คืนนี้เข้ามาอ่านเจอแต่บทความดีๆซึ้งๆ...
หลายครั้งมักจะโทรหาป๊ะกับมะ ตอนอยู่เมืองนอกก็ยอมเสียตังค์ค่าโทรระหว่างประเทศ
พอมาอยู่กทม.ก็โทรหาอีกสัปดาห์ละสี่ห้าครั้งเป็นอย่างน้อย...
เหมาเวลาโทรเอา...มะจะมีเรื่องโน้นเรื่องนี้มาคุยตลอดเป็นชั่วโมง
คือถ้าโทรหามะหรือป๊ะนั้นต้องเผื่อเวลาไว้เยอะๆ...
ซึ่งส่วนใหญ่เราก็เป็นผู้ฟังไป...ฟังบ้างไม่ฟังบ้างก็มีค่ะ(แต่ไม่เคยสารภาพกับมะตรงๆ เฮะๆ)
ส่วนกับป๊ะนั้นเราจะโม้ซะส่วนใหญ่ เพราะป๊ะจะเป็นผู้ฟังที่ดีมากๆ...
และเป็นคนที่เข้าจิตเข้าใจเราที่สุดในโลก...
ครั้งหนึ่งมะเคยบอกว่า...ตอนมะแต่งงานมีครอบครัวนั้น...
จากมะที่เคยเป็นลูกแหง่ติดแม่กลายเป็นลืมแม่ไปเลยเมื่อแต่งงานออกเรือนไป...
มะบอกว่า ความสุข ณ ขณะนั้น มันทำให้มะลืมมะของตัวเองไปเลย...
แต่โดยส่วนตัวแล้ว...ชีวิตที่ผ่านมาเกือบจะสามสิบปีแล้ว...
ยังไม่เคยมีสักวันที่จะลืมบุคคลทั้งสอง...
แม้ความรักฉันท์หนุ่มสาวจะเข้ามาทักทาย...
หากก็ยังไม่ลืมที่จะโทรหาบุคคลทั้งสอง...
เชื่อในความผูกพันธ์ค่ะ...เพราะเหนือกว่าความรักมันคือความผูกพันธ์...
จึงยังไม่มีใครที่จะสามารถสร้างความผูกพันธ์กับชีวิตและจิตใจเรา
ได้มากเท่ากับบุคคลสองท่านนี้...ไม่สามารถทำให้เราลืมสายใยนั้นลงได้...
แต่ก็ไม่รู้เหมือนกันค่ะ ว่าถ้าแต่งงานมีครอบครัวไป จะลืมท่านทั้งสองได้จริงๆ
หรือลืมโทรหาท่านทั้งสองอย่างที่ทำอยู่ได้จริงๆหรือเปล่า...
เพราะเชื่อว่า...แม้กายจะห่างกันก็จริง แต่เดี๋ยวนี้มีเครื่องมือสื่อสารมากมาย
การโทรหาคนที่เราคิดถึง จึงไม่ใช่สิ่งที่น่าอายหรือเสียเวลาเลย...
ยังเคยบอกป๊ะกับมะเลยว่า...ถ้ามีทั้งสองอยู่ด้วยก็ไม่ต้องแต่งงานก็ได้
แต่งกับงานไปอย่างนี้สบายใจดีอยู่แล้ว...
ความรักจากคนอื่นถึงไม่มีก็ไม่เป็นไรเลย...
และไม่คิดจะไปคุกเข่าอ้อนวอนขอความรักจากที่ไหนหรือจากใครอื่น
เพราะเท่าที่ได้รับมาก็รู้สึกว่ามากพอแล้ว...
แต่ทั้งสองก็ไม่วายแนะนำให้พยายามหาคู่ชีวิตให้เจอ...
เพราะท่านบอกว่า ท่านคงไม่สามารถอยู่เป็นเพื่อนเราไปตลอดได้
วันนึงก็ต้องแก่ตัวลงและต้องตาย...
แต่ก็บอกป๊ะกับมะไปว่า...ต่อให้ตายก็ใช่ว่าความรัก
ความผูกพันธ์มันจะตายจากไปด้วย...
และต่อให้ป๊ะกับมะไม่อยู่ด้วยแล้ว อัลลอฮฺก็ยังอยู่ให้เรารักไปตลอด...
เคยเห็นผู้คนมากมายพยายามอย่างมากมายที่จะไขว่คว้าหาความรัก
มาครอบครอง วิ่งไล่ตาม โหยหา อยากมีอยากได้
ยอมเปลี่ยนแปลงตัวเองสารพัดเพื่อจะได้เป็นที่รักของใครต่อใคร...
(ซึ่งครั้งนึงเราก็เคยเป็นแบบนั้นมาเหมือนกัน)
ทั้งๆที่เราสามารถตักตวงความรักจากบุคคลทั้งสองที่อยู่ใกล้ชิดเราได้
สามารถทำให้ท่านทั้งสองที่พร้อมจะรักเราได้เสมอให้รักเรามากขึ้นได้
โดยไม่จำเป็นเลยที่จะต้องไปวิ่งไล่ล่าขอความรักจากที่อื่นมาทดแทน
พื้นที่ว่างในหัวใจ...
เรามีอัลลอฮฺที่ทรงห่วงใยเราอยู่เสมอ เมตตาต่อเราอยู่เสมอ...
แค่เรารู้จักรักอัลลอฮฺ
รู้จักรักท่านรอซุลุ้ลลอฮฺ
รู้จักรักพ่อแม่
นี่คือรักอันบริสุทธิ์แท้ๆ...รักที่ยิ่งใหญ่...และทรงคุณค่า รักที่มีแต่ให้
เป็นรักที่ไม่ทำร้ายทำลายเรา...เป็นรักที่ไม่เคยทำให้เราต้องเสียใจ
แม้จนครั้งเดียว...
เพียงแค่เราจะไม่ลืม และหมั่นระลึกถึงอยู่เสมอ...
เราก็จะไม่อ้างว้างเดียวดายเลย...แม้ไม่มีมนุษย์คนใดในโลกนี้
จะรักเราสักคนเดียว...
หากวันนึงเราต้องตัดสินใจเลือกระหว่าง "คนรัก"ซึ่งเป็นบุรุษดุนยา
หรือบุคคลต้องห้าม คนที่อาจจะทำให้ศาสนาในตัวเราหมองมัว
กับ "อัลลอฮฺ" และ "พ่อแม่" ผู้ที่ทั้งรักและห่วงใยเราอย่างบริสุทธิ์...
วันนั้นเราอาจจะลังเลก็ได้...ว่าเราจะเลือกเชื่อฟังใคร...
แต่สำหรับบางคน อาจจะไม่ลังเลเลย รู้ด้วยสติว่าควรจะเชื่อฟังใคร...
แม้ต้องเจ็บ แต่ก็เจ็บแค่ชั่วคราว
วันนึงมันจะหายไป...แค่อีหม่านยังอยู่กับเรา...
แค่เราเลือกที่จะอยู่กับอัลลอฮฺ...ความรักอันยิ่งใหญ่ของพระองค์
จะรักษาบาดแผลของเราได้ทั้งหมด...อินชาอัลลอฮฺ
และความรักของพ่อแม่ก็จะช่วยเยียวยาหัวใจเราได้เช่นกัน...
จึงขอสรุปว่า รักใดก็ไม่ยิ่งใหญ่เท่ารักอัลลอฮฺ...ซุบฮานัลลอฮฺ