ผู้เขียน หัวข้อ: เรื่องของ " ไข่ "  (อ่าน 40633 ครั้ง)

0 สมาชิก และ 1 บุคคลทั่วไป กำลังดูหัวข้อนี้

ออฟไลน์ al-firdaus~*

  • ทีมงานหลังบอร์ด (-_-''')
  • เพื่อนรัก (6_6)
  • *****
  • กระทู้: 5015
  • เพศ: หญิง
  • 可爱
  • Respect: +161
    • ดูรายละเอียด
เรื่องของ " ไข่ "
« เมื่อ: พ.ย. 22, 2009, 09:25 PM »
0

salam









มีการศึกษา วิจัย เกิดองค์ความรู้ใหม่ ๆ เกี่ยวกับไข่ และภาวะการเกิดโรคของมนุษย์ที่เกี่ยวข้องกับการรับประทานอาหาร และมีการนำความรู้เหล่านั้นออกเผยแพร่ ทำให้ผู้บริโภคเกิดความสับสนไม่แน่ใจว่าเป็นอาหารที่บำรุงร่างกายหรือทำร้ายร่างกายกันแน่  ก่อนจะตัดสินว่าประเด็นใดถูกหรือผิดเราต้องยอมรับอย่างหนึ่งว่า ทุกสิ่งในโลกนี้มี 2 ด้านเสมอ คือ ด้านดี ด้านไม่ดี ด้านมืด ด้านสว่าง  ประเด็นสำคัญคือ ทำอย่างไรที่จะทำให้เราอยู่รอดได้ในท่ามกลาง 2 ด้าน ซึ่งก็คือการใช้ปัญญา คิด วิเคราะห์ สังเคราะห์ การบริโภคไข่ก็เหมือนกัน  เราต้องพิจารณาถึงประเด็นต่าง ๆ  ดังนี้

คุณค่าทางโภชนาการของไข่

ไข่ไก่ 1 ฟอง น้ำหนักเฉลี่ยประมาณ 50 กรัม ให้พลังงาน 80 กิโลแคลอรี โปรตีน 7 กรัม ซึ่ง FAO ได้จัดว่าเป็นโปรตีนที่มีคุณภาพดีที่สุด มีค่า Biological Value เป็น 100 ซึ่งหมายความว่าเป็นโปรตีนที่สมบูรณ์ มีประสิทธิภาพในการดูดซึมสูงกว่าโปรตีนชนิดอื่น มีไขมัน 6 กรัม และยังให้วิตามินและแร่ธาตุที่สำคัญมีประโยชน์ต่อร่างกาย เช่น แคลเซียม ฟอสฟอรัส วิตามินเอ วิตามินบี1 บี2 บี3 บี6 และ บี12 ธาตุเหล็ก lecithin เป็นต้น คุณค่าทางโภชนาการของไข่ไก่และไข่เป็ดจะใกล้เคียงกัน

                       
โคเลสเตอรอลกับการบริโภคไข่

โคเลสเตอรอล เป็นสารอาหารประเภทไขมัน แต่ไม่ให้พลังงานแก่ร่างกาย พบในอาหารที่ได้จากสัตว์ในปริมาณที่แตกต่างไปตามชนิด และอวัยวะของสัตว์นั้น ๆ โคเลสเตอรอลเป็นส่วนประกอบที่สำคัญในการทำงานของอวัยวะต่าง ๆ ในร่างกาย พบได้ทุกเซลล์ในร่างกาย ใช้สร้างฮอร์โมนเพศ กรดน้ำดี (bile arid) เพื่อใช้ในการดูดซึมไขมัน และวิตามินที่ละลายในไขมัน เข้าสู่ร่างกายทางระบบทางเดินอาหาร   โคเลสเตอรอลที่อยู่ในอาหารที่เรารับประทาน (Dietary Cholesterol) ไม่ได้แปลงไปเป็นโคเลสเตอรอลในเลือดโดยตรง  ต้องผ่านกระบวนการต่าง ๆ มากมาย ปริมาณโคเลสเตอรอลในเลือด ร้อยละ 80-90 นั้น ร่างกายเราสร้างขึ้นมาเองจากการทำงานของตับ และวัตถุดิบหลักที่ตับใช้ในการสร้างโคเลสเตอรอล คือ น้ำตาล  ดังนั้น การรับประทานอาหารหวาน ๆ เมื่อร่างกายใช้ไม่หมด ก็จะถูกแปลงเป็นไขมันแทน เป็นสาเหตุของไขมันในเลือดสูง

นอกจากนี้ ชนิดของไขมันที่มีในอาหารที่เรารับประทาน เช่น ไขมันชนิดอิ่มตัว (Saturated Fat) และ Trans Fatty Acids  ก็มีส่วนส้มพันธ์กับการเพิ่มของโคเลสเตอรอล และมีส่วนที่จะกำหนดความเสี่ยงของโรคหลอดเลือดและหัวใจ ถ้าการเพิ่มของระดับโคเลสเตอรอลในเลือดเป็นชนิด LDL Cholesterol (Low Density Lipoprotein Cholesterol) หรือโคเลสเตอรอลชนิดเลว
ปัจจุบันนี้คิดว่า ปัจจัยที่ส้มพันธ์กับการมี LDL Cholesterol สูง คือ บุหรี่ ความอ้วน เบาหวาน ระดับไตรกลีเซอร์ไรด์สูง ส่วนปัจจัยที่สัมพันธ์กับการมี HDL Cholesterol สูง (โคเลสเตอรอลชนิดดี) คือ ความสมดุลของการกิน การออกกำลังกาย การพักผ่อน  สิ่งแวดล้อม และจิตใจดีมีคุณธรรมซึ่งทำให้ไม่เครียด   จากรายงานการศึกษาวิจัยที่เชื่อถือได้หลายการศึกษาที่โด่งดัง เช่น Framingham Study ได้สรุปว่า

          1. ไม่มีความสัมพันธ์กันระหว่างการกินอาหารที่มีโคเลสเตอรอลกับระดับโคเลสเตอรอลในเลือด
          2. ไม่มีความสัมพันธ์ที่ชัดเจนระหว่างระดับโคเลสเตอรอลในเลือดกับโรคหัวใจ

ความรู้เรื่องโคเลสเตอรอลดังกล่าวข้างต้น เมื่อนำมาพิจารณาร่วมกับการกินไข่จะไม่เป็นปัญหาอีกต่อไป ไข่ถูกมองว่าเป็นอาหารที่มีโคเลสเตอรอลค่อนมาก (ไข่ไก่ 1 ฟองมีโคเลสเตอรอล เฉลี่ยประมาณ 180-250 มิลลิกรัม) ได้มีการกำหนดให้ร่างกายควรได้รับโคเลสเตอรอลจากอาหารไม่กิน 300 มิลลกรัมต่อวัน    โคเลสเตอรอลที่มีในไข่จะอยู่เฉพาะในไข่แดง ไข่ขาวไม่มีโคเลสเตอรอล ในไข่แดงยังมีเลซิธิน (Lecithin) ซึ่งจะไปช่วยอิมัลซิฟายไขมัน ทำให้ไขมันแตกตัวเป็นอนุภาพเล็ก ๆ และไหลเวียนไปกับกระแสเลือด ป้องกันการจับตัวของไขมันที่ผนังหลอดเลือด เลซิธินยังเป็นสารที่ช่วยบำรุงประสาท และสมอง จากคุณสมบัติของเลซิธินดังกล่าว จึงมีการผลิตขายในรูปของอาหารเสริม เพื่อช่วยป้องกันปลอดเลือดแข็งตัว ป้องกันโรคหัวใจ บำรุงสมอง ทำให้สมองทำหน้าที่ได้อย่างปกติ  ช่วยย่อยไขมัน ช่วยระบบภูมิคุ้มกัน แต่มีราคาแพงมาก ถ้าเรารับประทานไข่แดงร่างกายก็ได้รับเลซิธิน ตามธรรมชาติอยู่แล้ว ในราคาถูกอีกด้วย

ควรกินไข่วันละกี่ฟอง

ช่วงเวลาที่ผ่านมา คนส่วนใหญ่สับสนไม่แน่ใจในประโยชน์หรือโทษของการกินไข่ มีผลทำให้คนไทยบริโภคไข่น้อยมากเมื่อเทียบกับประเทศอื่น ๆ โดยคนไทยบริโภคไข่เพียง 132 ฟอง/คน/ปี  ขณะที่คนญี่ปุ่นบริโภคถึง 347 ฟอง/คน/ปี คนจีน 310 ฟอง/คน/ปี คนมาเลเซีย 246 ฟอง/คน/ปี  สหรัฐอเมริกา 243 ฟอง/คน/ปี  สหภาพยุโรป 214 ฟอง/คน/ปี สาเหตุส่วนหนึ่งมาจากความเข้าใจผิดเรื่องโคเลสเตอรอลที่จะทำให้เกิดโรคหลอดเลือดและหัวใจ

มีข้อแนะนำดังนี้

          1. เด็กอายุตั้งแต่ 6 เดือนขึ้นไป ให้ไข่แดงต้มสุกผสมกับข้าวบดให้ครั้งแรกปริมาณน้อยๆก่อนแล้วค่อยเพิ่มขึ้น เด็กอายุ1ปีขึ้นไปจนถึงวัยรุ่นบริโภคได้วันละ1ฟอง
          2. วัยทำงานสุขภาพปกติ บริโภค 3–4 ฟอง/สัปดาห์
          3. ผู้ป่วย ที่เป็นความดันโลหิตสูง เบาหวาน ไขมันในเลือดสูง ควรบริโภคไข่ 1 ฟอง/สัปดาห์ หรือตามคำแนะนำของแพทย์
                       
บริโภคไข่อย่างไรให้ได้ประโยชน์

          1. เลือกซื้อไข่ที่สด ใหม่ เปลือกไข่ไม่แตกหรือบุบร้าว
          2. เช็ดเปลือกไข่ที่สกปรกให้สะอาด
          3. ล้างมือทุกครั้งทั้งก่อนและหลังสัมผัสไข่
          4. ควรเก็บไข่ไว้ในตู้เย็น เพื่อยับยั้งการเจริญเติบโตของเชื้อจุลินทรีย์
          5. ควรบริโภคไข่ให้หมดภายใน 2 สัปดาห์หลังจากซื้อ
          6. กินแต่ไข่สุกเท่านั้น
          7. กินไข่หลากหลายเมนู เช่น ไข่ต้ม ไข่ตุ๋น ไข่เจียว ไข่ดาว และไข่น้ำ
          8. กินไข่ร่วมในอาหารหลัก 5 หมู่
          9. หลีกเลี่ยงอาหารไขมันและโคเลสเตอรอลสูง เช่น ไขมันจากสัตว์
         10.ออกกำลังกายเป็นประจำ

อ้างอิง วิชาการดอทคอม




« แก้ไขครั้งสุดท้าย: พ.ย. 22, 2009, 09:37 PM โดย al-firdaus~* »

ออฟไลน์ al-firdaus~*

  • ทีมงานหลังบอร์ด (-_-''')
  • เพื่อนรัก (6_6)
  • *****
  • กระทู้: 5015
  • เพศ: หญิง
  • 可爱
  • Respect: +161
    • ดูรายละเอียด
Re: เรื่องของ " ไข่ "
« ตอบกลับ #1 เมื่อ: พ.ย. 22, 2009, 09:27 PM »
0
มีคำถามค่ะ





เคยได้ยิน ว่า ไข่เยี่ยวม้า นั้นทานไม่ได้ อยากทราบข้อเท็จจริงค่ะ

ออฟไลน์ Bangmud

  • เพื่อนรัก (6_6)
  • *****
  • กระทู้: 2821
  • Respect: +127
    • ดูรายละเอียด
Re: เรื่องของ " ไข่ "
« ตอบกลับ #2 เมื่อ: พ.ย. 22, 2009, 10:36 PM »
0
salam

 การศึกษาที่โด่งดัง เช่น Framingham Study ได้สรุปว่า

          1. ไม่มีความสัมพันธ์กันระหว่างการกินอาหารที่มีโคเลสเตอรอลกับระดับโคเลสเตอรอลในเลือด
          2. ไม่มีความสัมพันธ์ที่ชัดเจนระหว่างระดับโคเลสเตอรอลในเลือดกับโรคหัวใจ


ผมเป็นคนหนึ่งที่เถียงหมอในเรื่องของการกินไข่
เพราะผมกินไข่มาก บางวันถึง 4 ฟอง เมื่อผลการวิจัยตามที่ท่าน ฟิรฺเดาส์นำเสนอ สรุปว่า ไม่มีความสัมพันธ์กันระหว่างการกินอาหารที่มีโคเลสเตอรอลกับระดับโคเลสเตอรอลในเลือด
ดังนั้น การกินไข่แดงที่มีโคเลสเตอรอลสูงก็ไม่น่าจะทำให้ระดับโคเลสเตอรอลในเลือดสูงขึ้น คนสูงอายุ กินไข่ได้วันละ 1 ฟอง สบาย ๆ (ฟันธง)
แต่ในสรุปผลการวิจัยข้อ 2 ผมไม่เห็นด้วย ระดับโคเลสเตอรอลในเลือด สัมพันธ์กับโรคหัวใจ ชนิด Ischemic HD แน่นอน
แต่โคเลสเตอรอลที่ว่านั้น เป็น ไขมันเลว (LDL ) ซึ่งเป็นผลจาก ร่างกายเราสร้างขึ้นมาเองจากการทำงานของตับ 
วัตถุดิบที่นำมาสร้างโคเลสเตอรอล คือ น้ำตาล และTrans fatเช่น น้ำมันทอดซ้ำซาก
จึงต้องหลีกเลี่ยงน้ำตาล กล้วยทอด หรืออื่น ๆ ที่ทอดโดยใช้น้ำมันซ้ำ ๆ

อ้างถึง
เคยได้ยิน ว่า ไข่เยี่ยวม้า นั้นทานไม่ได้ อยากทราบข้อเท็จจริงค่ะ
ไม่มีความรู้กรรมวิธีการทำไข่เยี่ยวม้า แต่เมื่อเปิดดูจากเวปไซด์ต่าง ๆ แล้ว ไม่พบส่วนผสมที่เป็นสิ่งต้องห้ามตามหลักศาสนาแต่อย่างใด
ดังนั้น ไข่เยี่ยวม้า น่าจะกินได้ โดยไม่มีข้อโต้แย้ง นอกจากใครจะบอกว่า เยี่ยวม้า เป็นนะญิส ห้ามกิน
ใครมีข้อมูลอื่น ที่ระบุว่าไข่เยี่ยวม้าปนเปื้อนสิ่งต้องห้าม ช่วยบอกด้วย จะเป็นพระคุณ

والسلام

ออฟไลน์ mustura^@^

  • เพื่อนสนิท (._.")
  • ***
  • กระทู้: 336
  • เพศ: หญิง
  • ALLAH is the only ONE !!!
  • Respect: +3
    • ดูรายละเอียด
Re: เรื่องของ " ไข่ "
« ตอบกลับ #3 เมื่อ: พ.ย. 22, 2009, 11:03 PM »
0

ช่วงนี้ไข่ปลอมกำลังระบาดค่ะ ระมัดระวังกันบ้างเน้ออ

ออฟไลน์ กูปีเยาะฮฺสะอื้น

  • เพื่อนรัก (6_6)
  • *****
  • กระทู้: 1679
  • เพศ: ชาย
  • ที่สุดแห่งชีวิต
  • Respect: +14
    • ดูรายละเอียด
Re: เรื่องของ " ไข่ "
« ตอบกลับ #4 เมื่อ: พ.ย. 23, 2009, 08:12 AM »
0
มีปลอมด้วย
พรสวรรค์หรือเปล่าเนี่ย
มีหลักเกณฑ์ ยึดหลักการ มีหลักฐาน มั่นหลักธรรม

ออฟไลน์ Bangmud

  • เพื่อนรัก (6_6)
  • *****
  • กระทู้: 2821
  • Respect: +127
    • ดูรายละเอียด
Re: เรื่องของ " ไข่ "
« ตอบกลับ #5 เมื่อ: พ.ย. 23, 2009, 08:30 AM »
0
 salam

มันเป็นพรนรกน่ะครับ ไม่ใช่พรสวรรค์ ลองอ่านดูครับ

http://www.thaihealth.or.th/node/10193

คนประเภทนี้จะจับมาให้ขอลุแก่โทษ กลับเนื้อกลับตัวได้ไหมนี่

مع السلامة

ออฟไลน์ al-firdaus~*

  • ทีมงานหลังบอร์ด (-_-''')
  • เพื่อนรัก (6_6)
  • *****
  • กระทู้: 5015
  • เพศ: หญิง
  • 可爱
  • Respect: +161
    • ดูรายละเอียด
Re: เรื่องของ " ไข่ "
« ตอบกลับ #6 เมื่อ: พ.ย. 23, 2009, 08:51 AM »
0

อ้างถึง
เคยได้ยิน ว่า ไข่เยี่ยวม้า นั้นทานไม่ได้ อยากทราบข้อเท็จจริงค่ะ
ไม่มีความรู้กรรมวิธีการทำไข่เยี่ยวม้า แต่เมื่อเปิดดูจากเวปไซด์ต่าง ๆ แล้ว ไม่พบส่วนผสมที่เป็นสิ่งต้องห้ามตามหลักศาสนาแต่อย่างใด
ดังนั้น ไข่เยี่ยวม้า น่าจะกินได้ โดยไม่มีข้อโต้แย้ง นอกจากใครจะบอกว่า เยี่ยวม้า เป็นนะญิส ห้ามกิน
ใครมีข้อมูลอื่น ที่ระบุว่าไข่เยี่ยวม้าปนเปื้อนสิ่งต้องห้าม ช่วยบอกด้วย จะเป็นพระคุณ

والسلام

อาจเพราะว่า  กลิ่นไปเหมือนปัสสาวะของม้า คนก็เรยเรียกติดปากว่า ไข่เยี่ยวม้า (สันนิษฐานเอานะคะ)
เรามาดูวิธีการทำไข่เยี่ยวม้ากันดีกว่า


ไข่เยี่ยวม้าเป็นอาหารหมัก ชนิดหนึ่งซึ่งค่อนข้างเป็นด่าง (alkaline food) เป็นอาหารที่มี ชื่อเสียงของจีนมาแต่โบราณ วัง โอโซโท เป็นนักค้นคว้าเกี่ยวกับ การทำไข่เยี่ยวม้า สันนิษฐานว่า ไข่เยี่ยวม้ามีกำเนิดมาจากทางภาคใต้ ของจีน และแพร่หลายขึ้นมาทาง ภาคเหนือ บางคนว่าไข่เยี่ยวม้ามี กำเนิดมาจากบริเวณแม่น้ำยงสี โดยมีผู้คิดเก็บไข่สดดองไว้เพื่อไม่ ให้เสีย เช่นไข่เค็มและได้ค้นหาวิธีดองไข่วิธีอื่นจนค้นพบวิธีการทำไข่เยี่ยวม้า

การทำไข่เยี่ยวม้าใช้ไข่ไก่หรือไข่เป็ดก็ได้ ส่วนผสมที่ใช้พอกไข่ก็มี แตกต่างกันไป ส่วนผสมวิธีหนึ่งซึ่งใช้ในการพอกไข่คือ ใบชา 600 กรัม ปูนขาว 202.5 กรัม เกลือป่น 202.5 กรัม ขี้เถ้า 35.5 กรัม และแกลบสำหรับคลุก ส่วนผสมนี้ใช้พอกไข่ 100 ฟอง นำส่วนผสมดังกล่าวข้างต้นคลุกปนกับ น้ำเย็นหรือน้ำร้อนก็ได้ให้เหนียวขนาดแป้งเปียก แล้วจึงพอกไข่ให้หนา ประมาณ 7-10 มิลลิเมตร หลังจากนั้นจึงนำไปคลุกกับแกลบบรรจุลงภาชนะ เช่น ไห โอ่ง หรือถังไม้ ใช้กระดาษน้ำมันหรือพลาสติกปิดฝากันอากาศเข้า เก็บไว้ที่อุณหภูมิ 24-25 องศาเซลเซียส เปิดฝาทุก 7 วัน เพื่อกลับไข่ให้ ไข่แดงอยู่ตรงกลาง ไว้นาน 40-50 วัน ก็ใช้ได้ หรืออาจจะบรรจุภาชนะปิดฝาแล้วฝังดินไว้ประมาณ 5-6 เดือน ไข่ที่ดองได้ที่แล้วสามารถเก็บในที่เย็น ไว้ได้นานถึง 1 ปี โดยไม่เสื่อมคุณภาพ การทำไข่เยี่ยวม้า โปรตีนและ ฟอสโฟไลปิด (phospholipids) บางส่วนในไข่จะสลายตัวทำให้เกิดแอมโมเนีย นอกจากนี้ไขมันในไข่แดง (yolk fat) ก็ลดน้อยลงไปด้วย ได้มีการศึกษาเรื่อง การทำไข่เยี่ยวม้าว่าในกระบวนการทำไข่เยี่ยวม้านั้น ไข่ที่ใช้ถ้ามีเชื้อ Salmonella (เป็นเชื้อโรคทำให้เกิดท้องร่วง ท้องเสีย) หรือเชื้อโรคจำพวก พาราไทฟอยด์อยู่ เมื่อทำเป็นไข่เยี่ยวม้าได้ที่แล้วเชื้อนี้จะตายไป

ถึงแม้ว่าไข่เยี่ยวม้ามีประโยชน์ในการบำรุงร่างกาย บำรุงโลหิต ก่อให้เกิดกำลังและเจริญอาหาร แต่ในกระบวนการผลิตไข่เยี่ยวม้าบางครั้ง ผู้ผลิตจะใส่สารประกอบของตะกั่วลงไป เพื่อควบคุมความเป็นกรดด่าง (pH) ให้คงที่ ซึ่งช่วยให้ไข่ขาวแข็งตัวอย่างสม่ำเสมอ ดังนั้นในไข่เยี่ยวม้า จึงอาจมีสารตะกั่วในรูปของตะกั่วซัลไฟด์อยู่ โดยสังเกตได้จากส่วน ของไข่ขาวจะมีสีดำมาก ลักษณะขุ่น ส่วนไข่เยี่ยวม้าที่ไม่มีตะกั่วซัลไฟด์ ไข่ขาวจะมีสีน้ำตาลคล้ำและมีลักษณะใส ซึ่งถ้าพบไข่เยี่ยวม้ามีลักษณะ ไข่ขาวขุ่นไม่ใสก็ควรจะหลีกเลี่ยงไม่รับประทาน[/size]

เรียบเรียงโดย :ดร. สุภาพ อัจฉริยศรีพงศ์

ออฟไลน์ al-firdaus~*

  • ทีมงานหลังบอร์ด (-_-''')
  • เพื่อนรัก (6_6)
  • *****
  • กระทู้: 5015
  • เพศ: หญิง
  • 可爱
  • Respect: +161
    • ดูรายละเอียด
Re: เรื่องของ " ไข่ "
« ตอบกลับ #7 เมื่อ: พ.ย. 23, 2009, 08:58 AM »
0
ทำไมไข่เยี่ยวม้าถึงมีสารตะกั่ว?

เพราะผู้ผลิตต้องการให้เป็นไข่เกิดผล ผลิตได้ทันกับความต้องการจึงเติมสารตะกั่วออกไซค์หรือซันไซค์ลงในส่วนผสม
ไข่เยี่ยวม้าของโอทอปบางแห่งมีสารตะกั่วไม่ถึง1.00มิลลิกรัม
สารตะกั่วมีโทษเป็นสารพิษใช้เวลานานเป็นเดือนเป็นปีจึงแสดงอาการมีผลต่อไขกระดูก ระบบประสาท ระบบไต
ผู้ป่วยมีอาการท้องผูก โลหิตจาง คอแห้ง กระหายนำ ปวดท้อง ท้องร่วง เป็นตะคริวบ่อยๆ


สรุปได้ว่า ไข่เยี่ยวม้าไม่เป็นนะยิสอย่างที่เคยได้ยิน เพราะไม่เกี่ยวกะม้าเรยซักนิดส์
แต่การเลือกซื้อไข่เยี่ยวม้านั้น เราควรเลือกจากแหล่งที่ไว้วางใจได้
เมื่อผ่าไข่ดูแล้ว  ไข่เยี่ยวม้าที่ดี ต้องมีสีน้ำตาลคล้ำใส หากดำทะมึน นั่นหมายความว่า มีสารตะกั่วนั่นเอง
แบบนี้ค่อยโล่งใจนะคะ เพราะอยากยำไข่เยี่ยวม้าอย่างแรง เจอกันที่ครัวมุสลิมะฮ์ค่ะ  ;D

ออฟไลน์ JawhaR

  • เพื่อนรัก (6_6)
  • *****
  • กระทู้: 1303
  • Respect: +12
    • ดูรายละเอียด
Re: เรื่องของ " ไข่ "
« ตอบกลับ #8 เมื่อ: พ.ย. 23, 2009, 09:30 AM »
0
เมื่อก่อนก็ไม่กล้ากิน หน้าตามันดูยังไงไม่รู้
แต่พอได้ลองเท่านั้นแระ อร่อยเหาะเลยครับ   hehe
I'm just a Mini Muslim and will try to be   StrongeR. Insha-Allah

ออฟไลน์ Bahebak

  • เพื่อนสนิท (._.")
  • ***
  • กระทู้: 262
  • Live and Learn
  • Respect: +1
    • ดูรายละเอียด
Re: เรื่องของ " ไข่ "
« ตอบกลับ #9 เมื่อ: พ.ย. 23, 2009, 10:39 AM »
0
 salam

เข้ามาร่วมตอบในส่วนที่ว่า

"ทำไมจึงเรียกว่า ไข่เยี่ยวม้า"


                 เหตุเกิดแถวทางใต้ของจีนในหมู่บ้านเกษตรกรแห่งหนึ่ง ซึ่งทุก ๆ บ้านต่างเลี้ยงม้าไว้เป็นพาหนะในตอนนั้น หมู่บ้านไม่มีโรงเลี้ยงม้า หรือคอกม้าไว้เป็นสัดส่วน เลยต้องเลี้ยงม้าไว้ในเล้าเป็ดเล้าไก่

                แล้วเรื่องบังเอิญมันก็เกิดขึ้น...เมื่อวันหนึ่ง ชาวจีนเจ้าของม้าคนหนึ่งล้างคอกม้า
ซึ่งต้องใช้แกลบและฟางมากลบ"ของเสีย"ของม้าให้หมดกลิ่นทำครั้งแล้วครั้งเล่า เดือนแล้วเดือนเล่า หมักหมมโดยใช้แบตทีเรียจากธรรมชาติฆ่าเชื้อโรคให้หายเหม็น  (คงสงสัยว่า แล้วทำไมไม่ใช้น้ำชะล้าง...ก็มันกันดารน้ำหายากนี่นา) และแล้วก็ถึงคราวที่ต้องเอาแกลบและฟางที่กลบไว้ไปใส่ต้นไม้เป็นปุ๋ย เมื่อโกยออกมา ก็เห็นว่ามีไข่เป็ดถูกทิ้งไว้โดยที่ไม่มีใครเห็นตั้งแต่แรก ที่น่าแปลกคือมันไม่เน่า ทั้ง ๆ ที่ผ่านมาหลายเดือนแล้ว  เมื่อปอกเปลือกก็เห็นเนื้อใส ๆ ดูน่ารับประทาน
จึงลองรับประทานดู ผลก็คือ ติดอก ติดใจ และบอกปากต่อปากถึงเทคนิคพิสดาร การทำเมนูไข่เด็ดเคล็ดอร่อย 
                 ต่อมาจึงมีการคิดค้นการทำไข่เยี่ยวม้าโดยที่ไม่ต้องทรมานสัตว์หลักการมีอยู่ว่า ต้องจำลองกระบวนการหมักหมมที่เคยเกิดขึ้นในคอกม้า แต่เอามาทำในภาชนะแทน
คือที่มาของชื่อ "ไข่เยี่ยวม้า"




จากหนังสือ E- แรด  (ชื่อหนังสือเค้าเป็นอย่างงี้จริง ๆ  แต่มีสาระดีๆ  หลายอย่างนะ) ของ กิตติกร อนุเธียรจ้า

วัสลาม
...We love Allah.We love Nabi.We're muslims...

ออฟไลน์ mustura^@^

  • เพื่อนสนิท (._.")
  • ***
  • กระทู้: 336
  • เพศ: หญิง
  • ALLAH is the only ONE !!!
  • Respect: +3
    • ดูรายละเอียด
Re: เรื่องของ " ไข่ "
« ตอบกลับ #10 เมื่อ: พ.ย. 23, 2009, 10:53 AM »
0

มีปลอมด้วย
พรสวรรค์หรือเปล่าเนี่ย



salam

มันเป็นพรนรกน่ะครับ ไม่ใช่พรสวรรค์ ลองอ่านดูครับ

http://www.thaihealth.or.th/node/10193

คนประเภทนี้จะจับมาให้ขอลุแก่โทษ กลับเนื้อกลับตัวได้ไหมนี่

مع السلامة

ู^
^
^
นั่นไงหลักฐานของแชมัด  hehe

ออฟไลน์ Bangmud

  • เพื่อนรัก (6_6)
  • *****
  • กระทู้: 2821
  • Respect: +127
    • ดูรายละเอียด
Re: เรื่องของ " ไข่ "
« ตอบกลับ #11 เมื่อ: ธ.ค. 01, 2009, 09:10 AM »
0
 salam

เดี๋ยวกระทู้จะเก่าเก็บไปเสียก่อน เราจะเลิกกินไข่กันแล้วหรือยังไง
ใครมีอะไรดี ๆ เกี่ยวกับไข่ เอามาเล่าเพิ่มพูนความรู้
มุสลิมที่ไปทำงานต่างจังหวัดต้องพึ่งไข่กันทั้งนั้น เหลียวซ้ายแลขวา ไม่มีอะไรก็ข้าวไข่ต้ม
เจ้าของกระทู้เป็นแม่ครัวฝีมือเอก รีบหาเมนูไข่มาปรุงให้ชาวเวบได้บริโภคด่วน
แยกออกมาจากครัวมุสลิมะฮฺ เน้นเฉพาะเรื่องไข่อย่างเดียว
ไข่ต้ม ไข่ดาว ไข่เดือน ไข่ตุ๋น ไข่ลูกเขย ไข่พ่อตา ไข่หวาน ไข่เค็ม ไข่เปรี้ยว ไข่....ฯลฯ

ออฟไลน์ al-firdaus~*

  • ทีมงานหลังบอร์ด (-_-''')
  • เพื่อนรัก (6_6)
  • *****
  • กระทู้: 5015
  • เพศ: หญิง
  • 可爱
  • Respect: +161
    • ดูรายละเอียด
Re: เรื่องของ " ไข่ "
« ตอบกลับ #12 เมื่อ: ธ.ค. 01, 2009, 09:21 AM »
0

ไข่ต้ม ไข่ดาว ไข่เดือน ไข่ตุ๋น ไข่ลูกเขย ไข่พ่อตา ไข่หวาน ไข่เค็ม ไข่เปรี้ยว ไข่....ฯลฯ


รับทราบนะคะ ;D

ไข่เดือน เป็นน้อง ไข่ดาว

ไข่พ่อตา เป็นลูกพี่ ไข่ลูกเขย

ไข่เปรี้ยว  เป็นอะไรกับไข่เค็มอะค๊ะ  ::)

ออฟไลน์ Bangmud

  • เพื่อนรัก (6_6)
  • *****
  • กระทู้: 2821
  • Respect: +127
    • ดูรายละเอียด
Re: เรื่องของ " ไข่ "
« ตอบกลับ #13 เมื่อ: ธ.ค. 01, 2009, 09:33 AM »
0
^ ^ ^
^ ^ ^
ไข่บูด

ออฟไลน์ Bangmud

  • เพื่อนรัก (6_6)
  • *****
  • กระทู้: 2821
  • Respect: +127
    • ดูรายละเอียด
Re: เรื่องของ " ไข่ "
« ตอบกลับ #14 เมื่อ: ธ.ค. 01, 2009, 03:02 PM »
0
 salam

ไข่จาระเม็ด (ไข่เต่า) กินได้หรือไม่ ใครรุบ้าง
อีกอย่างหนึ่ง ไข่ข้าว หรือ ไข่ค้างรัง หมายถึงไข่ไก่หรือเป็ด ที่ได้รับการผสมแล้ว ฟักด้วยเครื่องหรือฟักโดยแม่ไก่ แต่ไม่ครบ 18-21 วัน
เวลาเอามาต้ม เห็นตัวอ่อนอยู่ข้างใน บางตัวมีขนแล้ว กินได้หรือไม่ ไม่มีในกุรฺอานและหะดีษว่า อนุญาตหรือห้ามกิน จะกิยาสกับอะไรได้บ้าง
เมื่อก่อนเห็นเขาขายกันที่สนามหลวงตอนเด็ก ๆ นึ่งอยู่ในหม้อนึ่ง ปอกเปลือกเห็นเป็นเนื้อสีขาว ๆ มีน้ำจิ้มให้ด้วย อยากกินมาก แต่ไม่กล้า
ถามป๊ะแล้ว ไม่อนุญาต ผมว่าน่าจะกินได้นะ เพราะมันยังไม่มีชีวิต ไม่ต้องปอกเปลือกเข้าไปเชือด
ท่านอื่นมีความเห็นว่าอย่างไร (แบบว่าอยากลองของแปลกน่ะ)

والسلام

 

GoogleTagged