หนังสือ ฟิกฮฺเปรียบเทียบ ๔ มัฑฮับ

[Al Fatoni]

Tweet

بسم الله الرحمن الرحيم

هذا كتاب رحمة الإمّة فى اختلاف الأئمّة
للشيخ العلامة محمد بن عبدالرحمن الدمشقي

หนังสือ ฟิกฮฺสี่สำนักนิติอิสลาม
ของชัยฺคุลอัลลามะฮ์ มุหัมมัด บิน อับดุรเราะหฺมาน อัดดิมัชกีย์

อินชาอัลลอฮฺ

[Al Fatoni]

คำนำของผู้เขียน

              มวลการสรรเสริญเป็นเอกสิทธิ์แด่อัลลอฮฺ, องค์พระผู้ทรงแผ่ไพศาลความดีงามอันมาก มาย และทรงประทานอัลกุรฺอาน พร้อมทั้งทรงไขความกระจ่างแห่งบรรดารากเหง้าและบ่อเกิดของศาสนาแห่งพระองค์ในพระคัมภีร์แห่งพระองค์ พระองค์ทรงบังเกิดศาสนทูตในฐานะผู้ไขความกระจ่างแห่งพระองค์ เช่นนั้นแหละ อัลกุรฺอานได้เพิ่มความแจ่มแจ้งแก่ปวงพระสหายแห่งท่านแต่ครั้นท่านยังคงดำรงชีพอยู่ ซึ่งต่อมา พวกเขาต่างก็พากันแยกย้ายภายหลังจากท่านสิ้นชีวา พวกเขาต่างร่วมกันแสวงหาความประเสริฐและความพึงพอพระทัยแห่งอัลลอฮฺ ด้วยการฉะนั้น ในขณะที่บรรดาเมืองน้อยใหญ่ถูกพิชิตและพระคำแห่งเอกะได้ถูกแพร่สะบัดไปยังทั่วทุกซอกมุมแห่งเมือง พวกเขาต่างก็เตรียมพร้อมเพื่อแสวงหาปัจจัยยังชีพ พร้อมทั้งสถานที่พำนัก ณ เมืองต่างๆ และปักหลักมั่นซึ่งสถานภาพแห่งพวกเขาอย่างเช่นนั้น
              พวกเขาทำการสอนตามในสิ่งที่พวกเขาได้ร่ำเรียนมา และอธิบายตามในสิ่งที่พวกเขาเข้าใจแก่บรรดาผู้เจริญรอยตามพวกเขา ต่อมา ปวงผู้เจริญรอยตามพวกเขาก็เพิ่มมากขึ้น พวกเขาเข้าใจอย่างลึกซึ้งในความรู้จนกระทั่งพวกเขาได้อยู่ในตำแหน่งที่สูงส่ง พวกเขาได้ทุ่มเทวินิจ ฉัยอย่างสุดเต็มความสามารถ เพื่อค้นหาความหมายและความจริง ในฐานะที่เป็นความพยายามเพื่อปฏิบัติตามภาระหน้าที่ (amanaht) ต่อมา อันเนื่องจากความมานะบากบั่นอย่างจริงจังในการไขว้คว้าสัจธรรม ทำให้พวกเขาเกิดทัศนะที่แตกต่างกัน ทัศนะที่แตกต่างนี้เป็นดั่งความโปรดปรานสำหรับมวลสรรพสิ่งที่ถูกสร้าง อัลลอฮฺทรงมหาบริสุทธิ์ยิ่ง อีกทั้งทรงมหาปรีชาญาณยิ่ง
              ข้าพระองค์ขอสรรเสริญแด่อัลลอฮฺด้วยการสรรเสริญทั้งมวล ข้าพระองค์ขอปฏิญาณว่า ไม่มีพระเจ้าอื่นใดเว้นแต่อัลลอฮฺ พระผู้ทรงเอกะยิ่ง, ไม่มีภาคีใดๆ สำหรับพระองค์ พระปรีชาญาณแห่งพระองค์ช่างแผ่ไพศาลยิ่งนัก และข้าพระองค์ขอปฏิญาณว่า นายแห่งเรา, มุหัมมัด คือบ่าวแห่งพระองค์ ศาสนทูตแห่งพระองค์ ผู้อันเป็นที่รักยิ่งแห่งพระองค์ และผู้อันเป็นที่รักแห่งพระองค์ ท่านได้รับการพิทักษ์จากบาปกรรมและความผิดพลาด อีกทั้งได้รับความช่วยเหลือและคงมั่นในการได้รับความช่วยเหลือแห่งพระองค์ ขออัลลอฮฺได้โปรดทรงไหลรินซึ่งการประสาทพรแด่ท่าน พร้อมทั้งวงศ์วานแห่งท่าน และปวงพระสหายแห่งท่าน เพื่อเป็นการประสาทพรที่ยังความหนักแก่ตราชั่งแห่งความดีงามแก่บรรดาผู้กล่าว (ประสาทพร) ท่านและเผยแผ่พระสาส์นแห่งท่านในวันอันน่าสะพรึงกลัวยิ่ง
              การรับรู้หุกุมที่ได้รับการลงมติเป็นเอกฉันท์ (ijma’) และความแตกต่างทางทัศนะของปวงปราชญ์ถือเป็นสิ่งสำคัญ สิ่งเหล่านั้นเป็นสิ่งจำเป็นสำหรับนักการวินิจฉัย (ijtihad) และผู้พิพากษา (hakim) ทุกคน โดยเฉพาะอย่างยิ่ง (ทัศนะจาก) บรรดาผู้นำทั้งสี่สำนักนิติอิสลาม ที่ทัศนะของพวกเขาได้เป็นที่อ้างอิงทั้งฝั่งทิศตะวันออกและตะวันตก
              อิจมาอฺนั้นเป็นหนึ่งในหลักฐานแห่งอิสลาม จนกระทั่งตามทัศนะแห่งปวงปราชญ์นั้น ย่อมเป็นกาฟิรสำหรับบุคคลที่ปฏิเสธอิจมาอฺทั้งที่มีหลักฐานยืนยันว่าเรื่องนั้นเป็นอิจมาอฺ (มติเอกฉันท์) อย่างสมบูรณ์แล้ว และเป็นที่อนุญาตให้ทำการปฏิเสธบุคคลที่กระทำการบางสิ่งอันเป็นการหันเหตัวเอง (ออกจากแนวทางแห่งศาสนา) ความแตกต่างทางทัศนะในระหว่างบรรดาผู้นำแห่งสำนักนิติอิสลาม ย่อมเป็นความโปรดปรานสำหรับประชาชาตินี้ ซึ่งอัลลอฮฺมิทรงประสงค์ให้ศาสนา (อิสลาม) นี้เป็นความคับแคบ เว้นแต่เรื่องนั้นจะเป็น ลุฏฺฟ์ (ความอ่อนโยน) และความสะดวกสบาย
              หนังสือเล่มนี้ หากเป็นพระประสงค์แห่งอัลลอฮฺ คงจะได้ยังประโยชน์ในหลากหลายประ- เด็นปัญหาที่ทำให้เกิดความขัดแย้งกันและสิ่งที่เป็นมติเอกฉันท์แห่งปวงปราชญ์ เช่นเดียวกัน หากเป็นพระประสงค์แห่งอัลลอฮฺ ข้าพเจ้าก็จะได้กล่าวถึงแต่เพียงหุกุมต่างๆ ดังกล่าว โดยไม่มีการนำเสนอหลักฐานใดๆ เป็นที่หวังว่า สิ่งเหล่านั้นคงจะยังความง่ายดายแก่บรรดาผู้ที่ต้องการรับรู้ถึงทัศนะต่างๆ ของบรรดานักการวินิจฉัย ซึ่งข้าพเจ้าได้เรียบเรียงด้วยวิธีที่ง่ายดายและดี หนังสือเล่มนี้ ข้าพเจ้าได้ให้ชื่อว่า เราะห์มะตุลอุมมะฮ์ ฟี อิฅติลาฟิลอะอิมมะฮ์ (ความโปรดปรานแห่งประชาชาติในประเด็นขัดแย้งของบรรดาอิมาม)
              หวังว่าอัลลอฮฺ อัซซะวะญัลละ จะทรงทำให้ความพยายามนี้เป็นคุณงามความดีและเป็นความพยายามที่ยังคุณูปการอีกทั้งประโยชน์ด้วยเถิด อามีน มวลการสรรเสริญเป็นสิทธิ์แด่อัลลอฮฺ พระผู้ทรงอภิบาลแห่งภพทั้งหลาย
              เราจำเป็นต้องรับรู้ไว้ว่า เมื่อในประเด็นหนึ่งปรากฏความขัดแย้งทางทัศนะระหว่างผู้นำทั้งสี่สำนักนิติอิสลาม ดังนั้น ข้าพเจ้าจะทำการอธิบายไปตามรูปการนั้น โดยจะไม่กล่าวถึงปราชญ์จากสำนักนิติอื่นที่มีทัศนะแตกต่างจากพวกเขา ในขณะเดียวกัน ถ้าหากในระหว่างผู้นำทั้งสี่สำนักนิติอิสลามไม่มีความขัดแย้งกันทางทัศนะ ข้าพเจ้าก็จะได้กล่าวถึงปราชญ์ท่านอื่นที่มีทัศนะแตกต่างไปจากพวกเขา การนี้ก็เพื่ออธิบายให้ทราบว่าในประเด็นนี้มีความแตกต่างกันทางทัศนะ
              เพียงแต่อัลลอฮฺองค์เดียวเท่านั้น ที่ข้าพระองค์วอนขอทางนำแห่งพระองค์ และแด่พระองค์เท่านั้น ที่ข้าพระองค์ขอมอบหมายแด่,  อัลลอฮฺ ย่อมเป็นการเพียงพอแล้วสำหรับเป็นที่ขอความคุ้มครอง และทรงเป็นผู้คุ้มครองที่ดีเลิศยิ่ง
   
              ชัยฺค์มุหัมมัด บุตร อับดุรเราะห์มาน อัชชาฟิอีย์ อัดดิมัชกีย์


_____________________
   
              ต่อจากนี้, เราจะกล่าวถึงกันในเรื่อง "อัฏเฏาะฮาเราะฮ์" (ความสะอาด) กัน, อินชาอัลลอฮฺ

[yunus]

น่าสนใจมาก ๆ น้อง Al Fatoni
มีให้โหลด หรือหาซื้อได้จากที่ไหนบ้าง พอจะบอกได้ไหม
หรือว่าน้องจะพามาลงในเวบนี้จนจบ
แต่บังเกรงว่าจะไม่ทันใจที่จะอ่าน

[Al Fatoni]

น่าสนใจมาก ๆ น้อง Al Fatoni
มีให้โหลด หรือหาซื้อได้จากที่ไหนบ้าง พอจะบอกได้ไหม
หรือว่าน้องจะพามาลงในเวบนี้จนจบ
แต่บังเกรงว่าจะไม่ทันใจที่จะอ่าน

               หนังสือเล่มนี้ยังไม่มีการแปลเป็นภาษาไทยครับ และการนำเสนอหนังสือเล่มนี้นั้น จะเป็นการแปลของผมเอง จากหนังสือแปลฉบับภาษาอินโดเนเซียอีกที แม้เนื้อความที่แปลออกมา อาจจะไม่ตรงกับต้นฉบับภาษาอาหรับเสียทีเดียว แต่ก็หวังพี่น้องผู้รู้ภาษาอาหรับทุกท่านที่มีหรือรู้จักหนังสือเล่มนี้ ก็รบกวนท่านช่วยตรวจทานและท้วงติงผมได้เสมอเลยนะครับ ถือเอาเสียว่า เราช่วยๆ กันนำเสนอก็แล้วกัน คือว่าผมเป็นผู้แปลและนำเสนอ ส่วนท่านก็เป็นผู้ตรวจทาน หวังว่าเป็นอย่างยิ่งว่าบรรยากาศแบบนี้จะเกิดขึ้นในไม่ช้านะครับ - วัสสลามุอลัยกุม

[อิดริส]

 salam
อัลฮัมดูลิลละห์ ที่น้องอัลฟาตอนีนำเสนอ บังจะติดตามรอคอยผลงานของน้องด้วยระทึกดวงใจพลัน หวังว่าน้องคงจะนำเสนอให้จบน่ะ

[Al Fatoni]

ความสะอาด

                ละหมาดเป็นอันใช้ไม่ได้ เว้นแต่ต้องทำความสะอาดก่อน ดังกล่าวนี้ตามมติเอกฉันท์ ซึ่งปวงปราชญ์มีมติเป็นเอกฉันท์ว่า จำเป็นจะต้องทำความสะอาดด้วยน้ำ ถ้าหาก (อยู่ในภาวะที่) มีน้ำและสามารถใช้ (น้ำ) ได้ พร้อมทั้งไม่มีเหตุจำเป็นอื่นๆ – ที่ฉุกเฉินยิ่งกว่า, เช่น ใช้สำหรับดื่ม ซึ่งในขณะนั้น ก็วาญิบจะต้องทำตะยัมมุมด้วยดิน (ฝุ่นดิน) เมื่อไม่มีน้ำ
                ปวงฟุเกาะฮาอ์ ณ เมืองใหญ่ๆ – เช่น นครกูฟะฮ์และนครบัศเราะฮ์ – ได้ลงมติเห็นพ้องว่า น้ำทะเล ไม่ว่าจะจืด หรือเค็มก็ตามนั้นสะอาด และใช้ทำความสะอาดได้ เช่น น้ำอื่นๆ (ที่นอกเหนือจากน้ำทะเล) แต่อย่างไรก็ตาม ก็ปรากฏว่ามีปราชญ์บางท่านที่ห้ามทำวุฎูอ์ด้วยน้ำทะเล แต่ก็มีนักฟุเกาะฮาอ์กลุ่มหนึ่ง (จากกลุ่มที่ห้ามข้างต้น - ผู้แปล) ที่อนุญาตให้ทำวุฎูอ์ด้วยน้ำทะเลเมื่ออยู่ในภาวะฉุกเฉิน (dha- ruraht) เท่านั้น ซึ่งในขณะเดียวกัน ก็มีนักฟุเกาะฮาอ์ท่านอื่นๆ ที่อนุญาตให้ทำตะยัมมุม แม้จะมีน้ำทะเลสำหรับทำวุฎูอ์ก็ตาม
                ปวงปราชญ์มีมติเห็นพ้องกันว่า การทำความสะอาดเป็นอันใช้ไม่ได้เว้นแต่ต้องด้วยกับน้ำ (ดังกล่าวนี้) ได้ถูกรายงานจากท่านอิบนุ อบีย์ลัยลาและท่านอัลอาศิมเกี่ยวกับการอนุญาตให้ทำความสะอาดโดยใช้ของเหลวอื่นๆ ได้
                มาลิกีย์, ชาฟิอีย์ และหัมบาลีย์: สิ่งสกปรก (นะญิส) มิอาจขจัดออกได้ เว้นแต่ต้องด้วยกับน้ำ ส่วนหะนะฟีย์นั้น: สิ่งสกปรกสามารถขจัดออกได้ด้วยของเหลวที่สะอาดทุกชนิด
                ทัศนะที่ถูกต้อง (เศาะฮี๊หฺ) ที่สุดจากชาฟิอีย์คือ น้ำร้อนอันเนื่องจากถูกแสงแดดนั้น หุกุมของมันคือ มักรูฮฺ, ในขณะเดียวกัน ทัศนะที่ถูกเลือกโดยบรรดาผู้เจริญรอยในยุคหลังก็คือ ทัศนะที่กล่าวว่า สิ่งดังกล่าวไม่เป็นมักรูฮฺ ดังกล่าวนี้เป็นทัศนะของอิมามทั้งสามสำนักนิติด้วย – นั่นก็คือ หะนะฟีย์, มาลิกีย์ และหันบาลีย์
                หุกุมของน้ำต้มคือ ไม่เป็นมักรูฮฺ ดังกล่าวนี้ตามมติเห็นพ้องแห่งปวงปราชญ์ และมีราย งานจากท่านมุญาฮิดว่า ท่านให้ทัศนะว่ามักรูฮฺ, ในขณะที่หันบาลีย์ให้ทัศนะว่ามักรูฮฺ ถ้าหากมันถูกทำให้ร้อนด้วยไฟ
                น้ำสะอาดที่ถูกใช้ได้ (มุสต๊ะมัล) หุกุมของมันก็คือ สะอาด แต่ไม่สามารถใช้ทำความสะอาดได้ ดังกล่าวนี้เป็นทัศนะอันเลื่องลือ (มัชฮูร) ในกลุ่มสำนักนิติหะนะฟีย์ และเป็นทัศนะที่ถูกต้องที่สุดในสำนักนิติชาฟิอีย์ และสำนักนิติหันบาลีย์ ส่วนมาลิกีย์นั้น: น้ำมุสต๊ะมัลสามารถใช้ทำความสะอาดได้, ในขณะที่ตามรายงานส่วนหนึ่งจากหะนะฟีย์: น้ำมุสต๊ะมัลนั้นเป็นนะญิส ดัง กล่าวนี้เป็นทัศนะของท่านอบูยุสูฟเช่นกัน
                น้ำที่เปลี่ยนสภาพเพราะมีการปะปนกับ ja‘faran หรือสิ่งที่สะอาดอื่นๆ ที่เป็นชนิดเดียว กัน และการเปลี่ยนสภาพนั้นก็สังเกตเห็นได้อย่างชัดเจน ซึ่งตามทัศนะของมาลิกีย์, ชาฟิอีย์ และหันบาลีย์: น้ำดังกล่าวไม่สามารถนำมาใช้ทำความสะอาดได้ ส่วนหะนะฟีย์และบรรดาผู้ตามทัศนะของท่าน: สามารถใช้ทำความสะอาดด้วยกับน้ำดังกล่าวได้ พวกเขามีทัศนะว่า การเปลี่ยนแปลงของน้ำโดยบางสิ่งที่สะอาด จะไม่ทำให้สภาพที่สามารถใช้ทำความสะอาดได้หมดไปแต่ประการใด โดยตราบใดที่ธาตุแท้ (unsur-unsur) ของน้ำไม่หายไป
                น้ำที่เปลี่ยนสภาพเพราะถูกเก็บ หรือไม่ได้ถูกนำมาใช้มานานมาก ซึ่งหุกมของมันคือ สะอาด ทั้งนี้โดยอ้างจากมติเห็นพ้องแห่งปวงปราชญ์ และมีรายงานจากท่านอิบนุ สิรีนว่า น้ำดัง กล่าวไม่สามารถใช้ทำความสะอาดได้
                การอาบน้ำและทำวุฎูอ์ด้วยกับน้ำซัมซัม (zamzam) นั้น ตามทัศนะของหันบาลีย์แล้วเป็น มักรูฮฺ ทั้งนี้ก็เพื่อเป็นการรักษาเกียรติของมันไว้
                ไฟและดวงอาทิตย์ไม่สามารถทำให้นะญิสหายไปได้ อย่างไรก็ตาม หะนะฟีย์มีทัศนะว่า ไฟและดวงอาทิตย์สามารถทำให้นะญิสหายไปได้, ตามทัศนะของท่านอีกนั้น ถ้าหากมีหนังของซากสัตว์ที่แห้งด้วยกับแสงแดด ดังนั้น หุกุมของมันคือ สะอาด แม้ยังไม่ได้ถูกฟอกก็ตาม เช่น เดียวกันนั้น ถ้าหากมีนะญิสอยู่บนดิน หลังจากนั้น มันก็แห้งด้วยกับแสงแดด ดังนั้น สถานที่ตรงนั้นก็จะสะอาดและสามารถใช้สอยในการละหมาดได้ แต่อย่างไรก็ตาม (ดินตรง) สถานที่นั้นไม่สามารถนำมาใช้ทำตะยัมมุมได้, หะนะฟีย์: ไฟสามารถทำให้นะญิสหายไปได้
                หะนะฟีย์, ชาฟิอีย์ และหันบาลีย์ ในบางรายงานของพวกท่าน: เมื่อน้ำที่นิ่งมีปริมาณน้อยกว่า สองกุลละฮ์, มันจะกลายสภาพเป็นนะญิสได้ ถ้าหากโดนสิ่งนะญิส ถึงแม้ว่าสภาพของมันจะไม่เปลี่ยนแปลงก็ตาม, ส่วนมาลิกีย์และหันบาลีย์ในอีกรายงานหนึ่ง: น้ำดังกล่าวสะอาด ตราบใดที่สภาพของมันไม่เปลี่ยนแปลง
                อนึ่ง ถ้าหากน้ำนั้นมีปริมาณมากกว่าสองกุลละฮ์ นั่นก็คือ ๕๐๐ rithl แบกแดด หรือ ๑๘๐ rithl ดะมัสกัส หรือในขนาด ๔ x ๔ x ๔ ศอก, ก็จะไม่เป็นนะญิส – ถ้าหากโดนนะญิส – ยกเว้น ถ้าหากสภาพของมันไม่เปลี่ยนแปลง ดังกล่าวนี้เป็นทัศนะของชาฟิอีย์และหันบาลีย์
                มาลิกีย์: น้ำที่อยู่ในที่ๆ หนึ่งตามปริมาตรดังกล่าวนั้น จะไม่เป็นนะญิส ถ้าหากโดนสิ่งนะญิส อย่างไรก็ตาม ถ้าหากสี รส หรือกลิ่นของมันเปลี่ยนสภาพไป ดังนั้น หุกุมของมันก็คือ นะญิส ไม่ว่าน้ำนั้นจะมากหรือน้อยก็ตาม
                หะนะฟีย์: การปะปนของน้ำจำเป็นจะต้องพิจารณา (ดังนี้คือ) ถ้าหากน้ำนั้นปะปนกับนะญิส ดังนั้น หุกุมของมันก็คือ นะญิส เว้นแต่ถ้าหากน้ำดังกล่าวมีปริมาณมาก ซึ่งน้ำดังกล่าวจะถือว่ามีปริมาณมาก (ma‘katsir) ก็ต่อเมื่อขอบข้างใดข้างหนึ่งถูกทำให้เคลื่อนไหว (เขย่า) แล้ว ขอบข้างอื่นๆ จะไม่มีการเคลื่อนไหวตาม ดังนั้นในสภาพการข้างต้นนั้น หุกุมของมันคือ ไม่นะญิส – ถ้าน้ำดังกล่าวถูกนะญิส
                หะนะฟีย์, หันบาลีย์ และทัศนะใหม่ของชาฟิอีย์ – ซึ่งได้กลายเป็นทัศนะที่มีน้ำหนักมากในสำนักนิติชาฟิอีย์: น้ำที่ไหลเชี่ยวนั้น หุกุมของมันก็เช่นเดียวกับน้ำที่นิ่ง ส่วนมาลิกีย์: น้ำที่ไหลเชี่ยวนั้นจะไม่เป็นนะญิส – ถ้าหากถูกนะญิส – เว้นแต่ถ้าหากน้ำดังกล่าวเกิดเปลี่ยนสภาพ ไม่ว่าน้ำนั้นจะมีมากหรือน้อยก็ตาม ดังกล่าวนี้ยังเป็นทัศนะใหม่ของชาฟิอีย์และเป็นทัศนะที่ถูกเลือกโดยสหายของท่านกลุ่มหนึ่ง อาทิเช่น อิมามอัลบัยฎอวีย์, อิมามอัลหะรอมัยฺน์ และอิมาม อัลเฆาะซาลีย์ และอิมามอันนวาวีย์ ได้กล่าวไว้ในหนังสือ ชัรฺห์ อัลมุฮัฑฑับ ว่า: “นี่เป็นทัศนะที่มีน้ำหนัก”
                ปวงปราชญ์: การใช้ภาชนะที่ทำมาจากทองคำเพื่อใช้กิน ดื่มและทำวุฎูอ์ ไม่ว่าจะใช้โดยผู้ชายหรือผู้หญิงก็ตาม (หุกุมของมัน) คือ หะรอม ส่วนชาฟิอีย์นั้นมีทัศนะที่ตรงกันข้าม ซึ่งในขณะเดียวกัน ท่านดาวูด (อัซซอฮิรีย์) มีทัศนะว่า เรื่องนี้เป็นที่ต้องห้ามเพียงแค่ใช้ในการดื่มเท่า นั้น ส่วนทัศนะของหะนะฟีย์, มาลิกีย์ และหันบาลีย์ที่ห้ามข้างต้นนั้น มีน้ำหนักมากกว่าทัศนะของชาฟิอีย์
                ปวงปราชญ์: การใช้สายท่อน้ำที่ทำมาจากทองคำนั้นหะรอม อนึ่ง การใช้สายท่อน้ำที่ทำมาจากเงินนั้นหะรอมตามทัศนะของมาลิกีย์, ชาฟิอีย์และหันบาลีย์ ถ้าหากสายท่อนั้นใหญ่และใช้เพื่อประดับตกแต่ง ส่วนหะนะฟีย์นั้น: การใช้สายท่อน้ำจากเงินนั้นไม่เป็นที่ต้องห้าม (หะรอม)
                การแปรงฟัน (สิว๊าก) เป็นสิ่งพึงกระทำ (สุนัต) ตามมติเอกฉันท์แห่งปวงปราชญ์ ในขณะที่ท่านดาวูด (อัซซอฮิรีย์) มีทัศนะว่า หุกุมของมันคือ วาญิบ ในขณะเดียวกัน ท่านอิสหากมีทัศนะว่า เมื่อละทิ้งการแปรงฟันอย่างจงใจ ดังนั้น การละหมาดของเขาเป็นโมฆะ (บฏ็อล)
                การแปรงฟันของผู้ที่กำลังถือศีลอดนั้นหุกุมของมันเป็นมักรูฮฺหรือไม่? หะนะฟีย์และมาลิกีย์: การนั้นไม่เป็นมักรูฮฺ, ส่วนชาฟิอีย์: การนั้นเป็นมักรูฮฺ และมีรายงานจากหันบาลีย์ถึงสองรายงานกล่าวว่า การนั้นไม่เป็นมักรูฮฺ

_____________________
   
              ต่อจากนี้, เราจะกล่าวถึงกันในเรื่อง "อันนะญาส๊าต" (สิ่งสกปรก) กัน, อินชาอัลลอฮฺ

[คนเดินดิน]

 

โพสต์ต่อไปเรื่อย ๆ ให้ต่อเนื่องนะคะ

     วัสสลาม

[Al Fatoni]

โพสต์ต่อไปเรื่อย ๆ ให้ต่อเนื่องนะคะ

     วัสสลาม

               อินชาอัลลอฮฺครับ, และหากไม่เข้าใจตรงไหน ถามได้เลยนะครับ และใครเคยอ่านหนังสือฟิกฮฺเปรียบเทียบแล้วได้รับข้อมูลที่ต่างจากที่ผมนำเสนอ ก็สามารถนำเสนอเพิ่มเติมเพื่อเปรียบได้นะครับ แต่มีเงื่อนไขข้อเดียวคือ นำเสนอย่างไรก็ได้ ให้ผู้อ่านเข้าใจ ไม่สับสนในทัศนะ - วัสสลามุอลัยกุม

[nada-yoru]

 salam


ติดตามค่ะ 

ญะซากัลลอฮุคอยรอน

วัสลามค่ะ 

[hiddenmin]

 ja‘faran

คืออะไรหรอ

[Bangmud]

 salam

^ ^ ^
น่าจะเป็น جعفران หญ้าฝรั่น สีเหลือง ๆ บางคนใช้ย้อมมือ

[little cat]

 salam

[กูปีเยาะฮฺสะอื้น]

 

[คนเดินดิน]

   
              ต่อจากนี้, เราจะกล่าวถึงกันในเรื่อง "อันนะญาส๊าต" (สิ่งสกปรก) กัน, อินชาอัลลอฮฺ

รอเสวนาในส่วนของอันนะญาส๊าตอยู่นะคะน้องฟาตอนี

มีคำถามบางประการต้องการถามแต่รอศึกษาต่อจากที่น้องโพสต์ไว้ก่อน

ถ้าเห็นสมควรว่าต้องเปิดประเด็นคำถามดังกล่าวแล้ว

อินชาอัลลอฮ์จะได้แลกเปลี่ยนความคิดเห็นกัน

วัสสลาม

[ILHAM]

ใช่แล้ว หญ้าฝรั่น แพงโคตรๆ ลองไปถามมาแล้ว เลยซื้อดอกคำฝอยแก้ขัดไปก่อน 5555