จงแสวงหาควารู้ แม้ถึงประเทศจีนก็ตาม เป็นฮะดิสดออีฟ
แต่ความหมายของมัน ไม่ได้หมายถึง พูดแล้วบาป แต่ประการใด
บางครั้ง บางสิ่งไม่ใช่ซุนนะ แต่เราก็พูดได้
แต่ก็มี พี่น้องสายวะฮะบี บางท่าน ห้ามไม่ให้พูด ซึ่งเป็นสิ่งที่ทำเกินเลยไปมาก
เช่น ห้ามไม่ให้ อ่านดุอา ก่อนรับประทานอาหาร เพราะถือว่า บทดุอา เป็นฮะดิสดออีฟ
เช่น ห้ามนำรูปผู้ชาย ออกมาให้ผู้หญิงเห็น เพราะจะทำให้ผู้ญหลง อ้างว่าเป็นฟิตนะ
เช่น การอ่านซูเราะอัลฟาติฮะ เวลาจะทำกิจการงานใดๆ แต่ให้อ่านเพียงบัสมะละ เท่านั้น
เช่น การกล่าวอ้างว่า ผู้นำ 4 มัซฮับนั้น เป็นมนุษย์มีผิดพลาดได้ ดังนั้นก็จะไม่ตามข้อผิดพลาดเหล่านั้น ( แต่ไม่เคยคิดว่าตัวเองนั่นแหละที่ผิดพลาด )
สิ่งที่พวกเขาทำนั้น กำลังทำเลยเถิดกับสิ่งที่มันสมควรจะเป็น
การที่เขาชอบอ้างว่า 4 มัซฮับนั้น มีสิทธิ์ผิดพลาดได้ เช่น ไม่รู้ฮะดิสบ้างล่ะ อยู่คนละยุคสมัยบ้างละ แล้วอ้างว่า ที 4 มัซฮับยังมีความเห็นแตกต่างบ้างละ
พวกเขา พยายามจะแทรกตัวเอง เข้าไปอยู่ใน ระดับ 4 มัซฮับใหญ่ แล้วอ้างว่า พวกเขาเคยเป็น 1 ในมัซฮับก่อนหน้าอยู่แล้ว ( แบบลอยๆ )
เพราะไม่มีหลักฐานบทใด ที่จะกล่าวได้ว่า พวกเขาหรือแนวทางเช่นพวกเขานั้น เคยมีอยู่ในสมัยก่อนหน้าพวกเขาเลย ( เนื่องจากขาดสายรายงาน )
ดังนั้น การสอน ของเขาที่อ้างถึง นบี จึงเป็น สิ่งที่ดออีฟ และเป็นรูปแบบที่บิดอะ ในความหมายของพวกเขาเอง
ชอบว่าพี่น้องว่าบิดอะ พวกเขาเลยบิดอะเสียเอง
เรื่องนี้ เราไม่ได้ว่า เขาซักที พวกเขากลับทำเอง โดนเองตามนิยามของตัวเอง
วัลลอฮฺอะลัม
วัสลาม...