แล้วเส้นผมกับเล็บคนมันให้ประโยชน์อันใดหรือท่าน
ทำไมผู้ประกอบการเขาถึงสกัดและนำมันมาปรุงแต่ง
เป็นอาหารให้มนุษย์เราทานกันล่ะคะ...
ประโยชน์เพื่อประหยัดเวลาของโรงงานอุตสหกรรม
ถ้าไม่ใช่สิ่งนี้ช่วยกระบวนการผลิตจะนาน
จึงนำกรดที่สกัดจากผมของมุนษย์มาช่วยเพื่อประหยัดเวลา
ของโรงงานนั้นเอง
เราคงรู้ว่าคนจีนจะไว้ผมยาวและจะนำออกขาย
และมีอยู่ที่หนึ่งของจีนที่รับซื้อผมมนุษย์
แต่จำม่ายได้ว่าที่ไหน
ผลิตภัณฑ์จากเส็นผมมนุษย์
คือ กรดอะมีโนสกัดจากเส้นผมมนุษย(L-cysteine) นำมาจากร้านตัดผมและร้านขายเส้นผม
มาย่อยและสกัดกรดอะมิโนทำเป็นกรดบริสุทธ์เพื่อนำไปใช้ในโรงงานอุตสาหกรรม
-จำพวกซอสถั่วเหลืองในประเทศจีน
-แป้งสาลีเพื่อใช้ในโรงงานอุตสาหกรรมแป้ง เบเกอรี บะหมี เพื่อประหยัดเวลาในกระบวนการผลิต
salam
ขอบคุณค่ะสำหรับคำอธิบาย...
แต่ว่า...อ่านไปแล้วสงสัยมากค่ะ...เพราะว่าเท่าที่ข้าน้อยอ่านมา
ขั้นตอนการทำซอสถั่วเหลืองหรือซีอิ๊วเนี่ย มันมีหลายแบบ
ทั้งหมักธรรมชาติและการแปรรูป...
แต่ก็ไม่เข้าใจว่าทำไมเขาต้องนำกรดอะมิโนจากเส้นผมของคน
มาสกัดแล้วใช้ในกระบวนการผลิต
มันไม่ดูสิ้นเปลืองต้นทุนในการสกัดเส้นผมหรือท่าน
แล้วเขาทำไปทำไมในเมื่อในถั่วเหลืองก็มีโปรตีนอยู่แล้ว...
จะว่าเอาอะมิโนจากเส้นผมมาเสริมก็ดูไม่สมเหตุสมผลพอ...
หรือว่ากรดอะมิโนที่ว่ามันช่วยในกระบวนการหมักให้เร็วขึ้น
แล้วมันช่วยได้ยังไงหรือคะ...
แล้วเขามีวิธีสกัดกรดอะมิโนจากเส้นผมของคนกันยังไงเพราะเคยอ่านเจอข่าวเมื่อนานมาแล้วเรื่องที่เขาสกัดโปรตีนจากขนสัตว์
แล้วไปผสมกับโปรตีนของปลาเพื่อทำเป็นอาหารสัตว์
เนื่องจากว่าต้องการให้ผ่านมาตรฐานที่ตั้งไว้ว่าต้องมีปริมาณโปรตีนเท่าไหร่
ถึงจะผ่าน พ่อค้าหัวใสเลยมักง่ายใช้วิธีการสกัดโปรตีนจากขนสัตว์
แทนที่จะเป็นโปรตีนที่ให้ประโยชน์ สัตว์ที่กินอาหารเข้าไปก็ไม่ได้ทำให้โตขึ้น
หรือเจริญขึ้นแต่อย่างใด...
ไหนจะเรื่องสารปนเปื้อนเมลามีนในนมผงซึ่งจีนเคยทำไว้อีก...
แต่กรณีเรื่องซอสถั่วเหลืองกับแป้งสาลีนี่ยังงงๆอยู่เลยค่ะ...
เพราะเรื่องของเส้นผมแล้ว ส่วนใหญ่เขาก็เอาไปทำวิกผมอะไรแบบนั้น
เพิ่งเคยได้ยินคร้ังแรกค่ะ เรื่องเอาเส้นผมไปสกัดทำกรดอะมิโนเพื่อใช้ใน
กระบวนการผลิตซอสถั่วเหลืองและแป้งสาลี...
อยากได้รายละเอียดที่มาที่ไปที่ชัดเจนกว่านี้ค่ะ...
เพราะทุกวันนี้ก็กินซอสถั่วเหลืองบางชนิดอยู่นะคะ...
และซอสถั่วเหลืองก็ขายกันเกลื่อนเมือง ยิ่งแป้งสาลียิ่งมิต้องพูดถึงเลยค่ะ...
หากเรื่องนี้เป็นเรื่องจริง...แล้วประเทศจีนทำแบบนี้จริงๆ...
ก็ควรจะมีแหล่งอ้างอิงข้อมูลสักนิดนะคะ...
เพราะว่าเวลาอ่าน ข้าน้อยคนนึงที่คิดไปไกลแล้ว
เพราะว่าหากเป็นเส้นผมนั้น เราไม่รู้ว่าเขาเอาเส้นผมเป็นของใครมาบ้าง
แล้วเขาเอามาจากที่ไหนบ้าง ร้านตัดผม โรงพยาบาล ถังขยะ
หรืออะไรสารพัดที่ชวนให้คิด...อาการวิตกจริตอาจเกิดขึ้นได้เสมอค่ะ...
เพราะเท่าที่ดูกรรมวิธีการผลิตซอสถั่วเหลืองโดยทั่วไป
ไม่น่าจะมีสารปนเปื้อนที่เราจะทานไม่ได้...นอกเสียจากว่า
เขาจะใช้แอลกออฮ์ในกระบวนการผลิต
ซึ่งก็มิใช่ทุกชนิดของซอสถั่วเหลืองค่ะ
เลยอยากให้ท่านอีโนหรือผู้รู้นำเสนอเพิ่มเติมให้กระจ่างกว่านี้
จะตั้งกระทู้ใหม่ก็ได้ค่ะ และจะขอบคุณมากๆเลยค่ะ...
เพราะหากว่าเป็นไปตามที่ท่านกล่าวมา
อาหารที่เรากำลังกินอยู่หลายอย่าง
มันจะมีการปนเปื้อนของเส้นผมของมนุษย์นะคะ..
นี่คือลิงก์ที่เกี่ยวกับกรรมวิธีการผลิตซอสถั่วเหลืองหรือซีอิ๊วค่ะ...
http://topicstock.pantip.com/food/topicstock/2008/12/D7327782/D7327782.htmlวัสลามุอะลัยกุมค่ะ