ผู้เขียน หัวข้อ: • สมุนไพรตามแนวทางนบี(ซล) •  (อ่าน 8369 ครั้ง)

0 สมาชิก และ 1 บุคคลทั่วไป กำลังดูหัวข้อนี้

ออฟไลน์ nada-yoru

  • เพื่อนรัก (6_6)
  • *****
  • กระทู้: 4010
  • เพศ: หญิง
  • แสงและเงา
  • Respect: +134
    • ดูรายละเอียด
Re: สมุนไพรตามแนวทางนบี(ซล)
« ตอบกลับ #15 เมื่อ: ต.ค. 29, 2009, 11:47 PM »
0

เพราะหากเคี้ยวเม็ดองุ่นเพียวๆ มักจะปนเปื้อนสารอื่นที่อันตรายได้
ต้องกินสารสกัดจากเมล็ดองุ่นเท่านั้นนะคะ ถึงจะให้สารต้านอนุมูลอิสระ
ไม่ต้องกังวลไปค่ะ...
เด๋วนี้มีอาหารเสริมซึ่งสกัดจากเมล็ดองุ่น ให้เราได้เลือกกันแล้ว
(ไม่ได้หลอกขายอาหารเสริมนะคะ...หลังไมค์ค่ะ ;D)[/size]

 salam

ดีนะคะที่ก๊ะมาเตือนไว้ซะก่อน ไม่อย่างนั้นล่ะก็ ได้ของแถมจากเม็ดองุ่น
ไปอีกนานแสนนาน(ไว้จะแอบคายทิ้งเวลาคนอื่นเผลอค่ะ)...
ว่าแล้วว่ากินไปเท่าไหร่ทำไมสีผิวเรายังเหมือนเดิม  ;D
(ความจริงเรื่องสีไม่ใช่ปัญหาเรยค่ะ เพราะชอบสีนี้ที่สุด
แต่จะเป็นเรื่องอื่นมากกว่า เช่นร่องรอยประสบการณ์บนใบหน้างี้
ร่อง(รอย)ยิ้มที่พอหุบยิ้มแล้วมันยังอยู่งี้...งิงิ)

เต็มใจให้หลอกขายค่ะก๊ะ...อย่าลืมส่งหลังไมค์มาให้ชมเป็นขวัญตานิดส์นึงนะคะ
รออยู่ค่ะ... :-* เพื่ออนาคต!! hehe


ปล.แต่เรื่องน้ำผึ้งนี่ก็สุดยอดเหมือนกันนะคะ...สรรพคุณดีเยี่ยม...ฟันธง!!



 loveit:

"และข้ามิได้สร้างญิน และมนุษย์เพื่ออื่นใด เว้นแต่เพื่อเคารพภักดีต่อข้า"

(ซูเราะฮฺ อัซซาริยาต อายะอฺที่ 56)

ออฟไลน์ rayes

  • เพื่อนแท้ (-.^)
  • ****
  • กระทู้: 628
  • Respect: +18
    • ดูรายละเอียด
    • บล็อกผมเอง หุหุ
Re: สมุนไพรตามแนวทางนบี(ซล)
« ตอบกลับ #16 เมื่อ: ต.ค. 30, 2009, 12:08 AM »
0
เคี้ยวเมล็ดองุ่น ดีกว่าไปเคี้ยวเงาะลูกละสามสิบกว่าบาทเนอะ แถมกลับมาหน้าเด้งด้วย อิอิ ;D ;D
« แก้ไขครั้งสุดท้าย: พ.ย. 01, 2009, 03:02 PM โดย ❦r@yëⓢ☉ミ »

ออฟไลน์ nada-yoru

  • เพื่อนรัก (6_6)
  • *****
  • กระทู้: 4010
  • เพศ: หญิง
  • แสงและเงา
  • Respect: +134
    • ดูรายละเอียด
Re: สมุนไพรตามแนวทางนบี(ซล)
« ตอบกลับ #17 เมื่อ: ต.ค. 30, 2009, 12:26 AM »
0
^
^

แล้วค่อยกลับไปวิจัยเม็ดลูกเงาะต่อที่บ้าน
ไม่รู้มีใครแอบชิงวิจัยตัดหน้าไปแล้วรึยัง  ;D
"และข้ามิได้สร้างญิน และมนุษย์เพื่ออื่นใด เว้นแต่เพื่อเคารพภักดีต่อข้า"

(ซูเราะฮฺ อัซซาริยาต อายะอฺที่ 56)

ออฟไลน์ บาชีร

  • ปีสามสักที
  • ซังกุงคนสนิท ( +_-)
  • เพื่อนรัก (6_6)
  • *****
  • กระทู้: 2164
  • เพศ: ชาย
  • Respect: +59
    • ดูรายละเอียด
Re: • สมุนไพรตามแนวทางนบี(ซล) •
« ตอบกลับ #18 เมื่อ: ต.ค. 30, 2009, 06:03 AM »
0
แจ่ม
นักเรียนปีสาม กฎหมายอิสลาม อัซฮัร ไคโร

ออฟไลน์ al-firdaus~*

  • ทีมงานหลังบอร์ด (-_-''')
  • เพื่อนรัก (6_6)
  • *****
  • กระทู้: 5015
  • เพศ: หญิง
  • 可爱
  • Respect: +161
    • ดูรายละเอียด
Re: • สมุนไพรตามแนวทางนบี(ซล) •
« ตอบกลับ #19 เมื่อ: ต.ค. 30, 2009, 10:37 AM »
0
ขอเรื่อง กระชายดำ  ค่ะ เห็นว่าน่าสนใจดี
มีการผลิตเป็นเครื่องดื่มบรรจุขวด นิยมกันมากเลยค่ะ

ออฟไลน์ rayes

  • เพื่อนแท้ (-.^)
  • ****
  • กระทู้: 628
  • Respect: +18
    • ดูรายละเอียด
    • บล็อกผมเอง หุหุ
Re: • สมุนไพรตามแนวทางนบี(ซล) •
« ตอบกลับ #20 เมื่อ: ต.ค. 30, 2009, 11:00 AM »
0
ขอเรื่อง กระชายดำ  ค่ะ เห็นว่าน่าสนใจดี
มีการผลิตเป็นเครื่องดื่มบรรจุขวด นิยมกันมากเลยค่ะ

    พี่สาวเรา จะโด๊บตั้งแต่เช้าเลยเรยย  อิอิ

ออฟไลน์ rayes

  • เพื่อนแท้ (-.^)
  • ****
  • กระทู้: 628
  • Respect: +18
    • ดูรายละเอียด
    • บล็อกผมเอง หุหุ
Re: • สมุนไพรตามแนวทางนบี(ซล) •
« ตอบกลับ #21 เมื่อ: ต.ค. 31, 2009, 01:57 AM »
0
 
    
กระชายดำ สมุนไพรไทย พืชมหัศจรรย์
# สรรพคุณ บำรุงฮอร์โมนเพศชาย ทำให้ชายเหนือชาย hihi:
# กระตุ้นประสาท ทำให้กระชุ่มกระชวย
# บำรุงกำลัง
# เป็นยาอายุวัฒนะ ชลอความแก่
# ขับลม ขับปัสสาวะ
# แก้โรคกระเพาะอาหาร
# แก้ท้องอืด ท้องเฟ้อ เนื่องจากรับประทานอาหารไม่เป็นเวลา
# บำรุงเลือดสตรี แก้ตกขาว ทำให้ประจำเดือนมาเป็นปกติ

วิธีใช้

- ใช้รากเหง้า (หัวสด) ดองสุราขาวดื่มก่อนรับประทานอาหารเย็น ปริมาณ 30 ซีซี.
- ผู้ที่ดื่มสุราไม่ได้ ให้ฝานเป็นแว่นบางๆ แช่น้ำร้อนดื่มทุกวัน หรือจะดองกับน้ำผึ้งก็ได้
 

« แก้ไขครั้งสุดท้าย: พ.ย. 01, 2009, 02:54 PM โดย ❦r@yëⓢ☉ミ »

ออฟไลน์ rayes

  • เพื่อนแท้ (-.^)
  • ****
  • กระทู้: 628
  • Respect: +18
    • ดูรายละเอียด
    • บล็อกผมเอง หุหุ
Re: • สมุนไพรตามแนวทางนบี(ซล) •
« ตอบกลับ #22 เมื่อ: ต.ค. 31, 2009, 02:01 AM »
0
   
   
   
วิธีปลูกกระชายดำ
จะใช้ หัวพันธุ์, ต้นพันธุ์ หรือแบ่งเหง้าจากต้นที่เติบโตสมบูรณ์แล้ว นำมาปลูก มิตรภูเรือดอทคอม จำหน่ายสมุนไพรกระชายดำ กระชายดำทำให้ชายเหนือชาย... สามารถปลูกในกระถางเพื่อเป็นไม้ประดับหรือปลูกรวมกับว่านชนิดอื่น ๆ ในลักษณะของรังว่านก็ได้ กระชายดำเป็นพืชที่ปลูกง่าย ขึ้นได้ดีในดินที่ระบายน้ำได้ดี มีอินทรีย์วัตถุสูง ควรเป็นดินร่วนปนทรายเช่น ดินขุยไผ่ ชอบที่ร่มแสงร่มรำไร การดูแลรักษาก็ง่าย แค่รดน้ำให้ชุ่มแต่อย่าให้แฉะ ดายหญ้าและคอยกำจัดวัชพืช ใส่ปุ๋ยคอกหรือปุ๋ยหมักตามสมควร หรือหากดินที่ปลูกอุดมสมบูรณ์อยู่แล้วอาจไม่ต้องใส่ปุ๋ยเลยก็ได้ ส่วนแมลงรบกวนนั้นเท่าที่ทราบมาก็มีแต่หอยทากเท่านั้นที่จะมากินใบของกระชาย ดำ ปัญหาที่พบมากคือเมื่อมีน้ำท่วมขังหรือฝนตกชุกมาก เหง้าของกระชายดำจะเน่า แต่การยกร่องก่อนปลูกจะช่วยได้มาก หากพื้นที่ที่จะปลูกเป็นที่ลาดชัน (slope)อาจไม่ต้องยกร่องก็ได้

ฤดูปลูก
ปลูกได้ทั้งปี แต่ฤดูปลูกที่เหมาะสมอยู่ในระหว่างเดือนมีนาคม - พฤษภาคม

การเตรียมหัวกระชายดำสำหรับปลูก
หัวกระชายดำหัวหนึ่งจะมีหลายแง่ง ให้บิ(หัก)ออกมาเป็นแง่งๆ ถ้าแง่งเล็กก็ 2-3 แง่ง ถ้า แง่งใหญ่สมบูรณ์ก็แค่แง่งเดียวก็พอ เพราะเมื่อกระชายดำโตขึ้น กระชายดำก็จะแตกหน่อ และเกิดหัวกระชายดำหัวใหม่ขึ้นมาแทน และจะขยายหัวและหน่อออกไปเรื่อยๆ จะมากหรือน้อยขึ้นอยู่กับการดูแลรักษา ส่วนหัวหรือแง่งที่ใช้ปลูกในตอนแรกจะเหี่ยวและแห้งไปในที่สุด
ก่อน นำไปปลูก ควรทารอยแผลของแง่งกระชายดำที่ถูกหักออกมาด้วยปูนกินหมาก หรือจะจุ่มในน้ำยากันเชื้อราก็ได้ แล้วผึ่งในที่ร่มจนหมาดหรือแห้ง แล้วจึงนำไปปลูก(น้ำยากันเชื้อรามีจำหน่ายตามร้านเคมีภัณฑ์การเกษตรทั่วไป ขวดเล็กๆราคาไม่ถึงร้อยบาทก็มี)

การปลูกลงในกระถาง
ควรใช้กระถางที่มีขนาดกลาง -ใหญ่ เส้นผ่าศูนย์กลางประมาณ 15 - 18 นิ้ว เพื่อให้มีพื้นที่ในการขยายหัวหรือเหง้า ใส่วัสดุปลูกให้มาก ๆ ประมาณ 3 ใน 4 ส่วนของกระถาง (ปุ๋ยคอก 1 ส่วน/ดิน 2 ส่วน) จะทำให้ได้หัวที่มีคุณภาพและมีปริมาณหัวต่อต้นมาก การปลูกในกระถางควรใช้หัวหรือเหง้า ประมาณ 3 - 5 หัว(แง่ง) แล้วแต่ขนาดของกระถาง

การปลูกลงแปลง
ต้องเตรียมแปลงปลูก โดยการพรวนดินตากแดดทิ้งไว้นาน 5 - 7 วัน เพื่อปรับสภาพดิน ยกร่องกว้างประมาณ 1.50 เมตร มิตรภูเรือดอทคอม จำหน่ายสมุนไพรกระชายดำ กระชายดำทำให้ชายเหนือชาย... ขุดหลุมลึกประมาณ 10 - 15 ซม.ใส่ปุ๋ยคอกให้พอเหมาะ แล้วทำการปลูก ระยะห่างระหว่างหลุมและแถวประมาณ 30 X 30 ซม. ใส่หัวหรือเหง้า 2 -3 หัว(แง่ง) ต่อหลุม แล้วกลบหลุมรดน้ำให้ชุ่ม

การปลูกในไร่ (กรณีปลูกปริมาณมากๆ)
การเตรียมดิน
ควรไถ 2 ครั้ง ครั้งแรกไถพรวนเพื่อย่อยดิน ทำการยกร่องปลูก ระหว่างต้นประมาณ 25 - 30 ซม. ก่อนปลูกควรใส่ปูนขาวเพื่อปรับสภาพดินในอัตรา 200 - 400 กก./ไร่ ทิ้งไว้ประมาณ 15 วัน วิธีการปลูกก็โดยฝังเง้าหรือหัวพันธุ์ลงในหลุมปลูกลึก ประมาณ 5 - 10 ซม.ในพื้นที่ 1 ไร่ จะใช้เหง้าพันธุ์ประมาณ 160 - 200 กก.

การดูแลรักษา
เมื่อต้นกระชายดำอายุได้ 1 เดือน ควรดายหญ้ากำจัดวัชพืชพร้อมทั้งใส่ปุ๋ยคอกหรือปุ๋ยหมักในอัตรา 1,000 กก./ไร่ มิตรภูเรือดอทคอม จำหน่ายสมุนไพรกระชายดำ กระชายดำทำให้ชายเหนือชาย... ไม่ควรใส่ปุ๋ยเคมีเพราะจะทำให้หน่อกระชายดำที่เกิดใหม่ยาว และสีของหัวกระชายดำไม่ดำ ทำให้คุณภาพเปลี่ยนไป และเมื่อต้นกระชายดำอายุได้ 2 เดือน ให้พรวนดินกลบโคนต้นควรมีการปลูกซ่อมในหลุมที่ไม่งอก

การเก็บเกี่ยว
เมื่อกระชายดำอายุได้ 10 -12 เดือน สังเกตจากใบและลำต้นจะเริ่มเหี่ยวแห้งและหลุดออกจากต้น ระยะนี้ คือ ระยะพักตัวของกระชายดำเพราะจะทำให้กระชายดำมีโอกาส ได้สะสมอาหารและตัวยาได้เข้มข้นอย่างเต็มที่ เพื่อที่จะขยายพันธุ์ต่อไป จึงเป็นระยะที่เก็บเกี่ยวได้ดี ทำให้ได้กระชายดำที่มีคุณภาพดี กระชายดำที่ปลูกในเขตพื้นที่อำเภอนาแห้ว - อำเภอภูเรือ จะได้รับผลผลิตประมาณ 650 - 900 กก./ไร่

การเก็บรักษาพันธุ์
กระชายดำที่แก่จัดจะมีอายุประมาณ 11 - 12 เดือน หัวจะต้องสมบูรณ์ อวบใหญ่ปราศจากเชื้อโรค เก็บไว้ในที่แห้งและเย็นนาน ประมาณ 1 - 3 เดือน จึงจะนำไปปลูกต่อได้

http://www.midphurua.com/
« แก้ไขครั้งสุดท้าย: พ.ย. 01, 2009, 02:54 PM โดย ❦r@yëⓢ☉ミ »

ออฟไลน์ Bangmud

  • เพื่อนรัก (6_6)
  • *****
  • กระทู้: 2821
  • Respect: +127
    • ดูรายละเอียด
Re: • สมุนไพรตามแนวทางนบี(ซล) •
« ตอบกลับ #23 เมื่อ: ต.ค. 31, 2009, 06:09 AM »
0
 salam
จำใส่สมองไว้หมดแล้ว 3 อย่างนี้ต้องกินทุกวัน
1. กล้วยหอม
2. ขิง
3. กระชายดำ
อีกไม่นานจะเปลี่ยนจาก แชมัด เป็นบังมัด
หามาอีก สูตรบำรุง สว. ทั้งหลาย ขออย่างเดียว อย่าบอกให้กินมะเขือเผา
جزاك الله خيرا

ออฟไลน์ rayes

  • เพื่อนแท้ (-.^)
  • ****
  • กระทู้: 628
  • Respect: +18
    • ดูรายละเอียด
    • บล็อกผมเอง หุหุ
Re: • สมุนไพรตามแนวทางนบี(ซล) •
« ตอบกลับ #24 เมื่อ: ต.ค. 31, 2009, 06:30 AM »
0
salam
จำใส่สมองไว้หมดแล้ว 3 อย่างนี้ต้องกินทุกวัน
1. กล้วยหอม
2. ขิง
3. กระชายดำ
อีกไม่นานจะเปลี่ยนจาก แชมัด เป็นบังมัด
หามาอีก สูตรบำรุง สว. ทั้งหลาย ขออย่างเดียว อย่าบอกให้กินมะเขือเผา
جزاك الله خيرا




« แก้ไขครั้งสุดท้าย: พ.ย. 01, 2009, 03:20 AM โดย راجيس »

ออฟไลน์ al-firdaus~*

  • ทีมงานหลังบอร์ด (-_-''')
  • เพื่อนรัก (6_6)
  • *****
  • กระทู้: 5015
  • เพศ: หญิง
  • 可爱
  • Respect: +161
    • ดูรายละเอียด
Re: • สมุนไพรตามแนวทางนบี(ซล) •
« ตอบกลับ #25 เมื่อ: ต.ค. 31, 2009, 07:29 AM »
0
 

ออฟไลน์ nada-yoru

  • เพื่อนรัก (6_6)
  • *****
  • กระทู้: 4010
  • เพศ: หญิง
  • แสงและเงา
  • Respect: +134
    • ดูรายละเอียด
Re: • สมุนไพรตามแนวทางนบี(ซล) •
« ตอบกลับ #26 เมื่อ: ต.ค. 31, 2009, 01:06 PM »
0

ขอสูตรบำรุง สส ทั้งหลายด้วยอีกคนนะคะ

 boulay:
"และข้ามิได้สร้างญิน และมนุษย์เพื่ออื่นใด เว้นแต่เพื่อเคารพภักดีต่อข้า"

(ซูเราะฮฺ อัซซาริยาต อายะอฺที่ 56)

ออฟไลน์ rayes

  • เพื่อนแท้ (-.^)
  • ****
  • กระทู้: 628
  • Respect: +18
    • ดูรายละเอียด
    • บล็อกผมเอง หุหุ
Re: • สมุนไพรตามแนวทางนบี(ซล) •
« ตอบกลับ #27 เมื่อ: ต.ค. 31, 2009, 02:03 PM »
0

 



 


   
แล้วเจ้า(ผึ้ง) จงกินจากผลไม้ทั้งหลาย(*1*)แล้งจงดำเนินตามทางของพระเจ้าของเจ้า โดยสะดวกสบาย มีเครื่องดื่มที่มีสีสรรต่างๆออกมาจากท้องของมัน(*2*) ในนั้นมีสิ่งบำบัดแก่ปวงมนุษย์แท้จริงในการนั้น แน่นอนย่อมเป็นสัญญาณแก่กลุ่มชนผู้ตรึกตรอง
(1)  แล้วให้มันดูดกินจากเกสรและผลไม้ที่มันชอบ ซึ่งมีทั้งหวาน ขม และเปรี้ยว แล้วด้วยเดชานุภาพของพระองค์ ทรงให้มันเปลี่ยนเป็นน้ำผึ้ง
(2)  น้ำผึ้งหลากสีออกมาจากท้องของผึ้ง เช่น สีแดง สีขาว และสีเหลือง เป็นการบำบัดโรคหลายอย่างแก่มนุษย์

น้ำผึ้ง...ความหวานที่มากคุณค่า

น้ำผึ้งเป็นสารให้ความหวานชนิดแรกที่มนุษย์ใช้เป็นอาหารก่อนที่จะรู้จักน้ำตาลหรือสารให้รสหวานอื่นๆ และสรรพคุณของน้ำผึ้งได้ถูกกล่าวถึงมาตั้งแต่ยุคโบราณแล้ว เช่น ชาวกรีกจะดื่มน้ำผึ้งก่อนลงแข่งขันกีฬาโอลิมปิก เพราะเชื่อว่าช่วยขจัดความเมื่อยล้าได้ หรือการที่แพทย์ชาวอียิปต์โบราณใช้น้ำผึ้งช่วยสมานแผลในการผ่าตัดเพื่อฆ่าเชื้อโรค ก่อนที่เราจะรู้จักแบคทีเรียเสียอีก นอกจากนี้เรื่องราวของน้ำผึ้งยังปรากฏอยู่ในหลักฐานสำคัญต่างๆทั้งคัมภีร์ไบ คัมภีร์อัลกุรอ่าน

น้ำผึ้งได้ชื่อว่าอุดมไปด้วยสารอาหารที่ครบถ้วนมากที่สุดชนิดหนึ่ง สารอาหารมากมายที่อยู่ในน้ำผึ้ง ที่สำคัญ เช่น
วิตามิน ในน้ำผึ้งมีวิตามินหลายชนิด ซึ่งปริมาณวิตามินในน้ำผึ้งแท้แต่ละชนิดจะแตกต่างกัน ขึ้นอยู่กับที่มาของเกสรดอกไม้
กรด ถึงแม้จะมีความหวานแต่ก็ซ่อนความเปรี้ยวของกรดต่างๆไว้หลายชนิด แต่ที่สำคัญคือกรดกลูโคนิก ซึ่งเป็นส่วนประกอบสำคัญของน้ำตาลกลูโคส รวมทั้งกรดอะมิโน ที่สำคัญกลุ่มนี้ได้แก่ ไอโซลูซีน ลูซีน ไลซีน โพรลีน เมไทโอนีน เป็นต้น
เอนไซม์ คือสารอินทรีย์ประเภทโปรตีนที่มีอยู่ในเซลล์สิ่งมีชีวิต ทำหน้าที่เร่งปฏิกิริยาต่างๆภายในเซลล์นั้นๆ เช่น เอนไซม์ที่ช่วยการย่อยอาหาร
เอนไซม์ที่สำคัญที่สุดที่พบในน้ำผึ้งคือเอนไซม์อินเวอร์เทส ซึ่งทำหน้าที่เปลี่ยนน้ำตาลซูโครสในน้ำหวานของดอกไม้ ให้เป็นน้ำตาลกลูโคสและฟรักโทส และเอนไซม์กลูโคออกซิเดส จะทำหน้าที่เปลี่ยนน้ำตาลกลูโคสให้เป็นกรดกลูโคนิก นอกจากนี้ยังมีเอมไซม์อื่นๆที่ทำหน้าที่ยับยั้งการเจริญเติบโตและทำลายเชื้อโรคได้
อินฮิบิน คือไฮโดรเจนเพอร์ออกไซด์ ที่มีคุณสมบัติในการต่อต้านเชื้อโรค การที่คนโบราณใช้น้ำผึ้งรักษาแผลสดและแก้อักเสบได้ผล ก็เพราะสารสำคัญตัวนี้
นอกจากวิตามินและเกลือแร่ต่างๆแล้ว น้ำผึ้งยังมีสารต้านอนุมูลอิสระ เช่น สารฟลาโวนอยด์ คาทาเลส อัลคาลอยด์ และสารอื่นๆอีกหลายชนิดที่นักวิทยาศาสตร์กำลังศึกษาทดลอง เพราะเชื่อว่าสารเหล่านี้มีส่วนในการกระตุ้นปฏิกิริยาทางชีวภาพ เช่น ช่วยในการเจริญเติบโตของยีน เร่งน้ำย่อย ช่วยให้เจริญอาหาร และช่วยเสริมสุขภาพทั้งในยามปกติและในยามเจ็บป่วย

เกลือแร่ การเติมน้ำผึ้งแทนน้ำตาลลงในอาหารชนิดต่างๆซึ่งนอกจากจะได้รับความหวานที่มีกลิ่นหอมแล้ว ยังเป็นการเพิ่มปริมาณเกลือแร่ที่จำเป็นให้กับร่างกายด้วย ปริมาณเกลือแร่เหล่านี้แม้จะมีไม่มากนักแต่ก็พอเหมาะกับความต้องการของร่างกาย
ความชื้นหรือน้ำ ได้แก่ความชื้นตามธรรมชาติของน้ำผึ้งที่เหลืออยู่ภายหลังจากที่ได้เปลี่ยนน้ำหวานจากดอกไม้ให้เป็นน้ำผึ้งแล้ว ความชื้นที่เหมาะสมคือน้ำผึ้งที่เหลือน้ำปนอยู่ร้อยละ 17-18 ซึ่งจะทำให้น้ำผึ้งสามารถเก็บไว้ได้นานโดยเปลี่ยนแปลงสภาพโดยเล็กน้อย
น้ำตาล ส่วนประกอบประมาณร้อยละ 80-85 จะเป็นน้ำตาลชนิดต่างๆ เช่น น้ำตาลโมเลกุลเดี่ยว (คือกลูโคสและฟรุกโตส)ซึ่งเป็นส่วนประกอบที่เด่นที่สุด เป็นส่วนสำคัญที่ทำให้น้ำผึ้งมีรสหวาน สิ่งมีชีวิตส่วนใหญ่จะใช้น้ำตาลกลุ่มนี้สร้างพลังงานให้กับร่างกาย น้ำตาลโมเลกุลคู่ (มอลโทส ซูโครส และแล็กโทส) และน้ำตาลที่มีโมเลกุลซับซ้อน (เดกซ์โทรส)สารตัวนี้เป็นส่วนที่ทำให้ชุ่มคอ และให้ความชุ่มชื้นแก่เยื่อบุผิวต่างๆ
น้ำตาลเหล่านี้ทำให้น้ำผึ้งมีคุณสมบัติทางกายภาพหลายอย่างเช่น ดูดซึมความชื้นจากบรรยากาศได้ หรือสามารถดูดซึมน้ำออกมาจากจุลินทรีย์จนหมด ทำให้เชื้อโรคต่างๆไม่สามารถมีชีวิตอยู่ได้ภายใต้ความเข้มข้นของน้ำผึ้ง
ดังนั้นจึงมีข้อกำหนดไว้ว่าในน้ำผึ้งแท้บริสุทธิ์จะมีน้ำตาลซูโครสได้ไม่เกินร้อยละ5-8 โดยน้ำหนัก หากมีปริมาณสูงกว่านี้ ถือว่าเป็นน้ำผึ้งผสมน้ำเชื่อม
น้ำผึ้งกับเบาหวาน
 
         เภสัชกรวีระพันธุ์ ตันติพงษ์ ผู้มีประสบการณ์ผลิตและพัฒนาผลิตภัณฑ์ผึ้งมากว่า 30 ปี กล่าวว่าน้ำผึ้งเป็นสิ่งพิเศษ เป็นยาอายุวัฒนะ มีสิ่งจำเป็น สำหรับชีวิตเสริมสร้างพลัง มีสรรพคุณมากมายใช้เป็นยาบำรุงรักษาโรคทั้งภายในและภายนอกได้ ในปัจจุบันยังเชื่อกันว่าน้ำผึ้งเป็นยาธรรมชาติที่ยังไม่มียาสมัยใหม่มาเทียบเท่าได้ น้ำผึ้งใช้ดองของสดกันความเน่าเปื่อย ใช้ปิดแผลสดจะทำให้แผลสะอาดอยู่เสมอ ใช้ในทางศัลยกรรมตกแต่งที่ละเอียดอ่อน เช่น ใบหน้าของผู้หญิงใช้น้ำผึ้งเป็นส่วนสร้างผิวหนังให้ผิวหนังที่อักเสบหายเร็วขึ้นและไม่เป็นแผลเป็น

         ว่ากันว่าน้ำผึ้งเดือนห้าเป็นน้ำผึ้งที่มีคุณภาพดีที่สุดในรอบปี ตามจริงแล้วน้ำผึ้งที่ดีควรเป็นน้ำผึ้งจากดอกไม้ เช่นน้ำผึ้งดอกลิ้นจี่และน้ำผึ้งดอกลำไย ซึ่งจะเป็นช่วงเวลาใดก็ไม่สำคัญเนื่องจากปัจจุบันมีเทคโนโลยีที่ทันสมัยมากมายคอยช่วยให้ได้น้ำผึ้งคุณภาพดี สด สะอาดตลอดทั้งปี

          คุณค่าทางเภสัชของน้ำผึ้งมีมากมาย อาทิ ใช้เป็นยาแก้กล้ามเนื้อตะคริว หรือช่วยในการย่อยอาหาร สร้างระบบขับถ่ายที่ดี แต่ยังมีสิ่งที่หลายคนเข้าใจผิดคือน้ำผึ้งกับโรคเบาหวาน แท้จริงแล้วผู้ป่วยโรคเบาหวานคือ ผู้ที่ตับอ่อนสร้างอินซูลินไม่ได้หรือได้น้อยไม่เพียงพอ ในการนำกลูโคสเข้าสู่เซลล์ทำให้มีปริมาณกลูโคสในกระแสเลือดมากกว่าปกติโดยปกติคนที่เป็นโรคเบาหวานยังคงต้องการพลังงานซึ่งน้ำตาลฟรุคโตสในน้ำผึ้งทดแทนน้ำตาลกลูโคสได้เป็นอย่างดีเพราะไม่ต้องอาศัยอินซูลินและนอกจากนั้นยังมีกรดกลูโคโลนิค ซึ่งช่วยให้ตับสามารถทำลายสารพิษตกค้างในตับ สำหรับผู้ป่วยเบาหวานควรรับประทานน้ำผึ้งในปริมาณที่พอเหมาะ คือวันละ 1-3 ช้อนโต๊ะพร้อมกับลดการรับประทานอาหารประเภทแป้งหรือน้ำตาลลง 10%จะทำให้ผู้ป่วยเบาหวานมีพลังงานเพียงพอในการดำรงชีวิต และพึ่งยาควบคุมเบาหวานน้อยลง

คุณค่าด้านความงาม
วิธีง่ายที่สุดที่ใช้ในการบำรุงผิวที่แนะนำกันมานาน คือใช้น้ำผึ้งทาผิวหน้า ทิ้งไว้ประมาณ 15-30 นาที แล้วล้างออกด้วยน้ำ หรือใช้ผ้าขนหนูชุบน้ำอุ่นเช็ดออก จะรู้สึกได้ทันที่ว่าผิวหน้านุ่มเนียนขึ้น
เครื่องสำอางที่มักใช้น้ำผึ้งเป็นส่วนประกอบคือ ครีมพอกหน้า ครีมขัดหน้า สบู่ล้างหน้า หรือเจลล้างหน้า

คุณค่าทางยา

โรคและอาการ   ปริมาณและวิธการใช้   สรรพคุณ

บำรุงสุขภาพ   น้ำผึ้ง 3 ช้อนโต๊ะ ผสมน้ำอุ่นๆดื่มทุกวัน   เหมาะสำหรับผู้ที่เบื่ออาหาร ผู้ป่วยที่กำลังฟื้นไข้ร่างกายอ่อนเพลีย น้ำหนักลด จะช่วยฟื้นกำลังได้เร็วขึ้น

อดนอน   น้ำผึ้ง 1-2 ช้อนโต๊ะ หรือผสมน้ำผลไม้   จะทำให้รู้สึกสดชื่นมีเรี่ยวแรง เหมาะสำหรับผู้ที่เคร่งเครียดอดนอน ทำงานหนักและอ่อนเพลีย

ยาอายุวัฒนะ   น้ำผึ้งครึ่ง-1ช้อนโต๊ะ ดื่มทุกวัน เช้าและก่อนนอน   ทำให้สุขภาพแข็งแรง

นอนไม่หลับ   น้ำผึ้ง1 ช้อนโต๊ะ ดื่มเวลาอาหารเย็นหรือก่อนนอน   จะช่วยให้หลับดีขึ้นเพราะองค์ประกอบส่วนใหญ่ คือน้ำตาลเมื่อร่างกายได้รับน้ำตาลทันที ก็จะสร้างสารเคมีขึ้นมาในสมองซึ่งสาร
ตัวนี้ออกฤทธิ์กล่อมประสาท ทำให้ร่างกายสงบและหลับง่ายขึ้น

ไอ หลอดลมอักเสบ มีเสมหะ

กระเทียม1-2 กลีบ ตำให้ละเอียด
น้ำมะนาว1/4 ลูก เกลือเล็กน้อย
พิมเสนหรือการบูร2-3เกล็ด
น้ำผึ้ง1 ช้อนโต๊ะ
   
ท้องอืด ท้องเฟ้อ
   
น้ำผึ้ง1/2-1 ช้อนโต๊ะ
น้ำขิงต้มเข้มข้น ? แก้ว
เกลือเล็กน้อย ดื่มวันละ3 เวลาหลังอาหาร
   
ท้องผูก   

น้ำผึ้ง 1 ช้อนโต๊ะ ดื่มก่อนนอน   น้ำผึ้งใหม่ไม่ค้างปี มีน้ำตาลฟรักโทส ซึ่งมีฤทธิ์ เป็นยาระบายอ่อนๆใช้แก้อาการท้องผูกในเด็ก
และผู้สูงอายุได้ดี

เด็กปัสสาวะรดที่นอน   

น้ำผึ้ง1 ช้อนชา (ไม่ผสมน้ำ)ดื่มก่อนนอนทุกวัน   อาการปัสสาวะรดที่นอนจะดีขึ้น และหายได้

ท้องเสียรุนแรง   
น้ำผึ้ง1-2ช้อนโต๊ะ เกลือ1/2ช้อนชา ผสมในน้ำอุ่น 1 แก้ว   ช่วยบรรเทาอาการอ่อนเพลียจากการถ่ายท้อง
รุนแรง อาเจียน เป็นลม หรือเสียเหงื่อมาก

เด็กแหวะนม

น้ำผึ้ง1/2-1 ช้อนโต๊ะ ผสมนมให้เด็กดื่มประจำ   ช่วยบรรเทาอาการได้ เพราะในน้ำผึ้งมีน้ำย่อย
ที่ช่วยย่อยนมและย่อยอาหารได้เป็นอย่างดี

กล้ามเนื้อเป็นตะคริว
   
น้ำผึ้ง 2 ช้อนชาดื่มทุกมื้ออาหาร   อาการจะหายไปภายใน 1 สัปดาห์ เมื่อหายแล้ว
ถ้าดื่มต่อไปเป็นประจำ จะป้องกันไม่ให้เกิดอาการเป็นซ้ำอีก

ล้างแผล

น้ำผึ้ง 1 ส่วน ผสมน้ำ 9 ส่วน ชะล้างแผล   น้ำผึ้งมีฤทธิ์เป็นกรดอ่อนๆ ช่วยฆ่าเชื้อโรคได้

แผลฝีมีหนอง   

หัวหอมแดง 2 หัว ตำให้ละเอียดผสมกับน้ำผึ้ง พอกที่หัวฝี   ทำให้ฝีแตกเร็วหายเร็วขึ้น
แผลเรื้อรัง   ใช้น้ำเกลือหรือน้ำสุก(ที่เย็นแล้ว)ล้างแผลให้สะอาด ใช้สำลีหรือผ้าพันแผลชุบน้ำผึ้งปิดบริเวณแผล   จะช่วยให้แผลมีเนื้อใหม่เจริญขึ้นมาเร็วขึ้น
เนื่องจากความเข้มข้นของน้ำผึ้ง ทำให้เชื้อโรค
ฝ่อตายร่วมกับสารอินฮิบินหรือไฮโดรเจนเพอร
์ออกไซด์ในน้ำผึ้งมีฤทธิ์ยับยั้งและทำลายเชื้อโรคได้
แผลไฟไหม้ น้ำร้อนลวก ถูกท่อไอเสีย   ใช้น้ำผึ้งที่สะอาดทาที่แผล หรือใช้ผ้าพันแผลที่สะอาด ชุบน้ำผึ้งปิดแผลไว้ แล้วเปลี่ยนผ้าพันแผลทุก12 ชั่วโมง หรือ 24 ชั่วโมง   ช่วยลดการหลั่งของน้ำเหลืองที่บาดแผล ลดอาการ
ปวดลดการติดเชื้อ ป้องกันการอักเสบ ทำให้แผลสมานกันได้เร็วขึ้นทั้งนี้เพราะน้ำผึ้ง
มีความเข้มข้นสูง จึงสามารถยับยั้งการเจริญ
เติบโตของเชื้อโรค และทำให้เชื้อโรคตายได้

โรคกระเพาะ   

ดื่มน้ำผึ้ง2-3 ช้อนโต๊ะ ขณะปวดท้องและดื่ม 3 ช้อนโต๊ะก่อนนอนทุกคืน   ทำให้ทุเลาอาการปวด และหายจากอาการ
โรคกระเพาะได้

น้ำกระสายยา

ยาไทยส่วนใหญ่มักใช้น้ำผึ้งเป็นน้ำกระสายยา
เพื่อช่วยกลบรสยาและแต่งรส

ยาลูกกลอน   
    
ยาลูกกลอนนิยมใช้น้ำผึ้งผสมกับผงยา แล้วนำไปปั้นเป็นเม็ดกลมๆ ช่วยให้ผงยาเกาะติดกันดีขึ้น
          จะเห็นได้ว่า "น้ำผึ้ง" มีคุณประโยชน์มากมายต่อร่างกายอย่างมาก ซึ่งตั้งแต่สมัยโบราณหมอชาวบ้านหรือแพทย์แผนโบราณจะนำน้ำผึ้งเดือน 5 หรือน้ำผึ้งแท้มาเป็นส่วนผสมในการปรุงยา หรือเป็นตัวประสานในยา เช่น นำมาปั่นเป็นลูกกลอน เป็นน้ำกระสายละลายผงยา และน้ำผึ้งจัดเป็นตัวยาสมุนไพรสำคัญอย่างหนึ่งทีเดียวในการเอามาทำยาอายุวัฒนะในทุก ๆ ครั้ง นั่นก็เป็นเพราะคุณค่าอันมีประโยชน์อย่างมากมายที่ทำให้ร่างกายสมบูรณ์แข็งแรงอายุยืนยาวมากกว่าปกติ
         
 รู้คุณค่าอย่างนี้แล้ว เราน่าจะหาน้ำผึ้งป่าแท้ ๆ ไว้รับประทานเป็นประจำที่บ้านสักขวด เพื่อสุขภาพอนามัยที่ดีของตัวเราเองและคนใกล้ชิด

http://www.geocities.com/ruammitra/lady-honey.html
« แก้ไขครั้งสุดท้าย: พ.ย. 01, 2009, 12:33 PM โดย ❦r@yëⓢ☉ミ »

ออฟไลน์ al-firdaus~*

  • ทีมงานหลังบอร์ด (-_-''')
  • เพื่อนรัก (6_6)
  • *****
  • กระทู้: 5015
  • เพศ: หญิง
  • 可爱
  • Respect: +161
    • ดูรายละเอียด
Re: • สมุนไพรตามแนวทางนบี(ซล) •
« ตอบกลับ #28 เมื่อ: ต.ค. 31, 2009, 03:05 PM »
0
ผสมน้ำมะนาวทาที่หน้า ทิ้งไว้ซักพัก หน้างี้เด้ง
ขาวเนียนสดใส  เห็นผลทันตา


little cat

  • บุคคลทั่วไป
Re: • สมุนไพรตามแนวทางนบี(ซล) •
« ตอบกลับ #29 เมื่อ: ต.ค. 31, 2009, 03:15 PM »
0
อัลฮัมดุลิลละฮฺ ทู้นี้ มีประโยชน์ดีจัง loveit: loveit: loveit:

 

GoogleTagged