
Re: เคล็ด(ไม่)ลับสำหรับการป้องกันตัว(BODYGUARD)
« ตอบกลับ #7 เมื่อ: ต.ค. 25, 2009, 06:53 AM »
0
^
^

เห็นด้วยค่ะแช..คนละไม้คนละมือ...ร่วมด้วยช่วยกัน...อิอิ...

ข้าน้อยเอง หากมีโอกาส อินชาอัลลอฮฺ
จะนำเสนอเรื่อยๆค่ะ...

พี่น้องในนี้มีอะไรแนะนำ ช่วยกันนำเสนอด้วยนะคะ

ปล.สังคมเดี๋ยวนี้คนโรคจิตมีเยอะค่ะ...หลายรูปแบบเสียด้วยสิ...
เพราะหากว่าสังคมที่เราอยู่มีมุสลิมเป็นส่วนใหญ่ก็จะอุ่นใจในระดับนึง
แต่หากไม่ใช่นี่ก็คงต้องช่วยกันแนะนำวิธีการเอาตัวรอดจากสังคม
กันน่ะค่ะ...คิดไปคิดมา...หัวอกคนเป็นพ่อเป็นแม่คงทุกข์ใจไม่น้อยนะคะ
กับสังคมที่ลูกตัวเองต้องเผชิญอยู่ในปัจจุบัน...
"และข้ามิได้สร้างญิน และมนุษย์เพื่ออื่นใด เว้นแต่เพื่อเคารพภักดีต่อข้า"

(ซูเราะฮฺ อัซซาริยาต อายะอฺที่ 56)

ออฟไลน์ ILHAM

  • เพื่อนตาย T_T
  • *****
  • กระทู้: 11348
  • เพศ: ชาย
  • Sherlock Holmes
  • Respect: +273
    • ดูรายละเอียด
    • ILHAM
Re: เคล็ด(ไม่)ลับสำหรับการป้องกันตัว(BODYGUARD)
« ตอบกลับ #8 เมื่อ: ต.ค. 25, 2009, 08:34 AM »
0
ไม่นานก็ได้ออกแหละ
إن شاءالله ติด ENT'?everybody

Sherlock Holmes said "How often have I said to you that when you have eliminated the impossible, whatever remains, however improbable, must be the truth?"
-------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------

ออฟไลน์ ILHAM

  • เพื่อนตาย T_T
  • *****
  • กระทู้: 11348
  • เพศ: ชาย
  • Sherlock Holmes
  • Respect: +273
    • ดูรายละเอียด
    • ILHAM
Re: เคล็ด(ไม่)ลับสำหรับการป้องกันตัว(BODYGUARD)
« ตอบกลับ #9 เมื่อ: ต.ค. 25, 2009, 08:39 AM »
0
เดี๋ยวพามาเปิดหูเปิดตาแถวๆนี้
إن شاءالله ติด ENT'?everybody

Sherlock Holmes said "How often have I said to you that when you have eliminated the impossible, whatever remains, however improbable, must be the truth?"
-------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------

ออฟไลน์ nada-yoru

  • เพื่อนรัก (6_6)
  • *****
  • กระทู้: 4010
  • เพศ: หญิง
  • แสงและเงา
  • Respect: +134
    • ดูรายละเอียด
Re: เคล็ด(ไม่)ลับสำหรับการป้องกันตัว(BODYGUARD)
« ตอบกลับ #10 เมื่อ: ต.ค. 25, 2009, 08:48 AM »
0
ข้อดีของการมีพี่ชายที่เห็นได้ชัดๆก็คือ
เวลาไปไหนมาไหน มีพี่ชายคอยเป็นบอดีการ์ดให้ สบายสุดๆค่ะ
ไร้กังวล เที่ยวโลดดดดดด...
แต่ว่า ข้อเสียก็คือ...
"และข้ามิได้สร้างญิน และมนุษย์เพื่ออื่นใด เว้นแต่เพื่อเคารพภักดีต่อข้า"

(ซูเราะฮฺ อัซซาริยาต อายะอฺที่ 56)

ออฟไลน์ nada-yoru

  • เพื่อนรัก (6_6)
  • *****
  • กระทู้: 4010
  • เพศ: หญิง
  • แสงและเงา
  • Respect: +134
    • ดูรายละเอียด
Re: เคล็ด(ไม่)ลับสำหรับการป้องกันตัว(BODYGUARD)
« ตอบกลับ #11 เมื่อ: ต.ค. 25, 2009, 09:11 AM »
0
^
^

เหอๆ...กลับไปเยี่ยมบ้านตอนนั้น
ไปซื้อกับข้าวที่ตลาดกับพี่ชาย หลานชายขอตามไปด้วย
พี่ก็อุ้มหลานชายเดินกับพี่ชายในตลาด
เจอเพื่อนที่ไม่ได้พบกันมานานเห็นเข้า เพื่อนพี่ตกใจ
แรกๆพี่ก็งงๆว่าเพื่อนมันตกใจอะไร มารู้ตอนพี่ชายพี่เดินออกห่่างไป
แล้วเพื่อนพี่กระซิบถามว่า ไหนว่าไปเรียนไง
นี่แต่งงานมีลูกตั้งแต่เมื่อไหร่ โตขนาดนี้แล้วหรือออออออ...

ตอนนั้นอยากหัวเราะลั่นตลาดเรยยยยยค่ะ...

นี่ก็เป็นเทคนิคการป้องกันตัวอีกอย่่างหนึ่งที่พ่ีได้มาโดยบังเอิญ...
ว่าแล้วว่าทำไมบรรยากาศมันแปลกๆ เวลาไปไหนกับพี่ชาย...

แต่ก็ดีนะคะ ปลอดภัย พ่อพี่ถึงสนับสนุนนักให้ไปไหนกับพวกพี่ชาย
หรือไม่ก็น้องชาย...เพราะพ่ีขับรถไม่เป็นสัปรดเอาเสียเลย
เคยเสยก้นหมาลงไปนอนวัดขนาดถนนมาแล้ว...ใครๆเลยไม่ไว้ใจเรา.... ;D

"และข้ามิได้สร้างญิน และมนุษย์เพื่ออื่นใด เว้นแต่เพื่อเคารพภักดีต่อข้า"

(ซูเราะฮฺ อัซซาริยาต อายะอฺที่ 56)

ออฟไลน์ ILHAM

  • เพื่อนตาย T_T
  • *****
  • กระทู้: 11348
  • เพศ: ชาย
  • Sherlock Holmes
  • Respect: +273
    • ดูรายละเอียด
    • ILHAM
Re: เคล็ด(ไม่)ลับสำหรับการป้องกันตัว(BODYGUARD)
« ตอบกลับ #12 เมื่อ: ต.ค. 25, 2009, 09:15 AM »
0
ไม่มีบ่าวกล้าเข้าจีบ
إن شاءالله ติด ENT'?everybody

Sherlock Holmes said "How often have I said to you that when you have eliminated the impossible, whatever remains, however improbable, must be the truth?"
-------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------

ออฟไลน์ nada-yoru

  • เพื่อนรัก (6_6)
  • *****
  • กระทู้: 4010
  • เพศ: หญิง
  • แสงและเงา
  • Respect: +134
    • ดูรายละเอียด
Re: เคล็ด(ไม่)ลับสำหรับการป้องกันตัว(BODYGUARD)
« ตอบกลับ #13 เมื่อ: ต.ค. 25, 2009, 01:47 PM »
0
 salam

ขอนำเสนอเคล็ดลับจากประสบการณ์โดยตรงนะคะ

ตอนมาศึกษาในต่างแดนใหม่ๆนั้น ได้รู้จักกับพี่สาวคนไทยคนหนึ่ง
พ่ีสาวคนนี้ได้แนะนำสิ่งดีๆมากมายในการใช้ชีวิตในต่างแดน
ซึ่งตอนนั้นข้าน้อยยังไม่บรรลุนิติภาวะเลยด้วยซ้ำไปค่ะ...

พี่สาวคนนี้บอกข้าน้อยว่า...หากจะไปไหนหรือทำอะไรให้ไปกันเป็นกลุ่ม
พยายามเกาะกลุ่มเพื่อนเอาไว้ เพราะการเกาะกันเป็นกลุ่ม
จะเป็นกำแพงอย่างดีให้กับตัวเรา...เพราะเมื่อไหร่ที่ใจไม่แข็งพอ
แล้วออกไปไหนตามลำพัง จะอันตราย มิใช่สังคมหรอกที่อันตราย
แต่เป็นเพราะใจที่พร้อมจะไหลไปตามสังคมได้ต่างหากที่มันอันตรายยิ่งกว่าสิ่งใด
เมื่อเรารู้ว่าเราไม่แข็งแรงพอ เราต้องหากำแพง ต้องสร้างกำแพงปิดล้อมตัวเอง
ซึ่งการเกาะกันเป็นกลุ่มนั่นแหล่ะที่จะเป็นเกราะป้องกันภัยให้กับเราอย่างดี

หากไปไหนกันหลายๆคนท้ังชายและหญิงก็ให้เกาะกลุ่มคุยกันกับผู้หญิง
อย่ารั้งท้าย อย่าเดินแตกแถว เพราะบางครั้งผู้ชายที่เขาหมายตาใครสักคน
ในกลุ่มผู้หญิงนั้น เขาจะทำทุกวิถีทางเพื่อดึงเธอออกมาจากกลุ่มให้ได้
เพราะเมื่อใดก็ตามที่ผู้หญิงที่เขาหมายตายังอยู่ในกลุ่ม เขาจะไม่สามารถ
แทรกเข้าไปหรือทำอะไรอย่างที่อยากทำได้ ผู้ชายนั้นหวังอะไรจากผู้หญิงหลายอย่าง
อย่าไปเชื่อใจแค่เพียงเวลาสั้นๆ เพราะว่าสุดท้ายเราอาจเป็นแค่ทางผ่านก็เป็นได้

เขาจะพยายามพังประตูทุกๆประตู เขาจะหาช่องโหว่ทุกๆช่องโหว่
เพื่อจะพังประตูนั้น หากเราเปิดให้แม้เพียงนิดเดียว
ก็เท่ากับเรายอมให้เขาก้าวเข้ามา จะด้วยเต็มใจหรือไม่ก็ตาม...

พี่สาวคนนั้นบอกข้าน้อยว่า...คนที่จะโดนก่อนใครก็คือคนที่อยู่โดดเดี่ยว
ชอบปลีกตัวและคนขี้เหงา เพราะคนขี้เหงาจะเป็นเหยื่อในต่างแดนได้ง่ายกว่าใคร
เพราะความเหงานี่แหล่ะที่ลายชีวิตคนดีๆมาเยอะแล้ว...
ดังนั้น อย่าให้ความเหงามาทักทายบ่อยๆ หาอะไรทำ พยายามเกาะกลุ่มทำกิจกรรม
ยามว่างกับเพื่อนๆ...และเมื่อไหร่ที่เราแข็งพอ ความเหงาจะทำอะไรเราไม่ได้อีกแล้ว
เราจะสามารถหันหน้ามาเป็นมิตรกับความเหงาได้ โดยไม่รู้สึกอะไรอีก...

และพี่สาวใจดีคนนั้นยังบอกข้าน้อยอีกว่า...
อย่าได้มีรักในระหว่างเรียน เธอสู้ไม่ไหวแน่ๆ เพราะแค่เรื่องเรียนอย่างเดียว
ก็หนักหนาสาหัสพออยู่แล้ว หากมีเรื่องรักเข้ามา พี่รับรองได้ว่าเธอจะสู้ไม่ไหว
เธอจะไม่สามารถแยกแยะเรื่องรักกับเรืื่องเรียนออกจากกันได้
แล้วต้องหอบผ้าหอบผ่อนกลับบ้านเกิดทั้งๆที่ยังเรียนไม่จบ
อย่างที่หลายๆคนเป็นกัน...หากหวั่นไหวกับใครหรือสิ่งใด ก็ให้ถามหัวใจตัวเองว่า
เรามาที่นี่ทำไม เรามาทำอะไรที่นี่ แล้วเราอยากจะกลับบ้านไปหาพ่อแม่พี่น้อง
ที่เขารอเราอยู่ข้างหลังในสภาพไหน...
หากถามใจตัวเองอย่างนี้บ่อยๆ เราจะรู้ถึงจุดยืนของตัวเอง และเราจะไม่เขว...
ไม่สับสน ไม่ว่าอุปสรรคขวางทางจะมากน้อยสักเท่าไหร่...

ดังนั้น ปิดประตูทุกบานที่ไม่เกี่ยวกับจุดประสงค์ที่มาที่นี่ให้หมด
อย่าให้มีช่องโหว่แม้แต่เพียงเสี้ยวเดียวของหัวใจ...เบื่อก็ออกไปเที่ยว
โลกนี้มีอะไรมากกว่าการมีความรักในสภาวะที่ไม่พร้อมทั้งกายและใจ

โดยเฉพาะ สังคมที่มีผู้คนมากมายร้อยพ่อพันแม่ ที่มาพร้อมภัยมากมาย
แต่พี่สาวคนนี้บอกว่า ไม่ต้องกลัว ให้เรานั่งศึกษาคนแต่ละประเภท
โดยเฉพาะคนโรคจิตว่ามีกี่ประเภท แล้วเขาต้องการสิ่งใดจากเหยื่อ
เขามีวิธีการอย่างไรบ้าง ให้ติดตามจากข่าวสารและอ่านหนังสือเยอะๆ
ศึกษาลักษณะวิธีการของคนร้ายตามข่่าว แล้วดูว่าเขาต้องการสิ่งใดจากเหยื่อ
เราจะได้หาทางหนีที่ไล่ได้...ไม่ต้องเข้าไปนั่งอ่านใจใครให้เหนื่อย
แค่พยายามจะเข้าใจคนเหล่าน้ัน เพราะทุกคนนั้นมีเหตุผลสำหรับการกระทำ
ไม่ว่าเหตุผลนั้นจะสมเหตุสมผลหรือไม่ก็ตาม แต่มันก็เป็นเหตุผลสำหรับการกระทำ
นั้นๆของเขา...

ให้ศึกษาทุกคนที่เข้ามาในชีวิตด้วยหัวใจที่เป็นธรรม อย่าติดสินใครว่าผิด
แต่ก็อย่าตัดสินว่าดีจนเชื่อหมดทั้งใจแล้วลืมระวังตัว...

สำหรับข้าน้อยในตอนนั้นไม่ค่อยเข้าใจคำพูดเหล่านั้นมากนัก
แต่ก็จำได้แทบทุกคำ...และก็พยายามทำเท่าที่ทำได้มาตลอด...
จากคนที่ไม่เคยรู้จักกันมาก่อน เรากลับเป็นพี่เป็นน้องกันได้ด้วยเพราะความจริงใจ
และความหวังดี ผ่านอุปสรรคต่างๆมาด้วยกันมากมาย
กาลเวลาย่อมเป็นตัวพิสูจน์ได้ค่ะ...ความจริงใจแม้จะซื้อความจริงใจจากคนทุกคน
ที่เราให้ไปไม่ได้ทั้งหมด แต่ก็สามารถซื้อความจริงใจจากคนที่มีความจริงใจ
กับเราจริงๆได้ค่ะ...

ก่อนที่พี่สาวคนนั้นจะกลับไทยเนื่องจากจบการศึกษาแล้ว
แต่ข้าน้อยนั้นยังต้องอยู่ต่ออีกหลายปี
พี่สาวใจดีคนนั้นยังมอบแหวนเงินเกลี้ยงเกลาวงนึงให้ข้าน้อย
บอกว่าพี่ให้ แล้วให้สวมไว้ในนิ้วนางข้างซ้าย
ข้าน้อยงงๆเลยพูดไปว่า ขอใส่ข้างขวาดีกว่า ข้างซ้ายนั่นมันแหวนแต่งงานแล้ว

พี่เขายิ้มแล้วบอกว่า น่ันแหล่ะ ใส่ไว้ แหวนเล็กๆนี่จะช่วยข้าน้อยได้บ้าง
ไม่มากก็น้อย...เพราะคนญี่ปุ่นเขานิยมใส่แหวนทองคำขาวเกลี้ยงๆ
ไม่มีลวดลายแบบนี้ที่นิ้วนางข้างซ้ายกันเป็นส่วนใหญ่
เพื่อเป็นสัญลักษณ์ว่าตนแต่งงานหรือมีคู่หมั่นแล้ว
คนดีๆมีศีลธรรมเขาจะไม่สนใจผู้หญิงหรือเข้าไปยุ่งกับคนที่มีเจ้าของแล้ว
นั่นก็เท่ากับเราสามารถคัดคนที่เข้ามาหาเราได้ในระดับนึง
หากเขามาแบบมิตรไม่ได้เกี้ยวพาราสีก็ไม่เป็นไร หากมิใช่ก็สามารถรับรู้
ได้แล้วว่าเขาต้องการอะไรจากเรา เราจะได้ระวังตัวเอาไว้ในระดับนึง...
แม้มันเป็นเหมือนการปิดโอกาสตัวเอง แต่มันย่อมดีกว่าเปิดโอกาส
ให้ใครก็ได้เข้ามาในชีวิตเรา โดยที่เราไม่ได้คัดไม่ได้ระวังตัวเลย...
โดยเฉพาะการใช้ชีวิตในต่างแดนที่ไม่มีพ่อแม่พี่น้องคอยเป็นหูเป็นตาให้ด้วยแล้ว
เรายิ่งต้องหาตัวช่วยที่จะมาช่วยคัดคนให้กับเรา...

ข้าน้อยเลยพูดกลับไปว่า...นั่นมันเท่ากับการหลอกตา หลอกคนอื่นแล้ว...
พี่เขาบอกว่า อยู่ที่เราว่าเราคิดกับแหวนนั่นยังไง หากคิดว่ามันคือแหวนมันก็คือแหวน
คิดเสียว่าทำเพื่อคนในอนาคต เมื่อทำหน้าที่เสร็จหรือพร้อมเมื่อไหร่ค่อยถอดออก
ถึงวันนั้นก็จะมีคนเอาของจริงมาสวมให้เอง...คิดเสียว่าแหวนวงนี้คือเครื่องป้องกัน
มันดีกว่าอาวุธใดๆเสียอีก เราไม่ต้องออกกระบวนท่าใดๆเลย...ไม่มีใครเจ็บ...

ข้าน้อยก็เลยกล่่าว บิสมิลลาฮฺ แล้วขอดุอาฮฺก่อนจะสวมแหวนวงนั้นลงไปที่นิ้ว
ยอมรับเลยค่ะว่าหลังจากสวมแหวนวงนี้ ปัญหายุ่งๆหายไปเยอะเลย...
ชีวิตสงบขึ้น มีสมาธิในการศึกษาเล่าเรียนมากขึ้น...
สามารถใช้เวลาที่มีอย่างเต็มที่เพื่อสิ่งที่ต้องทำและอยากทำมากขึ้น...
เรื่องกวนใจมีน้อยลง...

ไม่มีใครถามที่มาของแหวนวงนี้ ข้าน้อยเลยไม่ต้องพูดอธิบายอะไรเลยด้วยซ้ำค่ะ
แน่นอนว่าเพื่อนสนิทย่อมรู้ดี แต่ขาจรที่ผ่านมาผ่านไปย่อมไม่รู้...

เราสามารถเลือกเพื่อน เลือกมิตรได้อย่างสบายใจขึ้นค่ะ...

จริงๆแหวนวงนึงไม่มีอำนาจที่จะปกป้องเราได้เลย เพราะผู้ที่ปกป้องเราที่แท้จริง
คืออัลลอฮฺตาอาลา...เพียงแต่แหวนวงนี้ก็เปรียบเสมือนเป็นตัวช่วย
เหมือนเราฉีดวัคซีนป้องกันโรค แต่ก็ไม่ได้หมายความว่าเราจะไม่เป็นโรคนั้นๆแล้ว

ที่นำมาเล่าเพราะคิดว่า...การป้องกันตัวเอง มิใช่แค่การเรียนรู้ศิลปะการต่อสู้
อย่างที่พ่อกับพี่ชายเคยสอนข้าน้อยมา แต่มีผู้หญิงคนนึงสอนมาอีกรูปแบบหนึ่ง
ซึ่งบางครั้งเราไม่ต้องออกแรงให้เหนื่อยเพื่อไปต่อสู้กับใคร
หรือทำให้ฝ่ายตรงข้ามเจ็บ แค่เพียงจุดเล็กๆก็สำคัญหากเราไม่มองข้าม...
และคิดว่าการที่นำมาบอกเล่านั้นจะดีหรือไม่ ณ วันนี้ พร้อมที่จะเล่าค่ะ...
เลยเล่าสู่กันฟัง...เผื่อว่ามันจะมีประโยชน์กับใครบ้างไม่มากก็น้อย...


วัสลามุอะลัยกุมค่ะ

^___________^
 


"และข้ามิได้สร้างญิน และมนุษย์เพื่ออื่นใด เว้นแต่เพื่อเคารพภักดีต่อข้า"

(ซูเราะฮฺ อัซซาริยาต อายะอฺที่ 56)

ออฟไลน์ nada-yoru

  • เพื่อนรัก (6_6)
  • *****
  • กระทู้: 4010
  • เพศ: หญิง
  • แสงและเงา
  • Respect: +134
    • ดูรายละเอียด
Re: เคล็ด(ไม่)ลับสำหรับการป้องกันตัว(BODYGUARD)
« ตอบกลับ #14 เมื่อ: ต.ค. 25, 2009, 04:16 PM »
0
   
                     คำแนะนำของสำนักงานตำรวจแห่งชาติ

 สาวเอย  บอกให้  " 10 อย่า "  คาถากันภัย   " ข่มขืน "


   ทางสำนักงานตำรวจแห่งชาติได้มีโครงการออกมาให้คำแนะนำ
ที่เป็นประโยชน์ต่อหญิงสาวว่าควรจะยึดหลัก  "10 อย่า" 
เพื่อป้องกันอันตรายที่อาจจะมาถึงตัว   

ซึ่งสาว ๆ  หลายคนฟังแล้วก็คงรู้สึกงั้น ๆ
อาจไม่เห็นถึงประเด็นสลักสำคัญอะไรมากมาย   
แต่ในข้อเท็จจริงแล้ว...ไม่น่าจะมองข้าม !!


"10 อย่า"   ที่ว่านี้...มีที่มาที่ไปจาก “เรื่องจริง”
หญิงสาวใดถือปฏิบัติจะห่างไกลเพทภัยได้จริง!!!


"10 อย่า"   ดังกล่าวนี้    พล.ต.ต.พงศพัศ พงษ์เจริญ   
ในฐานะโฆษกสำนักงานตำรวจแห่งชาติบอกว่า
มีประโยชน์กับเด็กสาวทั้งหลายแน่นอน โดยเฉพาะอย่างยิ่งในช่วง
" ปิดภาคเรียน "อย่างช่วงนี้ ส่วนจะมีอะไรบ้าง...มีเหตุมีผลอย่างไร...?? 
 

"10 อย่า"   โฆษกตำรวจแจกแจงเป็นข้อ ๆดังนี้...

1. อย่านุ่งกระโปรงสั้น   
   การแต่งกายรัดกุม ไม่โป๊เกินไปย่อมจะไม่เตะตาอาชญากรทางเพศ

2. อย่าดื้อรั้นลองยา 
    หมายถึงกรณี   " ยาเสพติด "   
    ซึ่งหากเพื่อนนำยาเสพติดมาให้ทดลองแล้วใจอ่อน ขัดเพื่อนไม่ได้ 
    หรือมีใจโน้มเอียง  ก็อาจหลงผิดคิดลอง  ทั้งผิดกฎหมายและทำลายอนาคตตนเอง

3. อย่าพึ่งพาคนแปลกหน้า
    คนที่ไม่เคยรู้จักมาก่อนมาเกี้ยวพาราสี     
    ทำทีเป็นแนะนำช่วยเหลือเบื้องหลังอาจมุ่ง  " ล่อลวง-ขู่เข็ญ "   
    กระทำมิดีมิร้าย มิใช่จะให้มองโลกในแง่ร้ายแต่ไม่ควรไว้วางใจคนแปลกหน้า

4. อย่าคบหาเพื่อนไม่ดี
    มีเพื่อนเป็นคนดี ชี้แนะไปในทางที่ดีมีประโยชน์
    ก็ย่อมจะทำให้ได้รับในสิ่งที่ดี แต่หากหลงคบเพื่อนไม่ดี
    คอยแต่จะแนะนำให้ไปทำในสิ่งที่เสียหาย ก็สุ่มเสี่ยง "อนาคตต้องสิ้นสุด"

5. อย่าหลีกหนีพ่อแม่
   ยุคนี้เด็กสาวมักจะ "โตเกินวัย"
   กับพ่อแม่ก็มักจะไม่ได้มีเวลาใกล้ชิดหรือไปไหนมาไหนด้วยกันมากนัก
   พ่อแม่เองจึงต้องใส่ใจลูก ขณะที่ลูกก็ต้องคิดว่าพ่อแม่มาจู้จี้ก็เพราะรักและห่วงใย

6. อย่าพ่ายแพ้ความฟุ่มเฟือย
   มีหญิงสาวมากมายที่อาจต้องจำใจ "ขายตัว-ขายยาเสพติด-ลักทรัพย์"
   เพื่อสนองค่านิยมฟุ่มเฟือยฟุ้งเฟ้อ
   ชีวิตต้องหมดค่าเพราะมัวเมากับวัตถุนอกกายมากเกินไป

7. อย่าเฉื่อยแฉะเที่ยวเตร่
   ช่วงปิดเทอมใหญ่นี้นักเรียน-นักศึกษาหลายคน
   อาจวางแผนเที่ยวเอาไว้กับเพื่อน ๆ ซึ่งเป็นไปได้ควรมีผู้ใหญ่ในครอบครัว
   ร่วมไปด้วย ยิ่งเป็นการ "เที่ยวกลางคืน" ยิ่งต้องมีและก็ควรจะแค่เพื่อให้รู้
   ไม่ควรที่จะหมกมุ่น เอาเวลามาเล่นกีฬา เล่นดนตรี ทำงานหารายได้พิเศษมี 
   ประโยชน์กว่า

8. อย่าเกเรไม่กลับบ้าน
   การที่หญิงสาวไปนอนค้างอ้างแรม
   ในสถานที่ที่ไม่ใช่บ้านของตนเองย่อมไม่สามารถควบคุมอะไรได้
   อันตรายอาจเกิดขึ้นได้ทุกเมื่อ ต่อให้ไปกับเพื่อนหญิงเป็นกลุ่มใหญ่
   ก็ใช่จะปลอดภัย


9. อย่าเผาผลาญเงินทอง
   อย่าลืมว่าเงินทุกบาททุกสตางค์กว่าพ่อแม่จะหา
   มาให้เราได้ไม่ใช่ง่าย ๆ การเผาผลาญเงินทองอย่างไร้สติไม่เพียงเท่ากับ
   ไม่สงสารพ่อแม่ แต่ยังอาจเป็นการ "ทำร้ายตัวเอง"ได้ด้วย

10. อย่ามัวแต่มองเพื่อนชาย
     เด็กสาวที่ให้ความสำคัญกับเพื่อนชายมากไป-
     เชื่อใจคนที่เพิ่งจะรู้จัก เป็นแฟนกันได้ไม่นาน....ถูกเอาเปรียบมาเสียนักต่อนัก
     ยิ่งเจอผู้ชายที่ไม่ได้รักชอบจริงจัง...นอกจากจะพลาดพลั้ง "เสียตัว" แล้ว
     บางรายยังโชคร้ายตกเป็นเหยื่อเพื่อน ๆ ของคนที่เราคิดว่า
     เป็นแฟนเราอีกต่างหาก



   โฆษกสำนักงานตำรวจแห่งชาติ ระบุด้วยว่า...
นี่เป็นปัจจัยที่อาจทำให้ "เด็กสาวเสียอนาคต"
 
    เกิดอาชญากรรมทางเพศ เด็กสาว "ถูกรุมโทรม-ข่มขืนกระทำชำเรา"
ซึ่งจากคำให้การของผู้ต้องหาที่เรียกกันว่า "โจ๋หื่น" นั้น
พบว่าปัจจัยเหล่านี้มีส่วนสำคัญในการ "ปลุกเร้า"

เป็นคำตอบว่าทำไมต้อง "10 อย่า" กับปัจจัยเหล่านี้ !!   

 
จาก   web ของ เดลินิว

ขออัลลอฮฺทรงปกป้องคุ้มครองข้าพเจ้าและบรรดาสตรีพี่น้องเรา
จากผองภัยด้วยเถิด อามีน ยาร็อบ

วัสลามุอะลัยกุมค่ะ

« แก้ไขครั้งสุดท้าย: ต.ค. 25, 2009, 04:18 PM โดย nada-yoru »
"และข้ามิได้สร้างญิน และมนุษย์เพื่ออื่นใด เว้นแต่เพื่อเคารพภักดีต่อข้า"

(ซูเราะฮฺ อัซซาริยาต อายะอฺที่ 56)

 

GoogleTagged