salam
การสมรสนี้ ถูกจัดขึ้นในเดือนเชาวาล ปีที่สี่แห่งฮิจเราะฮ์ศักราช โดยมีผ้าห่มที่มีไว้ใช้ในฤดูร้อน
หมอนอิง โม่ หม้อสองใบ ๆ หนึ่งมีน้ำ อีกใบหนึ่งมีแป้งทำขนมปัง แร่ง และไม้คนของเหลว (ทัพพี)
สำหรับอาหารที่เลี้ยงในวันสมรสก็คือ อาหารที่ทำจากมะฮัรดังกล่าวข้างต้น
จากเรื่องราวข้างต้นนี้แสดงให้เห็นว่า การนิกาห์นั้นไม่ใช่เรื่องยากในแง่ของค่าใช้จ่าย
มะฮัรฺของท่านเราะสูล ศ็อลลัลลอฮุอะลัยฮิวะสัลลัม นั้น มากน้อยตามบริบท บางครั้งมีผู้จ่ายมะฮัรฺ(เศาะดาก)ให้ ก็จ่ายเป็นจำนวนมาก
บางครั้งเมื่อมีน้อยก็จ่ายไปจำนวนน้อย โดยฝ่ายชายเป็นผู้กำหนด มิใช่ฝ่ายหญิงเรียกร้อง เศาะดาก นั้น อาจเป็นเพียงเสื้อเกราะ รองเท้า
ทรัพย์สินเงินทอง อัลกุรฺอานที่จำได้(ด้วยการสอนให้กับภรรยา) แต่มะฮัรฺที่น่าประทับใจ คือมะฮัรฺของ ฆุมัยศออฺ มารดา(หม้าย)ของอะนัส บินมาลิก
นางแต่งงานกับอะบูฏอลหะฮฺ ด้วยมะฮัรฺที่ไม่ใช่เงินทอง แต่เป็น
“การเข้ารับอิสลามของอะบูฏอลหะฮฺ” ทั้ง ๆ ที่ อะบูฏอลหะฮฺเป็นผู้มีฐานะดี
คุณแม่ท่านหนึ่ง บอกกับผู้ที่ถามถึงมะฮัรฺสำหรับลูกสาวเธอว่า
“เท่าไรก็ได้ ขอให้ฝ่ายชายนำละหมาดลูกสาวฉันได้ก็แล้วกัน”แตกต่างกับปัจจุบัน ถ้าฝ่ายหญิงจบปริญญาตรี อย่างน้อยต้องหนึ่งแสน บางคนว่าต้องแสนสอง เพราะค่าเงินมันลด จบปริญญาโทก็ต้องเพิ่มขึ้นมาอีก
แต่ถ้าจบปริญญาเอก ต้องลดค่าตัวลงสักหน่อยแล้ว เพราะกว่าจะจบก็อายุมากกกกกกกกกกก ขึ้น เล่นตัวไม่ได้
ถ้านิกาหฺยิ่งยาก ซินาก็ยิ่งง่าย ในมหาวิทยาลัยหลายแห่ง มุสลิมขี่มอเตอร์ไซคล์ จึงมักมีกาฟิเราะฮฺขาประจำซ้อนท้าย
งานวะลีมะตุนนิกาหฺสมัยนะบียฺ ก็ตามสภาพความเป็นจริงเช่นกัน อาหาร เป็นขนมปังที่ทำจากข้าวสาลีที่เหลืออยู่ หรืออาจล้มแพะสักตัว
สมัยนี้ เฉพาะการ์ดเชิญ สีชมพู กลิ่นหอม พับได้ มีปก ผูกริบบิ้น ใบละ ๑๐ บาทจนถึงใบละ ๑๐๐ บาท
ล้มแพะไม่พอต้องล้มวัวด้วย เลี้ยงที่บ้านด้วย โรงแรมด้วย ค่าอาหารคิดเป็นรายหัว หัวละ ๘๕ บาท ไปจนหัวละเป็น ๑,๐๐๐ บาท
(ไปช่วยงานแต่งงานจึงต้องเตรียมซองไป ๓ ระดับ อาหารธรรมดา-ซองเล็ก อาหารดี-ซองกลาง อาหารดีเลิศ-ซองใหญ่)

ถ้ามีความสามารถจะจัดงานใหญ่ก็จัดไปเถิด แต่อย่าเจาะจงเชิญเฉพาะบุคคลเพื่อหวังซอง คนที่มาร่วมเขาฉลองให้และขอดุอาอุ์ให้ก็เป็นการดี
ถ้าเขานำของขวัญมาให้ก็รับไว้ แต่ถ้าเขามาโดยไม่มีของขวัญหรือซอง ก็ไม่ใช่ความผิด ถ้าอยากจัดงานหาเงิน ก็น่าจะเขียนลงไปในการ์ดเชิญ
มาร่วมงานวะลีมะตุนนิกาห์เลยว่า “บัตรราคา ๑๐๐, ๒๐๐, ๕๐๐ หรือ ๑,๐๐๐ บาททุกที่นั่ง

ขอแทรกหะดีษไว้เป็นบทเรียนสักบทก็แล้วกัน
และปรากฏว่า อะบูฮุร็อยเราะฮฺ เราะฎิยัลลอฮุอันฮฺ ได้กล่าวว่า อาหารที่เลว คืออาหารวะลีมะฮฺที่เชิญแต่คนร่ำรวย
ปล่อยปละละเลยคนยากจน และผู้ใดปล่อยปละละเลยการเชื้อเชิญ ความจริงเขาเป็นผู้ฝ่าฝืนอัลลอฮฺและเราะสูลของพระองค์" บันทึกโดยบุคอรี,มุสลิม,อะบูดาวูด
พาพี่น้องไปท่องปากอ่าวสักพัก เดี๋ยวจะมาว่ากันถึงเนื้อหาของกระทู้ต่อไป
วัสสลาม