สติปัญญาเป็นสมบัติที่ล้ำค่าที่สุดจากบรรดาความดีทั้งหลายที่อัลลอฮฺสุบหานะฮูวะตะอาลาประทานมาให้ สติปัญญา
ที่ได้รับการศึกษาและพัฒนาแล้ว จะสามารถแยกแยะว่าสิ่งไหนดีและสิ่งไหนไม่ดี สิ่งไหนควรทำและสิ่งไหนควรงดเว้น
จึงจะเรียกว่าสติปัญญานั้นได้รับแสงสว่างทางนำจากอัลลอฮฺสุบหานะฮูวะตะอาลาแล้ว แล้วต่อจากนั้นไปก็จะพัฒนาขึ้นไป
สู่การเห็นว่าทุกอย่างที่อยู่รอบตัวเป็นสิ่งธรรมดา ไม่ตื่นเต้นกับโชคลาภ และไม่เสียใจกับการสูญเสีย หมดความโลภหลง
ในดุนยา และยึดเอาอัลลอฮฺสุบหานะฮูวะตะอาลาเป็นที่พึ่ง และพอใจกับการมีชีวิตอยู่เพื่ออัลลอฮฺและตายเพื่ออัลลอฮฺ นั่นแปลว่า
สติปัญญาได้พาตัวเองไปสู่ชีวิตที่สุขสันติแล้ว ชีวิตอย่างนี้เป็นชีวิตที่ได้กำไรที่สุด
แต่การก้าวไปสู่ระดับความบริสุทธิ์ของชีวิตเช่นว่านั้น มันเริ่มยากตั้งแต่ขั้นต้นแล้ว คือขั้นปรับระดับสติปัญญา ให้มองเห็น
ผิดเป็นผิดและถูกเป็นถูก ตราบใดที่ยังมีความรัก โลภและหลงใหลในโลกวัตถุอย่างมากมาย โดยไม่ยอมลดความหลงใหล
ในดุนยา ไปสู่การละหมาด การถือศีลอด การยอมตนเพื่อผจญกับความยากลำบากในขณะประกอบพิธีหัจญ์ การทำทาน
การมีความปรารถนาดีต่อผู้อื่น และการระลึกถึงบุญคุณของอัลลอฮฺสุบหานะฮูวะตะอาลา และในเวลาเดียวกันก็หลีกเลี่ยง
การนินทา การให้ร้ายป้ายสีคน การทำลายคนอื่นเพื่อหวังประโยชน์ และหลีกเลี่ยงความมัวหมองทั้งหมด สรุปสั้น ๆ ว่า
ต้องทำดีทุกอย่าง ตามที่อัลลอฮฺกำหนด และหนีความชั่วทุกชนิดที่อัลลอฮฺบัญชา ถึงจะเรียกว่า เป็นผู้มี ตักวา (คือการเกรงกลัวอัลลอฮฺ)
และหลังจากมีตักวาสมบูรณ์แล้วเท่านั้น อัลลอฮฺจึงจะประทานแสงสว่างให้จำแนกได้ว่า สิ่งใดถูกและสิ่งใดผิด ดังหลักฐานที่พระองค์ทรงประทานไว้ว่า

สูเราะฮฺ อัล-อันฟาล 8:29
"บรรดาผู้ศรัทธาทั้งหลาย หากพวกเจ้ายำเกรงอัลลอฮฺ พระองค์ก็จะทรงให้มีแก่พวกเจ้า ซึ่งสิ่งจำแนกระหว่างความจริงกับความเท็จ
และจะทรงลบล้างความผิดของพวกเจ้าออกจากพวกเจ้า และจะทรงอภัยโทษให้แก่พวกเจ้าด้วย และอัลลอฮฺนั้นคือผู้ทรงมีบุญคุณอันใหญ่หลวง"จากอายะฮฺดังกล่าวทำให้เข้าใจได้ว่า ผู้ศรัทธาจะต้องศรัทธาและเกรงกลัวไปพร้อม ๆ กัน กล่าวคือ ต้องไม่ละเมิดด้วย ไม่ใช่ศรัทธาแล้ว
แต่ยังละเมิดอยู่ ต้องเป็นผู้ศรัทธาที่ไม่ละเมิดบัญญัติของอัลลอฮฺเท่านั้น จึงจะมีความรู้เข้าขั้นระดับปัญญาชน ดังนั้น ผู้รู้จึงไม่ใช่
ผู้อ่านมากหรือเรียนมากเท่านั้น แต่ผู้รู้จะต้องเกิดความเกรงกลัวอัลลอฮฺในทุก ๆ เรื่องด้วย เป็นสติปัญญาที่อยู่ภายใต้การนำพาของอัลลอฮฺ
เมื่อพระองค์ทรงนำแล้ว ผู้นั้นจะไม่นินทาคนอื่น และจะเป็นผู้มีพฤติกรรมที่น่าเคารพในสายตาของสาธุชนทั่วไป คนอย่างนี้ถึงจะเข้าขั้นปัญญาชนที่น่านับถือ
ท่านพี่น้องมุสลิมที่เคารพ การประพฤติตนผิดต่อคำสั่งของอัลลอฮฺนั้นเป็นเหตุให้เกิดความมืดมิดในจิตใจ เป็นเหตุให้เกิดโรคภัยไข้เจ็บ
และความวิบัตินานาชนิด ที่ลูกหลานของเราจะต้องประสบ ดังที่อัลลอฮฺทรงเตือนไว้แล้วว่า

สูเราะฮฺอัรฺ-รูม 30:41
"การบ่อนทำลายได้เกิดขึ้นทั้งทางบกและทางน้ำเนื่องจากสิ่งที่มือของมนุษย์ได้ขวนขวายไว้เพื่อที่พระองค์จะให้พวกเขาลิ้มรสบางส่วน
ที่พวกเขาประกอบไว้ โดยที่หวังจะให้พวกเขากลับเนื้อกลับตัว"หลักฐานนี้ก็พิสูจน์แจ้งแล้วว่า เนื่องจากความอวิชาของมนุษย์ จึงก่อให้เกิดอากาศเป็นพิษ แผ่นดินเสียหาย น้ำท่วมหรือแห้งแล้ง
และน้ำเน่าเสียนี้ เกิดจากมนุษย์ที่ปราศจากทางนำ และการกระทำที่ปราศจากทางนำนี้ ก็จะนำสังคมไปสู่ความเสียหาย
เกิดความอธรรม เกิดการกดขี่ข่มเหง การเอารัดเอาเปรียบสารพัดนั้น เกิดจากการกระทำของผู้ขาดทางนำทั้งสิ้น และการขาดทางนำ
จากอัลลอฮฺ ก็เป็นผลมาจากการประพฤติผิดคำบัญชาของพระองค์ในข้อใดข้อหนึ่งเป็นแน่ ดังข้อกำหนดของอัลลอฮฺที่ว่า

สูเราะฮฺ อัรฺ-รูม 30:29
"เปล่าเลย แต่ว่าบรรดาผู้อธรรมได้ปฏิบัติตามอารมณ์ใฝ่ต่ำของพวกเขาโดยปราศจากความรู้ แล้วผู้ใดเล่าจะแนะแนวทาง
แก่ผู้ที่อัลลอฮฺทรงปล่อยให้เขาหลงทางไปแล้ว และสำหรับพวกเขาจะไม่มีผู้ช่วยเหลือ"ความผิดที่มนุษย์ประพฤติกันอยู่ โดยไม่ยอมละเว้นนั้นเป็นเหตุให้เกิดความหายนะนานับประการ และจะยิ่งทวีความรุนแรง
ขึ้นไปเรื่อย ๆ หากมนุษย์ไม่ยอมยุติความชั่วลง กี่ครั้งแล้วในอดีตที่อัลลอฮฺลงโทษมนุษย์แบบชนิดล้างแผ่นดิน ในสมัยนบีนุฮฺ
อะไรเล่าเป็นเหตุให้อัลลอฮฺทรงบันดาลให้น้ำท่วม ในสมัยของประชากรของอ๊าด ก็เกิดพายุพัดกระหน่ำบ้านเมืองจนจมดิน
อีกทั้งความหายนะที่เกิดกับพวกซะมู๊ดและความหายนะในสมัยลูต ความหายนะของฟิรฺอูน ทรัพย์สมบัติของกอรูนสูญหาย
ภายใต้แผ่นดิน ความตกต่ำของบนีอิสรออีลภายใต้การกดขี่ข่มเหงที่เหี้ยมโหด ทั้งหมดก็เนื่องจากความผิดของพวกเขาเหล่านั้น
นั่นเอง จนกระทั่งความเดือดร้อนของมนุษย์ในปัจจุบัน รวมทั้งโรคภัยไข้เจ็บ และความผันผวนทางเศรษฐกิจ ก็เนื่องจาก
มือของมนุษย์ผู้อธรรมและปราศจากความรู้เป็นผู้สร้างขึ้น ด้วยเพราะขาดทางนำ และขาดแสงสว่างในจิตใจ อันเนื่องจาก
ความคิดที่ทำเป้นประจำ จนเกิดโลภหลง เกิดความอยากที่วิตถารกลายมาเป็นโรคเอดส์ และโรคร้ายต่าง ๆ นานา ซึ่งสมัย
ก่อนไม่เคยได้ยิน และการลงโทษทางเศรษฐกิจ ก็เนื่องมาจากความอธรรมของมนูาย์นั่นเอง
จึงสมควรอย่างยิ่งที่มุมินจะต้องเริ่มสร้างสังคมตัวอย่างขึ้นมาได้แล้ว โดยเริ่มต้นจากครอบครัวของแต่ละคน
สู่ระดับหมู่บ้าน ระดับตำบล ระดับประเทศและทั่วโลก แล้วทุกอย่างก็จะคืนสู่สภาพสันติสุขสืบไป (อินชาอัลลอฮฺ)
(คัดลอกจากเอกสารเผยแพร่ของมัสยิดฮารูณ โดย Bangmud เมื่อ 13 ธ.ค. 2552)