بسم الله الرحمن الرحيم
قال المصنف رحمه الله تعالي ونفعنا بعلومه فى الدارين
9. อิลมุน แปลว่า "รู้" เป็นซีฟัตที่มีมาแต่เดิม เป็นซีฟัตที่ปรากฏอยู่ที่ซ๊าตของพระองค์ ซึ่งมีผลทำให้พระองค์ทรงรับรู้ในสิ่งทั้งมวล ตามสภาพที่ตรงกับสิ่งนั้น ไม่ว่าสิ่งนั้นจะเปนสิ่งที่วายิบ ฮาโรส และแม้แต่มุสต้าฮิ้ลก็ตาม ดังกล่าวนั้น เป็นการรู้ที่ครอบคลุม เป็นการรู้อย่างละเอียด และโดยไม่เคยไม่รู้มาก่อน (หมายถึงความรู้ของพระองค์นั้น มิได้หมายความว่าพระองค์เคยไม่รู้มาก่อน)
ซีฟัตนี้มีหน้าที่ تعلق ในรูปแบบเดียว นั่นคือ تنجيرى قديم (อันญีซีก่อดีม) อันหมายถึงอัลเลาะฮ์ทรงรู้ถึงทุกสิ่ง ทุกประการตามตั้งแต่อะซะลีย์ (บรรพกาล) แม้ว่า บางสิ่งเหล่านั้นจะไม่มีสิ้นสุดก็ตาม เช่น จำนวนความสมบูรณ์ของพระองค์ ตลอดจนจำนวนลมหายใจของชาวสวรรค์
และซีฟัตมุสต้าฮีล ซึ่งเป็นซีฟัตตรงกันข้ามกับ "อิลมุน" คือ "ไม่รู้" หรือ "โง่"
สำหรับหลักฐานที่ว่า อัลเลาะฮ์ทรงมีความรู้นั้นคือ หากพระองค์โง่ พระองค์ก็ไม่รู้ ซึ่งเป็นเรื่องมุสต้าฮีล (สติปัญญาไม่ยอมรับ) เพราะได้เป็นที่ยืนยันแล้วว่า พระองค์ทรงเจตนา ตามหลักฐานที่ได้กล่าวมาแล้ว ด้วยเหตุนี้ พระองค์จึงเป็นผู้ทรงรู้ และเมื่อเป็นที่ชัดเจนเช่นนี้ ความไม่รู้ หรือโง่ ก็ต้องไม่มีเป็นคุณลักษณะของพระองค์
والله تعالى أعلى وأعلم