วะฮะบี เมื่อ 50 ปี นั้น สมัยนี้ ปัจจุบัน ไม่มีความคิดเช่นน้องบ่าวกล่าว
พวกเขาพร้อมจะทำตามพี่น้องสายมัซฮับ
ยกตัวอย่าง อาจารย์ซาฟีอี นภากรณ์ ( ผู้ที่นำละหมาดวันศุกร์ศูนย์กลางอิสลาม )
เขาเป็น วะฮะบี สายที่เริ่มเข้าในสังคมมุสลิมแล้ว เขาพูดว่า "เรานั้นจะทำตามมัซฮับใดก็ได้ แต่ขอให้อยู่ในแนวทางมัซฮับเหล่านี้ ( 4 มัซฮับ )"
โดยหมายความว่าการตามอีหม่ามเหล่านั้นไม่หลง แต่เขาทิ้งท้ายว่า "แต่ตัวของผมนั้นเลือกทำตามทรรศนะนี้ แบบนี้ (ตามทรรศนะหนึ่งในมัซฮับ)"
และแน่นอนว่า พี่น้องวะฮะบีหลายๆ ท่านนั้น เลือกตามมัซฮับ และ ตาม ฮัมบาลี เป็นส่วนใหญ่
บังกอดัรครับจริงๆผมไม่จำเป็นที่ต้องคุยกับบังในเรื่องนี้ เพราะบังก็รู้ดีว่า วาฮาบีบางกลุ่ม
นั้นกล่าวหาว่า มีทัศนคติต่อมัสหับอย่างไร ผมถือว่า บังกอดัรเองก็รู้ แต่การที่บังมองว่า วาฮาบีบางกลุมนิสัยดี ผมก็ไม่ได้โต้แย้ง ในเรื่องนี้ ผมเพียงบอกว่า
loveit:กลุ่มวาฮาบีนั้นเขานั้นไม่ยึดติดอยู่แค่มัสหับเดียว เพราะใครๆที่รู้ว่าเขาไม่มีเจ้าของมัสหับ แม้กระทั่งอินุวาฮาบบางครั้งก็เอาฟิกฮ์ของ อีม่าม ฮัมบาลีมาใช้ แต่ไม่เสมอไป อ่านดูประวัติท่านได้ และที่บังเข้าใจว่าพวกเขาตามมัสหับฟิกฮ์ อีม่ามฮัมบาลีอย่างเดียวนั้น บังคงเข้าใจผิด
เพราะถ้าบังได้อ่านหนังสือเล่มดังกล่าวอย่างรอบคอบและศึกษาการดำเนินชีวิตของเขาอย่างแท้จริง หรือเข้าไปดูยังเวปไซด์ ของพวกเขาเกี่ยวกับอ้างอิงหลักฐานมาเผยแพร่ในแนวทางของเขานั้นบังจะรู้ซึ้งดี ผมบอกแล้วว่าผมไม่มีอคติใดๆ อย่างที่บังเข้าใจเลย เพราะแม้ในเวปแห่งนี้ ก็มีการนำเสนอ แนวทางของวาฮาบีปฏิบัติ ไม่ว่า ด้านฟิกฮ์ ด้านอากีดะ ด้านตะเซาวุฟ และยังบอกถึงตัวตนที่แท้จริงให้พวกเขาบางกลุ่มให้เราได้ทราบอะไรต่อมือะไรมากมายเลย

การที่ผมนำข้อมูลบางอย่างเรื่องเงื่อนไขการสังกัด มัสหับนั้น ของบังอัลฯมาบอกบังนั้นเพราะต้องการให้บังรู้ว่า วาฮาบีบางกลุมนั้น ไม่ได้เป็นแบบนั้นจริงๆ
พวกเขาผสมผสานหลากหลายทัศนะ แล้วทำการฮุกมทัศนะที่ตนเองไม่ตามว่า ฮาดิสนั้นดออีฟบ้าง เมาเดาะบ้าง มากมายซึ่งในเรื่องนี้ นั้น ถือว่า ไม่ถูกต้องในการตามมัสหับ
และถ้าบังมองในด้านต่างๆของวาฮาบีที่ผมเจาะจงกล่าวถึงนั้นบังจะพบว่าพวกเขามีความหลากหลายมากในเรื่องนี้ มากยิ่งนัก
บังก็จะพบว่า นี้แหละถ้อยคำของผมเป็นจริง พวกเขา
ว่าห้ามที่จะยึดติดกับมัสหับหนึ่งมัสหับใดและห้ามที่จะที่จะตักลีดอย่างชัดเจน บางครั้งพวกเขาก็เอาฟิกฮ์ของอีม่ามฮานาฟี บ้าง ของอ.มาลิกบ้าง ของชาฟีอีบ้าง ของ ฮัมบาลีบ้างของ ของ อ.อัฏชติบี ของอ. อิบนุอัชมิน ของอ.อัชเษารี ดาวุดซอฮีรี ของ อิบนุตัยมียะ ของอิบนุกอยยิม ของอิบนุวาฮาบฯลฯ ที่กล่าวมานั้นเขาจะเลือกที่มันสอดคล้องกับแนวทางของตน
ฉนั้น นี้คือความจริงของสังคมวาฮาบีบางกลุ่ม บนความแตกต่างในบ้านเรา
ขอทำความเข้าใจกับคำว่า วาฮาบีย์กับบังอีกครั้ง
วะฮาบีย์ชอบเรียกแนวทางอื่นอย่างเสียหายไม่เห็นมีใครมาเรียกร้องความชอบ ธรรม เนื่องจากพวกเขาไม่ให้ความสนใจ แต่เหตุใดพอเรียกว่า วะฮาบีย์ จึงเกิดความไม่พอใจ ทั้งที่เป็นการเรียกที่ไม่ได้เป็นการตำหนิหรือผิดหลักการอะไร
ท่านชัยค์ หะซัน ฟัรฮาน อัลมาลิกีย์ กล่าวต่อว่า
เกี่ยวกับการใช้ศัทพ์คำว่า วะฮาบียะฮ์
ประการที่หนึ่ง คือต่อไปผู้อ่านจะพบระหว่างการค้นคว้าวิเคราะห์ว่า บางครั้งฉันจะใช้คำ ว่า "วะฮาบียะฮ์" ซึ่งไม่ใช่เป็นเรื่องของการน่าตำหนิอย่างที่ฝ่ายคัดค้านได้เรียกขึ้นมา หรือว่าทำให้ "วะฮาบียะฮ์" เป็นมัซฮับใหม่ แต่ทว่ามันเป็นเรื่องการเรียกศัพท์ทางเทคนิคหรือฉายาที่บรรดามุสลิมิมีนส่วน มากทำการเรียกที่มีต่อ กระแส กระบวนการ แนวคิด การเรียกร้อง ที่มีประวัติศาสตร์ มีลักษณะพิเศษ มีตำรา และอุลามาอ์เฉพาะของพวกตน
ประการที่สอง พวกวะฮาบีย์บางส่วนได้พึงพอใจกับฉายานี้ และพวกเขานำฉายาดังกล่าวมาเรียกแทนตัวพวกเขาเอง ดังนั้น คำว่า "วะฮาบีย์" จึงไม่ใช่เป็นลักษณะของการตำหนิและการสรรเสริญ และไม่ใช่เป็นการตำหนิ จนกระทั่งหากยอมรับในหลักการวะฮาบีย์ จะกลายเป็นมัซฮับหนึ่งขึ้นมา เพราะฉะนั้น มัซฮับที่ยึดอยู่บนหลักฐานที่ถูกต้องนั้น นามชื่อของมัซฮับที่เกิดขึ้นใหม่จะไม่ทำให้มัซฮับเกิดความเสียหาย การเรียกของผู้คนก็เช่นเดียวกัน เนื่องจากว่า เงื่อนไขของการมีมัซฮับนั้น ไม่จำเป็นต้องอยู่ในยุคแรกของศตวรรษที่สาม เฉกเช่นเดียวกันกับ กระแสความคิดหรือมัซฮับที่ทฤษฏีหรือแนวปฏิบัติอยู่บนบรรดาหลักฐานที่อ่อน ก็ย่อมไม่มีประโยชน์อันใดจากการตั้งชื่อมัซฮับซ่ะสวยงาม หากแม้ว่ามัซฮับดังกล่าวจะอยู่ยุคศตวรรษแรกก็ตาม เพราะการพิจารณานั้น ด้วยกับความรู้ที่ถูกต้อง อีม่านที่บริสุทธิ์ และการปฏิบัติที่ดีงาม ไม่ใช่ด้วยการตั้งชื่อหรือมีความหวังลม ๆ แล้ง ๆ
ฉันรู้สึกแปลกใจที่ มีบรรดาพวกมุก๊อลลิดต่างกล่าวกันว่า ถ้อยคำ "อัลวะฮาบียะฮ์" นั้น ผู้เป็นปฏิปักษ์จะนำมาใช้เรียก พวกเขามักนำมาพูดกับฉายานี้ ทั้งที่การเรียกชื่อไม่ใช่ประเด็นสำคัญที่จะมาถกเถียงกัน
มี อุลามาอ์ที่เรียกร้องแนวทางดังกล่าว อนุญาตให้ใช้คำว่า "วะฮาบียะฮ์" พวกเขาต่างนำมาใช้ในตำราต่าง ๆ ของพวกเขา โดยไม่หวั่นเกรงต่อการกล่าวหาว่า สร้างมัซฮับขึ้นมา ยิ่งกว่านั้น พวกเขายังทำการประพันธ์ตำราต่าง ๆ เกี่ยวกับอะกีดะฮ์และการเรียกร้องของวะฮาบีย์ โดยมิได้มีความเสื่อมเสียแต่ประการใด
ส่วนหนึ่งจากบรรดาอุลามาอ์ที่ เรียกร้องแนวทางวะฮาบีย์ ยังนำคำว่า "วะฮาบีย์" มาให้เรียก เช่น ชัยค์ สุไลมาน บิน ซะห์มาน , ชัยค์ มุฮัมมัด บิน อับดุลล่าฏีฟ ( ดู หนังสือ อัดดุร๊อร อัซซะนียะฮ์ เล่ม 8 หน้า 433) และบรรดาอุลามาอ์ที่ปกป้องวะฮาบีย์ เช่นชัยค์ หามิด อัลกิฟฟีย์ , ชัยค์อับดุลเลาะฮ์ อัลกอซีมีย์ , ชัยค์ สุลัยมาน อัดะดะคีล , ชัยค์ อะห์มัด บิน หุจญร์ อบู ฏอมีย์ , ชัยค์มัสอูด อัลนัดวีย์ , ชัยค์ อิบรอฮีม บิน อุบัยด์ เจ้าของหนังสือ อัตตัซกิเราะฮ์ , และท่านอื่น ๆ ต่างก็ใช้คำว่า "อัลวะฮาบียะฮ์" แต่กระนั้น ท่านชัยค์ ฮามิด อัลกิ๊ฟฟีย์ (ร่อฮิมะฮุลลอฮ์) ยังคงพยายามที่จะสร้างความสงสัยต่อเจตนาของทุก ๆ คนที่ใช้คำนี้ และเขาได้ยื่นข้อเสนอจากการเรียกว่า "วะฮาบียะฮ์" ไปเป็น "อัดดะอ์วะฮ์ อับมุฮัมมะดียะฮ์" เพื่อพาดพิงไปยังชื่อของท่าน ชัยค์ มุฮัมมัด บิน อับดุลวะฮาบ แต่ไม่พาดพิงไปยังชื่อของบิดา คือ อับดุลวะฮาบ (วะฮาบีย์) ดังนั้น อุลามาอ์ยุคหลังอย่างท่านชัยค์ ซอและห์ อัลเฟาซาน ได้ตักลีดตามท่านชัยค์ ฮามิดอัลกิ๊ฟฟีย์ ในการตำหนิต่อท่านชัยค์ อบู ซะฮ์เราะฮ์ และคนอื่น ๆ (ก็เพราะพวกเขาใช้คำว่าวะฮาบีย์)
การ เรียกร้องของ อัลกิ๊ฟฟีย์และอัลเฟาซานให้เรียกวะฮาบีย์ว่า "อัดดะวะฮ์ อัลมุฮัมมะดียะฮ์" ไม่ใช่ "อัดดะวะฮ์ อัลวะฮาบียะฮ" นั้น เนื่องจาก ท่านชัยค์ มีชื่อว่า "มุฮัมมัด" ซึ่งดังกล่าวนี้ถึงเป็นการนำเสนอที่น่าแปลก อันเนื่องจากมีเหตุผลเล็กน้อยดังนี้ คือ ส่วนมากจากบรรดามัซฮับที่โด่งดังนั้น จะไม่ตั้งชื่อ ด้วยกับนามชื่อเจ้าของแนวทาง แต่จะตั้งชื่อด้วยนามของบิดาหรือปู่ ดังนั้น มัซฮับ ฮัมบาลีย์ حنبلى เป็นต้น จะใช้พาดพิงไปยังคำว่า حنبل (ฮัมบัล) ซึ่งเป็นปู่ของท่านอิมามอะห์มัด (เนื่อจากท่านอิมามอะห์มัดมีชื่อว่า อะห์มัด บุตร มุฮัมมัด บุตร หัมบัล) แต่ท่านชัยค์อัลเฟาซานหรือชัยค์อัลกิ๊ฟฟีย์ และผู้ที่เจริญรอยตามทั้งสอง ต่างไม่คัดค้านการเรียกชื่อนี้(คือฮัมบาลีย์) และพวกเขาก็ไม่เรียกมัซฮับฮัมบาลีย์ว่า "มัซฮับอะห์มะดีย์" (ที่มาจากชื่อของอิมาม อะห์มัด เอง)
เฉก เช่นเดียวกันกับมัซฮับชาฟิอีย์ ซึ่งพาดพิงไปยังท่าน ชาฟิอ์ ซึ่งเป็นปู่ลำดับที่ 4 ของท่านอิมามชาฟิอีย์ ทั้งที่อิมามชาฟิอีย์มีชื่อว่า "มุฮัมมัด บุตร อิดรีส บุตร อัลอับบาส บุตร อุษมาน บุตร ชาฟิอ์" แต่เหตุใดพวกเขาถึงไม่เรียกมัซฮับชาฟิอีย์ว่า "มัซฮับมุฮัมมะดีย์" (เพราะอิมามชาฟิอีย์ชื่อว่า มุฮัมมัด)
ยิ่ง กว่านั้น ท่านชัยค์ซอลิห์ อัลเฟาซาน ยังเรียกผู้ที่ตาม มุฮัมมัด บิน สุรูร บิน นายิฟ ซัยนุลอาบิดีน ด้วยถ้อยคำว่า "อัซซุรูรียะฮ์" ทำไมถึงไม่เรียกว่า "อัลมุฮัมมะดียะฮ์" เช่นเดียวกัน ! ทั้งที่เขาชื่อ "มุฮัมมัด บิน สุรูร" และในปัจจุบันเราเองก็ได้ยินในกลุ่มสะละฟียะฮ์ ได้มีหลายฉายาที่พวกเขาใช้เรียกซึ่งกันและกัน เช่น อัลญามียีน , อัลมัดค่อลียีน , อัลบาซียีน (ผู้ที่ตามบินบาซฺ) , และอัลบานียีน(ผู้ตามอัลบานีย์) เป็นต้น ( สรุปจาก หน้าที่ 12 และหน้าที่ 144 - 146)
ดังนั้น การเรียกว่า "วะฮาบีย์" จึงมิใช่เป็นการตำหนิ เพราะอุลามาอ์วะฮาบีย์เองที่พอใจและเห็นชอบในการเรียกชื่อเช่นนี้ แต่บางคนปัจจุบันชอบยึดติดที่ชื่อ ยึดติดยี่ห้อ ขอให้เรียกชื่อกลุ่มตนเองให้ดีไว้ก่อน ถือว่าเป็นการเข้าใจที่ผิด เพราะสัจธรรมจะไม่พิจารณาที่ชื่อของแนวทางหรอกครับ แต่ทว่าจะเน้นพิจารณาที่เนื้อหา หลักอะกีดะฮ์ และหลักปฏิบัติครับ
والله سبحانه وتعالي أعلي وأعلم
http://www.sunnahstudents.com/forum/index.php?topic=3549.0